ดราม่าซ้อนดราม่า ! ผี ระทึกขวัญ ยิง หมาป่า ทดเจ็บ 4-3 ไมนู ผู้ให้ความหวัง

ไม่มีชัยชนะนัดไหนที่ทำให้แฟนบอลลุ้นสบายๆจริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะมีวันผีเข้าเล่นดี น่าจะคว้าชัยไปได้แบบสบายๆ แต่ทว่าอยู่ดีๆก็มักจะมีจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบากเสมอ เกมที่ โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ก็เช่นกัน หลังจากที่ออกสตาร์ทอย่างสวยงาม แต่ทว่าก็มาโดน วูล์ฟแฮมป์ตัน ไล่ตีเสมอ3-3 ได้ดื้อๆช่วงทดเจ็บ ก่อนที่จะมีดราม่าซ้อนดราม่า จาก เจ้านู ค็อบบี้ ไมนู ช่วยให้ปีศาจแดงเก็บ3แต้มได้แบบระทึกขวัญ 4-3 
 

เกมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์วันพฤหัสบดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังต้องหวังทำพื้นที่อันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรป ต้องบุกไปเยือนทีมฟอร์มแจ่ม 4-5 นัดหลังสุดอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ยังขาดดาวยิงคนเก่ง ฮวาง ฮี -ชาน ที่กลับไปรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้

ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ ตอนนี้ กุนซือ เอริก เทน ฮาก ก็ได้ผู้เล่นตัวหลักในแต่ละแดนกลับมาครบหายจากอาการบาเจ็บแล้วทั้ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ - คาเซมิโร่ และ ลุค ชอว์ รวมไปจนถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังโดนลงโทษจากการไปเที่ยวราตรี 
 

เริ่มเกมมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหมือนจะติดคอมโบเข้าสูตร เหนือกว่าชัดเจน และมาได้ประตูนำไปก่อนถึง 2-0 จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด น. 5 และ ราสมุส ฮฺอยลุนด์ น. 22 หลังจากนั้นทีมของ ETH ก็มีโอกาสจะฉีกหนีห่าง เป็น 3-0 หรือ 4-0 ด้วยซ้ำใน45นาทีแรก แต่ก็ยิงนกตกปลากันไปเองทั้ง กาเซมิโร่ - บรูโน่ แฟร์นันเดซ
 

มาจนถึงครึ่งหลังเมื่อเม็ด3 ไม่มาสักทีทำให้ทัพหมาป่า ก็ยังมีความหวังไม่หมดลมหายใจและก็ไล่มาได้ 1-2 จากจุดโทษของ ปาโบล ซาราเบีย น.71 แต่ทว่าอย่างไรก็การแก้เกมของ เทน ฮาก ก็ได้ผลเหมือนกันเมื่อ สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ตัวสำรอง ลงมาโขกประตู 3-1 น.75

ซึ่ง ณ ตอนนั้น ด้วยสกอร์ที่นำห่าง (แถมมีโอกาสเม็ด4ด้วย) และเวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก น่าจะเป็น3แต้มของผู้มาเยือนแล้ว แต่ทว่าความหละหลวมในเกมรับโดยเฉพาะลูกตั้งแต่ ก็มาโดนลูก 2-3 จนได้จาก แม็กซ์ คิลแมน น.85 ได้ยิงจ่อๆในเขคโทษ
 

ช่วงที่โดน 2-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เปลี่ยนเอาตัวรับลงมาหลายคน แต่ทว่ายังเติมสูงเล่นเกมรุก ก็มาพลาดพลั้งโดนจังหวะสวนกลับของ เปรโด เนโต้ ที่ลากจี้ ราฟาแอล วาราน แล้วยิงเสียบเสาแรก ตีเสมอ 3-3 เข้าไป น.90+4 
 

