ดิยาโล่ซัดประเดิม ! ผี พลาด เคียร์โขกตีเสมอช่วงทดเจ็บ 1-1
มีอาการไบโพล่ากำเริบอีกครั้งแน่ๆสำหรับสาวกแฟนบอลปีศาจแดง เมื่อล่าสุดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงแม้จะไม่ได้แพ้ แต่ผลการแข่งขันก็น่าเจ็บใจไม่น้อย เมื่อถูกเอซี มิลาน ไล่ตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90นาที 1-1
เกมยูโรป้าลีก รอบ16ทีมสุดท้ายนัดแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซิมง เคียร์ กองหลังชาวเดนมาร์กก็สอดขึ้นมาโขกประตูสุดสำคัญในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พาทัพปีศาจแดง-ดำ คว้าอเวย์โกลและคว้าผลเสมอกลับอิตาลีได้ในที่สุด
ตลอดเกม90นาทีเมื่อคืนเป็นทางฝั่งทีมดังเมืองมิลานที่ทำได้ดีกว่าเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในจุดยุทธศาสตร์แดนกลางอย่าง
เมื่อคู่มิดฟิลด์อย่าง ซูอาลิโฮ เมอิเต้ และ ฟร้องค์ เคสซี่ ที่จัดการควบคุมเกมเกมที่ลำเลียงจากกลางไปหน้าของ แมนฯยูได้อย่างหมดจด
มิหนำซ้ำหากไม่พลาดหมูหก พลพรรครอสโซเนรี่ ก็มีโอกาสกลับออกไปในฐานะผู้ชนะด้วยซ้ำ ส่วนลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็มีจังหวะวืดการได้ประตูแบบน่าเขกกะโหลกเช่นกัน ทั้งจากจังหวะของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ดาเนี่ยล เจมส์
ถ้าไม่มีลูกโขกตีเสมอของ ซิมง เคียร์ ดาวเด่นของเกมคงหนีไม่พ้น อาหมัด ดิยาโล่ ที่เดบิวต์ประเดิมประตูแรกได้สำเร็จ เมื่อโหม่งเสยลูกเปิดแบบใส่พานผ่าน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าไป
แต่ทว่าภาพรวมตลอด45นาทีหลังที่ ดาวเตะชาว ไอเวอรี่ โคสต์ ก็ถือว่ายังไม่เข้าที่เข้าทางนัก มีจังหวะฝืนเล่นหรือจ่ายบอลเสียให้เห็นอยู่บ่อยหน
และคำถามสุดท้ายคงหนีไม่พ้นการเลือกเปลี่ยนตัวเปลี่ยนแท็กติกของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เอา บรูโน่ แฟร์นันเดซ ออก แล้วส่งมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง เฟร็ด ลงมา
รวมถึงถอดปีกแต่เติมแบ็ก การเจตนาเล่นรับ หลังนาทีที่75 ก็เหมือนเป็นการเชื้อเชิญให้่คู่แข่ง มีโอกาสบุกโขยกอยู่ฝ่ายเดียวจนสุดท้ายโดนตีเสมอในที่สุด
ผมชื่อ อาหมัด ดิยาโล่
ถ้าไม่มีลูกโขกตีเสมอของ ซิมง เคียร์ ดาวเด่นที่จะได้รับแสงสปอร์ตไลท์เมื่อคืนคงหนีไม่พ้น อาหมัด ดิยาโล่ ที่เบิกสกอร์แรกให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ
จากจังหวะไหวพริบของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ตักบอลให้เจ้าตัวโหม่งเสยข้ามมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่สูงถึง 196 ซม. เข้าไป
ปีกชาวไอวอรี่ โคสต์ เกือบไม่ได้ลงสนามเสียแล้วหากว่า อองโตนี่ มาร์กซิยาล ไม่ได้รับบาดเจ็บ จนถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนเริ่มเกม45นาทีหลัง
ดิยาโล่ ใช้เวลาเพียงแค่4นาทีในสนาม กับการเบิกสกอร์แรกของเกมและกับต้นสังกัด จังหวะดังกล่าวนอกจากจะต้องชมความแม่นเท้าชั่งทองของ บรูโน่
ยังต้องปรบมือให้กับการยืนตำแหน่งที่เหมาะเจอะลงตัว เพราะถ้าเหลื่อมไปนิดหน่อย บอลอาจเข้าถึงมือดอนนารุมม่าก่อน หรือ ไม่ก็อาจโดนจับเป็นจังหวะล้ำหน้าได้
น่าเสียดายที่ประตูแรกของดาวเตะวัย18ปี ไม่มีสาวกแฟนบอล เร้ด อาร์มี่ อยู่ในสนาม
แม้ว่าจะเบิกสกอร์แรกให้กับทีมได้แต่ทว่า อาหมัด ดิยาโล่ ก็ยังคงต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกสักหน่อย เพราะจังหวะการเล่นของปีกวัย18ปีรายนี้เมื่อคืน ยังดูติดๆขัดๆ ตัดสินใจผิดพลาดอยู่บ้าง
