ฮาลันด์ Stay Humble หน่อย ! ปืน โชว์โหด ยิงเรือ ยับ 5-1 ลูอิส-สเคลลี่ เด็กขอเกิด

ฮาลันด์ Stay Humble หน่อย ! ปืน โชว์โหด ยิง เรือ ยับ 5-1 ลูอิส-สเคลลี่ เด็กขอเกิด



ก่อนเกม ดาร์บี้ แมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเริ่มขึ้น ต้องบอกว่า อาร์เซน่อล กดดันอยู่ไม่น้อยเลยสำหรับการลุ้นแชมป์ เพราะจ่าฝูงลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ บอร์นมัธ แบบไม่ยากเย็นนัก 2-0 ส่งผลให้ ปืนโตตามหลังหงส์แดง มากถึง9แต้ม ถ้าหากสะดุดอีกทีมของ มิเคล อาร์เตต้า แทบจะโบกมือลาการลุ้นแชมป์ได้เลย ซึ่งการเปิดบ้านเจอเรือใบสีฟ้า กลับกลายเป็นงานง่ายกว่าที่คิดของอาร์เซน่อล เพราะพวกเขาถล่ม ผู้มาเยือนสีฟ้าจากเมืองแมนเชสเตอร์ ไปยับเยิน 5-1

 

อาร์เซน่อล ที่เกมลีกสัปดาห์ที่แล้ว เอาตัวรอดมาได้หวุดหวิด เมื่อเล่น10ตัวเท่ากันกับเจ้าบ้าน วูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนมาได้ประตูชัยท้ายเกมของ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ เอาชนะไป1-0 อาทิตย์นี้ พวกเขาเจอศึกหนักหนา เปิด เอมิเรต สเตเดี้ยม ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่แกร่งเหมือนเดิม แต่ก็ยังเป็นทีมที่พวกเขาสถิติการเจอกันเป็นรองในระยะหลัง

การจัดทัพ อาร์เซน่อล เล่นในระบบถนัด 4-3-3 โกล ดาบิด ราย่า แบ็กซ้าย-ขวา ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ และ เจอร์เรียน ทิมเบอร์ เซ็นเตอร์ฮาร์ฟคู่เก่ง กาเบรียล มากัลเญส ผนึกกำลังกับ วิลเลี่้ยม ซาลิบา สามมิดฟิลด์ โธมัส ปาเตย์ - เดแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด
 

ตัวรุกฝั่งซ้าย-ขวา กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - เลอันโดร ทรอสซาร์ หน้าเป้า ไค ฮาแวร์ตช์ ทางด้านของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ค่อยๆฟื้นขึ้นมาเพื่อทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จัดทัพ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูกลับมาใช้ สเตฟาน ออร์เตก้า  แผงแบ็กโฟร์ มาเตอุส นูเนส - จอห์น สโตนส์ -มานูเอล อาคันยี่ และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล
 


มิดฟิลด์คู่กลาง มัตเตโอ โควาซิช - แบร์นาร์โด้ ซิลวา - ตัวรุกสามรายหลังกองหน้า ฟิล โฟเด้น - (ผู้มาใหม่) โอมาร์ มาร์มูซ และ ซาวินโญ่ ศูนย์หน้าตัวเป้า เออร์ลิง ฮาลันด์ เริ่มเกมผู้ตัดสิน ปีเตอร์ แบงค์ เป่านกหวีดมาได้เพียง 105 วินาที เจ้าบ้านก็ขึ้นนำเลย
 

ปืนโต บีบเพรสซิ่งเร็วในแดน ซิตี้ อคานยี่ พลาดโดน ทรอสซาร์ จิ้ม ไปเข้าทาง ไรซ์ ตวัดเร็วมาให้ โอเดการ์ด ยิงโล่งๆ ขึ้นนำ 1-0 น.2 ทางฝั่งทีมเยือนน่าได้คืนมาเหมือนกันจากลูกเตะมุม กวาร์ดิโอล โฉบมาโขกเสาแรกแต่ ราย่า ยังเยี่ยม เซฟมือเดียวไว้ได้
 

ทีมของอาร์เตต้า น่าได้เม็ดสองสุดๆ เมื่อ โควาซิซ โดนจิ้มดักบอลหน้าเขตโทษตัวเอง ทะลักมาเข้าทาง ฮาแวร์ตช์ ได้ยิงโล่งๆในเขตโทษ แต่ทว่าเน้นเกินไป ยิงหักออกเสาไปอย่างน่าเหลือเชื่อ แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นตีเสมอเช่นกันจาก ลูกยิงเสาแรกของ ซาวินโญ่ แต่ ราย่า ไม่พลาด จบ45นาทีแรกเจ้าบ้านนำ 1-0

