บอลคนละชั้น ! เรือ โชว์โหดบุกกระซวก นอริช 4-0 ราฮีม แฮตทริก
ไม่กะให้ลิเวอร์พูลแอบมีความหวังบ้างเลยจริงๆ สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะทุกๆครั้งที่ลูกทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า มีโปรแกรมที่ต้องลงแข่งก่อนหงส์แดง พวกเขาก็มักจะคว้าผลการแข่งขัน3แต้ม ไปได้ก่อนเสมอ เกมเมื่อวันเสาร์ที่ต้องออกไปเยือนถิ่น แคร์โรว์ โร้ด ของทีมหนีตกชั้นอย่าง นอริช ซิตี้ ท้ายที่สุดผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่ทุกคนคาดเดา
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในชุดโรเตชั่นแผงหลัง บุกมากำราบ นอริช ซิตี้ ไปแบบสบายๆ 4-0 โดย ราฮีม สเตอร์ลิง สวมบนเด่นของเกม กดแฮตทริกได้สำเร็จ น.31-70 และ ตามซ้ำจุดโทษ น.90+1 ส่วนอีกหนึ่งเม็ดได้จาก ฟิล โฟเด้น น.48
การคว้าชัยแบบเคลียร์ๆหนนี้ของ ทัพเรือใบสีฟ้า แม้ว่าพวกเขาจะแข่งมากกว่าทีมรองจ่าฝูงลุ้นแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล2นัด แต่ทว่าพวกเขาก็ถือว่าแข่งก่อนได้เปรียบทำคะแนนฉีกหนีไปถึง12แต้มเข้าให้แล้ว ซึ่งคืนนี้ พลพรรคหงส์แดงจะบุกไปเยือนทีมบ๊วยอย่างเบิร์นลี่ย์
ด้วยรูปเกมตลอด90นาทีเมื่อคืน ก็ต้องบอกเลยว่า ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุมด้วยประการทั้งปวง มิหนำซ้ำแข้ง ซิตี้ ดูจะไม่ได้ออกแรงขนาด100%เลย
แต่ทว่าพวกเขาก็สามารถครองเกม คอนโทรลบอล สร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าทีม นกขมิ้นสีเหลืองอย่างชัดเจน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสล่อเป้าทีมเจ้าบ้านมากถึง16หน และมีถึง9ครั้งที่ตรงกรอบ และแปรเปลี่ยนมาเป็นประตูได้ 4เม็ด ผู้เล่นเกมรับที่ปรกติเป็นตัวสำรอง เมื่อได้รับโอกาสแล้วก็ทำได้ตามมาตรฐานตัวเอง
ไม่ก่อความผิดพลาดใดๆทั้ง นาธาน อาเก้ และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หรือไม่ก็อาจจะด้วยความอ่อนพรรษาของ แข้งนอริช ที่ห่างชั้นกันมากเกินไป
ส่วนไม่พูดถึงก็คงไม่ได้จริงๆแมตช์นี้สำหรับ ราฮีม สเตอร์ลิง นักเตะที่เคยโดนแฟนบอลยี้เป็นช่วงๆ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ดาวเตะก้นงอนรายนี้ คือฮีโร่ดาวเด่นของทีมอย่างแท้จริง กับผลงาน 3ประตู การอยู่ถูกเวลา และอยู่ในระยะทำการที่เหมาะเหม่ง นี่คือความยอดเยี่ยมของ ราฮีม ที่ทำมาให้เห็นได้แต่ไหนแต่ไร
การโรเตชั่น เลือกที่จะเก็บขุนพลตัวหลักให้พร้อมเกม แชมเปี้ยนส์ลีก กับ สเปอร์ติ้ง ลิสบอน ในวันอังคารนี้ ทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ - ชูเอา กานเชโล่ - เอเมอริค ลาป๊อร์กส์ ดูจะคุ้มค่าไม่น้อย แถมรูปเกม ซิตี้ ก็ไม่ได้แผ่วลงจากปรกติเลย
ส่วนเจ้าบ้าน นอริช ซิตี้ ทีมเต็งหนึ่งตกชั้นตลอดกาล แม้ว่าระยะหลังผลงานจะกระเตื้องขึ้นมาบ้าง นับตั้งแต่ ดีน สมิธ เข้ามาคุมบังเหียน
แต่ทว่าพวกเขาก็ยังเป็นทีมทีมคางเปราะพร้อมโดนเสมอ แถมโปรแกรมต่อจากนี้ดูจะไม่เป็นใจต่อ ขุนพล "เดอะ คานารี่ส์ " ไม่น้อย เพราะพวกเขามีโปรแกรมหนักไปเยือน ลิเวอร์พูล
ราฮีม ไม่มีสิ้นลาย
จะว่าไปนี่คือนักเตะที่มีข่าวลือว่าจะถูกขายออกจากถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม อย่างต่อเนื่องมาตลอดเลย สำหรับ ราฮีม สเตอร์ลิง เมื่อเจ้าตัวฟอร์มตกลงไปอย่างหนัก รวมไปจนถึงฟอร์มที่ทะลุขึ้นมาแจ่มจรัสของเจ้าหนู ฟิล โฟเด้น
แต่ถึงกระนั้นก็ดีเราก็ยังได้เห็น สเตอร์ลิง ได้ลงสนามอยู่บ่อยครั้ง เอาแค่ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ แข้งวัย27ปีรายนี้ ได้ออสตาร์ทเป็นตัวตริง10นัด สำรองอีก 6นัด
