ทีมเยือนส่องเยอะกว่า ! ผี งานสบาย เคี้ยว ทอฟฟี่ 2-0 การ์นาโช่ เรียก2จุดโทษ
หลังจากแพ้ในเกมลีกมา2นัด แบบหมดรูปหมดทรง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องเรียก โมเมนตัน กลับคืนมาให้ได้ เพื่อยังรักษาความหวังอันเล็กน้อยในการไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยปีศาจแดงได้กลับมาเล่นในบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน ที่พึ่งได้คืนมา4คะแนน หลังจากที่โดนปรับ ไฟแนน เชี่ยล แฟร์เพลย์ 10 แต้ม
เอริก เทน ฮาก จัดตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดในสภาพเท่าที่เป็นไปได้ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ได้บัญชาการเป็นแบ็กซ้ายขัดตราทัพตามเดิม สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในบทบาทยืนสูงคล้ายๆ เพลย์เมคเกอร์ ปีกซ้าย-ขวา เป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ส่วน บรูโน่ แฟร์นันเดซ ยืนคล้ายๆฟอลส์ไนน์
สำหรับ เอฟเวอร์ตัน ของ ฌอน ไดซ์ เหมือนจะมีฮึดเล็กๆ หลังจากที่โดนปรับ10แต้มใหม่ๆ แต่ทว่าหลังจากนั้นทัพทอฟฟี่สีน้ำเงิน ก็เหมือนจะดร็อปลงไปอีก กลายเป็นแพ้รัวๆ เกมรุกฝืด แนวรับเสียประตูง่าย เมื่อคืนศูนย์หน้าของพวกเขาเป็นจอม สากกะเบืออย่าง เบโต้
เริ่มเกมมาที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลับกลายเป็นว่า เอฟเวอร์ตัน ครองเกมได้เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซะงั้น โดยเฉพาะบอลในแดนกลางคู่ กาเซมิโร่ และ ค็อบบี้ ไมนู โดนผู้มาเยือน จ่ายทะลุ ลากจี้แหวกเข้ามาง่ายเหลือเกิน
ทอฟฟี่ มีโอกาสที่จะขึ้นนำไปก่อนทั้ง ดไวท์ แม็คนีล และ อับดูราย ดูกูเร่ แต่ทำได้ไม่ดีพอ และแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาทำในสิ่งที่พวกเขาถนัดนั่นก็คือการเล่นเกมสวนกลับ พร้อมประตูขึ้นนำ 1-0 อเลฮานโดร การ์นาโช่ ใช้ความเร็วสเต๊ปเท้าหลอกล่อ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ที่เสียท่าไปหวดในเขตโทษ
ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดซ สังหารเข้าไป น.12 ก่อนที่ปีศาจแดงจะมาได้เม็ด2ด้วยรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน การ์นาโช่ ลากบอลหลอกแนวรับเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่ เมสัน โฮลเกต ย้ำเข้าใส่จุดโทษแบบ 100% ซึ่งคราวนี้เป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่สังหารเข้าไป 2-0 น.36
โดย45นาทีหลัง รูปเกมก็ออกมาทรงเดิม ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ที่ครองบอลจังหวะสำคัญๆได้มากกว่า แต่ทว่าพวกเขาก็ไปตายตอนจบเองเสมอ ทั้ง ยิงนกตกปลาออกไปเอง ไม่ก็หาจังหวะยิงที่จะแจ้งค่า XG สูงๆไม่ได้ รวมถึง อ็องเดร โอนาน่า เอง ก็ไม่พลาดเหมือนตอนต้นฤดูกาลแล้ว
ฝั่ง ยูไนเต็ด ที่ได้สวนมาเป็นระยะ แต่ก็ขาดความเฉียบคมเหมือนกัน ใกล้เคียงสุดเห็นทีจะเป็นลูกซัดเรียดของ บรูโน่ ที่โดน จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดปลายมือได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจบเกม90นาที ด้วยสกอร์2-0 ด้วยรูปเกมที่น่าเบื่อหน่อย 3คะแนนดังกล่าว แม้จะเป็นผลลัพธ์ที่ตามเป้า แต่ด้วยสไตล์และวิธีการแบบนี้ เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่ทีมของ ETH จะลุ้นความสำเร็จได้ในอนาคต