ออกสตาร์ทครึ่งหลังมา10นาที ซิตี้ ก็มาตีเสมอจนได้ ซาวินโญ่ คลึงบอล แล้วหยอดมาให้ ฮาลันด์ เทกตัวเอาชนะ ชาลิบา โขกสุดสวยเข้าไปไม่เหลือซาก ตีเสมอ 1-1 น.55 แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล ก็ไม่ปล่อยให้โมเมนตัม ไหลไปทางทีมเยือน มาได้ประตูนำ 2-1 อีกครั้ง โฟเด้น พลาด จ่ายบอลขวางสนาม โธมัส ปาเตย์ ดักได้ ค่อยๆลากมายิงนอกกรอบเขตโทษ บอลแฉลบ สโตนส์ เข้าไป น.57
 

หลังจากนั้น ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ออกลูกลนลานเลย จนอาร์เซน่อล มาได้ประตูฉีกหนีห่างออกไปอีกจาก เจ้าหนูดาวรุ่งวัย18ปี ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ ที่ลากตัดเข้ามายิงในเขตโทษ ไม่มีตัวเข้ามาบีบหรือบล็อค รวมถึง ออเตก้า เองก็ปัดไม่พ้น หนีเป็น 3-1 น.63
 

ก่อนที่ช่วง15นาทีสุดท้าย จะเป็น " เดอะ กันเนอร์ส " ที่ครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จ มาได้อีก2ประตู จากจังหวะสวนกลับ ปาร์เตย์ พลิกแล้วแทงบอลให้ ฮาแวร์ตช์ หลุดไปล็อกเข้าซ้ายยิงเสียบมุมเข้าไปไม่เหลือ 4-1 น.76 และมาได้ประตูปิดท้ายจากตัวสำรองวัยอะล่อนอีกรายเช่นกันอย่าง อีธาน เอ็นวาเนรี่ ปั่นไกลนอกกรอบเขตโทษเข้าไป น.90+3 จบเกม เป็นลูกศิษย์ อาร์เตต้า ถล่มเอาชนะอาจารย์ เป๊ป ไป มโหฬาร 5-1
 


ใจมันได้ ลูอิส-สเคลลี่ เด็ก18ได้เกิด

ในยกแรกของฤดูกาล ที่ อาร์เซน่อล บุกไปเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ เอมิเรต สเตเดี้ยม ได้ 2-2 มีข้อพิพาทกันหลายอย่าง ทั้ง ประเด็น กาเบรียล กับ ฮาลันด์ รวมไปจนถึงหลังจบเกมเอง ดาวยิงชาวนอร์เวย์ ได้ออกมาตอบโต้ มิเคล อาร์เตต้า ว่าให้ถ่อมตัวหน่อย แถมด้วย เออร์ลิง ฮาลันด์ เอง บอกว่าไม่รู้จักเจ้าหนูวัย18ปี ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ ด้วย
 

โดยหลังจากนั้น ลูอิส สเคลลี่ ก็ได้รับโอกาสลงเล่นให้ปืนโต เรื่อยๆ และเอาชนะใจสาวกันเนอร์ส เนื่องจากเด็กคนนี้ใจมันได้จริงๆ เล่นด้วยแพสชั่นเสียงเชียร์ ได้รับเสียงกระแทกปรบมือล้นหลาย ในเกมที่กวนประสาท ถ่วงเวลา ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส
 

ส่วนเมื่อคืนแม้ว่าจะเป็นเกมใหญ่ แต่ " พี่ต้า " ไม่ลังเลเลย ที่จะให้โอกาส ลูอิส-สเคลลี่ ได้ออกสตาร์ทตัวจริงเลยในตำแหน่งแบ็กซ้าย ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีมากๆ ทั่งรับและรุก ความสดความห้าวในตัว เป็นผลดีกับทีมจริงๆนัดนี้
 

