มีเสียวท้ายเกม ! ปืน ตามเป้า บุกเชือด เจ้าป่า 2-1 เชซุส ฉาย ยิง+แอสซิสต์
ต้องค่อยๆจูนฟอร์มเรียกความมั่นใจกลับคืนมาหน่อยสำหรับ อาร์เซน่อล หลังจากที่มีช่วงหนึ่งแพ้2นัดรวดในพรีเมียร์ลีก แถมยังกระเด็กตกรอบ เอฟเอ คัพ ด้วยน้ำมือของลิเวอร์พูล ลูกทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ก็เดินหน้าเก็บ3แต้มในพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง หลังบุกไปเชือดเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไป 2-1 ที่ถึงแม้ว่ารูปเกมจะเหนือกว่า แต่ก็ต้องมาระแวงเสียวท้ายเกม
เกมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ที่ ซิตี้ กราวด์ เจ้าบ้าน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เปิดรังรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ที่พึ่งคืนฟอร์มเก่งด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไป 5-0 ส่วนทัพเจ้าป่าเอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือจาก สตีฟ คูเปอร์ มาเป็น นูโน่ เอสปิริโต้ มาตั้งแต่กลางๆเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว
ในเรื่องของการจัดตัว มิเคล อาร์เตต้า ก็จัดแนวรุกเต็มสูบ กาเบรียล เซซุส - บูกาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเลย แนวรับชุดเดิม แต่ที่เซอร์ไพรส์เห็นทีจะเป็น เอมิล สมิธ -โรล ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ้างสักที
ส่วน ฟอเรสต์ ก็มาในชุดที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คริส วู้ด ได้ออกสตาร์ทเป็นหน้าเป้าตัวจริงก่อน ไตโว อโวนิยี่ ที่พึ่งหายเจ็บกลับมา เนโก้ วิลเลี่ยม ได้ยืนสูงเป็นหน้าฝั่งขวา ก่อน แอนโธนี่ อีแลงก้า ที่ถูกวางไว้เป็นไม้เด็ดตัวสำรอง
ออกสตาร์ทมาก็เป็นไปตามคาด อาร์เซน่อล เหนือกว่าในเรื่องของการครองบอล การเจาะแนวรับในพื้นที่สุดท้าย แต่ทว่า " เดอะ กันเนอร์ส " ยังขาดความเฉียบคม และทำจังหวะสร้างสรรค์ในเขตโทษไม่ขาดก็ล้นไปหน่อย ขณะที่ทีมเจ้าบ้านแทบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย 45นาทีแรก จึงจบลงด้วยสกอร์ 0-0
เริ่มครึ่งหลังทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ก็ยังดีกว่าทุกเหลี่ยมมุมเหมือนเดิม และก็มาได้ประตู 1-0 ปลดล็อกความอึดอัด จาก กาเบรียล เซซุส ที่ยิงมุมแคบรอดขา แม็ตต์ เทอร์เนอร์ เข้าไป น.65 และก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 ของ บูกาโย่ ซาก้า น.72
สกอร์ที่นำห่าง2-0 รูปเกมที่เหนือกว่าทุกอย่าง และเวลาก็เหลือไม่ถึง20นาที นั่นน่าจะเป็นงานง่ายของ ปืนใหญ่ ในการเก็บ3แต้มกลับกรุงลอนดอน แต่ทว่าเกมที่เหมือนจะไม่มีอะไร น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็มาได้ประตูปลุกความหวังดื้อๆ ของตัวสำรอง ไตโว อโวนิยี่ น.89
