ลอนดอนเป็นสีแดง ! ปืน มีเสียว บุกหักคอไก่ 3-2 ราย่า แจกทำเหนื่อยท้ายเกม
แพ้ใครก็ได้ แต่ห้ามแพ้อาร์เซน่อล นี่คงเป็นอีกหนึ่งคติประจำใจของ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ที่มีต่ออริตลอดกาลอย่าง ปืนใหญ่ ซึ่งทั้งสองทีมโคจรมาพบกันในช่วงท้ายฤดกาล ที่3แต้มมีความหมายมากๆต่อทั้งคู่ มิเคล อาร์เตต้า ต้องการเพื่อรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป ส่วนไก่เดือยทอง ก็ต้องเน้นหนักกับโปรแกรมที่เหลือ เพื่อทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส สเตเดี้ยม สเปอร์ส เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ทีมของ อังเก้ ปอสเตโตกูล ก็มาในชุดฟูลทีมเท่าที่สุดที่จะเป็นไปได้ แนวรุกมากันครับทั้ง ติโม แวร์เนอร์ - เดยัน คูลูเชฟสกี้ และ ซน ฮึง -มิน แต่จะไม่มีแบ็กซ้ายตัวเก่ง เดสตินี่ อูโดกี ที่ปิดเทอมไปแล้ว
อาร์เซน่อล มีการปรับกระบวนทัพเล็กน้อย ในตำแหน่งแบ็กซ้าย เมื่อ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง แทนที่ของ ยาคุบ คิวิเออร์ และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ส่วนปีกซ้ายเป็น เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ได้เป็น11ตัวจริงก่อน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
เริ่มเกมมาก็เป็น " คลับไก่ " ที่คึกกว่ามากๆ ขึงเกมรุกเข้าใส่ แต่ก็ไร้ซึ่งโอกาสสกอร์แบบจริงๆจัง และก็มาโดนทีเด็ดลูกเตะมุมของอาร์เซน่อลดื้อๆ บูกาโย่ ซาก้า เปิดมากดดันที่เสาแรก และเป็น ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก โหม่งเข้าประตูตัวเองไป 0-1 น.15
หลังจากนั้นสเปอร์สก็มาส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายคืนได้จาก มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน แต่ทว่าโดนVAR จับล้ำหน้าไป หลังจากนั้นเจ้าบ้านก็พาบอลไปในแดนคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าด้วยจังหวะสวนกลับ สเปอร์ส หลังลอย อาร์เซ่อล ก็มาได้ลูกหนีห่าง 0-2 จาก บูกาโย่ ซาก้า น.27
ก่อนจะมาได้ลูกที่3 จากเตะมุม และ ไค ฮาแวร์ตช์ ที่ฮ็อตต่อเนื่องโขกเข้าไปง่ายๆ น. 38 จบครึ่งแรกไปด้วยการที่อาร์เซน่อลบุกมานำ 0-3 แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การครองบอลจะน้อยกว่า เริ่มครึ่งหลังมา " เดอะ กันเนอร์ส " ยังคงเหนือกว่า และไม่มีท่าทีว่าเจ้าบ้านจะพลิกสถานการณ์ได้