หลังจากโดนลูกตีเสมอ 3-3 เกมก็น่าจะจบลงตรงนั้นแล้ว แฟนผีแดงทางบ้านน่าจะปิดไฟนอน รวมไปจนถึงที่อยู่ยังสนาม โมลินิวซ์ ก็กำลังทยอยออกจากสนาม หลังจากที่โดนตีเสมอแบบดราม่า แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ก็มามีพระเอกเป็นเจ้าหนู ไมนู สร้างดราม่าซ้อนดราม่า แหวกผู้เล่นวูล์ฟ เข้าไปปั่นโค้งยิงสุดสวย 4-3 น.90+7 คว้าชัยไปได้แบบสะใจได้อารมณ์
 

ไมนู เจ้าหนู18 แห่งความหวัง

หลังจากที่ฟอร์มดีช่วงปรี-ซีซั่น นั่นทำให้แฟนบอลปีศาจแดง คาดหวังกับเจ้าหนูวัย18ปี อย่าง ค็อบบี้ ไมนู อยู่เหมือนกัน หลังจากที่ กองกลางอีกคนที่ซื้อมาอย่าง เมสัน เมาท์ ยังเหมือนปรับตัวไม่ได้ และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเตียงโรงพยาบาล รวมไปจนถึงตัวที่ยืมมาอย่าง โซฟียาน อัมราบัต ก็โดนย้อมแมวจากฟอร์มบอลโลก
 

อาการบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซั่น ทำให้ ไมนู กว่าจะพร้อมได้ลงสนาม ต้องรอถึงปลายเดือนพฤศจิกายนเลยทีเดียว หลังจากนั้นมา เจ้าตัวก็ได้ออกสตาร์ทในลีกไปมากถึง7นัด (รวมเกมกับ วูล์ฟ) เมื่อคืน ค็อบบี้ ไมนู มีพาร์ทเนอร์ ในแดนกลางเป็นกาเซมิโร่
 

ซึ่ง ณ สถานการณ์ปัจจุบันของทีม นี่คือคู่มิดฟิลด์ที่ลงตัวและดีที่สุดแล้ว บวกกับความอ่อนหัดของเจ้าบ้าน ทำให้แดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหนือกว่าชาวบ้านชัดเจน ทั้ง ไมนู และ กาเซมิโร่ ครองบอลคุมเกมได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะ " พี่เกษม "ที่ดักบอลตัดยอลได้หลายหน แถมยังส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ด้วย แต่ล้ำหน้าก่อน
 

ดาวรุ่งเลือดผู้ดีรายนี้ โดดเด่นในเรื่องของการออกบอลช้า-เร็ว ได้อย่างสมดุล รักษาPosition ในแดนกลาง เข้าแท็กเกิ้ลได้2ครั้ง - ตัดบอล 2ครั้ง แถมยังเล่นได้อย่างไม่หมดพลังงานอีกด้วย  เรียกว่าความนิ่งเกินเด็กอายุ18เสียจริงๆ มิหนำซ้ำยังเชื่อมเกมได้อย่างหมดจด
 

และวินาทีโมเมนต์ สำคัญของเจ้าตัวก็มาถึง หลังจากที่โดนตีเสมอแบบช็อกๆ 3-3 ช่วงทดเจ็บ น.90+4 แต่ทว่า ค็อบบี้ ไมนู ที่ยังมีความหวัง ก็ได้บรรดาเสกประตู 4-3 ช่วงทดเจ็บของทดเจ็บ 90+7 ด้วยจังหวะโซโล่ เลี้ยงผ่าน2ผู้เล่นเจ้าบ้าน แหวกจี้เอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างเวิลด์คลาส และน่าเหลือเชื่อ
 

ฮอยลุนด์ ช่วงที่กำลังเรียกความมั่นใจ - แรชฟอร์ด กลับมา



เมื่อคืนด้วยการที่ปีก2ข้างของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เล่นโดยที่มีโฟกัสเป็นกองหน้าฝั่งตัวเอง ไม่บ้าเลี้ยงบ้ายิงเองมากจนเกินไป มีโอกาสก็ครอสเปิดเข้าไปในเขตโทษ ซึ่งวิธีการเล่นดังกล่าวจะทำให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้รับการซัพพอร์ทและอันตรายมากขึ้น
 

