ดราม่าเดือด แดงว่อน จบเกม ! ทอฟฟี่ ตายยาก ตามเจ๊าหงส์ 2-2 ทาร์คอฟสกี้ นาทีบาป น.90+8
ขึ้นชื่อว่าเป็น เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ อัตราความเดือดหรือความเมามันต้องพุ่งพล่านอยู่แล้ว ยิ่งพอมีความพิเศษตรงที่ นี่จะเป็นการดวลกับลิเวอร์พูลครั้งสุดท้ายที่สนาม กูดิสัน ปาร์ค ยิ่งจะเป็นแรงกระตุ้นให้ทั้งเอฟเวอร์ตัน และแฟนบอลในสนามไปกันใหญ่ โดยท้ายที่สุดแล้ว ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ก็มาโกงความตายรวมพลังกันสู้ช่วงทดเจ็บที่เกินออกมา ตามเจ๊าหงส์แดง ได้แบบเหลือเชื่อ 2-2 จากลูกยิงหวดตูมเดียวหายของ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้
เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ครั้งสุดท้ายที่จะเล่นยังสนาม กูดิสัน ปาร์ค เพราะซีซั่นหน้า เอฟเวอร์ตัน จะย้ายไปเล่นยังสนามแห่งใหม่ เจ้าบ้าน เอฟเวอร์ตัน ต้อนรับ ลิเวอร์พูล โดย ทีมของ เดวิด มอยส์ ฟัดมาค่อนข้างหนัก ในเกม เอฟเอ คัพ ที่พ่าย บอร์นมัธ 0-2 แต่ทว่าพวกเขาก็ยังจัดผู้เล่นเต็มสูบในบิ๊กแมตช์ นี้
หงส์แดง ระบบการเล่น 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู อลิสซง เบ็คเกอร์ แบ็กซ้าย-ขวา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับ คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ เซ็นเตอร์ฮาร์ฟคู่เก่ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - อิบราฮิมา โกนาเต้ ส่วน มิดฟิลด์ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ตำแหน่งยืนสูงหมายเลข10เป็น โดมินิค โซโบซไล 3 ประสานแนวรุก โคดี้ กัคโป - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และหน้าเป้า ลุยซ์ ดิอ๊าซ
เจ้าบ้านเอฟเวอร์ตัน ที่ดีขึ้นมามากๆในยุคของ เดวิด มอยส์ ที่มาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกันโกล จอร์แดน พิคฟอร์ด แผงแบ็กโฟร์ เจค โอไบรอัน - เจมส์ ทาร์คอฟสกี - จาร์ราด แบรนธ์เวต และ วิตาลี มิโคเลนโก้ มิดฟิลด์คู่กลาง อิดริสซา เกย์ ผนึกกำลังกับ เจมส์ การ์เนอร์
อับดูลาย ดูกูเร ยืนสูงกว่าใครเพื่อนในตำแหน่งมิดฟิลด์ ปีกซ้าย-ขวา อิลิมาน เอ็นดิยาย และ เยสเปอร์ ลินด์สตรอม หน้าเป้า เบโต้ สิ้นเสียงนกหวีดเป่าเริ่มเกมของ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เจ้าบ้านก็มาดีเกินคาด บีบเพรสวิ่งเข้าใส่ลิเวอร์พูล จนทำอะไรไม่ถนัด และก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้
จากลูกสูตรฟรีคิก แบรนธ์เวต เปิดเรียดไปให้ เบโต้ หลุดไปยิงผ่าน อลิสซง ง่ายๆ น.11 แต่ทว่าอย่างไรก็ตามทีมของ อาร์เน่อ สล็อต ก็มาตีเสมอได้ไม่นานหลังจากนั้น โม ซาลาห์ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ แม็ค อัลลิสเตอร์ โขกเสยบางๆ เปลี่ยนทางเสียบมุมล่างคานไป ตีเสมอ 1-1 น.16