โฟเด้น เจอกับงานที่ลำบาก เมื่อมีเจ้าหนูคนนี้ติดพัน จังหวะทะลุทะลวงลากบอลของ ดาวรุ่งปืนรายนี้ เนียนตามากๆ มีช็อตที่ ฮาลันด์ เอาไม่อยู่จนต้องทำฟาวล์เรียกเสียงเฮชอบใจจากแฟนบอลลั่นสนาม ก่อนที่ ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ จะมาประเดิมประตูแรกในสีเสื้ออาร์เซน่อล จากลูกหักยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ ที่ ออร์เตก้า ปัดไม่ออก
 

ท่าดีใจของเจ้าตัวยังเป็นการเอาคืน ฮาลันด์ อย่างเจ็บแสบด้วย โทษฐานที่บอกว่าไม่รู้จักกัน (ในเกมแรก) สถิติหลายอย่างก็ยอดเยี่ยมทั้ง ชนะการดวล7จาก8ครั้ง ปล่อยให้แข้งเรือใบเลี้ยงบอลผ่าน0ครั้ง ส่วนสำรองดาวรุ่งอีกรายอย่าง อีธาน เอ็นวาเนรี่ ที่ได้ลงสนาม น.84 ก็มีชื่อบนสกอร์บอร์ดเช่นกัน กับลูกยิงสุดสวย เป็นวันที่ลูกกรอกคะนองปืนโต ต่างพากันเฉิดฉายจริงๆ



จุดยุทธศาสตร์กลางปืนกินเรียบ ไรซ์ - ปาร์เตย์ ฉาย

ชัยชนะขาดลอยของ อาร์เซน่อล ที่มีเหนือทีมที่พวกเขาโดนทุบมาตลอดอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขาดลอย 5-1 จุดยุทธศาสตร์ที่พวกเขาครอบครองและเอาชนะทีมเยือนได้อย่างหมดจดนั่นก็คือ เกมในแดนกลาง ที่แม้ปืนโตจะครองบอลน้อยกว่าแต่จังหวะจะโคนสำคัญๆพวกเขา เก็บกวาดกินเรียบหมด
 

อาจเนื่องด้วยเพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้คู่มิดฟิลด์ ตัวเล็กด้วยทั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ มัตเตโอ โควาซิช บวกทั้งคู่ไม่ใช่ตัวรับธรรมชาติเชิงดุดัน ทำให้เกมตรงกลางของอาร์เซน่อล ผ่านมาสบายเลย คู่กลางชาวโปรตุเกสและเซอร์เบีย ชะลอเกมไม่ได้
 

โธมัส ปาร์เตย์ ที่มีข่าวว่าจะถูกปล่อยออกไป เมื่อคืนก็เป็นวันที่ห้องเครื่องชาวกาน่าแกร่งมากๆ คุมจังหวะการเล่นได้ดีโคตร แถมยังสอดมายิง2-1ให้ทีมขึ้นนำ (แม้แฉลบ) รวมถึงประตู 4-1ของ ฮาแวร์ตช์ ก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่แก้การโดนบีบแล้วแทงแบบคิลเลอร์พาสมาให้
 

ปาร์เตย์ เข้าแท็กเกิ้ล5ครั้ง ตัดบอลได้2หน ส่วน เดแคลน ไรซ์ ก็เป็นอีกคนที่โดดเด่นขาเหมือนมีตะขอคอยเกี่ยวดักบอล ประตูแรก1-0 ก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่เบิ้ลบอลคิดเร็วทำเร็วกลายเป็นแอสซิสต์ ให้ โอเดการ์ด ยิงง่ายๆ ตลอดทั้งเกมจ่ายคีย์พาสได้4หน
 

รวมถึงจังหวะเสียบสไลด์บอลจาก โควาซิช มาให้เข้าทาง ฮาแวร์ตช์ ยิงโล่งๆออกไป นอกจากนี้ ไรซ์ ยังมีชื่อเป็นคนทำแอสซิสต์ให้ เอ็นวาเนรี่ อีกด้วย เท่ากับว่าเมื่อคืน เดแคลน ไรซ์ มี2แอสซิสต์ ด้วยกัน และประทานโทษนี่คือแอสซิสต์ที่ 8ของเจ้าตัวแล้วรวมทุกรายการซีซั่นนี้
 