แต่ทว่าด้วยความผิดพลาดของ ดาบิด ราย่า ทำให้ สเปอร์ส ไล่มาได้ 1เม็ดเป็น จาก คริสเตียน โรเมโร่ เป็น 1-3 น.64 ก่อนที่จะมาบวกอีกตุงเป็น 2-3 จากช็อตที่ เดแคลน ไรซ์ ไปเตะ เบน เดวิส ในเขตโทษ และ ซน ฮึง-มิน สังหารเข้าไป น.87
แม้ว่าจะทดเวลาบาดเจ็บอีก 6นาที ทีมของ " น้าแอนจ์ " ก็ไม่สามารถผ่าด่านกำแพงมนุษย์ของอาร์เซน่อลได้ โดยเฉพาะในรายของคู่เซ็นเตอร์ กาเบรียล มากัลเญซ และ วิลเลี่ยม ซาลิบาก ก็ยังแกร่งเป็นหินมาเหมือนเดิม
อีกจุดที่ต้องชมมากๆของอาร์เซน่อล นั่นก็คือ มิเคล อาร์เตต้า ที่ถ้าจะมาบุกต่อบอลเข้าใส่ในครึ่งแรก ก็ทำได้ แต่ " เดอะ กันเนอร์ส " เลือกที่จะเล่นให้ยืดหยุ่น เมื่อพวกเขามองว่าสเปอร์ส มีแต่รุก แต่หลังดันสูงหลุดง่าย จึงเลือกเล่นแบบรับแล้วสวนกลับมากกว่า ไม่จำเป็นต้องครองบอลเยอะ
ไก่ ดันสูงเกิน ตามปรัชญาแอนจ์
แม้ว่าจะไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์ แต่ทว่าก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่สไตล์การเล่นเน้นบุกมันและเพลินมากๆ เพราะ สเปอร์ส ภายใต้อุ้งมือของ อังเก้ ปอสเตโคกลู พวกเขามีปรัชญาการเล่นที่ชัดเจน ดันหนุนสูงเวลาเล่นเกมบุก และยังเป็นทีมที่เล่นเกมรับกันได้ไม่เป็นอีกด้วย
เราเคยเห็นความบ้าบิ่นนี้มาแล้ว ในเกมที่เหลือ9คน เปิดบ้านพบกับเซลซี ช่วงที่ผู้เล่นเหลือ9คน โดนใบแดงไป2 " น้าแอนจ์ " กล้ามากที่ยังจะเปิดเกมรุกเข้าใส่ผู้มาเยือน แถมยังใช้วิธีดันสูงเกือบครึ่งสนามเพื่อเช็กน้ำหน้าอีกด้วย
ซึ่งหากเล่นพลาดก็จะทำให้ เซลซี หลุดมาดวลเดี่ยวกับ กูเยลโม่ วิคาริโอ เลย และก็โดนแบบนั้นจริงๆ จนจบลงด้วยความปราชัย 1-4 ส่วนกับปืนใหญ่เมื่อคืน ตอนที่โดนนำ 1-0 สเปอร์ส เน้นเร่งเครื่องเล่นเกมบุกมากๆหลังลอย จนทำให้ลูกวางบอลของ ฮาแวร์ตช์ ได้ผล ก่อนจะไปจบที่ ซาก้า
ถ้าจะมองกันตามจริงการตามหลังคู่แข่ง 0-1 เพียงแค่ น.15 ทีม " คลับไก่ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเล่นเสี่ยงขนาดนั้น เสี่ยงที่ว่าคือดันสูงมากๆ ทั้งที่ตามเพียงแค่เม็ดเดียวเอง ทั้งที่มีเวลาเหลือเฟือในการตามเจ๊า ไม่ต้องโหมเร่งโอเวอร์โหลด
บอลสเปอร์ส ในยุค อังเก้ เป็นบอลเกมบุก ดันสูงที่สุ่มเสี่ยงหลือเกิน ไม่ว่าจะเล่นกับคู่แข่งระดับไหน ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ก็ยังเล่นเหมือนเดิม จริงๆมันต้องมียืดหนุ่นตามสถานการณ์บ้าง ผ่อนหนักผ่อนเบา ถ้าเจอทีมอ่อนชั้นกว่าอาจเล่นสไตล์นี้ได้ แต่ทว่าเจอระดับบิ๊กทีมก็สามารถโดนสวนหงายหลังได้เลยทีเดียวแบบเมื่อคืน