หลังจากที่เสมอกัน 1-1 รูปเกมก็ยังสูสีเหมือนเดิม โดยเกมไปอัดกันอย่างหนักในแดนกลาง ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนมีลุ้นจากลุกยิงของ "โซโบ " แต่พิคฟอร์ด ยังเซฟไว้ได้ และ ดิอ๊าซ ที่พยายามจะตามซ้ำ ทาร์คอฟสกี้ มาช่วยอีกแรง และมาเข้ามือ พิคฟอร์ด จบ45นาทีแรก เสมอกัน 1-1
ครึ่งหลังกลายเป็น ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ที่ได้เสียงเชียร์จากแฟนบอลล้นหลาม และสร้างโอกาสได้มากกว่า มีลุ้นจังๆจากทั้ง ลูกโขกคนเดียวแถวจุดโทษของ ดูกูเร่ ที่คุมทิศทางได้ไม่ดีพอ รวมถึงกองหลังอย่าง แบรนธ์เวต ที่เติมสูงมาจิ้มบอลซุกก้นตาข่ายได้ แต่มีจังหวะต่อเนื่องล้ำหน้าไปก่อน
ทว่าแม้หงส์แดง ที่รูปเกมแทบไม่ได้ลุ้นโอกาสใกล้เคียงยิงแซงขึ้นนำเลย แต่ทว่าพวกเขาก็มาได้ประตู 2-1 จนได้ ทาร์คอฟสกี้ ที่สกัดลูกโยนของ ดิอ๊าซ ไม่ดี โจนส์ ได้ยิงไปติดบล็อค แบรนธ์เวต แต่ทว่ากระดอนมาเข้าทาง ซาลาห์ ได้ยิงซ้ำมุมแคบเข้าไปอย่างเฉียบคมขึ้นนำ 2-1 น.73 " บังโม เกือบจะมาฝังได้ แต่ทว่า พิคฟอร์ด ยังไม่ยอมโชว์หนึบปัดออกไป
เกมที่ทำท่าจะไม่มีอะไรเพราะลิเวอร์พูล ครองเกมได้หมดแล้ว เอฟเวอร์ตัน ก็มาใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้าย บอลโยนขลุกขลิกเข้าไปในเขตโทษ แนวรับทีมเยือนสกัดบอลไม่ขาด จังหวะสุดท้ายมาเข้าทาง เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ หวดตูมเดียวสุดคมเสียบตาข่าย น.90+8 แม้จะลุ้นกันอย่างหนักจาก VAR ว่าล้ำหน้าหรือไม่
จบ 90 นาที เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ หนสุดท้ายที่สนาม กูดิสัน ปาร์ค เสมอกันไป 2-2 พร้อมกับเหตุการณ์เดือดดราหม่า หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาว โดนใบแดงกันรวม4ใบ ทั้ง เคอร์ติส โจนส์ และ ดูกูเร่ ส่วน อาร์เน่อ สล็อต และผู้ช่วย ซิปเก้ ฮุลชอฟฟ์ ก็ต่างได้รับใบแดงเช่นกัน
เกมที่หงส์ค่า XG ต่ำ แต่ ซาลาห์ ก็ยังทำได้
ช่วงนี้ต้องบอกว่าแนวรุกลิเวอร์พูล คนที่ดร็อปลงไปมากๆ แม้ว่าจะได้รับโอกาสลงตัวจริงนั่นก็คือ ลุยซ์ ดิอ๊าซ เพราะ6นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ปีกชาวโคลอมเบียรายนี้ ไม่มีประตูหรือแอสซิสต์มาฝากเลย ส่วนหนึ่งอาจด้วยเพราะ ถูกจับมาเล่นเป็นกองหน้าด้วย
เพราะด้วยความที่ โคดี้ กัคโป ฟอร์มดีมากๆ ทำให้ อาร์เน่อ สล็อต รักพี่เสียดายน้อง จึงขยับ ดิอ๊าซ มาเล่นเป็นกองหน้าแทน ซึ่งช่วงจับมาเล่นแรกๆอาจเวิร์ค แต่พอมาสักพัก ด้วยความที่ไม่ใช่กองหน้าธรรมชาตินี่แหละทำให้เจ้าตัว ติดๆขัดๆ
เมื่อคืนลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงน้อยกว่าเจ้าบ้าน 8ต่อ4ครั้ง และเป็นเกมที่ทีมของ อาร์เน่อ สล็อต มีค่า XG น้อยที่สุดของฤดูกาลที่ 0.66 ซึ่งแม้จะน้อยขนาดนั้นแต่ทว่าพวกเขาก็ยังแปรเปลี่ยนเป็น2ประตูได้