แม้จะเป็นนักเตะที่ชอบทำบอลเสีย ใช้โอกาสล่าตาข่ายเปลือง แต่ทว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยังเห็นคุณค่าและประโยชน์ของเจ้าตัวเสมอ
เกมกับ นอริช ซิตี้ เมื่อคืน ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงริมเส้นฝั่งซ้าย อาจจะด้วยชื่อชั้นนักเตะ นอริช ที่ไม่ได้คุณภาพ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องชมเจ้าตัวด้วยที่ระเบิดฟอร์มร่างทอง จบ90นาทีด้วยการกดแฮตทริก ได้สำเร็จ
ดอกแรก เจ้าตัวเก็บบอลจากทางริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วหลอกปั่นเสียบตาข่ายชนิด แองกัส กันน์ หมดสิทธิเซฟ ประตูที่สอง เป็นความเข้าใจในแท็กติกการเล่นของทีม เมื่อไปรอลูกโขกเข้ามาข้างในจากแถวสองของ รูเบน ดิอ๊าซ โหม่งเบาๆโล่งๆเข้าไปง่ายๆ
ส่วนประตู3ก็ถือว่า มีโชคพอควรเมื่อเจ้าตัวสังหารจุดโทษพลาด แต่ทว่าบอลก็ยังเด้งมาเข้าทางให้ซ้ำสบายๆ การอยู่ถูกที่ถูกเวลา รวมถึงความเข้าใจในแท็กติกการเล่นของ เป๊ป นี่แหละที่ทำให้ ราฮีม มีแฮตทริกมาฝากเมื่อคืน
รวมไปจนถึงเล่นบอลสอนเชิงแบ็กขวา ดาวรุ่งอย่าง แม็กซ์ แอรอนส์ เสียเหลี่ยมไปหลายหนด้วยกัน
ทำเป็นเล่นไปผ่านโปรแกรมพรีเมียร์ลีกมา25นัด ดาวซัลโวในลีก ของ ซิตี้ นั่นก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิง นี่แหละที่กระทุ้งไปได้ 10ประตู มากกว่า เควิน เดอ บรอยน์ - ริยาด มาห์เรซ - ฟิล โฟเด้น รวมไปจนถึง แบร์นาโด้ ซิลวา ที่ทำไปได้คนละ7ลูกเท่ากัน
โรเตชั่น เรือไม่เสียเปล่า อาเก้ - ซินเชนโก้ ไม่มีอะไรพลาด
การมีเกมรอบ16ทีมสุดท้าย วันอังคารที่จะบุกไปเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน แม้จะไม่ใช่โปรแกรมที่หนักมาก แต่ทว่าก็มีข้อสังเกตเล็กๆก่อนเกมกับนอริช ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะมีการโรเตชั่นนักเตะไหม และสุดท้ายก็เป็นไปตามคาด
เควิน เดอ บรอยน์ - ชูเอา กานเชโล่ และ เอเมอริค ลาป๊อร์กส์ คือ3รายชื่อ11ตัวจริง ที่หายไปเป็นผู้เล่นบนม้านั่งสำรองในเกมนี้ โดยผู้ที่มาทดแทนเป็น นาธาน อาเก้ และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ โดย2แข้งชาวดัตช์และยูเครน ก็ไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไรเลย
อาเก้ ที่ได้ลงสนามแทน ลาป๊อกร์ส สามารถเล่นกันได้เข้าขากันกับ รูเบน ดิอ๊าซ เหมือนกัน อดีตกองหลังบอร์นมัธ รายนี้ มีความดุดันในการเข้าปะทะ รวมไปจนถึงขึ้นมาลุ้นโหม่งประตูทุกครั้งเวลาได้ลูกตั้งเตะ
น่าเสียดายที่โอกาสจ่อๆในเขตโทษ นาธาน อาเก้ จะเข้าชาร์ตข้ามคานออกไป กองหลังวัย26ปีรายนี้ มีสถิติ เข้าแท็กเกิ้ลได้ 3ครั้ง - ตัดบอล2ครั้ง และเคลียร์บอลจังหวะอันตรายได้อีก1หน
ส่วน ซินเซนโก้ ที่ได้รับโอกาสแทน กานเชโล่ ก็ทำหน้าที่ได้ไม่มีที่ติเช่นกัน ช่วยงานสอดประสานกับ สเตอร์ลิงได้เป็นอย่างดี ดาวเตะชาวยูเครนรายนี้ มีสถิติตัวเลขหลังเกมที่ยอดเยี่ยม เช่น สัมผัสบอลไปมากถึง114ครั้ง (มากกว่าผู้เล่นทุกคนในสนาม
ผ่านบอลจังหวะ 50-50 ได้ลุ้นตลอด จ่ายคีย์พาสได้2หน รวมไปจนถึง วางบอลยาวไปถึง7ครั้งด้วยกัน ผ่านบอลความแม่นยำ %สูงถึง 90.5
วันที่เด็กเรือใบ ได้โอกาสสัมผัส เวที พรีเมียร์ลีก
ด้วยสกอร์ที่ขาดลอย และรูปเกมที่เหนือกว่าสุดกู่ ทำให้ในช่วงการเปลี่ยนตัวสำรอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ลังเลเลยที่จะให้โอกาสแข้งเด็กวัยรุ่น ได้สัมผัสเวทีพรีเมียร์ลีก เพราะทั้ง เลียม ดีแรป - เจมส์ แม็คอาตี้ และกายกี้ เด็กเยาวชนสโมสรต่างได้สัมผัสอากาศบนเวที พรีเมียร์ลีก
