พี่แจ้เก๋ากว่า ! เก่งหลังเกมทอฟฟี่เชือดสิงห์บูลส์ 1-0
ก่อนเกมที่ กูดิสัน ปาร์ค เมื่อคืน หากมีใครสักคนบอกว่าเอฟเวอรตัน จะยัดเยียดความปราชัยให้กับผู้มาเยือนที่กำลังฟอร์มขึ้นหม้อสุดๆอย่างเซลซีคงถูกมองว่าเพี้ยนไปแล้ว เมื่อสถิติบ่งชี้ว่าลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไม่แพ้ใครรวม17นัดทุกรายการ ประกอบกับทีมเจ้าบ้านก็ฟอร์มบู่สุดๆ ผลงานในลีก7นัดหลังสุด ชนะได้เพียง1นัด เสมอ2 แล้วแพ้ไปถึง4
แต่ทว่าจบเกม90น.เมื่อคืน กลับกลายเป็นพลพรรคทอฟฟี่แมน ที่หักปากกาเซียนปราบทีมเต็ง3อย่างเซลซีได้สำเร็จ โดยประตูชัยมากจากจุดโทษของ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน น.22 การเก็บ3คะแนนสำคัญของเอฟเวอร์ตัน น่าจะทำให้สถานการณ์เก้าอี้ของกุนซืออย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ คลายความร้อนในการโดนเด้งออกจากตำแหน่งลงได้พอสมควร และน่าจะสร้างความมั่นใจให้กับเอฟเวอร์ตันที่เป๋มาอย่างต่อเนื่องได้
ด้านผู้ปราชัยอย่างทีมสิงห์บลูส์ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเหมือนกัน กับการพลาดโอกาสขึ้นนำเป็นจ่าฝูงไปก่อนอีกหนหนึ่ง การดวลฝีมือของกุนซือ2วัย ยกนี้เป็น พี่แจ้ ที่้เก๋าเกมเจนจัดกว่า เก็บรายละอียดเล็กๆน้อย เอาชนะอดีตลูกทีมเก่าอย่าง แลมพาร์ดไปได้สำเร็จ
ฮาแวร์ตซ์ยังกู่ไม่ขึ้น
แมตช์แล้วแมตช์เล่าที่เพลย์เมคเกอร์ค่าตัวแพงของเซลซีอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ ฟอร์มบู่และถูกลักพาตัวหายไปจากเกม เกมที่กูดิสัน ปาร์ค เมื่อคืนเจ้าของค่าตัว71ล้านปอนด์ โชว์ฟอร์มได้หน้าเบือนหน้าหนีสุดๆ จนมีโอกาสอยู่ในสนามเพียงแค่ 68นาทีเท่านั้นก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกให้ แทมมี่ อับราฮัม ลงมาวาดลวดลายแทน
ก่อนเกมแฟนบอลทีมสิงห์บูลส์ คงหวังพึ่ง ฮาแวร์ตซ์ อยู่ไม่น้อย เพราะไม่มีชื่อของ คริสเตียน พูลิซิซ ฮาคิม ซิเย็ค รวมถึง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย แต่ความคาดหวังที่จะเห็นการสร้างสรรค์เกมหรือลูกจ่ายสวยๆคิลเลอร์พาสจากดาวเตะชาวเยอรมัน ก็แทบไม่ได้มีให้เห็นเลยในนัดนี้ มิหนำซ้ำยังถูกผู้เล่นแนวรับเอฟเวอร์ตันตัดตอนอุ้มหายไปจากเกมอีกด้วย เมื่อคืนเป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้ห่วยที่สุดของเซลซี
ความฟิตสภาพร่างกายรวมถึงความแข็งแกร่ง เป็นสิ่งที่แฟนบอลหลายๆคนมองว่าค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับ ฮาแวร์ตซ์ ในเวทีลีกเมืองผู้ดีมาตลอด 10นัด 1ประตู 2แอสซิสต์ ดูจะน้อยไปหน่อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับความคาดหวังและฟอร์มที่เคยทำได้อย่างเปล่งปลั่งสมัยอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
สิงห์แพ้ แต่ รีซ เจมส์ ยังเล่นดี
นัดนี้เหล่าบรรดาผู้เล่นที่มีหน้าที่ในการสร้างสรรค์เกมรุกของเซลซีสอบตบกันแทบทุกคน ทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ติโม แวร์เนอร์ , มัตเตโอ โควาซิซ หรือแม้กระทั่ง เมสัน เม้าท์ สร้างสรรค์โอกาสจ่ายบอลในจังหวะคีย์พาสรวมกันได้เพียงแค่3ครั้งเท่านั้น หากไม่มี รีซ เจมส์ โอกาสในการส่องประตูของทีมสิงห์บูลส์แทบจะน้อยกว่านี้ไปอีก
ด้วยแท็กติกของคู่แข่งทำให้ลูกทีมของ มิสเตอร์แฟร้งค์ ต้องครอสบอลจากด้านข้าง ซึ่งคนครอสส่วนใหญ่จะเป็น เจมส์ ที่โยนไปให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ วัดลูกกลางอากาศกับ ไมเคิ่ล คีน และ เยอร์รี่ มิน่า ซึ่งก็กินยากพอสมควรเพราะทั้งสองแนวรับชาวอังกฤษของโคลัมเบียก็เป็นเจ้าเวหาเหมือนกัน
เกมเมื่อคืนแม้บรรดาผู้เล่นในแนวรุกของทีมเยือนดูจะไร้ไอเดีย และจินตนาการตีบตันเอามากๆ แต่เจมส์ก็ยังสามารถครอสบอลเข้าเขตโทษทีมทอฟฟี่ได้ถึง7ครั้ง วิ่งขึ้นลงช่วยเกมรุก-รับ ได้อย่างไม่หยุดหย่อน ชนะแท็คเกิ้ล3ครั้ง เก็บกินรวดเมื่อดวลลูกกลางอากาศ รวมถึงผ่านบอลยาวสำเร็จ3ครั้ง
ตัวจริงแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ หาก เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เจ็บหรือฟอร์มตก แกเร็ธ เซาธ์เก็ต สามารถเลือกเจมส์ขึ้นมาเล่นแทนได้อย่างไม่เคอะเขินได้เลย
DCL และ ริชาร์ลิสัน โคตรปั่นป่วน
แม้เกมนี้เอฟเวอรตันจะไม่มี เพลย์เมคเกอร์ ตัวเก่งของทีมอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ แต่2ผู้เล่นตัวหลักในแนวรุกอย่าง ริชาร์ลิสัน และ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน คุกคามสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับทีมสิงห์บูลส์เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ได้มีสกอร์มาฝากสาวกเอฟเวอโตเนี่ยนก็ตาม
ริชาร์ลิสัน ถึงแม้จะไม่มีสกอร์รวมถึงภาพรวมในฤดูกาลนี้ก็พึ่งซัดในลีกเพียงแค่เม็ดเดียว ซึ่งก็มาจากลูกจุดโทษอีกต่างหาก เมื่อคืนแข้งจอมลีลาชาวบราซิลทำให้แนวรับของผู้มาเยือนปั่นป่วนพอสมควร อดีตแข้งวัตฟอร์ต ใช้ความเร็วความคล่อง ความแข็งแกร่ง เล่นงานเซลซีได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีจังหวะมารยา+เล่นตุกติกลูกแถมหลายครั้ง ทำเอาผู้เล่นสิงห์บูลส์หัวเสียอยู่ไม่น้อย
DCL หรือ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน แม้จะปืนฝืดในนัดนี้ แต่ก็มีส่วนสำคัญทำให้ทีมได้ลูกจุดโทษ เมื่อชิงจังหวะเล่นได้ไวกว่า เอดูอาร์ เมนดี้ แถมยังเกือบเบิ้ลจุดโทษให้ทีมด้วยซ้ำ เมื่อเรียกฟาว์ลในเขตโทษจาก เบน ชิเวล ได้ แต่ทว่าเมื่อเช็คVAR ย้อนหลังปรากฎว่า ดาวยิงชาวอังกฤษถลำล้ำหน้าไปก่อนกับลูกเปิดของ อเล็กซ์ อิโวบี้
แม้ไม่รวมจังหวะเรียกจุดโทษ คัลเวิร์ต เลวิน ก็ยังถือว่าเล่นได้ดีมากๆ เพราะสามารถพักบอล เก็บบอลได้ ดึงจังหวะ หาช่องหาตำแหน่งได้ดี 11ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ บ่งบอกความสำคัญต่อทีมของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
อาจารย์ดวลกับลูกศิษย์
ทั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เคยร่วมงานกันที่เซลซีในฐานะเจ้านายลูกน้องช่วงปี2008-2010 ต้องมาห้ำหั่นกันในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นฝ่ายอารย์อย่างอันเช่ ทำได้ดีกว่า แม้จะขาดผู้เล่นตัวหลักหลายคนก็ตาม ทั้ง ลูก้า ดีญ ,เซมุส โคแมน รวมถึง ฮาเมส โรดริเกซ
กุนซือชาวอิตาเลี่ยนมาในระบบ 4-2-3-1 แต่ก็ค่อนข้างที่จะรัดกุมเมื่อใส่ มิดฟิลด์ตัวรับทำหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูไปถึง2คนอย่าง อัลลัน และ อับดุลลาย ดูกูเร่ และทั้งสองผึ้งงานสามารถทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีเพราะ มิดฟิลด์ของเซลซีอย่าง เมสัน เม้าท์ และ มัตเตโอ โควาซิซ แทบไม่มีจังหวะปั้นเกมสวยๆเลย
ฟาก แลมพาร์ด ต้องจัดตัวโดยที่ขาดผู้เล่นในตำแหน่งริมเส้นโดยธรรมชาติอย่าง ชีเย็ค พูลิซิซ รวมถึงโอดอย ทำให้การเข้าทำทางด้านข้าง ประสิทธิภาพด้อยลงเป็นอย่างมาก ครั้นจะให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นแนวรุกคนอื่นๆ นัดนี้ก็มีค่อนข้างจำกัด เพราะมีเพียงแค่ แทมมี่ อับราแฮม เท่านั้นที่เป็นผู้เล่นเกมบุก
ความละเอียดและการฉวยโอกาสขึ้นนำจากความผิดพลาดของคู่แข่ง บวกกับการตอบสนองต่อแท็กติกรับลึกของกุนซือได้ดีกว่า จึงทำให้การดวลระหว่าง อันเชล็อตติและแลมพาร์ด เป็นฝ่ายอาจารย์ที่สั่งสอนลงโทษลูกศิษย์ไป ส่วนเซลซีเองก็ยังคงมีสถิติที่ย่ำแย่ต่อไปในการบุกมารังกูดิสัน ปาร์ค เมื่อคว้าชัยชนะได้เพียงหนเดียว จาก7นัดที่มาเยือนสนามแห่งนี้
จอห์น มอสส์ น่าหงุดหงิดไม่น้อย
แม้ว่าภาพรวมเปาเมืองผู้ดี จอห์น มอสส์ จะเป่าจังหวะสำคัญๆได้ค่อนข้างดี ทั้งจุดโทษและจังหวะริบจุดโทษคืนเพราะล้ำหน้าไปแล้ว แต่รายละเอียดเล็กๆบางจังหวะในเกม ผู้ตัดสินวัย50ปี เป่าได้หงุดหงิดขัดใจแฟนบอลสิงหฺ์บูลส์อยู่ไม่น้อย
ที่น่าหัวร้อนสุดๆคงเป็นจังหวะที่ เคิร์ต ซูม่า พาบอลขึ้นไปยังหน้าเขตโทษของเอฟเวอรตันได้แล้ว แต่ จอห์น มอสส์ กลับที่จะเลือกเป่าให้ฟาวล์ย้อนหลังซะอย่างงั้น เชื่อว่าหากปล่อยให้เล่นจังหวะนั้นต่อ กองหลังชาวฝรั่งเศสมีลุ้นสร้างโอกาสทำประตูจากช็อตต่อเนื่องนั้นได้เลย
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์ คอลัมน์นิสต์ คอลัมน์ฟุตบอล
- 414
- 13 ธ.ค. 2563 12:59