คิง ออฟ คัมแบ็ค ! คาวานี่ โขกสวย ผีรัวแซงหักคอไก่ 3-1
ไฉไลเป็นบ้านี่อาจเป็นการพูดถึงหรือนิยามฟอร์มการเล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืน รัวแซงเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส 3-1 ที่รังเหย้าของทีมไก่เดือยทองเมื่อคืน ถอนแค้นจากช่วงต้นซีซั่นที่โดนถล่มยิงไส้แตก 6-1
ปีศาจแดงก็ทำท่าจะเป๋อยู่เหมือนกันเมื่อโดน ซน ฮึง-มิน ซัดขึ้นนำไปก่อน น.40 ซึ่งจังหวะก่อนหน้า น.33 ก็เป็นดาวเตะชาวเกาหลีรายนี้แหละ ที่ทำให้ทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ ชวดได้ประตู
เพราะVAR ไปให้ฟาวล์ย้อนหลังจังหวะที่ โอปป้า ซอน โดนมือของ สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ ฟาดเข้าที่ใบหน้า ทั้งที่ช็อตดังกล่าวผ่านไปแล้วเกือบ3-4จังหวะ ก่อนที่จะไปจบตรง เอดิสัน คาวานี่ ซัดเข้าไปตุงตาข่าย
หลังจากเสียประตูดังกล่าวให้กับ ซน ผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีอันหัวเสียเป็นอย่างมาก เพราะมีจังหวะเข้าเล่นบอลแรงๆหลายครั้ง
ก่อนที่ช่วงพักครึ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะพูดกระตุ้นลูกทีมรวมถึงแก้เกมจนทำให้ รูปเกมในครึ่งหลังเป็นทางฝั่งทัพปีศาจแดงจะเล่นได้ดีกว่าอย่างชัดเจน
เฟร็ด ที่นานทีจะยิงหนก็ขึ้นมาซ้ำลูกยิงของ คาวานี่ เป็นประตูตีเสมอ1-1ให้กับทีมได้ แต่ที่้ต้องชมจริงๆนั่นก็คือการเปลี่ยนตัวของน้าโอเล่ ที่ตอนแรกดูจะขัดสายตาท่านผู้ชมทางบ้านอยู่บ้างเมื่อ ถอดเอา มาร์คัส แรชฟอร์ด ออก แล้วให้โอกาส เมสัน กรีนวู๊ด
และสุดท้ายก็เป็น" เจ้าหนูไม้เขียว " รายนี้แหละที่สร้างอิมแพคให้กับทีมมากๆ ทั้งลูกครอสสุดสวยแบบไม่ต้องจับให้เจ้าของฉายา " เอล มาทาเดอร์ " ขวิด แบบฉลามบก เข้าไปไม่เหลือซาก รวมถึงประตูปิดกล่อง 3-1 ที่ กรีนวู๊ด ซัดมุมแคบได้เต็มข้อหนักหน่วงดีนักแล
การคว้า3คะแนน ดังกล่าวส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นคิงออฟคัมแบ็ก อย่างเต็มตัว เมื่อเป็นฝ่ายเก็บได้มากถึง 28แต้มในพรีเมียร์ลีก จากสถานการณ์ที่ทีมเพลี้ยงพล้ำตามหลังคู่แข่งอยู่
ส่วนคลับไก่ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ลงเอยแบบเดิมๆ ไม่เข็ดไม่จดจำสักทีสักหนกับการเป็นทีมที่พยายามจะเน้นเกมรับเมื่อขึ้นนำคู่แข่งไปก่อน
สุดท้ายก็กลายเป็นทีมรถบัสยางแตกอีกจนได้ และความพ่ายแพ้ดังกล่าวก็ทำให้สเปอร์ส กับ โอกาสในการคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ยากลงไปทุกที
เอล มาทาดอร์ ดาวยิงแบบที่ผีต้องการ
แม้ว่าอนาคตในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะยังดูคลุมเครือมาก ทั้งข่าวที่ว่าหอกชาวอุรุกวัยรายนี้ต้องการที่จะกลับทวีปอเมริก้าใต้ ไปเล่นให้กับ โบค่า จูเนียร์ ของอาร์เจนติน่า