บรูโน่ บทบาท ฟอลส์ไนน์ สถิติเจ้าพ่อจุดโทษ
ด้วยความที่กองหน้าของทีมอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังไม่ฟิตพอหายจากอาการบาดเจ็บ รวมถึง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ไม่ได้เรื่องอยู่แล้วยังเดี้ยงไม่หาย นั่นจึงทำให้เกมกับเอฟเวอร์ตันเมื่อคืน เป็นอีกครั้งที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ได้รับบทบาทเป็น ฟอลส์ไนน์ เหมือนในแมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
กัปตันหนวด ในบทบาทกองหน้าตัวหลอกทำได้ดีเลย เวลาพักบอล หรือดึงจังหวะบอลในแดนหน้า บางครั้ง บรูโน่ เอง ก็ถอยตัวเอง ลงมาต่ำเพื่อคอยสร้างสรรค์เกมหรือจ่ายฉีกออกด้านข้างซ้าย-ขวา ให้ปีก ได้มีพื้นที่กระชากกับแบ็กเอฟเวอร์ตัน
เมื่อลงมาต่ำ บรูโน่ ก็มีทั้งจังหวะวางบอลยาวทะลุทะลวง แถมยังเป็นคนซัดจุดโทษสุดเฉียบให้ทีมขึ้นนำ 1-0 และตอนได้จุดโทษลูกที่2 น่าจะเป็นแข้งโปรตุเกสรายนี้นี่แหละ ที่เลือกให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ยิงเพื่อเรียกความมั่นใจ หลังโดนกระแสโจมตีอย่างหนัก เมื่อ1-2 เดือนที่ผ่านมา
ถ้าจะย้อนความไปแมตช์แรกที่บุกไปชนะที่ กูดิสัน ปาร์ค 3-0 บรูโน่ แฟร์นันเดซ ก็เป็นคนให้ แรชฟอร์ด นี่แหละซัดโทษเพื่อเรียกความมั่นใจ แข้งเบอร์8 พลังงานล้นเหลือมากๆกับทุกๆนัดที่ได้ลงสนามให้กับทีม
ประตูที่สังหารใส่ทอฟฟี่เมื่อคืน นี่คือจุดโทษที่ 29 ของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ในสีเสื้อปีศาจแดงเข้าให้แล้ว จากการยิง 33 ครั้ง หรือคิดเป็นความแม่นยำสูงถึง 88.9 % เลยทีเดียวที่เจ้าตัวสำเร็จโทษเข้าไป โดย เจ้าของสถิติยิงจุดโทษให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากสุด ก่อนหน้านั้นเป็นของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ 28ลูก
กลางผีโบ๋ ทอฟฟี่ทะลุมาง่าย
นี่ก็เป็นอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ที่แผงมิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาเกมในแดนกลางไม่อยู่เลย ปล่อยให้เป็นจุดพื้นที่ที่คู่แข่งทะลวงโจมตีได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้ห้องเครื่องคู่ไหน กับทอฟฟี่เมื่อคืนใช้เป็น กาเซมิโร่ กับ ค็อบบี้ ไมนู ยิ่งเมื่อเทียบกับทางฝั่งเอฟเวอร์ตัน อามาดู โอนาน่า และ เจมส์ การ์เนอร์ ชื่อชั้นก็น่าจะดีกว่าเป็นไหนๆ
แต่ทว่าพอเล่นไปเล่นมากลับกลายเป็นว่า คู่มิดฟิลด์ของทอฟฟี่ กลับทำได้ดีกว่าซะงั้น ในรายของ กาเซมิโร่ ไม่รู้ว่าร่างเทพเดิมจากฤดูกาลที่แล้วหายไปไหน อาจจะด้วยอายุ หรืออาการบาดเจ็บ ที่พรากสิ่งนี้ไปจาก " พี่เกษม "
กาเซมิโร่ มีจังหวะทำได้ดีนะ ในเรื่องของการสไลด์บอลแย่งบอล ขุดหน่อไม้ แต่ทว่าที่เห็นได้ชัดว่าหายไปมากนั่นก็คือ สปีดความเร็ว ดาวเตะแดนแซมบ้ามีจังหวะคุ้นตาคือ ต้องวิ่งไล่กวดตามหลังคู่แข่งประจำ
ความโรยรา แม้จะอายุไม่มาก ทำให้อืดช้าเป็นเรือเกลือสำหรับอดีตกองกลาง เรอัล มาดริด รายนี้ สิ่งที่พลาดเข้าตามากที่สุดของ กาเซมิโร่ เมื่อคืนคือ การจ่ายบอลที่ไม่ละเอียด ไม่เนี๊ยบพอ
