ส่อแววตกรอบสูง ! หงส์ คาบ้าน อตาลันต้า บุกยิงยับ 0-3 สคามัคค่า เบิ้ล
จากที่เป็นเต็ง1แชมป์จ๋าในรายการนี้ ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม มาจนถึงตอนนี้ชักจะไม่แน่เสียแล้วสำหรับลิเวอร์พูล เพราะในรอบ8ทีมนัดแรก พวกเขาพังพาบสุดๆ ด้วยการเปิดบ้านพ่ายให้กับทีมอิตาลีอย่าง อตาลันต้า ย่อยยับ 0-3 ชนิดที่ตลอดทั้งเกมเห็นแต่ความผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นแนวรับที่หละหลวม เกมรุกที่ใช้โอกาสเปลือง และการจัดตัวของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ประมาทมากไปหน่อย บวกกับกุนซือของ อตาลันต้า อย่าง จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ ก็วางแผนแท็กติกการเล่นมาได้อย่างดี
เกมรอบ8ทีมกับอตาลันต้า ด้วยสถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกที่ต้องลุ้นจนถึงวินาทีสุดท้าย ทำให้ คล็อปป์ เลือกโรเตชั่นนักเตะหลายตำแหน่ง เพื่อเก็บไว้เน้นพรีเมียร์ลีก ทำให้รายชื่อเหล่านี้อย่าง โดมินิค โซบอสซ์ไล - แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน -โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอ๊าซ เป็นได้เพียงแค่ตัวสำรอง
เราจึงได้เห็นเหล่าสำรองอย่าง โจ โกเมซ - โคดี้ กัคโป และ เคอร์ติส โจนส์ ได้ออกมาสตาร์ทเป็นตัวจริง เมื่อคืน ส่วน อตาลันต้า ก็มาในแผนเก่ง 3-4-1-2 โดยมี2อดีตแข้งพรีเมียร์ในทีมชุดนี้ด้วยอย่าง จานลูก้า สคามัคค่า - ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า พร้อมด้วยสตาร์เด่นตัวชูโรงอย่าง เทิน คอป ไมเนอร์ส
เริ่มเกมมาต้องบอกว่าเป็นทางฝั่งหงส์แดงที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ทว่าเล่นไปสักระยะ กลับกลายเป็นทีมจากอิตาลี ที่แม้ครองบอลน้อยกว่า แต่หาโอกาสยิงได้สวนเข้าน้ำเข้าเนื้อกว่า และก็มาได้ประตูบุกนำ1-0 จาก จานลูก้า สคามัคค่า น.38 ซึ่งลูกยิงของเจ้าตัว เคลวิน เคลเลเฮอร์ น่าจะปัดได้ดีกว่านี้
การตามหลัง 0-1 หลังจบ 45นาทีแรกทำให้ " เจเค " ส่งตัวจริงมาเต็มอัตราศึกทั้ง ซาลาห์ - ดิอ๊าซ - โรเบิร์ตสัน - โซบอสซ์ไล หมายทวงประตูคืน แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาไม่คมกันมากพอ ทั้งที่มีโอกาสเยอะแยะ โดยเฉพาะในรายของ ดาวิน นูนเญซ ที่มีโอกาสได้หลุดแต่จบสกอร์ไม่ได้
อตาลันต้า ที่เล่นเกมสวนกลับบีบสูงจากแดนบน บวกกับแนวรับหงส์แดงที่มีความหละหลวมมากๆ ทำให้ท้ายที่สุดพวกเขาก็มาโดนยิงอีกสองเม็ด หงายหลังเป็น 0 -3 จาก สคามัคค่า คนเดิม น.60 และฝังด้วย มาริโอ ปาซาลิซ น.83
จบ90นาทีเป็นทีมจาก " แบร์กาโม่ " บุกมาคว่ำหงส์แดงคาแอนฟิลด์ได้อย่างสุดช็อก 3-0 ซึ่งต้องบอกตามความเป็นจริงว่าโอกาสเข้ารอบตัดเชือกของ ลิเวอร์พูล นั่นริบหรี่เหลือเกิน กับการต้องไปชนะที่อิตาลี ด้วยผลต่างมากกว่า3ประตูขึ้นไป
ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ในนัดนี้ อาจทำให้ลิเวอร์พูล เปลี่ยนโฟกัสไปเน้นที่ถ้วยพรีเมียร์ลีก กับอีก7นัดที่เหลือรึเปล่า ซึ่งช่วงท้ายฤดูกาลเราได้เห็นความผิดผลาดของหงส์แดงมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะมาจากการเปลี่ยนถ่ายทีมที่ยังไม่สมบูรณ์เนี๊ยบเท่าไหร่ รวมไปจนถึงขุมกำลังผู้เล่นตัวจริงและตัวสำรองมีความแตกต่างกันมากเกินไป
สคามัคค่า กลับมาประกาศศักดาที่อังกฤษ
แฟนบอลที่แอนฟิลด์น่าจะพอคุ้นชื่อกับหัวหอกอตาลันต้า อย่าง จานลูก้า สคามัคค่า เพราะครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยย้ายจาก ซาสซูโอโล่ มาเล่นกับ เวสต์แฮม ช่วงปี 2022-2023 แต่ทว่าก็อยู่ได้เพียงฤดูกาลเดียวก็ย้ายกลับอิตาลี อตาลันต้าเป็นทีมที่เซ้งต่อ ซึ่งก็เหมือนเป็นการให้โอกาสชุบชีวิตดาวยิงรอยสักรายนี้อีกครั้ง
โดยนอกจาก สคามัคค่า แล้ว ยังมีอดีตแข้งพรีเมียร์ลีกอีก1รายที่อยู่ในทีม อย่าง ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า อดีตแบ็กของเซลซี ซึ่งต้องบอกว่า2แข้งนี้เล่นดีเลยทีเดียวกับการบุกมาเยือนลิเวอร์พูล
ประตูขึ้นนำ1-0 ของอตาลันต้า ก็มาจากอดีต2แข้งพรีเมียร์ลีกที่แหละ ซัปปาคอสต้า ที่เปิดมาให้ จานลูก้า สคามัคค่า แปย้อนกลับมาเสาแรก แม้บอลไม่มุมนัก แต่ทว่า เคลวิน เคลเลเฮอร์ เหมือนกะจังหวะผิดทำให้ล้มปัดตัวบอลไม่ออก
ก่อนที่ในครึ่งหลัง สคามัคค่า จะมาบวกเม็ด2ของตัวเองได้ วางเท้าดีมากๆกับการแปลูกเปิดของ ชาร์ลส์ เดอ เคเทลาเร่อ ชนิดเสียบมุมหมดสิทธิเซฟ รวมถึงนี่คือช่วงฮ็อตของดาวยิงแดนมะกะโรนีรายนี้เลยกับการยิงไป5ประตู จาก6นัดหลังสุด
ดาวยิงวัย24ปี ยังชนะการดวลลูกกลางอากาศเมื่อคืน 4 ครั้ง และเข้าแท็กเกิ้ลอีก4หน นอกจากนี้เจ้าตัวยิงทำสถิติเป็นนักเตะชาวอิตาลีคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่บุกมายิงเบิ้ลที่แอนฟิลด์ ในเกมยุโรปได้อีกด้วย
นูนเญซ ควรเป็นคนที่หงส์พึ่งพาได้
หลังจากที่เข้าฝักมาพักหนึ่ง แต่ทว่าช่วงหลังๆก็เหมือนจะคืนร่างเดิมร่างเก่งเสียแล้วสำหรับ ดาร์วิน นูนเญซ ที่หลังพลาดหมูหกใช้โอกาสเปลืองในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศูนย์หน้าค่าตัว100ล้านยูโร รายนี้ ก็ยังยิงนกตกปลาเหมือนเดิมเกมกับอตาลันต้า
เมื่อคืนแม้หงส์แดงจะมีการโรเตชั่นนักเตะ แต่ทว่าในแนวรุก ดาร์วิน นูนเญซ ยังได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงผนึกกำลังกับ โคดี้ กัคโป และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซึ่งต้องบอกว่าทั้งคู่ถือว่าเล่นดีใช้ได้เลยนะ แต่ยังขาดจังหวะจบ
นูนเญซ ก็ยังคงเป็น นูนเญซ ร่างเดิม นั่นก็คือ วูบวาบ อันตราย มีความเร็ว หาช่องดี แต่ทว่าก็ไปตายจังหวะสุดท้ายตลอด อดีตหัวหอกเบนฟิก้า มีโอกาสยิงทั้งหมด4ครั้ง ใกล้เคียงสุดเห็นที่จะเป็นช่วงนาทีที่ 15 ในขณะที่สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
เคอร์ติส โจนส์ แทงบอลให้ ดาร์วิน ได้หลุดแต่ทว่าเจ้าตัวยิงไปติดโกลอตาลันต้า ฮวน มุสโซ่ ซึ่งหากจังหวะนั้นบอลไปซุกก้นตาข่าย อาจทำให้ทั้งรูปเกมและสกอร์เปลี่ยนโฉมไปได้เลย