แต่อย่างน้อยเวลาที่บรรดาเหล่ามือปืนสังหารอย่าง อองโตนี่ มาร์กซิยาล และ เมสัน กรีนวู๊ด ไม่ทำงาน ดิยาโล่ น่าจะเป็นอีกหนึ่งอาวุธพิเศษให้ โซลชา เลือกใช้ในช่วงเวลาที่เหลือของซีซั่นนี้
แม็คไกวร์ พลาดได้ไง
หากทีมปีศาจแดงถึงขนาดพ่ายแพ้ไปเลย แฮร์รี่ แม็คไกวร์ น่าจะโดนเฉ่งยับกว่านี้แน่นอน เพราะกองหลังเจ้าของค่าตัว80ล้านปอนด์รายนี้พลาดโอกาสทองทำประตูให้ทีมขึ้นนำในช่วงครึ่งแรกอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันเดซ โหม่งเสยลูกเตะมุมไปยังเสาสอง บอลหลุดมาถึง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ คนเดียวโล่งๆระยะไม่ถึง1หลา แต่อดีตกองหลังเลสเตอร์รายนี้ กลับชาร์ตแปบอลชนเสาหลุดออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ช็อต Error ดังกล่าวของแม็คไกวร์เรียกได้ว่ายิงให้ออกยังยากมากกว่ายิงเข้าเสียอีก ซึ่งหากเซ็นเตอร์ฮาร์ฟหัวโตรายนี้ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ จะทำให้ทีมกลับมาเล่นง่ายมากๆในช่วง45นาทีหลัง
ส่วนในเรื่องของการป้องกันเล่นเกมรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มีผลงานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ อาจะยกเว้นจังหวะที่ทีมเสียประตู
เพราะจัดระเบียบประกบตัวผู้เล่นแบบ Man Mark กันไม่ค่อยดี ทั้งที่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ อย่าง ซิมิง เคียร์ ที่สูงถึง190 ซม. ไม่ควรปล่อยให้กองหลังจากแดนโคนมรายนี้ได้โขกง่ายๆ
โดยนัดนี้กองหลังกัปตันทีมปีศาจแดง ไม่สามารถตัดบอล หรือ เข้าสกัดแท็กเกิ้ลได้เลย
ความกดดันของ ดีน เฮนเดอร์สัน
หลังจากที่พึ่งโชว์ฟอร์มหล่อในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งในเรื่องของการออกบอล จังหวะออกมาตัดบอลจากลูกตั้งเตะ รวมถึงการสั่งการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมในสนาม
อย่างไรก็ตามแม้นัดที่แล้วจะทำดี แต่เวลาพลาดเราก็ควรจะตำหนิแบบตรงๆนัดต่อนัด จะว่าไปลูกโขกของ ซิมง เคียร์ ไม่ได้มีความหนักหน่วงรุนแรงหรือมุมดิกแต่อย่างใด
แต่ทว่า ดีน เฮนเดอร์สัน กลับปัดบอลไม่ออกซะอย่างนั้น จังหวะดังกล่าวเหมือน " ดีโน่ " จะเอนตัวไปข้างหลังมากเกินไป จนทำให้จังหวะที่ต้องชูมือขึ้นมาปัดสูญเสียจังหวะและการทรงตัวไปหมด
ช็อตดังกล่าวที่ทีมเสียประตู ก็น่าคิดไม่น้อยเช่นกันว่า หากเป็น ดาบิด เค เคอา แฟนผีหลายๆคนเชื่อว่านายด่านชาวสเปนรายนี้น่าจะไม่พลาด แม้จะไม่ใช่ช่วงที่อดีตนายด่านทีมตราหมีไม่ได้อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดก็ตาม
ไม่เว้นแม้กระทั้ง ตำนานนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง พอล สโคลส์ ก็ได้ออกมาตำหนิ ดีน เฮนเดอร์สัน เช่นกันกับจังหวะพลาดจนทำให้ทีมเสียประตูดังกล่าว
" เขาควรที่จะเซฟได้ เขาพยายามทำให้มันเป็นเรื่องยากมากไปหน่อย สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการไม่ให้บอลไปซุกตรงก้นตาข่าย เขาควรเซฟจังหวะนั้นได้จริงๆ แบบไม่ต้องสงสัย เขาก็น่าจะรู้ดี "
โอเค แม้ว่าในตำแหน่งผู้รักษาประตู มันต้องมีวันที่ผิดพลาดหรือวันที่ไม่น่าจดจำมากนัก สิ่งที่ เฮนเดอร์สัน ควรทำนั่นก็คือเรียกความมั่นใจกลับมา โดยเริ่มจากเกมวันอาทิตย์นี้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้เลย
ฟร้องค์ เคสซี่ ผู้กำราบกลางแมนฯยู
นี่คือนักเตะ แมน ออฟ เดอะแมตช์ ของเกมได้เลยสำหรับห้องเครื่องของปีศาจแดง-ดำ อย่าง ฟร้องค์ เคสซี่ ที่สามารถกำราบการขึ้นเกมจากแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้
