บรูโน่ ไม่เข็ด แดงโง่ ๆ ! ผี รอดหวุดหวิด เจ๊า ปอร์โต้ 3-3 แม็คไกวร์ โขก เซฟ เทน ฮาก
กลายเป็นบอลที่ไร้มาตรฐานแบบที่ว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ คศ.นี้ หลังจากที่พ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส คาบ้านยับเยิน 0-3 พวกเขาก็มีศึกหนัก ในฟุตบอลถ้วย ยูโรป้า ลีก ด้วยการยกพลไปเยือนรังมังกร เอฟซี ปอร์โต้ ถึงโปรตุเกส โดย ปีศาจแดงเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม ขึ้นนำเร็วไปก่อนถึง 2-0 ก่อนที่จะมาทำตัวเองให้ลำบาก โดนเจ้าบ้านพลิกแซง จนท้ายที่สุดต้องมาไล่ตีเสมอเป็น 3-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
เกมชี้ชะตา เอริก เทน ฮาก นัดแรก นั่นก็คือการบุกไปเยือน เอฟซี ปอร์โต้ การจัดตัวผู้เล่น กุนซือหัวเหม่ง มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดสเปอร์ส มากถึง4ตำแหน่ง ที่หลุดตัวจริงมี มานูเอล อูกาเต้ - ค็อบบี้ เมนู (เจ็บ) อเลฮานโดร การ์นาโช่ รวมไปจนถึง โจชัว เซิร์กเซ่
นักเตะอย่าง คริสเตียน อิริคเซ่น - กาเซมิโร่ - อาหมัด ดิยาโล่ และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้ลงตัวจริง ฝั่งเจ้าบ้านนำโดยกุนซือ วิคเตอร์ บรูโน่ ที่ปัจจุบันเป็นรองจ่าฝูงลีกโปรตุเกส แต่นัดแรกในยูโรป้าลีก เสียเชิงบุกไปแพ้ โบโด กลิมท์ ทีมจากนอร์เวย์ 3-2 จัดตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม มาในระบบ 4-3-3
ตัวชูโรงเป็นโกล ดิโอโก้ คอสต้า แดนกลาง นิโก้ กอนซาเลซ พร้อมศูนย์หน้าร่างยักษ์อย่าง ซามูเอล โอโมโรเดียน แต่ทว่าเริ่มเกมที่ เอสตาดิโอ โด ดราเกา ได้เพียงแค่ 20นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สร้างเซอร์ไพรส์ ขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 จากประตูของ แรชฟอร์ด และ ฮอยลุนด์ น.7 และ 20
ทั้งที่ขึ้นนำเร็วไปก่อนถึง2-0 ทุกอย่างอยู่ในกำมือของตัวเอง แต่ทว่าปีศาจแดง ในยุคของ เอริก เทน ฮาก ก็ไร้มาตรฐานสุดๆ แผ่วลง และเต็มไปด้วยความผิดพลาดเป็น เดจาวูหนังม้วนเดิม โดนไล่เจ๊าเป็น 2-2 ตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรกจาก เปเป้ น.27 และ โอโมโรเดียน น.34
45นาทีหลัง เป็นปอร์โต้ที่ได้ใจสุดๆ และมาแซงนำ 3-2 จนได้จากดาวยิงร่างใหญ่คนเดิม โอโมโรเดียน น.50 หลังจากนั้นปีศาจแดงก็รวนแข้งขาอ่อนหมดแล้ว ETH พยายามเปลี่ยนตัวแก้เกมหลายรายทั้ง เซิร์กเซ่ - แอนโทนี่ แม้กระทั้งเซ็นเตอร์อย่าง จอนนี่ อีแวนส์ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