18ประตู 12แอสซิสต์ เป็นสถิติที่ดีเลยสำหรับ ดาร์วิน นูนเญซ แต่ทว่าจากโอกาสที่ได้รับ หอกเบอร์9 ควรจะเป็นนักเตะที่พึ่งพาเรื่องสกอร์ได้กว่านี้ ไม่ใช่ว่าฟอร์มจะคมไม่คมสุ่มดวงแล้วแต่นัดเลย
รวมถึง โมซาลาห์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ก็พลาดโอกาสทองดื้อๆเหมือนกันกับการตามซ้ำลูกจ่อๆ ดิโอโก้ โชต้า มีโอกาสได้โขกลูกถนัด แต่กดไม่ลงอาจด้วย พึ่งหายเจ็บกลับมาหลายอย่างยังไม่เข้าทางเท่าไหร่
คล็อปป์ จัดตัวประมาทไปหน่อย
ไม่รู้ว่ากุนซือชาวเยอรมันรายนี้ มองข้ามช็อตไปยังเกมพรีเมียร์ลีกวันอาทิตย์ ที่ต้องบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ เปล่า ด้วยสถานการณ์ในลีกที่กำลังขับเคี่ยวแข้งแชมป์กันสุดๆ ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกดร็อปตัวจริงหลายรายโรเตชั่น
นั่นจึงทำให้เราได้เห็นแข้งน่าหวาดเสียวอย่าง คอสตาส ซิมิกาส - เคอร์ติส โจนส์ และ โจโกเมซ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และทั้ง3รายนี้ ก็ผลงานน่าผิดหวังมากๆ แนวรับสำรองทั้ง2คน มีส่วนร่วมกับการเสียประตูทั้ง3ลูก
โดยการยอมเปลี่ยนตัวหลัก3รายทั้งแต่ออกสตาร์ท 45นาทีหลัง นั้นก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า คล็อปป์ จัดตัวผิดพลาดประเมินคู่แข่งต่ำเกินไปเพียงใด รวมไปจนการแก้เกมด้วยสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำ " เจเค " ไม่สามารถพาทีมพลิกสถานการณ์กลับมาได้เหมือนหลายนัดๆ ที่เคยเสกให้เห็น
แม้ว่าจะครองบอลมากกว่า 70 ต่อ 30 แต่ทว่าโอกาสยิงเข้ากรอกเป็นทีมจากอิตาลี ทำได้จะแจ้งกว่า 7 ต่อ 5ครั้ง รวมถึงสกอร์ 0-3 ครั้งนี้ ยังเป็นหนแรกในรอบ 33นัดที่ ลิเวอร์พูล แพ้คาแอนฟิลด์ โดยทีมสุดท้ายที่บุกมาชนะที่นี่ได้ นั่นก็คือ เรอัล มาดริด เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2023
การเสมอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนิดที่รูปเกม45นาทีแรกเป็นต่อมากๆ รวมถึงใช้โอกาสเปลืองเกินไป จนทำให้หล่นจากตำแหน่งจ่าฝูง รวมไปจนถึงการพ่าย อตาลันต้า คาบ้าน 0-3 ไม่แน่ว่ามันจะเป็นแคนนอน ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของลิเวอร์พูล ในการลุ้นแชมป์ลีก7นัดสุดท้าย ก็เป็นได้
แนวรับหงส์พร้อมโดนตลอด โกเมซ - ซิมิกาส ใจดี
ถ้าในแผงรับลิเวอร์พูล ณ ตอนนี้ เหมือนจะมีเพียงแค่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ฟอร์มเสถียรและไว้ใจได้คนเดียว คอยแบกประคับประคองรุ่นน้องในแต่ละนัด เพราะที่เหลือพร้อมแจกคู่แข่งหมดเลย อย่างนัดที่แล้วก็ จาเรลล์ ควอนห์ซ่า มาเมื่อคืน ก็แบ็กทั้งสองข้าง โจ โกเมซ กับ คอสตาส ซิมิกาส
แบ็กชาวกรีซ ช่วงหนึ่งเหมือนจะเป็นตัวสำรองที่ไว้ใจได้ขอ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แต่ทว่าหลังหายเจ็บกลับมา ซิมิกาส ดูแววไม่ค่อยเหมือนเดิมทั้งในเรื่องของความฟิต จังหวะอ่านเกม รวมถึงการเข้าสกัด