และคนที่้ต้องชื่นชมมากๆ และเป็นคนเดียวที่บันดาลเสกสร้างความแตกต่างได้ตลอด ลูกเสยโหม่งของ " แม็คก้า " ที่โหม่งยากมากๆอยู่แล้ว แต่ก็ต้องชื่นชม ซาลาห์ ด้วยที่เปิดเข้ามาได้ระยะน้่ำหนักแบบเท้าช่างทอง
ส่วนประตูขึ้นนำ 2-1 ดูเผินๆเหมือนจะง่าย แต่มันก็เป็นสถานการณ์ที่กดดันไม่น้อย เพราะ ทั้งเกมหงส์แดงแทบไม่มีโอกาสตัวของ บังโบ ต้องจับบอลด้วยขวา และยิงด้วยขวา ซึ่งเป็นข้างที่ไม่ถนัด แต่ก็ยังนิ่งพอจะส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้
1ประตู 1แอสซิสต์ ที่ทำใส่เอฟเวอร์ตัน เมื่อคืน ทำให้ ซาลาห์ สร้างอีกหนึ่งสถิติใหม่ขึ้นมา (อีกแล้ว) การเป็นผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับประตูและแอสซิสต์ มากที่สุดในเกมเยือนต่อ 1ฤดูกาล 22 ลูก (13ประตู 9แอสซิสต์) ทำลายสถิติของ แอนดี้ โคล 21ลูก ที่ทำได้ในซีซั่น 1993-1994
แม็คก้า เด่นสุดในแดนกลางหงส์
ขึ้นชื่อว่าเป็น เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ และต้องบุกมาเล่นยังสนาม กูดิสัน ปาร์ค นั่นก็ไม่ง่ายอยู่แล้วสำหรับลิเวอร์พูล บวกกับนี่คือเกมส่งท้าย เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ ยังสนามแห่งนี้ นั่นยิ่งทำให้ เอฟเวอร์ตัน พร้อม วิ่ง สู้ ฟัด เข้าไปใหญ่
ซึ่งหลังเกมที่พ่ายพลิกล็อคต่อ พลีมีธ 0-1 กระเด็นตกรอบ เอฟเอ คัพ ลิเวอร์พูล ก็กลับมาใช้ชุด11ผู้เล่นตัวจริงแบบฟูลทีมอีกครั้ง โดยเฉพาะในแดนกลางที่น่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ อย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์ - กราเฟนแบร์ค และ โซโบซไล
แผงมิดฟิลด์ของหงส์แดง คนที่เล่นไม่ออกและผิดฟอร์มมากสุดเห็นทีจะเป็น กราเฟนแบร์ค ที่ทำงานสู้แดนกลางสายขยันและพละกำลังของเอฟเวอร์ตัน อย่าง อิดริสซา เกย์ กับ การ์เนอร์ ไม่ได้ แถมยังมี ดูกูเร่ ที่คอยมาช่วยไล่บีบไล่กวดอีกด้วย
ส่วน "โซโบ" เรื่องความขยันไม่ต้องห่วงอยู่แล้วสำหรับแข้งชาวฮังการีรายนี้ แต่ทว่าเรื่องอิมแพคต่อเกมนั้นน้อยไปมากจริง ๆ คนเดียวที่พอจะทำตามจ็อบและเด่นได้นั่นก็คือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นี่คือคนที่ทำงานหนักสุดในแผงมิดฟิลด์ลิเวอร์พูล
จ่ายบอลเร็วไม่เงอะงะ เกมรับก็ยอดเยี่ยม เข้าแท็กเกิ้ล6ครั้ง ชนะทั้ง6ครั้ง ตัดบอลได้2หน แถมลูกโหม่งของเจ้าตัวที่ทำให้ทีมกลับเข้าสู่เกมเร็วก็ไม่ได้ง่ายๆอีกด้วย เพราะหันหลังโหม่งเช็ดเข้าไป เป็นนักเตะที่ เล่นได้ดีเวลาเจอเกมเข้มข้นจริงๆสำหรับ " แม็คก้า "
แบร็ดลี่ย์ ยังห่างจาก อาร์โนลด์
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับ ฤดูกาลหน้าที่น่าจะไม่มี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ -อาร์โนลด์ รึเปล่าสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะเริ่มส่ง คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ ใช้งานถี่ขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจเป็นเพราะ TAA ร่างกายไม่ฟิตมากพอด้วย