ตามหลังไม่พอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังตกมาอยู่ในสถานการณ์ลำบากอีก เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ไปเล่นบอลจังหวะอันตราย พยามใช้เท้าสูงใส่ กองหลังปอร์โต้ เนอวน เปเรซ ผู้ตัดสิน แจกใบเหลืองใบที่สองกลายเป็นใบแดงทันที ปีศาจแดง เหลือ10คน น.81 นั่นเท่ากับว่ากัปตันหน้าหนวดรายนี้ โดนใบเหลืองแดง2นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว
จริงๆปีศาจแดง มีโอกาสโดนเม็ด4เหมือนกัน แต่ได้ความหนึบของ อ็องเดร โอนาน่า เซฟไว้ หรือก่อนหน้านั้น โกลชาวแคเมอรูน ก็หยุดลูกยิงของทีมเจ้าบ้านได้หลายคราวเช่นกัน ซึ่งท้ายที่สุด เอริก เทน ฮาก ก็ยังพอมีลมหายใจให้ไปต่อนิดๆ
เมื่อตัวสำรองอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โขกประตูตีเสมอ 3-3 น.90+1 จากลูกเตะมุมของ คริสเตียน อิริคเซ่น ช่วยให้ปีศาจแดง ควัก1แต้ม ออกมาจาจากโปรตุเกส ได้แบบเฉียดฉิว แต่ทว่าทรงการเล่นแบนี้ แทบไม่เห็นอนาคตที่จะก้าวไปข้างหน้าได้เลย
ผีออกสตาร์ทดี คอสต้า แจกโชค2เม็ด
เคยเป็นหนึ่งในแคนดิเดต ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนที่ ดาบิด เด เคอา หมดสัญญากับทีม สำหรับ ดิโอโก้ คอสต้า นายด่าน เอฟซี ปอร์โต้ ก่อนท้ายที่สุดแล้วจะเป็น อ็องเดร โอนาน่า ที่ได้สานต่อมือ1แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
คอสต้า ถูกพูดถึงมากๆใน ยูโร 2024 กับการเซฟ3จุดโทษ ในรอบ16ทีม กับ สโลเวเนีย พาโปรตุเกสเข้ารอบ แต่ทว่าเมื่อคืนการดวลกับปีศาจแดง ไม่ใช่วันที่ดีเลยของ นายด่านวัย25ปี เพราะ2ประตูแรกที่เสียไม่เหนือบ่ากว่าแรงเลยที่จะป้องกันได้
ลูกยิงมุมแคบของ มาร์คัส แรชฟอร์ด เหมือนคอสต้า จะลังเลว่า ควรใช้ขาเหรือมือเซฟดี ก่อนเลือกใช้ขา แต่ทว่าบอลก็ปลิ้นเข้าประตูไปดื้อๆ หรือลูกยิงของ ฮอยลุนด์ ที่คล้ายๆ แรชฟอร์ด ดาวยิงชาวเดนมาร์กซัดเต็มแรงไปที่เสาแรก
คอสต้า เหมือนจะยกแขนมาปัดได้ แต่บอลจังหวะต่อมาเหมือนจะเด้งไปโดนแขนเจ้าตัวลอยข้ามเส้นไป แม้กองหลังปอร์โต้ จะพยายามสกัดออกมาแล้ว หรือเวลาเซฟได้ลูกปัดของเจ้าตัวก็น่าหวาดเสียวจะปลิ้นเข้าประตูเหลือเกิน ทั้งลูกยิงไกลของ การ์นาโช่
รวมไปจนถึงช็อตที่ มาซราวี ที่ได้ซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลที่เห็นวิถีชัดเจน แต่ คอสต้า เหมือนกะจังหวะพลาดนิดหน่อย ทำให้ปัดออกไปเข้าทางให้ การ์นาโช่ ได้ซ้ำ ดีที่เป็นมุมแคบ ทำให้บอลไม่เข้ากรอบ ตลอด90นาที นี่จึงไม่ใช่ฟอร์มที่ดีของนายด่านทีมชาติโปรตุเกสรายนี้เท่าไหร่
เดอ ลิกต์ โชว์บ่อ แนวรับรั่วยกแผง