ทั้ง สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ และ เนมานย่า มาติช หรือรวมไปจนถึง บรูโน่ แฟร์นันเดซ โดน ฟร้องค์ เคสซี่ ที่ผนึกกำลังกับ ซูอาลิโอ เมอิเต้
คอยปัดกวาดเช็ดถู สร้างความรำคาญ วิ่งไล่บู๊ ไม่ให้ ผู้เล่นแผงมิดฟิลด์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้จ่ายบอล มีพื้นที่มีเวลา เล่นบอลกันง่ายๆ
ห้องเครื่องชาว ไอเวอรี่ โคสต์ วิ่งไล่แย่งบอลในแทบจะทุกจังหวะ สกัดกั้นไม่ให้บอลไปถึงแผงแบ็กโฟร์ง่ายๆ ความขยันของ เคสซี่ เห็นผลได้จากการที่ทีมปีศาจแดงจ่ายบอลเสียง่ายๆจากการถูกวิ่งไล่บีบเข้าหาบอลของแข้งนักเตะมิลาน
หากไม่โชคร้ายหรือโดนความเที่ยงตรง (เกินไป) ของ VAR ฟร้องค์ เคสซี่ น่าจะมีสกอร์มาฝาก เมื่อลูกกระโดดยิงเต็มข้อของเจ้าที่พุ่งเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ถูกจับเป็นจังหะแฮนด์บอลไปเสียก่อน
ในสถานการณ์ที่ รอสโซเนรี่ ขาดผู้เล่นตัวหลักในทีมไปหลายคน แต่ทว่ามิดฟิลด์วัย24ปี ก็สามารถชดเชยทดแทนสิ่งที่ทีมขาดหายไปได้พอดี
การเป็นผู้นำในแเดนกลางของทีม ทั้งใน(เวลาจะเล่น)เกมรุกและรับ รวมถึงการเลือกผ่ายบอลไปยังพื้นที่ว่างให้เพื่อนได้เปรียบเวลาเล่นจังหวะต่อๆไป
สถิติ ฟร้องค์ เคสซี่
86.5 % ผ่านบอลแม่นยำ
67 สัมผัสบอล
4 ชนะการดวล
3 โอกาสยิง
2 เรียกฟาวล์
2 ตัดบอล
1 เลี้ยงบอลผ่าน
1 วางบอลยาว
สิ่งที่ น้าโอเล่ ไม่เคยเรียนรู้
พึ่งจะโชว์ฟอร์มหล่อโลกตะลึง หรือรวมไปจนถึงสวมวิญญาณร่างทรง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการคุมทีมนัดที่หักปากกาเซียนบุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงถิ่น 2-0
แต่ทว่านัดนี้อาจจะไม่ถึงขนาดพ่ายแพ้แต่ทว่าก็เปรียบเสมือนการพลาดโอกาสกุมความได้เปรียบในการบุกไปเยือน เอซี มิลาน ในนัดที่2 มิหนำซ้ำยังเท่ากับการเสียอเวย์โกลอีกด้วย
ก่อนเกมจะนับว่ากุนซือชาวนอร์เวย์ติดประมาทไปหน่อยก็ได้ เพราะพัก2แข้งตัวจริงอย่าง ลุค ชอว์ และ เฟร็ด โดยให้โอกาส อเล็ก เตลลิส และ เนมานย่า มาติช ลงเซิ้งวาดแข้งแทน
การปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นทำให้รูปเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นรองทีมเจ้าบ้านมากๆ ทีมปีศาจแดง-ดำ มีโอกาสขึ้นนำหลายครั้งในช่วง45นาทีแรก แต่ทว่าพวกเขาทำหมูหกยิงทิ้งยิงขว้างกันไปเอง
หากไม่นับว่าโดนตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สกอร์1-1ถือว่ายุติธรรมแล้วสำหรับทั้ง2ทีม แต่ทว่าแท็กติกการเปลี่ยนตัวของ โซลชา ก็สร้างความมึนงง พ่อไม่เข้าใจตุ้มให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก
แผนของน้าโอเล่คือ ชอว์ แทน เจมส์ - เฟร็ด แทน บรูโน่ - วิลเลี่ยม แทน วาน บิซซาก้า ... อนิจจา นี่คือการเปลี่ยนตัวแบบรอโดนชัดๆ
เข้าใจว่ากุนซือหน้ายิ้มรายนี้ต้องการรักษาสกอร์ 1-0 เลยเลือกผู้เล่นที่ถนัดเกมรับลงมาแทนผู้เล่นในแนวรุก แต่เราก็เห็นมาตลอดว่าการถอดเอาเพลย์เมคเกอร์ชาวโปรตุเกสออก ไม่ว่านัดไหนๆ เกมของปีศาจแเดงจะเป็นรองคู่แข่งทันที
และนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนตีเสมอจากลูกตั้งเตะในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ (ก่อนหน้าคือแมตช์เสมอกับเอฟเวอร์ตัน 3-3) ผลการแข่งขันจะเป็นตัวสะท้อนบอกว่า การเปลี่ยนตัวของผู้จัดการทีมนั้นถูกหรือผิด
จบ90นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เอซี มิลาน และถูกทีมดังจากอิตาลี่ตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คิดผิด
- คอลัมน์นิสต์
- 414
- 12 ม.ค. 2564 14:50