ฮอยลุนด์ เริ่มต้นด้วยการ แอสซิสต์รับบอลจาก ดิโอโก้ ดาโล่ต์ บังบอล พลิกแล้ว แตะคืนให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงขึ้นนำ 1-0 และเข้าชาร์จลูกเปิดแฮลบของ ลุค ชอว์ ให้ทีมหนีห่างเป็น 2-0 เริ่มต้น 23 นาทีแรกด้วย ผลงาน1ประตู 1แอสซิสต์
 

หอกดาวรุ่งแดนโคนม เกือบจะเพิ่มอีกเม็ดของตัวเองได้ แต่ทว่าลูกจ่ายมาของ การ์นาโช่ ถูกจับล้ำหน้าไปก่อน รวมไปถึงยังมีจังหวะน่าเข้าจากการไปปั๊มบอลจาก โชเซ่ ซาร์ อีกด้วย ฮอยลุนด์ โดดเด่นมากๆในเรื่องของ การยืมค้ำคู่เซ็นเตอร์วูล์ฟ ใช้ความใหญ่ ความหนา บังบอล พักบอลให้เพื่อนเล่นต่อได้
 

แถมยังดูขยันมุ่งมั่นเป็นพิเศษอีกด้วย 1ลูกเมื่อคืน นี่คือลูกที่9ของเจ้าตัวในสีเสื้อปีศาจแดง จาก27นัดรวมทุกรายการ ส่วนแนวรุกอีกคนที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้นั่นก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เกมก่อนหน้ากับ นิวพอร์ต เค้าท์ตี้ หายไปจากทีม เพราะความผิดด้านวินัย ไปเที่ยว ไนท์ คลับ ก่อนการซ้อมวันรุ่งขึ้นไม่กี่ชั่วโมง
 

เกมกับ วูล์ฟ  " แรชชี่ " ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง และก็เริ่มต้นได้ดีเลย เพราะปั่นด้วยขวาสุดเฉียบให้ทีมขึ้นนำ 1-0 นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมกับลูก2-0 เพราะจ่ายออกข้างกับจังหวะ โอเวอร์แลปของ ลุค ชอว์
 

ทุกๆครั้งที่โดนด่าอย่างหนักห่วงหรือโดนลงโทษอะไรสักอย่าง แรชฟอร์ด จะกลับมาทำได้ดีเสมอ ซึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือวิธีการเล่นที่ ไม่บ้าก้มหน้าก้มตาเลี้ยง " แค่คุณเปิดโกลก็เปลี่ยน " อาจจะใช้ได้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด จริงๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดีไปได้ต่อเนื่องกี่นัดเหมือนกัน
 

โอนาน่า เขากลับมาพร้อมความหวาดเสียว 


นอกจากจะไปปรับใช้ทีมชาติแคเมอรูนช้า จนกินโควตามา2นัด เกม เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะ วีแกน 2-0 และ เกมพรีเมียร์ลีก ที่เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส 2-2 ด้วยความที่ทัพ " หมอผี ต้องยุติเส้นทางของตัวเองไว้เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ทำให้ อ็องเดร โอนาน่า กลับมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างรวดเร็ว
 

แม้จะพึ่งบินกลับมาได้ไม่ถึง5วัน แต่ กุนซือ เอริก เทน ฮาก ก็ยังรักและเชื่อใจ ลูกรักอย่าง อ็องเดร โอนาน่า ให้ออกสตาร์ทเฝ้าเสาเป็นตัวจริงโดยทันทีเกมกับวูล์ฟแฮมป์ตัน และผลงานของ โอนาน่า ก็ออกแนวม้วนเดิมอีกครั้ง
 

ประตูแรกที่เสียไป จะโทษเจ้าตัวไม่ได้เลยเพราะเป็น จุดโทษ ของ ปาโบล ซาราเบีย ส่วนเม็ด2แม้จะจ่อก็จริงแต่ทว่า โกลค่าตัว47ล้านปอนด์ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ในการออกมาปิดมุมหรือทำตัวให้ใหญ่ขึ้น จึงโดน แม็กซ์ คิลแมน สำเร็จโทษเข้าไป
 