สโตนส์ -อคานยี่ แนวรับเรือ จดๆจ้องๆไม่เข้าบอล

ในฤดูกาลที่ แนวรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นได้ไม่เหมือนเดิม แต่ทว่าทีมยังใช้รูปแบบการเล่นเดิม นั่นทำให้นี่เป็นแผลขนาดใหญ่ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลย เพราะการบิ้วด์อัพจากแดนหลังที่เคยเป็นจุดเด่น กลับกลายเป็นจุดสลบที่ทำให้เรือใบสีฟ้า เสียประตูเป็นว่าเล่นซะงั้น
 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เปลี่ยนตัวตำแหน่งคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟแบบทุกนัด ทำให้ความเสถียรและเข้าขารู้ใจกันไม่มี รูเบน ดิอ๊าซ ที่ปรกติเป็นตัวยืนเจ็บ เราจึงได้เคยเห็นคู่เซ็นเตอร์เปลี่ยนสลับกันไปมาทั้ง มานูเอล อคานยี่ - เนธาน อาเก้  (เจ็บอยู่)  - จอห์น สโตนส์ และผู้มาใหม่ อับดูโกดีร์ คูซานอฟ
 

ส่วนเมื่อคืน เป๊ป เลือกใช่บริการคู่ มานูเอล อคานยี่ กับ จอห์น สโตนส์ ที่รายหลังเจ็บออดๆ แอดๆ ไม่ค่อยได้ลงตัวจริง และเริ่มเกมมาไม่ทันไร อคานยี่ ก็มาแจกเลยเมื่อโดนปั๊มแย่งบอล จนโดนลงโทษ 1-0 หรือประตู 2-1 ก็ต้องตำหนิ สโตนส์ ไม่น้อย เพราะไม่ยอมเข้าบอลเอาแต่ถอย จนทำให้ ปาร์เตย์ ได้ยิงแฉลบเจ้าตัวเข้าประตูไป
 

ลูก3-1 ทั้ง อคานยี่ และ สโตนส์ ก็ไม่ยอมมีใครเข้าบอล มัวแต่จ้องกับถอยตามสูตรเดิม หรือลูก4-1 สโตนส์ ก็ประกบห่าง ฮาแวร์ตช์ มากๆ จนมีพื้นที่ได้วางเท้ายิง รวมถึงลูก5-1 ไม่มีนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนไหน เข้าบอลเลยปล่อยให้ เอ็นวาเนรี่ ได้วางเท้ายิงนอกกรอบเขตโทษถนัดๆ
 

ประตูสุดท้าย5-1 ที่เสียคนที่อยู่ใกล้ๆอย่าง ซาวินโญ่ และ กวาร์ดิโอล ไม่มีใครมาบีบมุมหรือขยับเข้ามาใกล้บีบวิธีบอลเ กับอีกอย่างแนวรับ ซิตี้ ชอบยืนหลังไลน์สูงทำให้ ไม่ลำบากเลยสำหรับคู่แข่ง ที่จะจ่ายบอลทะลุไลน์ที่ดันเกือบครึ่งสนาม
 


ออร์เตก้า ก็งง ซัมเมอร์นี้ เป๊ป ได้งบช็อปปิ้งเยอะแน่

เป็นซีซั่นที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นว่าเล่นจริงๆ เอาแค่เกมเมื่อคืน ก็มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งนายด่านอีกครั้ง นั่นเท่ากับว่าหลังผ่านไป 24นัดพรีเมียร์ลีก เป็น เอแดร์ซอน ได้เฝ้าเสา15นัด และ สเตฟาน ออร์เตต้า 9นัด
 

ซึ่งปรกติแลัวตำแหน่งนายทวารตัวจริง หากไม่มีอะไรผิดพลาดน่าเกลียด ในเกมลีก ก็จะมีมือ1และ2ที่ชัดเจนตามลำดับ แต่ทว่านั่นไม่ใช่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ณ เวลานี้ โกลชาวเยอรมัน ออร์เตก้า ได้กลับมาเฝ้าเสาอีกรอบ
 

และก็เป็นวันที่นายด่านเมืองเบียร์ก่อความผิดพลาดเป็นระยะ ลูกหนีห่าง 3-1 วิธีบอลไม่ห่างเท่ามือไหร่ แต่ปัดลูกยิงของเจ้าหนู ลูอิส-สเคลลี่ ไม่ออกเฉย จังหวะจะโคนในการบิ้วด์อัพบอลจากแดนหลังแม้ไม่พลาดจังๆ แต่ก็น่าหวาดเสียวพอสมควร
 