อีกหนึ่งจุดที่ว่ากันว่าทำให้ ไก่เดือยทอง เลือกที่จะเปิดเกมบุกบี้ใส่อาร์เซน่อล นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขามั่นใจในเรื่องความฟิต เพราะพวกเขาได้พักมานานถึง15วัน ส่วนลูกทีมของ มิเคล อาร์เต้า พึ่งลงฟาดแข้งเกมกลางสัปดาห์กับเซลซีมา
เสีย3ตุง แต่ โรเมโร่ ถือว่าโดดเด่น
แม้ว่าจะเสียถึง3ประตู ซึ่งจะว่าไปมาจากความผิดพลาดส่วนตัวแทบทั้งหมดเลยนะ สำหรับ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส ฮอยเบิร์ก โขกเข้าประตูตัวเอง เม็ด2 ดันสูงขึ้นทั้งทีม เบน เดวิส มัวแต่ไปมอง ไค ฮาแวร์ตช์ ประตู3-0 ก็มาจากเตะมุมอีกครั้ง ผู้เล่นไก่เดือยทองเลือกประกบแบบคุมโซน แล้วทำได้ไม่ดี ไม่ได้ประกบแบบคู่ใครคู่มัน
คริสเตียน โรเมโร่ นั้นโดดเด่นมากๆกับการชิงบอลตัดบอล เข้าปะทะหนักกับแนวรุกอาร์เซน่อล เล่นเอาปั๊มบอลแต่ละทีแข้งปืนใหญ่ทีมเสียวเลยทีเดียว เพราะแม้ว่าจะหนักหน่วงแต่แม่นยำไปที่บอลตลอด
อดีตกองหลังอตาลันต้า ทำได้ดีมากๆเวลาที่ต้องดวล 1-1 กับ ฮาแวร์ตช์ ในเรื่องของการผ่านบอล เซ็นเตอร์ชาวอาร์เจนไตน์ มีความแม่นยำถึง97% - เข้าแท็กเกิ้ล4ครั้ง - เคลียร์บอล และ บล็อคบอล อย่างละ2คน และก็เป็นผู้จุดประตูความหวังให้กับทีม หลังรับส้มหล่นจาก ราย่า แล้วเลือกมุมซัดเข้าไป
นอกจากประตูที่ทำได้ โรเมโร่ ยังมีโอกาสเติมสูงขึ้นมาทำประตูอีก3ครั้ง แต่ทว่าน่าเสียดายที่ลูกโหม่งของเจ้าตัวในครึ่งแรก มีทั้งชนคานและเฉียดออกไป เอาแค่ในลีกฤดูกาลนี้ คริสเตียน โรเมโร่ ก็เติมสูงขึ้นมาเบิกสกอร์ได้มากถึง5ลูก
ทางด้าน มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน นอกจากความผิดพลาดประตูที่3 ที่ไม่ประกบ ฮาแวร์ตช์ จากลูกเตะมุม แนวรับชาวดัตช์ก็ทำได้ดีเลย ในเรื่องของการตัดบอลเบียดปะทะ จากจังหวะวางยาวให้ผู้เล่น อาร์เซน่อล สวนกลับ เจ้าตัวใช้สปีด ความแข็งแกร่ง แย่งบอลได้ก่อนแข้งอาร์เซน่อลที่จะหลุดไปถึง วิคาริโอ้ ตลอด
น่าเสียดายที่ลูกยิงของเจ้าตัวมาโดน VAR ยึดย้อนหลังแบบโชคร้ายสุดๆเพราะมีจะการล้ำหน้าไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ส่วนคนที่แย่ที่สุดในแผงแบ็กโฟร์เห็นทีจะเป็น เบน เดวิส กับลูก2นี่ชัดเจนมาก เพราะมัวแต่ไปมอง ฮาแวร์ตช์ ที่มีบอล ไม่ได้มอง ซาก้า ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ทิ้งพื่นที่ให้ปีกตัวเก่งปืนใหญ่รายนี้เยอะมาก จนสำเร็จโทษไป
ปืนโต อัพเกรดเจ้าพ่อลูกตั้งเตะ
จากทีมที่ไม่ค่อยมีจุดเด่นลูกตั้งเตะเท่าไหร่ มิหนำซ้ำยังเป็นทีมที่โดนโจมตีจากลูกเซ็ตพีตบ่อยๆ แต่ทว่าช่วง 1-2 ฤดูกาลที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ค่อยๆลดจุดอ่อนจุดสลบนี้ออกไป และทำให้กลายเป็นจุดเด่นจุดแข็งในที่สุด