ส่วนลูก 3-3 อันดับแรกเลยต้องชื่นชม เปรโด เนโต้ ด้วยที่หักยิงเสาแรกได้อย่างเฉียบคม รวมไปจนถึงต้องตำหนิ วาราน เช่นกันที่ปิดมุมไม่ดี โดนซัดลอดขา สำหรับ ปราการด่านสุดท้าย โอนาน่า ก็ทำในสิ่งที่แฟนบอลน่าจะคุ้นเคยไปแล้ว นั่นก็คือการเซฟด้วยสายตา
 

โอเค ว่า ลูกยิงของ เนโต้ จะเฉียบเสียบเสาแรก แต่ในฐานะผู้รักษาประตู อ็องเดร โอนาน่า ก็ต้องอ่านเกม ยืนตำแหน่ง พร้อมที่จะพุ่งไปเซฟมุมเสาแรกให้ได้ การพุ่งเซฟจะช่วยได้มากกว่าการยืนขาตายแน่ๆ
 

ยังไม่รวมถึงการที่ โอนาน่า ออกมาตัดบอลพลาดจนเกือบจะทั้งเสียฟาวล์ เสียจุดโทษ แต่ทว่า ลิซานโดร มาร์ติเนซ สกัดบนเส้นได้ทัน ช็อตการเซฟที่ดีที่สุดของโกลผิวหมึกรายนี้เห็นการจะเป็นการใช้ช่วงไหล่บวกศรีษะ ป้องกันลูกซัดจ่อๆของ เคร็ก ดอว์สัน ระยะ5หลาได้อย่างหวุดหวิด
 

แนวรับปีศาจแดงที่ไม่ได้แน่นหนาอยู่แล้ว ยิ่งพอมามี โอนาน่า ที่ " ตรงเป็นตุง " ก็ยิ่งเละเข้าไปใหญ่ ผ่านมา22นัด ในพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนล่อตาข่ายไปมากถึง 32ประตูด้วยกัน 
 

เนโต้ เร็ว คล่อง - แนวรับหมาป่า เชิญให้โจมตี

ก่อนที่จะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ในลีกพวกเขาถือว่าใช้ได้เลยนะ 4นัด หลังชนะ3 - เสมอ1 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ11ของตารางคะแนน แถมใน เอฟเอ คัพ ก็คว้าชัยมา2นัด ผ่านเข้าไปเล่นรอบ5อีกด้วย
 

ทีมของ แกรี่ โอนีล แม้จะเป็นช่วงที่ไม่มีดาวยิงสูงสุดในลีกอย่าง ฮวาง ฮี -ชาน (10ประตู) เพราะต้องไปรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมภาพรวมเลย
 

สำหรับปัญหาในนัดนี้ของทีม " หมาป่า " ที่เห็นได้ชัดสุดๆนั่นก็คือ แนวรับที่ถึงแม้จะเล่นระบบ 3เซ็นเตอร์ แต่ก็รั่วไหลเหลือเกิน ทั้งการยืนตำแหน่ง ความเข้าใจกันต่างๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ซีซั่นนี้แนวรุกฝืดเคืองยังยิงได้ถึง 4ลูก หรือถ้าจบสกอร์คมกว่านี้ วูล์ฟ ต้องโดนยิงไส้แตก6ลูกเป็นอย่างต่ำ
 

บ่อที่สุดเห็นทีจะเป็น แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ กับบทบาทแก้ขัดวิงแบ็กซ้าย (ทั้งที่จริงเจ้าตัวถนัดขวา) เป็นบ่อให้ริมเส้นปีศาจแดงโจมตี วิ่งช้า แถมยังจ่ายบอลไม่ดี จนทำให้ โซเซ่ ซาร์ หวดบอลลำบากโดน ฮอยลุนด์ เข้าปั๊มจนเกือบโดน ซึ่ง โอนีล ที่เห็นจุดอ่อนก็ถอดแบ็กชาวไอร์แลนด์ ตั้งแต่ น.64 ให้  รายาน อัต-นูรี มาเล่นแทน
 

ส่วนแนวรุกช่วงครึ่งแรกแทบไม่มีบทบาทเลย สำหรับ เนโต้ เพราะบอลไปไม่ถึง แต่ก็มาแผลงฤทธิ ออกในช่วง 20นาทีสุดท้าย ช่วงที่เหมือนแนวรับผู้มาเยือนหมดแรง เนโต้ เป็นทั้งผู้เรียกแอสซิสต์จากจุดโทษ และลากไปยิงประตู 3-3 เสาแรกอย่างสุดเฉียบ รวมถึงตัวสำรองอย่าง ซาราเบีย ที่ลงมาแล้ววูบวาบได้เป็นอย่างดี 
 

ตอนนำ 2-0 ผีแดง ไม่น่าต้องมาลำบากท้ายเกม


ออกสตาร์ทมาได้ร้อนแรงเป็นรถสิบล้อเบรกแตก แถมไม่ถึง25นาทีแรก ก็ออกนำไปได้ก่อนถึง 2-0 และรูปเกม การครองบอล การสร้างสรรค์โอกาสดีไปหมดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองมุมไหนนี่ก็น่าจะเป็น3แต้มใสๆ กลับเมืองแมนเชสเตอร์ ของพวกเขาอยู่แล้ว
 

รูปเกมควรจะไหลเป็น 3-0 ไม่รู้กี่ครั้งใน45นาทีแรก ทั้งจาก กาเซมิโร่ - ฮอยลุนด์ - บรูโน่ แฟร์นันเดซ แถมยังส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้เพิ่มแล้วถึง2ครั้ง แต่ถูกจับล้ำหน้าไปก่อน ถ้าจบคมๆหน่อยครึ่งแรกลูกทีมของ  ETH ควรยิงได้ 4-5 เม็ดด้วยซ้ำ
 

พอยิงไม่ได้มันก็มี เดจาวู ให้แฟนผีเสียวๆเหมือนกัน อย่างเช่นในเกม ยูซีแอล กับ กาลาตาซาราย ทั้ง2นัด เกมไปเยือน โคเปนเฮเก้น ที่มีโอกาสยิงฝังเรื่อยๆแต่ไม่คมไปเอง จนมาดีแตก ถูกไล่ตีเสมอหรือแม้กระทั่งแพ้
 

พอโดนไล่มา 2-1 สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ ก็ลงมาโขกคลายความกดดันหนีเป็น 3-1 แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ ยูไนเต็ด รักษาสถานการณ์ได้และมาโดน เป็น3-3 ในที่สุด โดยตอนที่โดนเป็น 3-2 ต้องตำหนิ เอริก เทน ฮาก ด้วยที่เลือกเล่นวิธีแบบรอโดนสุดๆ เพราะถอดตัวรุกออกหมดเลย
 

ทั้ง การ์นาโช่ - แรชฟอร์ด - ฮอยลุนด์ ถูกเปลี่ยนออก เป็น แม็คไกวร์ - อีแวนส์ และเจ้าหนูมิดฟิลด์ โอมาริ ฟอร์สอน ลงมาแทน หลังจากที่โดน3-3 มองไม่ออกเลยว่าปีศาจแดง จะหาประตูชัยอย่างไร เพราะไม่มีแนวรุกเลย มีเพียง อันโตนี่ ที่ลงมาเพื่อเรียกเสียงด่าโดยเฉพาะ เพราะทำอะไรผิดทุกอย่าง
 

ภาพรวมเลยมาครึ่งฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก ยังฟอร์มขึ้นๆลงๆ แถมเป็นการขึ้นๆลงๆระหว่างเกมด้วย การรักษาโมเมนตัม และความนิ่งเวลาโดนความกดดัน นี่คือจุดที่ปีศาจแดง ยังห่างไกลจากท็อปทีมพอสมควร