บวกกับฟอร์มช่วงที่ผ่านมาของ เอดิสัน คาวานี่ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ดร็อปลงไปอย่างชัดเจน ผสมกับเป็นช่วงที่เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บรบกวนด้วยทำให้เท้าบอดไประยะหนึ่ง
แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมบุกอัดสปอร์ส 3-1 คาวานี่ นั้นต่างออกไปมากๆ คลาสบอล เซ็นส์บอล หอกชาวอุรุกวัยงัดออกมาโชว์ให้เห็นแทบทั้งหมดในนัดนี้
ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหาพื้นที่ การพักบอล รวมไปจนถึงการจบสกอร์ที่เฉียบขาด น่าเสียดายที่ประตูแรกถูกความวายป่วงของ เทคโนโลยี VAR ริบคืน
ที่น่าชื่นชมคือดาวยิงวัย34ปีรายนี้ ยังมุ่งมั่นทุ่มเทแบบ80ตีนถีบ แม้ว่าจะชวดได้มีชื่อบนสกอร์บอร์ด ลูกตีเสมอ1-1ก็มาจาก คาวานี่ ที่หลุดเข้าไปยิง ติดเซฟ ฮูโก้ โยริส แล้วเป็น เฟร็ด ตามซ้ำดาบสองไปได้
ก่อนที่การเข้าทำอันเป็นเอกลักษณ์ซิกเนเจอร์ของเจ้าของฉายา " เอล มาทาเดอร์ " จะมาถึง น.79 บอลครอสจาก เมสัน กรีนวู๊ด แล้วเป็น เอดิสัน คาวานี่ นี่แหละ ที่พุ่งเข้าหาบอลเป็นฉลามได้กลิ่นคาวเลือด โขกเสียบมุมไปไม่เหลือซาก
ประตูดังกล่าว คุณต้องเป็นกองหน้าที่มีคลาสและพิเศษจริงๆ ถึงจะมีจังหวะที่เหมาะเหม่งในการขวิดบอลเข้าไปเสียบมุมตรงนั้นได้
นี่คือผลตอบแทนของคาวานี่ สำหรับการเป็นหน้าเป้าที่วิ่งส่ายหาพื้นที่ทำเลทองให้เพือนร่วมทีมสามารถจ่ายบอลจังหวะคิลเลอร์พาสให้ได้
ป็อกบา มิติที่หลากหลายของปีศาจแดง
นี่คืออีกหนึ่งผู้เล่นที่ควรได้รับเสียงปรบมือเหมือนกันสำหรับเกมบุกหักคอไก่เมื่อคืน หลังจากเจอมรสุมลูกใหญ่เมื่อช่วงต้นฤดูกาล ปอล ป็อกบา กลับมาเป็นผู้เล่นในแบบที่แฟนบอลปีศาจแดงได้เห็นอีกครั้งหนึ่ง
เกมนี้มิดฟิลด์เจ้าของค่าตัว 89ล้านปอนด์ ได้ลงเล่นขยับขึ้นไปสูงกว่าเดิมนิดหน่อยเป็นตัวรุกทางฝั่งซ้าย แต่ทว่ารายละเอียดตลอด90นาที ป็อกบา สลับตำแหน่งการเล่นบ่อยมาก โยกไปซ้ายทีขวาที
เซนส์บอลและคลาสบอลนี่คือสิ่งที่ ป็อกบา โชว์ให้เห็นตลอดสำหรับเกมเมื่อคืน โดยเฉพาะการประสานงานกับ เอดิสัน คาวานี่ ที่กลมกล่อมลงตัวมากๆ ซึ่งน่าเสียดายที่ประตูแรกโดน VAR เจ้ากรรมยึดประตูคืน
ฟอร์มที่ดีขึ้นมาของกองกลางชาวฝรั่งเศสรายนี้ ทำให้ภาระที่หนักอึ้งในการครีเอทสร้างสรรค์เกมจากแดนการไม่ต้องไปพึ่งพา บรูโน่ แฟร์นันเดซ พี่แบกจนหลังแอ่นมาก่อนหน้าฝ่ายเดียว
ป็อกบา มีเทคนิคการเล่นที่แพรวพราวหลายครั้งสำหรับเกมดวลกับไก่เดือยทองการเลี้ยงกินตัว การจ่ายจังหวะบอลชิ่งสวยๆนี่คือ แสนยานุภาพ ที่อดีตกองกลางยูเวนตุสโชว์ปล่อยของให้เห็นในเกมนี้
และยังมีประโยชน์ในการลงมาช่วยเกมรับอีกด้วย ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะมี แอสซิสต์จากจังหวะพลิกบอลหนี เอริค ดายเออร์ แล้วจ่ายให้ เมสัน กรีนวู๊ด สำเร็จโทษเข้าไป
สถิติ ปอล ป็อกบา Vs สเปอร์ส
89% ผ่านบอลแม่นยำ
76 สัมผัสบอล
12 ชนะการดวล