เลียม ดีแรป ที่เคยได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยลูกชายของ อดีตจอมทุ่มอย่าง รอดี้ ดีแรป ถูกหย่อนลงสนาม น.82 แทน ฟิล โฟเด้น และก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่เรียกจุดโทษ ปิดท้ายให้กับทีมได้ แม้จะมีเวลาในสนามอยู่ไม่กี่นาทีก็ตาม
ส่วนอีกรายอย่าง แม็คอาตี้ เกมกับ นอริช แม็คอาตี้ ได้ลงมาเล่นแทน แบร์นาโด้ ซิลวา ในนาทีที่ 75 แต่ทว่าก็ดูเหมือนจะหายจากทีมไปเหมือนกันกับกองกลางวัย19ปีรายนี้ มีโอกาสผ่านบอลแค่9ครั้ง ผ่านบอลเข้าเป้า66.7%
ทางด้าน กายกี้ แข้งวัย18ปีชาวบราซิล นี่คือการประเดิมเดบิวต์หนแรกเลยของเจ้าตัวบนเวที พรีเมียร์ลีก โดยถูกส่งมาแทน ริยาด มาห์เรซ น.84
โดยดาวเตะแดนกาแฟรายนี้ ได้โอกาสสัมผัสบอลไปเพียงแค่3ครั้ง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย กับเวลาที่ได้รับโอกาส นับตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2016 ที่เห็นชัดๆมีเด็กเยาวชนเพียงแค่ รายเดียวเท่านั้น ที่สอดแทรกขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ได้ นั่นก็คือ ฟิล โฟเด้น
ส่วนผู้เล่นชุดอคาเดมี่รายอื่นๆ อย่าง เคเลชิ อิเฮียนาโช่ หรือ โทซิน อาดาราบิโอโย ล้วนต้องย้ายออกไปค้าแข้งหาโอกาสกับทีมอื่นๆทั้งสิ้น
แม็กซ์ แอรอนส์ แบ็กขวาดาวรุ่ง ที่ได้รับคำชมเกินจริง
ถ้าเอาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แม็กซ์ แอรอนส์ เป็นหนึ่งในแบ็กขวาดาวรุ่งของอังกฤษ ที่ได้รับคำชมและตกเป็นข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่มากที่สุดรายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกับ ลิเวอร์พูล - สเปอร์ส รวมไปจนถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเคยถูกตั้งค่าตัวไว้แตะๆ 30ล้านปอนด์ เลยทีเดียว
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามหากเราพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในเกมทุกๆนัดของ นอริช ซิตี้ แบ็กวัย 22ปีรายนี้ ยังขาดตกบกพร่องอะไรหลายๆอย่างกับการเป็นแบ็กขวาที่ดี ให้มีความสมดุลทั้งเกมรับและรุก
เกมเมื่อคืนของ ซิตี้ คือการเปิดแผลที่ชัดเจนของ แม็กซ์ แอรอนส์ เลยก็ว่าได้ ราฮีม สเตอร์ลิง และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ผลัดกันสร้างความปั่นป่วนให้กับ แอรอนส์ ตลอดทั้งเกม
โดยประตูแรกที่เสียไปก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่เจ้าตัวสกัดบอลวืด จนโดน ราฮัม ปั้นโค้งๆให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 ความย่ำแย่ของเจ้าตัวถูกสะท้อนผ่านการโดนกุนซือ ดีน สมิธ เปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 63 ให้ แซม ไบรัม ลงมาเล่นแทน
63นาทีในสนาม แบ็กวัย22ปีรายนี้ ได้สำผัสบอลเพียงแค่18ครั้งเท่านั้น ไม่มีจังหวะครอสบอล จ่ายคีย์พาสให้เห็น ความเข้าใจเกมนี่สิ่งที่ แม็กซ์ แอรอนส์ ต้องพัฒนาต่อไป
เอาแค่ใน เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ ฤดูกาลที่แล้ว ทั้งที่คู่แข่งไม่ได้หินอะไรมาก แอรอนส์ ที่ลงเล่นไป45นัด แต่ทว่าเจ้าตัวก็ทำไปได้เพียงแค่ 2ประตู 2แอสซิสต์ เท่านั้น
ทั้งที่มีฉายาว่า แบ็กจอมบุก คิดเป็นค่าเฉลี่ยก็คือ แบ็กขวานอริชรายนี้ต้องใช้เวลาร่วมๆ11เกม ถึงจะมีส่วนร่วมทำประตูหรือ แอสซิสต์ได้ 1ครั้ง
แล้วสุดท้าย นอริช จะรอดไหม ?