2ใน3ประตูของปืนใหญ่ ใน นอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ มาจากลูกเตะมุม เม็ดแรก เป็น ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก โขกเข้าประตูตัวเอง เม็ด3 ไค ฮาแวร์ตช์ ได้โขกง่ายๆไร้ตัวประกบ ซึ่งนี่คือการทำประตูจากลูกเตะมุมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หนที่16แล้ว
เป็นสถิติที่เทียบเท่ากับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน สมัยที่ โทนี่ พูลิส กุนซือเจ้าพ่อลูกนิ่ง (2016-2017) ที่จำนวน16ประตู และปืนใหญ่มีสิทธิแซงด้วยเพราะพวกเขายังมีโปรแกรมอีก3นัดให้ฟาดแข้ง
ซึ่งผลงานดังกล่าวต้องยกเครดิตให้โค้ชเซ็ตพีซ ที่ มิเคล อาร์เตต้า ดึงมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง นิโคลัส โรเจอร์ส ด้วย ที่เข้ามาพลิกเรื่องลูกตั้งเตะให้กับปืนใหญ่ จากหน้ามือเป็นหลังมือ จากจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็ง
ถ้าสังเกตให้ดีๆจะเห็นว่าอาร์เซน่อล มีทริกเล็กๆน้อยๆ ในการเล่นจังหวะตุกติกลูกตั้งเตะ นั้นก็คือการสกรีนผู้รักษาประตูหรือตอดเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ใช่จังหวะฟาวล์ ทำให้โกลฝั่งตรงข้ามเสียสมาธิ เมื่อคืน ก็เป็น เบน ไวท์ เหมือนจะไปหยิกถุงมือ วิคาริโอ ก่อนได้ประตูแรก
ปืนนำสบายๆ 3-0 แต่แจกโชคทำลำบากท้ายเกม
45นาทีแรก นอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ เป็นทางฝั่งอาร์เซน่อล ที่แม้ครองบอลน้อยกว่าเจ้าบ้าน แต่ก็อหังการบุกมานำได้ถึง 3-0 แถมครึ่งหลังเริ่มเกมมา ปืนใหญ่ก็สามารถครองเกม คุมจังหวะได้ บอลส่วนใหญ่อยู่ในการครอบครองของพวกเขา
ณ ตอนนั้นต้องบอกว่าไม่มีสัญญาณอะไรเลยที่จำให้ สเปอร์ส พลิกนรกกลับมาจากป่าช้าได้ แต่ทว่าอยู่ดีๆเหมือน ดาบิด ราย่า จะกลัวเกมไม่มันระทึกใจ เปิดบอลไปเข้าอก คริสเตียน โรเมโร่ ดื้อๆ ก่อนที่กองหลังเลือดฟ้า-ขาว จะเลือกมุมสำเร็จโทษเข้าไป
ซึ่งไม่ใช่หนแรกที่ นายด่านชาวสเปนพลาดเองแบบเข้าตา ฤดูกาลนี้การออกบอลที่เป็นจุดเด่นแบบโกลสมัยใหม่ของเจ้าตัว ก็โดนคู่แข่งลงโทษได้อยู่เป็นระยะเช่นกัน พอ1-3 รูปเกมและโมเมนตัมก็ค่อยๆไหลมาทางเจ้าบ้าน
และปืนใหญ่ก็มาทำตัวเองให้ลำบากอีกหน เมื่อ เดแคลน ไรซ์ ที่เข้าบอลช้าไปเตะน่องพับใน เบน เดวิส ดื้อๆ ตอนแรกผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แต่ทีมงานผู้ตัดสิน VAR เรียก ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ไปดูจอข้างสนาม และสุดท้ายเป่าเป็นจุดโทษในที่สุด ซน ฮึง -มิน สังหารเข้าไป น.87