การเสีย3ประตู เป็นสิ่งที่เราเห็นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนชินตาแล้วในยุคของ กุนซือ เอริก เทน ฮาก พร้อมโดนทุกจังหวะ พร้อมโดนทุกการเข้าทำ และมักเสียประตูดื้อๆแบบไม่จำเป็นต้องโดนกดดันด้วย เมื่อคืนกับ เอฟซี ปอร์โต้ ก็เช่นกัน
ประตูแรกที่เสียกลับกลายว่าเป็น ลูกครอสจากด้านขวาของ ปอร์โต้ ก็เป็นผล นุสแซร์ มาซราวี โหม่งสกัดผิดเหลี่ยม โอนาน่า อุตส่าห์เซฟช่วยไว้แล้ว แต่ทว่าบอลยังมาเข้าทาง เปเป้ ได้ตามซ้ำเข้าไป
หลังจากนั้นไม่ถึง10นาที แนวรับปีศาจแดงก็โดนง่ายๆอีกครั้ง มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ปล่อยให้ โอโมโรเดียน ใช้ความแข็งแกร่งวิ่งโฉบตัดหน้าเบียดชนะไปอย่างเสียเชิง โขกแสกหน้าผ่าน โอนาน่า เข้าไป โดยตลอดทั้งเกม เดอ ลิกต์ เล่นได้น่าหวาดเสียวมากๆ โดยเฉพาะจังหวะสปีด หรือเวลาต้องตามกวดผู้เล่นปอร์โต้
นอกจากนี้ไม่พอ เดอ ลิกต์ ยังโดนเจ้าเก่า โอโมโรเดียน วิ่งตัดหน้าเข้าชาร์จประตูแซงนำ 3-2 ได้อีก ช็อตนี้เป็นการตอกย้ำความช้าเป็นเรือเกลือของเซ็นเตอร์ชาวดัตช์ได้เป็นอย่างดี ส่วนคู่ขาอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ หลังจากหายเจ็บยาวกลับมาก็ดร็อปลงไปเยอะ
" ลิช่า " ยังเข้าบอลแรงหนักหน่วงเหมือนเดิม แต่ทว่าความแม่นยำในการสกัดหายไป ประตู 3-2 เจ้าตัวก็เอาคนเปิดเข้ามาอย่าง เจา มาริโอ ไม่อยู่ ส่วน มาซราวี จากที่เริ่มต้นดีกับปีศาจแดง ตอนนี้เหมือนติดเชื่อร้ายจากเพื่อนๆไปแล้ว
แบ็กชาวโมร็อกโก เช็กล้ำหน้าพลาดถึง2ครั้ง เป็นตัวต่ำสุด จนเป็นเหตุทำให้ทีมเสีย1ประตู แถมยังเป็นคนโหม่งบอลผิดเหลี่ยมจน เปเป้ ตามซ้ำประตู 1-1 ด้วย ส่วน ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ก็ยังคงมาตรฐานเดิมมากๆ โอเคแม้ว่าจะได้เล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดแบ็กซ้าย " ดารั่ว " ปล่อยให้ ปอร์โต้ ได้ครอสจากพื้นที่ฝั่งซ้ายของตัวเองหลายครั้ง โดยที่ไม่กดดันหรือเข้าบีบเลย
โอโมโรเดียน " แข็ง แกร่ง ถึกทน "
ก่อนหน้าที่จะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดาวยิงวัยรุ่นร่างถึกอย่าง ซามูเอล โอโมโรเดียน ก็ผลงานการล่าตาข่ายดีในระดับหนึ่งเลย นัดนี้พอมาเจอกับปีศาจแดง ที่แนวรับอ่อนยวบ เจ้าตัวก็ฟอร์มเปล่งปลั่งทันที โดยเฉพาะลูกกลางอากาส ที่ก่อกวนสร้างความลำบากใจให้ผู้มาเยือนสุดๆ
ด้วยส่วนสูง193 เซ็นติเมตร และรูปร่างที่หนาตันแต่ไม่ช้า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ เอฟซี ปอร์โต้ เลือกโจมตีผู้มาเยือนจากอังกฤษ ด้วยลูกครอสจากด้านข้างซึ่งก็ต้องบอกว่าได้ผลดีนัดแล ประตูแรกเป็น โอโมโรเดียน ที่กดดัน มาซราวี จนโหม่งสกัดจะเข้าประตูตัวเอง จน โอนาน่า ต้องเซฟ ก่อนโดนซ้ำเข้าไป