6 เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง
6 สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่ง
6 จ่ายบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่ง
4 เคลียร์บอลจังหวะอันตราย
4 ชนะการดวลลูกกลางอากาศ
2 สร้างสรรค์โอกาส
2 เรียกฟาวล์
2 โอกาสยิง
1 แอสซิสต์
เอ็นโกโล่ เฟร็ดเต้
ช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา เฟร็ด คือหนึ่งในแข้งปีศาจที่โดนอัดสวดยับที่สุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะเกม เอฟเอคัพ รอบ8ทีม ที่เจ้าตัวมีส่วนกับความผิดพลาดเกือบทั้ง3ประตูจนเป็นเหตุให้ทีมพ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3
แต่ทว่าเกมฟัดกับไก่เดือยทอง เฟร็ด ก็ไม่ปล่อยให้ฝันร้ายจากความผิดหวังดังกล่าวตามมาหลอกหลอน เฟร็ด แปลงร่างกลายสภาพเป็น เอ็นโกโล่ เฟร็ดเต้ อีกครั้งเมื่อคืน
แม้จะมีจังหวะล้นๆเกินๆจ่ายบอลไม่แม่น แต่ทว่าภาพรวมมิดฟิลด์ชาวบราซิลรายนี้ ก็ทำให้ที่ของตัวเองประเภทมิดฟิลด์ผึ้งงานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
และผนึกกำลังประสานงานกับ สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ อัดคู่มิดฟิลด์ของสเปอร์ส อย่าง ตองกี เอ็มดอมเบเล่ และ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก ได้เป็นอย่างดี
ถ้าใครสังเกตให้ดีจะเห็นว่ากองกลางจากแดนแซมบ้ารายนี้ ตั้งใจเล่นและมีแรงกระหายมากๆ โดยเฉพาะช็อตซ้ำลูกยิงตีเสมอของเจ้าตัว ปรกติเราแทบจะไม่เห็น เฟร็ด ดันขึ้นสูงขนาดลุ้นทำประตูแบบนี้
ประตูที่ เฟร็ด ซัดได้ นี่คือลูกแรกในพรีเมียร์ลีกของเจ้าตัวนับตั้งแต่ปี 2018 ที่เคยยิงใส่ วูลฟ์แฮมป์ตัน ได้เลยทีเดียว ห้องเครื่องวัย28ปี นอกจากจะสอดขึ้นไปมีชื่อบนสกอร์บอร์ดแล้ว
สถิตในการเล่นเกมรับของเจ้าตัวก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เมื่อเข้าแท็กเกิ้ลได้ถึง4ครั้ง ตัดบอล2ครั้ง รวมถึงบล็อคลูกยิงได้อีก1หน
ชัดเจนว่าใครมือ1ผี
หลังจากเป็นประเด็นที่ถกเถียงคาดเดากันมาตลอดช่วง1-2สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ใครคือ ผู้รักษาประตูมือ1ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันแน่ แต่แมตช์ที่พบกับคลับไก่ก็ค่อนข้างชัดเจนมากๆแล้วว่า ดีน เฮนเดอร์สัน คือนายด่านตัวจริงของทีม
ประกอบกับเกม ยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น ซึ่งจะเป็นถ้วยที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มักจะใช้ผู้รักษาประตูตัวสำรองลงเล่น และก็เป็น ดาบิด เด เคอา ได้ลงเฝ้าเสาในเกมกับ กรานาด้า เมื่อวันพฤหัสบดี
น้องดีน ที่ได้ลงเฝ้าเสาในเกมดวลกับคลับไก่ สีหน้า แววตา อากัปกิริยา เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจมากๆ
การออกบอล การออกมาตัดบอลลูกกลางอากาศ ดีน เฮนเดอร์สัน ทำได้เพอร์เฟค เข้าตา ได้เห็นการตะโกนสั่งการจัดระเบียบแนวรับ เวลาที่แผงหลังจะโดนโจมตีอีกด้วย