ประตู1-0 ซิมิกาส เป็นคนเข้าพรวดแล้วเสียบอลตรงริมเส้น ทำให้พื้นที่ตรงแบ็กซ้ายในว่างเหลือเกิน มีเวลาให้ ซัปปาคอสต้า ได้เลือกบรรจงเปิดให้ สคามัคค่า ได้วางเท้ายิงโล่งๆ ซึ่งเกมทางฝั่งซ้ายที่แหละคือจุดที่ อตาลันต้า เลือกโจมตีเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะเจาะเข้าไปแล้วได้ลุ้นตลอด
ซึ่งผลงานของแบ็กชาวกรีซ ก็สะท้อนว่าไม่ไหวจริงๆตรงที่ " เจเค " ถอดเจ้าตัวออกตั้งแต่ออกสตาร์ท 45นาทีหลังนี่แหละ ส่วนแบ็กขวาอย่าง โจ โกเมซ แม้จะพยามเติมเกมรุก แต่ทว่าก็ยังทำได้ไม่ดีเท่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ หรือ คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ เลย
รวมไปจนถึงประตูที่2ที่เสีย " เทพโจ " ทำได้แค่ยืนดู สคามัคค่า แปง่ายๆ ในรายของ อิบราฮิมา โกนาเต้ แม้จะแย่งบอลได้หลายจังหวะ แต่ทว่าการยืนตำแหน่งและการอ่านเกม ดูไม่เนี๊ยบโดยเฉพาะลูก2 เพราะเจ้าตัวเป็นคนเช็คล้ำหน้าพลาดก่อน
โดยท้ายฤดูกาลเกมรับที่หละหลวมดูจะเป็นสิ่งที่ขัดขางภารกิจส่งท้ายด้วยแชมป์ให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ พอสมควร เกมที่แอนฟิลด์ 14นัดหลังสุดพวกเขาเก็บคลีนชีตได้เพียง นัดเดียวเท่านั้น
กัสเปรินี่ ผู้พิชิตหงส์ วางแท็กติกเยี่ยม
เอาจริงๆก่อนเกมบุกมาเยือนแอนฟิลด์ อตาลันต้า มีผลงานที่แผ่วลงไปมากๆนะใน เซเรีย อา เพราะ 6นัดหลังสุด พวกเขาเอาชนะได้เพียงแค่1 เสมอ2 แพ้ 3 แถมล่าสุดยังบุกไปพ่ายทีมท้ายตารางอย่าง กายารี่ (1-2) อีกด้วย
นั่นจึงทำให้ก่อนเกมกับหงส์แดง อตาลันต้า ดูเป็นรองมากพอสมควร แต่ทว่าด้วยแท็กติกของ กัสเปรินี่ ที่เพรสซิ่งแดนบน โดยเฉพาะในรายของ เอ็นโด โดนบีบ โดนเข้าบอลเร็วอยู่เสมอ ทำให้หลายจังหวะมากๆที่ลิเวอร์พูลขึ้นบอลยาก
ทำให้เราได้เห็นทีมของ คล็อปป์ เสียบอลในแดนหลังหรือกลางไปไม่รู้กี่รอบ หรือเวลาได้จ่ายก็มีย้อนหลังหรือล้นตลอด เหมือนโดนย้อนศรรูปแบบการเล่นเลยสำหรับ ลิเวอร์พูล รวมถึงการโจมตีเร็วทางริมเส้นของทัพ " แบร์กาโม่ " นั้นก็ได้ผลมากๆอีกด้วย
แม้ว่าจะเคยแพ้คารังต่อลิเวอร์พูล 0-5 แต่ทว่าการบุกมาเยือนแอนฟิลด์ทั้ง2นัด จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ ก็คว้าชัยได้รวดเลย ทั้ง 2-0 และ 3-0 (ล่าสุด)
นอกจากนี้ ในรอบแบ่งกลุ่มและรอบ16ทีมสุดท้าย กัสเปรินี่ ก็พาทีมเอาชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ของ รูเบน อโมริม ว่าที่กุนซือหงส์แดงคนใหม่ มาได้
โดยหากไม่นับ สคามัคค่า ที่ทำ2ประตู อีก1ผู้เล่นที่โดดเด่นมากนั้นก็คือ ชาร์ลส์ เดอ เคเทลาเร่อ กองกลางหน้าหล่อ ทำได้ดีมากๆ ทั้งในเวลาได้บอล และไม่ได้บอล (ออฟ เดอะ บอล) ดาวเตะชาวเบลเยี่ยม มี1แอสซิสต์ แถมยังจ่ายคีย์พาสได้ มากถึง4ครั้งด้วยกัน
- คอลัมน์นิสต์
- ยูโรป้า ลีก ลิเวอร์พูล อตาลันต้า เจอร์เก้น คล็อปป์ จานลูก้า สคามัคค่า จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่
- 155
- 12 เม.ย. 2567 13:32