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่เหลือรวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ6นาที " เดอะ กันเนอร์ส " ชุดนี้เหมือนจะนิ่งกว่าปีที่แล้ว พวกเขาไม่ได้มีอาการลนลานหรือจังหวะสุ่มเสี่ยงจะโดนเม็ดที่3แต่อย่างไร เล่นอย่างมีวินัยสุดๆ จังหวะควรถ่วงเวลาหรือพาบอลไปที่มุมธง ก็เล่นตามสูตรของทีมขึ้นนำและต้องรักษาสกอร์
ปืนทำดีที่สุดแล้ว อาร์เตต้า ต้องลุ้นเรือใบสะดุดสถานเดียว
ช่วงท้ายฤดูกาลที่ว่าโปรแกรมหนักๆ จนทำให้อาร์เซน่อลเอง ถูกมองว่าเป็นเต็งแชมป์อันดับ3รองจากลิเวอร์พูล เสียอีก แต่ทว่าทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ก็ผ่านแมตช์ยากๆมาได้หมดเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นถล่มเซลซี 4-0 ชนะ สเปอร์ส 3-2 มีสะดุดคาบ้านต่อ แอสตัน วิลล่า นัดเดียว (0-2)
สถานการณ์ตอนนี้ อาร์เซน่อล นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่1แต้ม แต่ทว่าทัพเรือใบสีฟ้า แข่งน้อยกว่าพวกเขาอยู่1นัด เมื่อเหลือบดูโปรแกรมที่เหลือของ มิเคล อาร์เตต้า ต้องบอกว่าน่าจะกวาด9แต้มเต็มได้ไม่ยาก ในบ้าน2นัดกับ บอร์นมัธ และ เอฟเวอร์ตัน ที่รอดตกชั้นไปแล้ว
ส่วนนัดเยือนต้องดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มองจากชื่อชั้นศักดิ์ศรีก็น่าจะเป็นเกมที่ยาก แต่ทว่าด้วยฟอร์มของปีศาจแดง ณ ตอนนี้ หากมองในเรื่องของฟุตบอลเพียวๆ อาร์เซน่อล ไม่น่ามีปัญหากับ3แต้ม
สำหรับ มิเคล อาร์ต้า ทำสถิติเก็บชัยชนะได้ครบ100นัดในพรีเมียร์ลีก โดยใช้เวลาเพียง 169นัด ดีกว่า อาร์เวน เวนเกอร์ เสียอีก (179 นัด) แต่ทว่านั้นก็ยังห่างไกลจากอาจารย์ของเขาอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ทำได้เร็วกว่าที่ 134 นัด
แม้ว่าการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ทุกอย่างจะไม่ได้อยู่ในการกุมชะตาตัวเองของอาร์เซน่อล แต่ทว่าผลงานของปืนใหญ่ในลีก 15นัดหลัง พวกเขาก็ชนะไปถึง 13 เสมอ1 และแพ้ 1 ซึ่งหากสุดท้ายแล้วพวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝันแชมป์ ก็ไม่ใช่ว่าปืนใหญ่ไม่ดีพอ ทีมของ อาร์เตต้า เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง แต่แค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดีกว่าเท่านั้นเอง
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล วิเคราะห์บอล มิเคล อาร์เตต้า คริสเตียน โรเมโร่ บูกาโย่ ซาก้า สเปอร์ส คอลัมน์บอล
- 453
- 29 Apr 2024 15:13