เม็ด2 ด้วยทั้งความแข็งแกร่ง ใหญ่ ถึก บวกกับ เดอ ลิกต์ ช้า ทำให้ โอโมโรเดียน เบียดโฉบตัดหน้าขวิดประตูตีเสมอ 2-2 ลูก 3-2 ดาวยิงวัย20ปี ก็เล่นงาน เดอ ลิกต์ เจ้าเก่า โฉบตัดหน้าอีกตามเคย ชาร์จเสียบตาข่ายเข้าไป
ตลอดทั้งเกม78นาที ซามูเอล โอโมโรเดียน ได้โอกาสยิงมากถึง5ครั้ง และเอาชนะลูกกลางอากาศได้ถึง4หน ความใหญ่ของเจ้าตัว ทำให้แนวรับผู้มาเยือนเสียกระบวนในการรับมือลูกกลางอากาศมากๆ เดอ ลิกต์ ก็ช้า ส่วน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ก็ตัวเล็กนิดเดียว
2ประตู ที่ทำได้เมื่อคืนนั่นเท่ากับว่า โอโมโรเดียน ยิงไปได้7ประตู จาก6นัดรวมทุกรายการซีซั่นนี้ แม้ว่าจะพึ่งย้ายมาจาก แอตเลติโก มาดริด ปีแรก แต่ทว่าก็มีแนวโน้มเหลือเกินว่าหากในอนาคตผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ นี่จะเป็นสินค้าส่งออกทำเงินของปอร์โต้เลย
แม็คไกวร์ ควรได้ลงตัวจริง / โอนาน่า ช่วยเซฟให้อยู่ในเกม
ด้วยความที่เป็นกองหลังสไตล์อังกฤษขนานแท้ ออกแนวโบราณๆหน่อย นั่นจึงไม่ตรงกับปรัชญาการเล่นของกุนซือ เอริก เทน ฮาก ที่ฟุตบอลนั้นต้องบิวด์อัพจากข้างหลังอย่างแรง บวกกับการมีเซ็นเตอร์หน้าใหม่เข้ามาสู่ทีมทั้ง มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ และ เลนี่ โยโร่ (เจ็บอยู่) บวก ลิซานโดร มาร์ติเนซ ฟิตเต็มถึง ทำให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ต้องเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย
เมื่อคืนก็เป็นอีกครั้งที่ แม็คไกวร์ ต้องเป็นตัวสำรอง ซึ่งก็มีหลายช่วงเหมือนกันที่อดีตกัปตันทีมรายนี้ สลับกับตัวจริงและตัวสำรอง มาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว แต่แล้วด้วยรูปเกมที่ไม่มีอะไรจะเสีย เทน ฮาก เลยแก้เกมโดยการเปลี่ยนคู่เซ็นเตอร์โดยตรงเลย ทั้ง อีแวนส์ และ แม็คไกวร์ ถูกส่งลงสนามทั้งคู่ น.78 ในสถานการณ์ที่โดนแซง 3-2
จริงๆการลงสนามมาของ เซ็นเตอร์หัวแตงโม จุดประสงค์หนักๆเลยนั่นก็คือ กุนซือ ETH ต้องการที่จะใช้ลูกโด่งจังวะโยนบอมบ์โจมตีคู่แข่ง การที่มี แม็คไกวร์ ที่ทั้งสูงใหญ่และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ช่วยกดดันแนวรับเจ้าบ้านได้
และสุดท้าย แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เมื่อโขกประตูตีเสมอ 3-3 จากลูกเตะมุม ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+1 ช่วยให้ปีศาจแดง เก็บ1แต้มออกมาจากวังมังกรได้ แถมยังเป็นการเซฟ เทน ฮาก ไปในตัวอีกด้วย
ที่ผ่านมา แม้ว่าจะโดนล้อเลียนอย่างหนัก แต่ แม็คไกวร์ ก็ยังฝ่าฟัน ก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมสู้อยู่เสมอ ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวไม่ใช่กองหลังเชิงสูงอะไร แต่เรื่องหัวจิตหัวใจนั้นผ่านจริงๆ เกมวันอาทิตย์ที่ต้องบุกไปเยือน แอสตัน วิลล่า เห็นที แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ต้องได้ลงตัวจริง พร้อมกลับมาสวมปลอกแขน แทนที่ บรูโน่ ที่ออกอ่าวออกทะเลสุดๆไปแล้ว
เทน ฮาก เดจาวู พร้อมสถิติเลวร้ายต่อเนื่อง
มาจนถึงตอนนี้ต้องรับสภาพกันแล้วแหละว่า เอริก เทน ฮาก ไม่สามารถปลุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ดีขึ้นมากว่านี้ได้แน่นอนแล้ว เพราะปัญหาต่างๆของทีมที่สะท้อนออกมาในสนาม นัดแล้วนัดเล่า ยังไม่ถูกแก้ไขได้สักที อะไรที่เคยผิดพลาดแบบเดิม ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
จริงๆ ยูไนเต็ด เริ่มต้นได้ไฉไลมากๆ เพราะนำห่างไปถึง 2-0 จาก20นาทีแรก แต่ทว่าการเสียโมเมนตัมระหว่างเกม คือสิ่งที่เกิดขึ้นชนชินตาเป็นภาพซ้ำไปเสียแล้วในยุคของ เทน ฮาก นำ2-0 แต่โดนตีเจ๊า2-2ดื้อๆ ใน45นาทีแรก
แถมช่วงพักครึ่ง กุนซือหัวสวยยังเปลี่ยนตัวค้านสายตาอีกด้วย มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่มี1ประตู 1แอสซิต์ แถมลากเลื้อยได้เมามันมากในครึ่งแรก (ผ่านผู้เล่น ปอร์โต้ 3ครั้ง) ถูกเปลี่ยนตัวออกดื้อๆ โดย เทน ฮาก เอง ออกมาให้เหตุผลว่า ต้องการโรเตชั่นนักเตะ ไว้ในเกมกับ วิลล่า
เมื่อคืนกล้องถ่ายทอดสดในสนามเหมือนรู้งานมากๆ พยายาม เทียบแอคชั่นของ2กุนซือ เทน ฮาก กับ วิคเตอร์ บรูโน่ ซึ่งแอคชั่นและแพสชั่นต่างกันฟ้ากับเหว ของ ปอร์โต้ ออกมากระตุ้นลูกทีมแทบทุกจังหวะ แม้จะนำ2-0 ก็ตาม ส่วนกุนซือปีศาจแดง นั่งนิ่งอยู่บนม้านั่งสำรองซะงั้น กลายเป็นผู้ช่วย รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ออกแอ็กชั่นมากกว่า จนได้ใบเหลือง
โดยนับตั้งแต่ในยุคของ กุนซือ เอริก เทน ฮาก นี่คือครั้งที่ 27แล้ว ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียถึง3ประตูขึ้นไป และนี่คือหนที่4ที่ ปีศาจแดง นำคู่แข่งไปก่อน2-0ในบอลยุโรป แต่เอาชนะคู่แข่งไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น เสมอ เซบีญ่า 2-2 / แพ้ เอฟซี โคเปนฮาเก้น 3-4 / เสมอ กาลาตาซาราย 3-3 และล่าสุด กับ ปอร์โต้ 3-3
การเสมอ เอฟซี ปอร์โต้ เมื่อคืน เท่ากับว่าปีศาจแดง ผลงาน10นัดหลังสุดในฟุตบอลถ้วยยุโรป อนาถมากๆ ชนะ1 - เสมอ6 และแพ้3 ทั้งที่คู่แข่งเป็นทีมอ่อนชั้่นกว่าทั้งนั้น ยกเว้น บาเยิร์น มิวนิค อนาคตของ เอริก เทน ฮาก ไม่ต้องถามหรอกว่า จะโดนปลดไหม หรือแค่ว่าเมื่อไหร่แค่นั้นเอง เหมือนนักโทษรอวันประหาร