นับตั้งแต่ที่ ดีน สมิธ เข้ามารับหน้าที่เป็นนายใหญ่คนใหม่ของทีมนกขมิ้นเหลืองอ่อน อาการของพวกเขาก็ดีมาพักหนึ่ง แล้วก็มาแย่ลง แล้ววนลูปมาดีขึ้นเล็กน้อย 3นัดแรก พวกเขาเอาชนะได้1 เสมอ2 แต่ทว่า6นัดต่อมาพวกเขากลับแพ้รวด
จนมา3นัดล่าสุด (ก่อนเกม กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้) นอริช ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 / บุกชนะ วัตฟอร์ด 3-0 และ เจ๊า คริสตัล พาเลซ 1-1 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ18ของตาราง
แต่ทว่าพวกเขาแข่งมากกว่าทีมอันดับ20อย่าง เบิร์นลี่ย์ ถึง4นัด รวมไปจนถึงมีแต้มมากกว่าแค่ 3แต้ม ถามว่าทำไม นอริช ถึงส่อแววจะร่วงตกชั้นลงจากพรีเมียร์ลีกง่ายๆ เป็นสมัยที่2ติดต่อกันจากฤดูกาล 2019-2020 ทั้งที่ซีซั่น 2020-2021 ทั้งที่พวกเขาก็พึ่งคว้าแชมป์ จาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มา
นอริช อาจจะเป็นทีมประเภทที่ ดีเกินกว่าจะเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ แต่ก็ไม่ดีพอที่จะเล่นในพรีเมียร์ลีก ปัจจุบันพวกเขาโดนคู่แข่งกระซวกตาข่ายไปถึง50ประตู จากโปรแกรม24นัด กลายเป็นทีมที่เสียประตูเยอะที่สุดกว่าใครเพื่อน
สิ่งหนึ่งที่ นอริช ไม่เคยเปลี่ยนแปลงจาก ฤดูกาลล่าสุดที่อยู่ในพรีเมียร์ลีก(2019-2020) นั่นก็คือขุมกำลังที่ค่อนข้างโนเนม เซ็นเตอร์พวกเขาก็ยังคงเป็น แกร้นท์ แฮนลี่ย์ แบ็กขวา แม็กซ์ แอรอนส์
มิดฟิลด์ เป็น เคนนี่ แม็คเลน มิหนำซ้ำพวกเขายังเสียเพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งอย่าง เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย ไปให้กับ แอสตัน วิลล่า อีกด้วย
ส่วนกองหน้าก็มีเพียงแค่ ติโม ปุ๊กกี้ รายเดียวที่พอจะเห็นความหวังมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้ (6ประตูในพรีเมียร์ลีก) ส่วนการเสริมทัพสโมสรก็หวังแข้งโนเนม ของโละราคาถูก ไม่ว่าจะเป็น เบน กิ๊บสัน จากเบิร์นลี่ย์ ที่ยืมมาใช้งานแล้วติดใจเลยซื้อขาด 8ล้านปอนด์
หรือไม่ก็ยืมแข้งดาวรุ่งตัวสำรองของทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ และ บิลลี่ กิลมอร์ หากว่า นอริช ซิตี้ เกิดเดจาวู ตกชั้นอย่างเป็นทางการก่อนเกมนัดที่38 (อีกครั้ง)ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไรเลย เมื่อเทียบดูขุมกำลังของทีมชุดปัจจุบันนี้
- คอลัมน์นิสต์
- 432
- 13 ก.พ. 2565 15:18