แบร็ดลี่ย์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกม ดาร์บี้ แมตช์ นี้ เอาจริงๆเจ้าหนูวัย21ปี ไม่ต้องตั้งข้อสังสัยเลยกับ ความขยัน ความมุ่งมั่น หรือ แพสชั่นระหว่างเกม แต่ทว่าด้วยบรรยากาศและอารมณ์ของแฟนบอลในสนาม
ทำให้ แบร็ดลี่ย์ พร้อมไหลไปตามเกมได้ง่ายๆ การที่มีใบเหลืองติดตัว ทำให้จังหวะการเล่นต่อไปหวาดเสียวเหลือเกิน ยิ่งโดน ดูกูเร่ เข้ามาตอดบ่อยๆด้วย นั่นทำให้ อาร์เน่อ สล็อต เลือกที่จะถอดเจ้าตัวออก ตั้งแต่ น.61 ให้ เทรนต์ ลง มาเล่นแทน
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่ลงมา แม้จะดูไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ทว่าในเรื่องของเกมรุก แบ็กเบอร์ 66 ดูทำได้ดีกว่า แบร็ดลี่ย์ ชัดมาก ในเรื่องของการจ่ายบอล หรือดูเข้าขากับ ซาลาห์ 29 นาทีในสนาม ไม่รวมทดเจ็บ เทรนต์ ได้วางบอลยาวถึง4ครั้ง
โอเค เทรนต์ อาจไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ ณ ตอนนี้ แต่ทว่าความมั่นใจ และการเล่นเข้าแท็กติก ยังทิ้งห่างเจ้าหนู แบร็ดลีย์ ที่รอวันพัฒนา อยู่อีกมากโข ฤดูกาลหน้าอาจเสี่ยงมากๆหากว่า สล็อต จะใช้ คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ เป็นตัวจริงในระยะยาว น่าจะต้องมีแข้งหน้าใหม่แบ็กขวาอีกคน เข้ามาแย่งตำแหน่งกันจะดีกว่า
มอยส์ ปลุกเสกทอฟฟี่ให้กลับมาน่ากลัว
ตอนที่ ฌอน ไดซ์ ยังนั่งแท่นเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น กูดิสัน ปาร์ค ก็ต้องยอมรับตามตรงว่า บอลของ เอฟเวอร์ตัน ทั้งทื่อและตีบตันมากๆ แนวรุกนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะกุนซือหัวโล้นรายนี้ ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้ว ในการเล่นบอลโด่ง ไดเร็ค มิติอื่นๆการเข้าทำของ ทอฟฟี่แบบทันสมัยเราแทบไม่เห็นเลย
แต่ทว่าการเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่เป็น เดวิด มอยส์ คนคุ้นเคย ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นชัดเจน เหมือนได้ผู้ที่มาปลุกเอฟเวอร์ตัน ให้กลับมาน่ากลัวอีกครั้ง โดยเฉพาะการเล่นในรังเหย้า
แม้ว่าใน เอฟเอ คัพ รอบ4 พวกเขาจะพึ่งพ่ายคาบ้านต่อ บอร์นมัธ 0-2 ตกรอบ แต่ทว่าผลงานในพรีเมียร์ลีก 4นัดหลังสุด พวกเขาชนะถึง3 และแพ้เพียงนัดเดียวกับ แอสตัน วิลล่า และกับลิเวอร์พูล เมื่อคืน มอยส์ ก็วางแผนให้เอฟเวอร์ตันมาดีเสียด้วย
นั่นก็คือรับลึก แต่ทว่าพอบอลเข้ามาในแทนตัวเองแล้วบีบเร็ว และการเข้าบอลก็เป็นสไตล์ในแบบของเอฟเวอร์ตันอยู่แล้ว หนัก ถึงลูกถึงคน บอลแดนสอง เป็นผู้เล่นทอฟฟี่สีน้ำเงินที่ทำได้ดีกว่า รวมถึงโอกาสการเข้าทำของ เอฟ ตลอดทั้งเกมก็จะแจ้งกว่าทีมเยือน