หลังจากนั้นเวลาที่ทดเจ็บยาว5นาที ก็เป็นช่วงที่ทำให้ สาวก " กันเนอร์ส " ลุ้นหวาดเสียวสุดๆ กับลูกบอมบ์โยนเข้าไปในเขตโทษของทีมเจ้าบ้าน จนทำให้ มิเคล อาร์เตต้า ต้องเปลี่ยนตัวฆ่าเวลาทั้ง ยาคุบ คิวิเออร์ และ จอร์จินโญ่ และสุดท้ายอาร์เซน่อล ก็ต้านทานอยู่ บุกมาเชือด 2-1 ขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง ตามหลังลิเวอร์พูล 2แต้ม แต่แข่งมากกว่า1นัด
เซซุส ถึงเวลาที่ต้องยิงแล้ว เหมาะสม MOM
ในแท็กติกการเล่นตามแบบฉบับของ มิเคล อาร์เตต้า กาเบรียล เซซุส จัดได้ว่าเป็นผู้เล่นประเภทที่ตอบโจทย์ของนายใหญ่ชาวสเปนมากๆ เรียกว่าหากไม่เจ็บหรือแบน เซซุส ก็มักจะได้ออกสตาร์ทเป็นหน้าเป้าตัวจริงเสมอ แต่ปัญหาที่เห็นมาตลอดของศูนย์หน้าชาวบราซิลนั่นก็คือจำนวนสกอร์
กอ่นเกมที่บุกไปเยือน ฟอเรสต์ เซซุส ผลิตสกอร์ในพรีเมียร์ลีกได้จุ๋มจิ๋มเพียงแค่ 3เม็ดเท่านั้น จากการลงสนาม12ตัวจริง และอีก4นัดตัวสำรอง ซึ่งลูกสุดท้ายต้องย้อนไปวันที่ 17 ธันวาคม ที่เปิดบ้านเอาชนะ ไบร์ทตัน 2-0
แม้ว่าจะผลิตสกอร์ไม่ค่อยได้ แต่อดีตศูนย์หน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี้ ทำใด้ดีตลอดกับอาร์เซน่อล นั่นก็คือการเป็นกองหน้าที่ส่ายไปอยู่ตลอดเวลาทั้งซ้ายและขวา การเคลื่อนที่ของเจ้าตัว สามารถดึงไลน์กองหลังตีโซนคู่แข่งได้ ซึ่งเมื่อคืนกับ ฟอเรสต์ ก็เช่นกัน
กาเบรียล เซซุส มี1ประตู จากจังหวะซัดมุมแคบ แฉลบเข่า แมตต์ เทอร์เนอร์ เข้าประตูไป แถมยังเป็นผู้แอสซิสต์ให้ บูกาโย่ ซาก้า จากจังหวะสวนกลับหนีห่างเป็น2-0 อีกด้วย เซซุสได้สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่งมากถึง 14ครั้ง (มากสุดในทีม)
น่าเสียดายที่ลูกซัดเหน่งๆในเขตโทษ จากการจ่ายของ โอเดการ์ด ไปชนคานอย่างจัง 1ประตูที่ทำได้เมื่อคืนทำให้ กาเบรียล เซซุส มีสถิติที่คงกระพันมากๆตั้งแต่สมัยอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นก็คือถ้านัดไหนที่เจ้าตัวยิงในพรีเมียร์ลีกได้ ทีมจะไม่แพ้ ซึ่งสถิติก็ยืนยงเพิ่มเป็น 60นัดเข้าให้แล้ว
ซาก้า ปั่นป่วนแนวรับเจ้าบ้าน สานต่อสถิติ อเล็กซิส ซานเชส
เป็นแนวรุกคนสำคัญของอาร์เซน่อล มาตลอดสำหรับ บูกาโย่ ซาก้า แต่ทว่าในช่วง 2-3เดือนที่ผ่านมา " บี " ดูจะใช้จังหวะจบสกอร์ได้สิ้นเปลืองไปหน่อย 7นัดแรกในพรีเมียร์ลีกเจ้าตัวทำไปได้4ลูก แต่ทว่า13นัดหลัง กดเพิ่มไปได้เพียง2ตุงเท่านั้น ทั้งที่แทบทุกนัด ซาก้า จะมีโอกาสได้จบสกอร์อย่างน้อย 2-3 ครั้ง
อย่างเกมที่พ่าย เวสต์แฮม เจ้าหนู ซาก้า มีโอกาสจบถึง9หน แต่ทว่าก็แปรเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ไม่ได้เลย ส่วนเมื่อคืนที่ดวลกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยตำแหน่ง บูกาโย่ ซาก้า ต้องดวลกับ แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่
ตลอด90นาที ดาวเตะเบอร์7 ไม่สามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้เลย แต่ทว่าก็มีจังหวะกระชากไปเปิดได้เสียวๆ มีโอกาสยิง6ครั้ง จ่ายคีย์พาส4หน สัมผัสบอลในเขตโทษทีมเจ้าบ้าน12ครั้ง ก่อนที่จะมายิงประตูตอกฝาโรงสุดเฉียบ 2-0 ทำให้ปืนใหญ่ไม่ต้องกดดันมากกับช่วงเวลาที่เหลือ
1ประตูที่ทำได้เมื่อคืนส่งผลให้ บูกาโย่ ซาก้า ทำไปแล้ว 10ประตู กับอีก11แอสซิสต์ รวมทุกรายการในซีซั่นนี้ และเป็นผู้เล่นรายแรกของทีมที่มีส่วนร่วมยิง10+ และ แอสซิสต์ 10+ ได้ในฤดูกาลเดียว ต่อจาก อเล็กซิส ซานเชส เมื่อปี 2017
ภาพรวมของ ซาก้า ในแมตช์กับเจ้าป่าไม่ได้แย่อะไร เพราะมี1ประตู แถมยังอิมแพคต่อแนวรุกทีมมากๆ แต่ทว่านั้นก็ยังเป็นฟอร์มที่ห่างไกลจากช่วงต้นฤดูกาลที่ฮ็อตกว่านี้ รวมไปจนถึงเจ้าตัวจะต้องเน้นมากกว่านี้ในเรื่องของการเปิดบอล ครอสบอล จากริมเส้น
ESR ออกสตาร์ทก่อน ฮาแวร์ตช์
หายหน้าหายตาจากการออกสตาร์ทตัวจริงในเวทีพรีเมียร์ลีกไปนานเอยสำหรับ เจ้าหนู เอมิล สมิธ -โรว์ โดยหนสุดท้ายที่ แข้งเบอร์10รายนี้ ได้เป็น11ตัวจริงในลีก ต้องย้อนไปไกลถึงวันที่ 28 ตุลาคม ที่ถล่มชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 5-0 หลังจากนั้นก็ได้สัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกอีกเพียง3นัด ซึ่งเป็นบทบาทตัวสำรองเสียหมด
โดยอาการบาดเจ็บคืออุปสรรคที่ทำให้ช่วงที่ผ่านมา สมิธ-โรล์ ได้รับโอกาสน้อย โดยช่วงที่โปรแกรมถี่ ทำให้ มิเคล อาร์เตต้า เลือกให้โอกาสแข้งวัย23ปีบ้าง กับ ฟอเรสต์ เอมิล สมิธ -โรว์ ได้มีพาร์ทเนอร์เป็น เดแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด
บทบาทการเล่นของ สมิธ-โรล ส่วนใหญ่จะผสานงานกับปีกฝั่งซ้ายอย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ค่อนข้างเยอะ ทีจังหวะขึ้นเกมสร้างเกมได้สวย แต่มาเสียตรงช็อตสุดท้ายที่ยังดูขาดๆเกินๆไปหน่อย และค่อยๆเงียบไปในครึ่งหลัง จนถูกเปลี่ยนออกให้ ฮาแวร์ตช์ มาเล่นแทน น.71
" ผมคิดว่าเขาดีจริงๆนะ ผมว่าเขาเล่นได้เหมือนกับตอนที่ซ้อมเลย ทุกๆครั้งที่ส่งเขาลงสนามในปีนี้ เขาสมควรได้รับโอกาสอย่างเต็มที่ เขาก้มหน้าก้มตาทำงานหนักมากๆและทัศนคติของเขาก็เยี่ยมด้วย คุณเห็นการเคลื่อนที่ของเขาแล้ว มันทำให้เราแฮปปี้ " มิเคล อาร์เตต้า
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม พรีเมียร์ลีกนัดหน้าที่จะเจอกับ ลิเวอร์พูล " เตต้า " น่าจะไม่เสี่ยงเลือกส่ง สมิธ-โรล ลงเล่นเป็นตัวจริง มีโอกาสเหมือนกันที่ โธมัส ปาเตย์ ที่แม้จะพึ่งหายเจ็บกลับมาได้ลงเป็นตัวจริง หรือไม่ก็เป็น ฮาแวร์ตช์ เจ้าเดิม
เทอร์เนอร์ แจกของขวัญ - มอนเทรียล พลาดเม็ด2
ผู้รักษาประตูคือตำแหน่งที่ในฤดูกาลใหม่นี้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะเหมือนกัน หลังการย้ายออกไป เมื่อหมดสัญญายืมตัวของ ดีน เฮนเดอร์สัน ทำให้ แมตต์ เทอร์เนอร์ ที่ย้ายมาจากอาร์เซน่อล ได้ลงตัวจริงในช่วงแรก
ก่อนเกมกับอาร์เซน่อล เทอร์เนอร์ ได้เฝ้าเสาในลีกไป17นัด และมีบางช่วงที่เสียตำแหน่งเมือ1ไปให้กับ โอดิสเซอัส วลาโฮดิมอส นายด่ายชาวกรีซ ที่ได้โอกาสไป5นัด แต่ทว่า7นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก เทอร์เนอร์ ก็กลับมาทวงตำแหน่งคืนได้อีกรอบ
ด้วยแนวรับที่ช่วยกันสกัดได้ และการที่อาร์เซน่อลขาดความเฉียบคม ทำให้ตัวของ เทอร์เนอร์ เอง ไม่ได้โดนทดสอบอะไรมาก แต่ทว่า45นาทีหลัง ประตูขึ้นนำ1-0 ของ กาเบรียล เซซุส นายด่านเมืองมะกัน ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
ลูกซัดของ เซซุส ที่แคบมากๆ แต่ แมตต์ เทอร์เนอร์ กลับปล่อยให้รอดขามาได้ แถมเมื่อดูจากวิถีบอล น่าจะไม่เข้ากรอบด้วยซ้ำ แต่ทว่าบอลดันไปแฉลบเข่าเจ้าตัวเข้าประตูไป หลังบอลไปซุกก้นตาข่าย เทอร์เนอร์ ผิดหวังกับตัวเองเป็นอย่างมาก ถึงขนาดนอนแผ่หงายเงิบเลยทีเดียว
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เล่นเกมรับลึก ทำได้ดีมากๆใน45นาทีแรกที่สกอร์ยังตรึงที่ 0-0 โดยเฉพาะในรายของ เฮย์สัน มูริโญ่ ส่วนลูก2-0 ก็เป็นแบ็กขวาดีกรีแชมป์โลกอย่าง กอนซาโล่ มอนเทียล ที่พลาดจ่ายบอลไม่ดีโดน โอเดการ์ด ดัก แล้วแทงออกด้านกว้างให้ ซาก้า ลากไปแอสซิสต์ให้ เซซุส สำเร็จโทษ
ซิตี้ กราวด์ ฝันร้ายซีซั่นก่อน - อโวนิยี่ คนชอบยิงปืน
แฟน " เดอะ กันเนอร์ส " น่าจะไม่ลืมกันแน่นอนว่า ฤดูกาลที่แล้ว 2022-2023 สนาม ซิตี้ กราวด์ นี่แหละที่ทำให้พวกเขาต้องหมดสิทธิลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ เพราะถูกเจ้าบ้าน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เชือดไป 1-0 จนแต้มขาด ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์หลังจบแมตช์นั้นไป
โดยเกมเมื่อคืน " เจ้าป่า " มาในแท็กติดอุดเต็มสูบ แทบจะไม่สนเกมบุกเลย เวลาเล่นเกมบุกสวนกลับ ดูจะมีเพียง มอร์แกน กิ๊บบ์ส -ไวท์ ที่มีความเร็วความคล่องพอที่จะเล่นงานได้ช่วงท้ายๆ 45นาทีแรก ฟอเรสต์ ครองบอลได้ไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำ
คริส วู้ด ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงดูจะคุกคามแนวรับอาร์เซน่อล น้อยมากๆ นั่นจึงทำให้ กุนซือ นูโน่ เลือกส่ง ไตโว อโวนิยี่ ที่หายเดี้ยงกลับมาได้ไม่นานลงมาแทนตั้งแต่ออกสตาร์ทครึ่งหลัง และถือเป็นเกมแรกของเจ้าตัว นับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน
อโวนิยี่ ที่ลงมาครึ่งหลังปั่นป่วน แนวรับอาร์เซน่อล ได้ดีกว่า วู้ด ชัดเจน เพราะอาศัยความใหญ่ความถึก ประตูตีไข่แตก 1-2 ก็มาจากบอลเข้าทาง แล้วไปตั๊นเอาชนะวิลเลี่ยม ซาลิบา ยิงหนีมือ ดาบิด ราย่า เข้าไปได้
โดยศูนย์หน้าชาวไนจีเรียรายนี้ ถือว่าเป็นของแสลงทีมปืนใหญ่เลย เพราะซัดได้ทั้ง3ประตู จาก3นัดที่ดวลกัน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นโจทย์ของ นูโน่ เอสปิริโต้ แล้วแหละว่าจะเลือกใครลงสนามเป็นตัวจริง กับ คริส วู้ด ที่ก่อนหน้านั้นก็ซัดรวมในลีกได้ถึง8ประตู จากการลงตัวจริงเพียง9นัด และในแผนการเล่นของพวกเขา เลือกกองหน้าได้เพียง1คนเท่านั้น
- คอลัมน์นิสต์
- อาร์เซน่อล วิเคราะห์บอล มิเคล อาร์เตต้า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ข่าวพรีเมียร์ลีก กาเบรียล เชซุส
- 395
- 31 Jan 2024 15:23