อีกคนที่ดร็อปลงไปก็คือเจ้าหนู ไมนู ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะลงเล่นถี่เกินไปเปล่า ทั้งที่อายุเพียง 18ปี จนสุดท้ายโดนเปลี่ยนออกให้ โซฟียาน อัมราบัต มาเล่นแทน ช่วง10นาทีสุดท้าย
อีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ แม้จะไม่ได้เล่นเป็นมิดฟิลด์ เพราะได้ยืนสูงเป็นคล้ายๆเพลย์เมคเกอร์เลย นั่นก็คือ สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ เป็นอีกนัดที่ถ้าไม่ได้ยิงประตู ก็แสดงให้เห็นว่า แข้งชาวสก็อตต์ ไม่ได้มีบทบาทอะไรเลย ยิ่งเรื่องจ่ายบอล ไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีความแม่นยำในการคิลเลอร์พาสเลย
90นาทีในสนาม เราจึงได้เห็น " แม็คทอม " เป็นเหมือนมนุษย์ล่องหนเลย เพราะไม่สามารถช่วยทีมได้ทั้งในเรื่องเกมรุกและเกมรับ เห็นทีบทบาทตัวสำรองซุปเปอร์ซัพช่วงคู่แข่งหมดแรง น่าจะเป็นเวย์ที่เหมาะสมมากกว่า
แนวรับผีคลีนชีต อีแวนส์ ดีกว่าที่คาด
ด้วยความที่กองกลางเอาไม่อยู่ นั่นทำให้ แนวรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงนายด่าน อ็องเดร โอนาน่า เจอบททดสอบพอสมควร ดีที่ผู้มาเยือนจบกันไม่คม ใช้โอกาสยิงนกตกปลากันไปเอง บวกกับ โอนาน่า ไม่พลาดหมูหกเหมือนตอนต้นฤดูกาล
จอห์นี่ อีแวนส์ ที่ย้ายมาช่วงซัมเมอร์ แบบไม่มีค่าตัว (เพราะฟรีเอเย่นต์) แถมยังวัยปาเข้าไป36ปีแล้ว แต่ทว่าผลงานของ " ไอ้จ้อน " ที่กว่าที่คิดไว้จริงๆ เมื่อได้ลงสนาม เพราะแม้จะช้า แต่ความนิ่ง ความสุขุม ของเจ้าตัวช่วยทีมได้เยอะมาก
อีแวนส์ รับมือกับจอมฝืด เบโต้ ได้เป็นอย่างดี ภาพรวมตลอดทั้งเกม บล็อกลูกยิง และ ตัดบอล ได้อย่างละ4ครั้ง ผ่านบอล 48ครั้ง และมีความแม่นยำ 87.5 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับ ราฟาแอล วาราน ที่จัดระเบียบเกมรับได้เป็นอย่างดี ไม่มีอะไรผิดพลาด
ส่วน อ็องเดร โอนาน่า ก็ไม่ได้มีลูกพลาดให้เห็น แม้ว่าจะไม่ได้มีช็อตยากเท่าไหร่ แต่นายด่านชาวแคเมอรูน ก็ได้ทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจพอสมควร รวมถึงจังหวะออกบอล ก็ทำได้ดี และลูกกลางอากาศ ก็ออกมาคว้าได้หนึบติดมือ
ทำเป็นเล่นเป็นนี่คือ คลีนชีตที่8ของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีกแล้ว เทียบเก่ากับ เอแดร์ซอน และมีเพียง ดาบิด ราย่า ของอาร์เซน่อล ที่คลีนชีตมากกว่า (9นัด) โอนาน่า เมื่อลดละเลิกอาการตรงเป็นตุง ทุกอย่างก็ค่อยๆไปในทิศทางบวกเอง
การ์นาโช่ ตัวป่วนเรียก2จุดโทษ
ต้องยกให้เขาเลยสำหรับ ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืน สำหรับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่แม้จะไม่มีชื่อทำประตูและแอสซิสต์ แต่ทว่าเจ้าหนูชาวอาร์เจนไตน์ ก็เป็นคนเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ทั้ง2เม็ด ซึ่งรูปเกมเมื่อคืนก็เข้าทางการ์นาโช่ เหลือเกิน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลที่2ภายใต้อุ้งมือของ เอริก เทน ฮาก เกมริมเส้นฝั่งซ้าย-ขวา นี่แหละคือจุดเด่นของทีมเวลาเล่นเกมสวนกลับ เปลี่ยนจากรับเป็นรุก เพราะทั้ง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ต่างมีความเร็วทั้งคู่
การดวลกับแบ็กอย่าง วิตาลี มิโคเลนโก้ และ เบน ก็อดฟรี ไม่ใช่ปัญหาของ ดาวรุ่งเลือดฟ้า-ขาว รายนี้เลย จุดโทษแรก เจมส์ ทาร์คอฟกี้ ที่เป็นเซ็นเตอร์โบราณสไตล์อังกฤษจ๋า เข้าบอลช้ากว่าเป็นจุดโทษชัดเจน
ส่วนจุดโทษที่2 การ์นาโช่ ที่ขยับไปอยู่ทางขวา สเต็ปเท้าลากดึงจังหวะ จนโดน เบน ก็อดฟรี ที่ช้าและเสียเหลี่ยม ไปพรวดเสียบเท้า จุดโทษแบบ100% ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้มีท่าทีจะเถียงด้วย เมื่อคืน การ์นาโช่ มีโอกาสยิงถึง3ครั้งด้วยกัน
แม้ว่าจะพึ่งทะลุขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่แบบจริงๆจังๆ เพียงฤดูกาล 2022-2023 แต่ทว่าซีซั่นต่อมา ด้วยความที่ผู้เล่นริมเส้นถูกปล่อยยืมตัวไปทั้ง เจดอน ซานโช่ - ฟาคุนโด้ เปเยสตรี รวมไปจนถึง อันโตนี่ ที่กู่ไม่กลับแล้ว ทำให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้ครองตัวจริงยาวๆ และ7ประตู 3แอสซิสต์ จาก 37 นัดทุกรายการ คือผลงานที่ไม่ขี้เหร่เลย กับเด็กดาวรุ่งอายุเพียง19ปี
ทอฟฟี่ หลังโฉ่งฉ่าง สถิติสุดห่วยเวลาเยือนผี
จะว่าไปที่คือเกมที่เอฟเวอร์ตัน มีโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยนะ 23 ต่อ 15 ครั้ง เข้ากรอบมากกว่า 7 ต่อ 6ครั้ง ยังไม่รวมจังหวะขลุกขลิกที่ติดบล็อกอีกถึง10ครั้ง แต่ทว่าโอกาสทองจริงๆที่ ทอฟฟี่ควรได้ประตูมีเพียง 1ครั้งเท่านั้น
ดไวท์ แม็คนีล มีโอกาสที่เฉียดใกล้เคียงสุดๆ 2ครั้ง แต่ทว่าเฉียดฉิวไปนิดเดียว กองหน้าของพวกเขาทั้งตัวจริงและตัวสำรองอย่าง เบโต้ และ โดมินิค คัลเวิร์ต ลูวิน ที่รูปร่างหนาสูงใหญ่ แต่ทว่ากลับช่วยอะไรทีมไม่ค่อยได้เลย
ยิงนกตกปลานี่คือคำนิยามของเกมรุกทอฟฟี่เมื่อคืนเลย 28นัด ซัดไป29ประตู มีเพียง2ทีมในลีกเท่านั้นที่ยิงได้น้อยกว่าทีมของ ฌอน ไดซ์ นั่นก็คือ เบิร์นลี่ย์ (25) และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (24) ซึ่งเป็นทีมบ๊วยและรองบ๊วย
แนวรับเอฟเวอร์ตัน ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเล่นหนักและเข้าบอลโฉ่งฉ่างมาตลอด เกมนี้หวยจึงมาออกที่ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ และ เบน ก็อดฟรีย์ ที่เข้าพวรดแบบเสียเชิง และหมดสิทธิโต้เถียงคำตัดสินของ ไซม่อน ฮูเปอรส์ ด้วยประการทั้งปวง
ส่วนการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอฟเวอร์ตัน ยังคงสถิติอันเลวร้ายไว้ในยุคของพรีเมียร์ลีก พวกเขาเคยบุกมาเอาชนะที่รังปีศาจแดง เพียงแค่ 2นัดเท่านั้น จาก31นัด และแพ้กลับออกไป 21 ครั้ง เสมออีก 8 หน
โดยสกอร์2-0 หลังจบ90นาที ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำอีกว่า เอฟเวอร์ตัน แพ้ทางทีมสีแดงเมืองแมนเชสเตอร์ มากแค่ไหน เพราะทอฟฟี่สีน้ำเงินนี่แหละคือทีมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ 41นัด
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก วิเคราะห์บอล คอลัมน์บอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอฟเวอร์ตัน อเลฮานโดร การ์นาโช่
- 263
- 10 ม.ค. 2567 14:47