เอฟเวอร์ตัน เล่นในเกมแพลนของตัวเอง ในทางกลับกันนั่นทำให้หงส์แดงเล่นในเกมแพลนของตัวเองไม่ถนัด ห้องเครื่องของเจ้าบ้านอย่าง อิดริสซา เกย์ กับ การ์เนอร์ กับ การ์เนอร์ บีบจน กราเวนแบร์ช เล่นไม่ออก และถูกเปลี่ยนออก
จริงๆพวกเขาน่าจะกุมความได้เปรียบของเกมไว้ด้วยซ้ำนะ แต่มาโดนความพิเศษของ ซาลาห์ ลงโทษซะงั้น ซึ่งผลเสมอท้ายเกม 2-2 ที่ลูกยิงของ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ เลยทดเจ็บ5นาทีออกมาอีก ถือว่าสมควรเช่นกันที่ทีมของ มอยส์ จะมี1แต้ม เมื่อคืน
เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ เดือด ส่งท้าย กูดิสัน ปาร์ค
ช่องว่างกับผู้ตามอาร์เซน่อล มีสิทธิถูกจะฉีกหนีห่างเป็น9 หากว่า เมื่อคืน ลิเวอร์พูล บุกไปกำราบคู่ปรับร่วมเมืองตลอดกาลอย่าง เอฟเวอร์ตัน แต่ถึงกระนั้นก็ดี นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้วที่ จะบุกมาควัก3แต้มที่ กูดิสัน ปาร์ค บวกกับนี่คือ เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งสุดท้ายที่จะมีขึ้นยังสนามแห่งนี้ แข้งทอฟฟี่วิ่งกันลืมตายแน่
และเกมก็ออกมาเป็นแบบนั้นจริงๆ เป็นเกมที่หนัก และยากสำหรับลิเวอร์พูล เพราะเจ้าบ้านเล่นถึงลูกถึงคนตลอด (แต่อยู่ในกติกา) แท็กติกการเล่นที่ เดวิด มอยส์ วางแพลนมา นั่นทำให้ ลิเวอร์พูล เล่นเกมของตัวเองไม่ได้เลย
แนวรุกของหงส์แดงหายไปจากเกม แฟนบอลที่ กูดิสัน ปาร์ค กระตุ้นเร้านักเตะของตนตลอด อีกหนึ่งไฮไลต์ของเกม ที่จะไม่ถูกพูดถึงก็คงไม่ได้ นั่นก็คือผู้ตัดสินอย่าง ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ที่เป่านัดไหน เหมือนจะมีประเด็นให้พูดถึงตลอด
ประตูชัย 2-1 ของ เอฟเวอร์ตัน ที่จริงมันน่าจะเป็นจังหวะที่ โม ซาลาห์ ถูกทำฟาวล์ไปก่อน รวมไปจนถึงประตูเสมอ 2-2 ของ ทาร์คอฟสกี้ ก็ปาเข้าไป น.90+8 ทั้งที่ทดเวลาบาดเจ็บเพียง 5นาที แต่ก็อาจเจ้าใจได้ตรงที่ตอนทดเจ็บนักเตะเอฟเวอร์ตัน วิ่งชนกันเอง จนต้องปฐมพยาบาล
แต่ทว่าในรูปเกมต้องบอกว่า ไม่น่าจะมีจังหวะหยุดให้ทดได้ถึง 5นาทีเลย ประตูตีเจ๊า ล่อเต็มเท้าของ ทาร์คอฟสกี้ เชื่อว่าถ้าช็อตนั้นไม่เข้า ผู้ตัดสินน่าจะเป่าจบเกมได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งหลังประตู 2-2 แฟนบอล ทอฟฟี่ ก็ลงมายังข้างสนามเฮกับนักเตะด้วยอย่างสุดเหวี่ยง
พอตอนเป่านักหวีดจบเกมแล้ว ก็มีดราม่าเดือดอีกเพราะ ดูกูเร่ ไปเยาะเย้ยแฟนบอลลิเวอร์พูล เคอร์ติส โจนส์ ทนไม่ไหวปรี่จะไปเอาเรื่อง จนกลายเป็นเหตุการณ์ชุลมุนกันในที่สุด และโดนใบเหลืองแดงไปทั้งคู่ รวมไปจนถึง อาร์เน่อ สล็อต และผู้ช่วยก็มาโดนใบแดงกันอีกด้วย
ผลเสมอ2-2 เมื่อคืน นั่นเท่ากับว่า เมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ที่สนาม กูดิสัน ปาร์ค สถิติเท่ากันหมดเลย 120นัด ชนะฝั่งละ41 และเสมอกัน 38 และถือว่าเป็นดาร์บี้แมตช์ ส่งท้าย ณ สนามแห่งนี้ ที่มีครบทุกรสชาติจริงๆ