หรือประตู 5-1 ลูกยิงของ เอ็นวาเนรี่ ดีจริงๆ แต่ก็ต้องโทษ ออร์เตก้า ด้วยก็ว่าได้ที่ เหมือนจะอ่านทางว่าบอลออกรึเปล่า เลยไม่ได้พุ่งเซฟอะไร ทั้งที่เห็นวิถีบอลชัดเจน จริงๆด้วยฟุตบอลปรัชญาของ เป๊ป โกลต้องเล่นกับบอลด้วยเท้าได้ดี แต่ไม่ใช่สำหรับซีซั่นนี้แน่ๆ และมันกลายเป็นจุดอ่อนและความผิดพลาดที่กลับมาเล่นงานพวกเขาเอง
 

ดู ซิตี้ เล่นเมื่อคืน น่าจะมีนักเตะหลายรายไม่ได้ไปต่อทั้ง โควาซิซ - นูเนส - เดอ บรอยน์ (ที่โรยราตามอายุ) รวมไปจนถึงที่ไม่ได้ลงสนามอย่าง กุนโดกัน กรีลิช ตำแหน่งที่ต้องการเสริมเห็นชัดๆมี มิดฟิลด์ -แบ็กขวา - เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ และชะลอยว่า กลุ่มทุนจากอาบูดาบี จะจัดหนักทุ่มงบมหาศาล ให้ เป๊ป ได้รีเซ็ตทีมอีกรอบแน่

 

ปืนยังไม่ยอมหมดลุ้นแชมป์ ต้องรักษาโมเมนตัม ให้ดี

หลังจากที่ลิเวอร์พูล จ่าฝูงที่ลงฟาดแข้งไปก่อนในวันเสาร์และบุกเอาชนะ บอร์นมัธ ไปได้สบายๆ 2-0 นั่นทำให้พลพรรคปืนโต โดนหงส์แดงทิ้งห่างไปมากถึง 9แต้ม หลังจากที่แข่งเท่ากัน นั่นหมายความว่า บิ๊กแมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3แต้ม คือคำตอบเดียวที่ต้องทำสำหรับทีมของ มิเคล อาร์เตต้า
 

ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้วจะเป็น ลูกศิษย์ มิเคล อาร์เตต้า เอาชนะอาจารย์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปได้แบบยับเยิน 5-1 ซึ่งไม่ใช่ชนะเพียงแต่สกอร์ที่ขาดลอยเท่านั้น รูปเกมในสนาม ที่แม้จะครองบอลน้อยกว่า แต่รายละเอียดทุกอย่างของเกม ปืนโต ดีกว่าผู้มาเยือนทุกเหลี่ยมมุมจริงๆ
 

ที่จริงระหว่างเกมตอนที่ถูกตีเจ๊ามา 1-1 รูปเกมเหมือนจะเหวี่ยงกลับไปทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยซ้ำ แต่ทว่าลูกยิงแฉลบ2-1ของ ปาร์เตย์ ก็ทำให้โมเมนตัมเกม เหวี่ยงกลับมาทางปืนใหญ่ อีกครั้ง และประตู3-1 ก็ทำให้ทุกอย่างของอาร์เซน่อล ง่ายและผ่อนคลายไปหมด
 

" พี่ต้า " วางเกมแพลนมาเอาชนะ อาจารย์ เป๊ป ได้อย่างเด็ดขาดนั่นก็คือ การบีบเพรสสูง แนวรับ ซิตี้ หรือบีบสูงในแดนคู่แข่ง ไม่บีบโกล ออร์เตก้า แต่ไปเข้าเร็วดักเร็ว เหล่าบรรดากองหลังที่ได้บอลแทน
 

นี่คือครั้งแรกตั้งแต่ปี 2003 ที่ อาร์เซน่อล ยิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ถึง4ประตู ในเกมพรีเมียร์ลีก การล้มทีมที่พวกเขาไม่ค่อยชนะได้ระยะหลังอย่างเรือใบ น่าจะทำให้มีกำลังใจมากโขเลยกับการบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล เกมคาราบาวคัพ ที่แพ้คาบ้านมา2เกมติด
 

ซึ่งหากปืนโต พลิกล็อก ผ่านเข้าชิงด้วยการฝ่าด่าน นิวคาสเซิ่ลได้ (เกมแรกแพ้ 0-2)  จะเป็นโมเมนตัม ที่ดีมากๆ ในช่วงเวลาที่เหลือสำหรับการไล่ล่าแชมป์กับลิเวอร์พูล ที่แม้จะตามหลังอยู่มากพอควร ส่วนเกมลีกสัปดาห์หน้า (หลัง เอฟเอ คัพ) ต้องไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง