เลี่ยนเพอร์เฟกต์ ! ทุบ เวลส์ 1-0 กวาด9แต้มเต็ม แวร์รัตติ งานเนี๊ยบ
เรียกได้ว่าไม่ได้กลายเป็นม้านอกสายตาในยูโร2020หนนี้เสียแล้วสำหรับ อิตาลี ภายใต้อุ้งมือของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่กวาดชัยชนะ3นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม คว้า9คะแนนเต็ม ครองแชมป์กลุ่มเอได้แบบไม่มีปัญหาหรือเจอกับอุปสรรคอะไรโดยเพราะในเกมนัดสุดท้ายที่ถึงแม้จะโรเตชั่นนักเตะถึง8ตำแหน่ง แต่ทว่าขุนพลแชมป์โลก4สมัย ก็ยังเอาชนะ เวลส์ ในชุดเต็มอัตราศึกได้
เกมที่สตาดิโอ โอลิมปิโก เมื่อคืน อิตาลี เฉือนเอาชนะ เวลส์ ไปได้1-0 โดยได้ประตูชัยจาก มัตเตโอ เปสซิน่า กองกลางจากอตาลันต้า น.39 ส่วนทัพมังกรแดง แม้จะสู้ขาดใจ แต่พวกเขาแทบจะหาจังหวะเหมาะเหม่งในการซัดประตูไม่ได้เลย โดยเฉพาะ แกเร็ธ เบล ที่ได้ส้มหล่น เพื่อนร่วมทีมโหม่งบอลเข้ามาให้ในเขตโทษ แต่ทว่าเจ้าตัววอลเล่ย์ เดี่ยวๆในเขตโทษ หลุดออกไปไม่ได้ลุ้นซะงั้น
จานลุยจิ ดอนนารุมมา / เลโอนาร์โด โบนุชชี่ และ จอร์จินโญ่ คือ3ผู้เล่นตัวหลักที่ถูกส่งลงสนามไปประครองเกมในนัดนี้ นอกจากนั้นผู้เล่นที่เหลือทั้ง8คน คือแข้งตัวสำรองทั้งสิ้น แต่ทว่าตลอด 90นาทีที่อยู่ในสนาม บรรดาแข้งตัวเลือกรองเหล่านี้ แทบจะไม่ได้เล่นในสไตล์ระเบียบแบบแผนที่ด้อยกว่านักเตะทีมชุดแรกมากมายเลย
คุณภาพอาจจะตกหล่นสู้นักเตะชุดตัวจริงไม่ได้นิดหน่อย แต่การเข้าใจเกมรูปแบบแท็กติกหรือการตอบสนองต่อรูปแบบการเล่นแทบไม่ได้เป็นรองเลย บรรดาตัวรุกสายจี๊ดจ๊าดอย่าง เฟเดริโก้ เบร์นาร์เดสคี่ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็ปั่นป่วน แนวรับทัพมังกรแดงได้เป็นอย่างดี มีจังหวะวูบวาบ น่าหวาดเสียวหลายหนโดยเฉพาะ เบร์นาร์เดสคี่ กับจังหวะซัดฟรีคิกไปชนเสา
ส่วนที่จะไม่ให้พูดถึงก็คงจะไม่ได้สำหรับ การรีเทิร์นสนามของกัปตันทีม มาร์โก้ แวร์รัตติ หลังจากที่สองนัดแรกปล่อยให้นักเตะรุ่นน้องอย่าง มานูเอล โลคาเตลลี่ โชว์ฟอร์มเด่นปล่อยของสุดๆห้องเครื่องจากเปแอสเช ที่พึ่งหายเดี้ยงและฟิตกลับมาลงสนามได้ แวร์รัตติ แทบไม่ต้องใช้เวลามากมายเลยสำหรับการเล่นให้เข้ากับระบบของทีม
นี่คือนักเตะที่โดดเด่นในสนามมากที่สุดเมื่อคืน คลาสบอลเซนต์บอล จังหวะการจ่ายบอล มิดฟิลด์วัย28ปีผู้นี้ทำได้เนียนตามากๆ เป็นหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก แถมยังมีผลงานเป็นรูปธรรม (แอสซิสต์) ด้วยการเปิดฟรีคิกให้ มัตเตโอ เปสซิน่า สอดขึ้นมาตวัดยิงเป็นประตูโทนของเกมเข้าไป
ทางฝั่งทัพมังกรแดง แม้จะพบเจอกับความปราชัย แต่ก็เป็นความพ่ายแพ้ที่ทำให้โรเบิร์ต เพจ และลูกทีมยิ้มออกได้ ด้วยการจบเป็นอันดับ2ของกลุ่ม เข้าไปเล่นในรอบ16ทีมสุดท้ายต่อไป ผลสกอร์0-1 ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษตัวกุนซือด้วย ที่วางแผนให้เล่นเกมรับมากเกินไป พอรับมากเกินไป เวลาจะรุกสวนกลับก็ทำได้ไม่ปะติดปะต่อ
รวมไปจนถึงสไตล์การเล่นของเวลส์ อาจจะเหมือนกับ ที่ มันชินี่ นิยามไว้ก่อนเกมจริงๆว่า ทีมมังกรแดง แข็งแกร่งมีรูปแบบการเล่นคล้ายๆ สโต๊ค เกมเมื่อคืนเวลส์ถือว่าเล่นแรงเล่นหนักในหลายๆจังหวะ จนท้ายทีสุดก็เป็น อีธาน แอมพาดู ที่ไปย่ำใส่ เบร์นาร์เดสคี่ โดนไล่ออกไป น.55
อิตาลี เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
นี่คือ อีโวลูชั่น ของอิตาลีอย่างแท้จริง ที่ถูกเสกปรุงแต่งด้วยกุนซือเซฟฝีมือดีมากประสบการณ์อย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ นี่ไม่ใช่ขุนพลอัซซูรี่ ที่เราๆคุ้นเคยกับสไตล์การเล่นแบบ " คาเตนัชโช่ " หรือขึ้นนำ 1-0 แล้วตีหัวเข้าบ้าน แต่ " มันโช่ " ได้เปลี่ยนมุมมองและแนวคิดฟุตบอลสมัยใหม่ให้กับอิตาลีชุดนี้
อิตาลีที่เราเห็นในยูโร2020 คือทีมที่เมื่อนำคู่แข่งแล้ว ยังเดินหน้าควานหาประตู สอง สาม ก่อนที่จะมามีผ่อนจังหวะให้ช้าลงในบางช่วงของเกม แต่ก็ไม่ได้ละเลยในเรื่องของการทำประตูแต่อย่างใด เมื่อคืนผู้เล่นชุดสำรองของอิตาลี ลงสนามไปด้วยความกระหายอยากพิสูจน์ตัวเองทั้งนั้น
ถ้าจะให้พูดแบบไม่เกินเลยในยูโร2020หนนี้ อิตาลี คือทีมที่โชว์ฟอร์มมาตรฐานภาพรวมได้ดีที่สุด แกร่งทั้งรุกและรับ โดยถ้าย้อนกลับไปดูผลงานก่อนมาทัวร์นาเม้นต์นี้ทีมแชมป์โลก4สมัยก็ร้อนแรงไม่เบา หลังจบเกมกับเวลส์ที่คือการไม่ปราชัยในเกมทีมชาตินานเป็นนัดที่30ติดต่อกัน
โดย11นัดหลังสุด โรแบร์โต้ มันชินี่ พาอิตาลี คว้าชัยได้11นัดรวด ยิงได้32ประตู ไม่เสียแล้วแม้แต่เม็ดเดียว หรือจะให้เห็นภาพชัดๆเพื่ออธิบายความยอดเยี่ยมในแนวรับของอิตาลีนั่นก็คือ พวกเขาไม่โดนคู่แข่งเจาะตาข่ายมานานถึง 16 ชั่วโมงเข้าให้แล้ว ประตูสุดท้ายที่เสียเกิดขึ้นในเกมกับ ฮอลแลนด์ เมื่อเดือนตุลาคม 2020 โดยฝีเท้าของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค
30นัดที่ไร้พ่าย อิตาลี กระซวกตาข่ายคู่แข่งไปถึง82ประตู เสียไปเพียงแค่7ประตู และรักษาคลีนชีตได้ถึง 23นัด เรียกได้ว่าเป็นสถิติที่โหดระห่ำอย่างน่าเหลือเชื่อมากๆ อิตาลีในมือของ มันชินี่ ฟอร์มดุมาตั้งนานแล้ว แต่พึ่งมาได้รับการจับตามอง จากยูโร2020 หนนี้
อีกนัดเดียวในรอบ 16ทีมสุดท้ายกับว่าที่คู่แข่งอยาง ยูเครน หรือไม่ก็ ออสเตรีย หากขุนพลอัซซูร่า ฝ่าด่านทีมใดทีมหนึ่งนี้ไปได้ จะทำให้พวกเขาทำลายสถิติเดิมไร้พ่ายที่ยาวนานที่สุดของทีมชาติอิตาลี ที่ทำไว้30นัด ในช่วงปี 1935-1939 ลงได้สำเร็จ
เปลี่ยน8ตำแหน่งแล้วไง ?
ก่อนเกมเมื่อเห็นรายชื่อ11ตัวผู้เล่นของอิตาลีนัดนี้ บอกตรงๆว่าทั้งแฟนบอลทีมชาติอิตาลี และ แฟนบอลแบบเฉพาะกิจถึงกับต้องมีเสียวสะดุ้งเล็กน้อย เพราะตัวจริงมียืนพื้นไว้เพียงแค่3คน นั่นก็คือ โกล ดอนรารุมม่า / เซ็นเตอร์ คิเอลลินี่ / มิดฟิลด์ จอร์จินโญ่ ส่วนที่เหลืออีก8ราย เป็นแข้งนักเตะตัวสำรองของทีมล้วนๆ
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม8ผู้เล่นตัวสำรองของอิตาลี ก็แทบไม่มีใครทำตัวได้น่าผิดหวัง คุณภาพแม้อาจจะด้อยกว่าตัวจริงบ้างนิดหน่อย แต่ทว่าการตอบสนองต่อแท็กติกระบบของทีม แทบไม่ได้เป็นรองทีมชุดใหญ่เลย อิตาลี ยังเหนียวแน่นๆ เพรสซิ่งครองบอล ได้ดี (64%) สร้างสรรค์โอกาสยิงได้อย่างต่อเนื่อง (16ครั้ง)
ราฟาเอล โตลอย แบ็กขวาจากอตาลันต้า (สโมสรที่มีนักเตะหลายคนฟอร์มดีในยูโร2020) ก็ทำหน้าที่ของของตัวเองได้เป็นอย่างดี ทั้งรับและรุกดูมีความสมดุลมากๆ แถมยังสอดประสานงานโอเวอร์แลปไปช่วย เฟเดริโก้ ได้เป็นอย่างดี
อเลสซานโดร บาสโตนี่ เซ็นเตอร์ฮาร์ฟดาวรุ่งจาก อินเตอร์ มิลาน นี่ก็เป็นผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่ตามติด แกเร็ธ เบล แทบจะแผลงฤทธิไม่ออกกลายเป็นวิญญาณไร้ความหมาย แถมยังจ่ายบอลคีย์พาสได้ถึง3ครั้ง นอกจากนี้ลูกกลางอากาศ แนวรับเจ้าจองส่วนสูง 195 ซม.รายนี้ เก็บกวาดกินเรียบ เมื่อชนะการดวลลูกโหม่ง ได้ถึง7จาก8ครั้ง
เฟเดริโก้ เคียซ่า ตัวจี๊ดจากยูเวนตุสรายนี้ได้ลงเล่นแทนที่ โดมินิโก้ แบร์ราดี้ แม้นัดนี้ เคียซ่า จะไม่มีประตูหรือแอสซิสต์มาฝาก แต่ภาพรวมของเจ้าตัวต้องบอกว่าใช้ได้เลย จังหวะการลากจี้โคตรอันตราย เล่นงานเผาเครื่อง เนโก้ วิลเลี่ยม ได้หลายหน โชคร้ายที่นัดนี้แข้งวัย23ปีรายนี้ ไม่มีสกอร์มาฝาก แต่ฟอร์มของเจ้าตัวในนัดนี้ก็ดีพอที่จะคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปนอนกอดได้
มาสเตอร์คลาส มาร์โก แวร์รัตติ
หลายๆคนอาจลืมไปแล้วว่า มาร์โก้ แวร์รัตติ ติดอยู่ในทีมชุดนี้มาด้วย เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บก่อนเริ่มทัวร์เมาเม้นต์ ทำให้ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการเรียกความฟิต เพื่อกลับคืนสู่สนาม บวกกับฟอร์มที่กระฉูดแตกของ กองกลางรุ่นน้องอย่าง มานูเอล โลคาเตลลี่ ก็ทำให้บางคนคนเลิกนึกถึง แวร์รัตติ ไปเลย
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามเพียงแค่นัดแรกที่ได้กลับมาวาดลวดลายบนฟลอหญ้า กองกลางจากเปแอชเช รายนี้ ก็ไม่ต้องเสียเวลาปรับจูนให้เข้ากับระบบการเล่นของทีมเลย แม้ช่วง15นาทีแรก จะมีจังหวะการเล่นที่ดูขัดๆ กับเพื่อนร่วมทีมพอสมควร เพราะออกบอลค่อนข้างช้ามากจังหวะ
ถึงกระนั้นก็ดีเมื่อจับจังหวะการเล่นได้ ห้องเครื่องกัปตันทีมอัซซูรี่รายนี้ คือผู้ควบคุมคอนโทรลเกมอย่างแท้จริง ดูฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวในเกมกับเวลส์เมื่อคืน แทบไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือนักเตะที่ ร้างสนามไม่ได้เล่นแม้แต่นาทีเดียวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เล่นบอลสบายๆ แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เข้าใจสอดประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ประตูชัยของเกมก็เป็น แวร์รัตติ นี่แหละที่เล่นลูกตั้งเตะ (ลูกสูตร) ให้ เปสซิน่า สอดขึ้นมายิงเข้าไป แข้งวัย28ปีรายนี้ดู กระตือลือล้นมากๆ สำหรับการรีเทิร์นกลับมาลงสนามหนนี้ นอกจากจะควบคุมเกมในแดนกลางได้ดีแล้วก็มีแอสซิสต์สวยๆ ในเรื่องของเกมรับเจ้าตัวก็ช่วยสกรีนบอล ช่วยวิ่งไล่บีบไม่ให้บอลจากเวลส์ ทะลุไปถึงตัวความหวังอย่าง แกเร็ธ เบล และ อารอน แรมซี่ย์
แม้ว่า โลคาเตลลี่ จะโชว์ฟอร์มเด่นมา2นัดในยูโรหนนี้ แต่ฟอร์มของ แวร์รัตติ ก็น่าจะทำให้ " มันโช่ " หนักใจอยู่ไม่น้อยว่าจะเลือกส่งใครลงสนามในเกมรอบ16ทีมสุดท้าย คลาสบอล ที่แวร์รัตติ โชว์ออกมาให้เห็นในนัดนี้ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสาวกแฟนบอล อัซซูรี่ ถึงคิดถึงกองกลางร่างเล็กรายนี้มากๆ
มาร์โก้ แวร์รัตติ Vs เวลส์
106 สัมผัสบอล
100% เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง
100% เอาชนะแท็กเกิ้ล
94% ผ่านบอลแมนยำ
5 สร้างสรรค์โอกาส
3 ครอสบอลสำเร็จ
2 โอกาสยิง
2 ชนะดวลลูกกลางอากาศ
2 เรียกฟาวล์
1 แอสซิสต์
เวลส์เล่นแรง และ บทเรียนของ แอมพาดู
ก่อนเกม โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซืออิตาลี ได้ออกมากล่าวยกยอว่า ทีมชาติเวลส์ นั้นเป็นทีมที่เผชิญหน้าด้วยยาก และนักเตะมีความแข็งแกร่งทางด้านกายภาพเหมือนกับ สโต๊ค ซิตี้ ทีมบู๊สไตล์โบราณ ฟุตบอล ไดเร็กแบบอังกฤษขนาดแท้
คำพูดของ "มันโช่" สำหรับภาพสะท้อนในนัดนี้ไม่ได้ดูเกินจริงแต่อย่างใด นักเตะของเวลส์เล่นแรงหนักหน่วงและดุดัน ตัดฟาวล์แข้งอิตาลีในหลายๆจังหวะ และการลุ้นประตูของเวลส์ส่วนใหญ่ในนัดนี้ก็มาจากลูกตั้งเตะลูกเซ็ตพีซ อาศัยการบอมเข้าใส่
โรเบิร์ต เพจ วางแผนให้ทัพมังกรแดงเล่นตั้งรับอย่างรัดกุมไปก่อน นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกทีมของเขาโดนขุนพลอิตาลีบุกขโยกอยู่ข้างเดียวจนมาขึ้นนำตั้งแต่ในนาทีที่39 ด้วยรูปเกมที่ยังเป็นรองสุดกู่ การมาโดนใบแดงของ อีธาน แอมพาดู ตั้งแต่ไก่โห่ช่วงต้นครึ่งหลัง น.55 นั่นจึงเท่ากับทำให้เวลส์ หาทางกลับฝั่งไม่เจอเลย
แอมพาดู ไปย่ำเข้าใส่ เบร์นาร์เดสคี่ แม้จะดูไม่ได้เป็นการเจตนาจงใจให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเจ็บหนัก ซึ่งหากเข้าบอลในลักษณะแบบนี้ในเกมพรีเมียร์ลีก อาจจะโดนเพียงใบเหลืองเท่านั้น แต่ในเวทีนาๆชาติ หรือฟุตบอลลีกอื่นๆนั้นต่างกันออกไป นี่คือสิ่งที่แข้งวัย20ปีรายนี้ ต้องเรียนรู้กันต่อไป
ใบแดงดังกล่าวทำที่เจ้าตัวได้รับ ทำให้แข้งดาวรุ่งเซลซีรายนี้ ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้รับใบแดงในฟุตบอลยูโรรอบสุดท้าย ด้วยวัยเพียง 20ปี 279วัน
มัตเตโอ เปสซิน่า นักเตะที่เกือบไม่ได้มายูโร2020
ตอนแรก กองกลางจากอตาลันต้ารายนี้ ไม่ได้มีชื่อเป็น1ใน26ขุนพลทีมชาติอิตาลี ชุดลุยศึกยูโร 2020หนนี้ แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บก่อนทัวร์นาเม้นต์เริ่มขึ้นของ สเตฟาโน่ เซนซี่ ทำให้ มัตเตโอ เปสซิน่า ได้ส้มหล่นเสียบแทน มิดฟิลด์จากอินเตอร์ มิลาน รายดังกล่าว
เกมกับเวลส์ที่อิตาลีเองลอยลำผ่านเข้ารอบไปแล้ว เปสซิน่า ได้ออกสตาร์ทเป็น3มิดฟิลด์ตัวจริงของทีมร่วมกับ มาร์โก้ แวร์รัตติ และ จอร์จินโญ่ เพียงแค่การเล่นเป็น11ตัวจริงในนามทีมชาติหนที่2 กองกลางจาแบร์กาโม่รายนี้ ก็สามารเบิกสกอร์แรกให้กับตัวเองได้ทันที และเป็นผู้เล่นคนแรกที่ออกสตาร์ททัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ด้วยการทำประตูแรกได้ทันที นับตั้งแต่ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ทำได้เมื่อยูโร 2004
สิ่งที่ เปสซิน่า มอบให้กับทีมในนัดนี้ก็คือ พละกำลังและความสดใหม่ ในแผงมิดฟิลด์ รวมไปจนถึงความพยายามที่จะสอดขึ้นมาเล่นเกมรุกทำประตูหลายครั้ง ลูกที่เจ้าตัวซัดได้นั่นบ่งบอกถึงการเข้าใจในแท็กติกสูตรการเล่น และซักซ้อมเข้าอกเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ในเกมรับ ดาวเตะวัย24ปีรายนี้ ยังลงมาช่วยเคลียร์บอลจังหวะอันตรายๆได้ถึง2ครั้ง ส่วนการประสานงานกับรุ่นพี่อย่าง แวร์รัตติ และ จอร์จินโญ่ ก็ทำได้อย่างกลมกลืนเล่นเข้าขาเข้าจังหวะกันได้อย่างลงตัว
- คอลัมน์นิสต์
- 594
- 21 มิ.ย. 2564 15:43