พูดถึงเรื่องการเซฟ ลูกแรกโทษ เฮนเดอร์สัน ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทว่า นายด่านวัย24ปีรายนี้ ก็มีจังหวะเซฟเหน่งๆอ่านทางลูกยิงมุมแคบด้วยขาของ แฮร์รี่ เคน นั่นบ่งบอกถึงปฎิกิริยาการป้องกันที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการยืนตำแหน่งที่ได้เปรียบ
การเป็นผู้รักษาประตูมือ1ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเป็นแคนนอนที่ดีที่อาจส่งผลให้เจ้าตัวยึดตำแหน่งผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษได้ยาวๆอีกด้วย
ส่วน ดาบิด เด เคอา นี่อาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัวที่จะได้เฝ้าเสาให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังรับใช้ทีมมายาวนานถึง10ปี และไม่มีแฟนผีคนไหน ต้องการพิสูจน์หรือครหากับฝีมือของเจ้าตัวอีกแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้น ตลอด10ฤดูกาลกับทีม ช็อตเชฟมหัศจรรย์โลกตะลึง ทุกสิ่งที่ผ่านมาคือตำนาน แต่ฟุตบอลวัฎจักรมันก็เป็นแบบนี้ละ...
วิวาทะ น้าโอเล่ Vs เฮียมู
เรื่องการพูดจาเหน็บแนมหรือสงครามจิตวิทยา เป็นสิ่งปรกติที่เรามักเห็นกันได้บ่อยๆ ระหว่างผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่าย แต่ที่น่าแปลกใจก็คือนานๆที เราจะเห็นคนไนซ์ แบบ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ลงมาเล่นสงครามน้ำลายนี้ด้วย
ซึ่งก็เป็นไปตามคาดจริงๆกับจังหวะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดน VAR ริบประตูคืน เพราะผู้ตัดสินมองว่า สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ ใช้มือ ไปฟาดเข้าที่ใบหน้าของ ซน ฮึง-มิน จนสตาร์ชาวเกาหลีลงไปนอนด้วยความเจ็บปวดบนพื้นสนาม
ซึ่งคำตัดสินเปลี่ยนที่ทำให้ ปีศาจแดงชวดการได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เราจะเห็นรีแอคชั่นของน้าโอเล่ รวมถึงผู้ช่วยอย่าง ไมค์ ฟีแลน ว่าผิดหวังกับคำตัดสินมากแค่ไหน
ทำให้นักข่าวไปถามโซลชา หลังจบเกมกับช็อตดังกล่าว กุนซือชาวนอร์เวย์จึงตอบว่า
" ผมจะบอกว่าหาก ซน คือลูกชายของผม ถ้าเขาลงไปนอนขนาดนั้นเกือบ3นาที แล้วมีเพื่อนอีก10คนมาช่วยพยุงขึ้น ผมจะลงโทษโดยการไม่ให้เขาทานอาหาร ผมว่ามันน่าอาย พวกเรา( แมนฯยู ) ไม่ได้โดนหลอก ผู้ตัดสินต่างหาหกที่โดนหลอก "
ซึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อได้ยินการให้สัมภาษณ์แบบนั้นแล้วก็ไม่รีรอที่จะตอบสวนกลับไปว่า
" ผมอยากจะบอกซนนี่ว่า เขาโชคดีที่พ่อเขาคือคนที่ดีกว่า สำหรับโอเล่ ในฐานะที่ผมก็เป็นพ่อ คุณต้องเลี้ยงดูลูกอยู่ตลอด มันไม่ใช่สาระสำคัญว่าเขาจะทำอะไรมา "
" หากคุณต้องขโมยอาการให้ลูกอิ่ม คุณก็ต้องทำ ผมผิดหวังมากๆกับคำพูดของเขา "
- คอลัมน์นิสต์
- 486
- 12 เม.ย. 2564 14:19