รวมแข้งดังที่ไม่น่าเชื่อว่าเคยเล่นพรีเมียร์
นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจากฟุตบอลดิวิชั่น1อังกฤษ มาเป็นพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1992 ก็มีแข้งจากหลายเชื้อชาติต่างแดน ที่เข้ามาเป็นสีสันให้กับแฟนบอลลีกเมืองผู้ดี มีทั้งแบบที่น่าจดจำและไม่น่าจดจำเท่าไหร่
โรบินโญ่ - เอสเตบัน กัมบิอัซโซ่ - พาทริค ไคลเวิร์ต รวมไปจนถึง มาร์โก มาร์เตรัซซี่ นี่คือบรรดาเหล่าแข้งนักเตะชื่อดังที่เคยมาวาดลวดลายในเวทีพรีเมียร์ลีก ซึ่งหลายๆคนอาจจะลืมไปบ้าง
ไรอั้น กิ๊กส์ ที่กลายเป็นตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ลีก13สมัย และเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ถ้าเป็นอาร์เซน่อล หลายคนก็จะนึกถึง เธียร์รี่ อองรี่ กับท่าดีใจสไลด์เข่าพร้อมสีหน้าอันยียวนกวนประสาท
ลิเวอร์พูล คงจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะเป็นไอคอนของสโมสรอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้เป็นทุกๆอย่างของทีมหงส์แดง เซลซี คงหนีไม่พ้นสองตำนานอย่าง จอห์น เทอร์รี่ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ยังไม่รวมถึง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ใช่เม็ดเงินและความสามารถของกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สร้างนักเตะที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสโมสร เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน รวมไปจนถึง แวงต์ซ็อง กอมปานี
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามยังมีแข้งมีชื่อเสียงโด่งดัง หลายรายที่เคยเก็บข้าวเก็บของจากถิ่นภูมิลำเนา มายังเวทีพรีเมียร์ลีก เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่หลายๆคนอาจจะลืมเลือนไป
โรแบร์โต้ มันชินี่ ( เลสเตอร์ ซิตี้ 2001)
หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า อดีตกุนซือผู้พาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกรายนี้ เคยค้าแข้งยังเวทีพรีเมียร์ลีกด้วย โรแบร์โต้ มันชินี่ เคยย้ายมา เลสเตอร์ซิตี้ ในช่วงปี 2001 ในฐานะแข้งยืมตัวจาก ลาซิโอ
ในตอนนั้น โรแบร์โต้ มันชินี่ ย้ายเข้ามาทีมสุนัขจิ้งจอกในตำแหน่งกองหน้า แต่ทว่าเจ้าตัวได้ลงเล่นให้ทีมเพียงแค่5นัดเท่านั้นในสมัยยุคของกุนซือ ปีเตอร์ เทย์เลอร์
โดย เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรสุดท้ายของ มันชินี่ ในฐานะนักเตะก่อนที่เจ้าตัวจะรับหน้าที่ผู้จัดการทีม ครั้งแรกกับฟิออเรนติน่า ในปีถัดมา
อเล็กซานเดร ปาโต้ ( เซลซี 2016)
นี่คือหนึ่งในนักเตะที่เคยถูกยกให้เป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง อเล็กซานเดร ปาโต้ ย้ายมาร่วมทีมเซลซีในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของ ซีซั่น2015-2016 ในฐานะนักเตะยืมตัวจาก โครินเธียนส์ จากบราซิล
ไม่มีใครลืมประตูลากโซโล่เดี่ยวจากกลางสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกไปยิงบาร์เซโลน่า ในช่วงที่เจ้าตัวค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ได้
แต่ทว่าช่วงเวลายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ ปาโต้ นั้นเงียบและมืดมนสุดๆ แทบไม่มีใครจะจดจำดาวยิงชาวบราซิลเลี่ยนรายนี้ได้ 2นัด 1ประตู (จากลูกจุดโทษ) ในพรีเมียร์ลีก ก่อนจะย้ายกลับสโมสรเดิมหลังหมดสัญญายืมตัวแบบเงียบๆ
ริคาร์โด้ กวาเรสมา ( เซลซี 2009)
ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในนักเตะในตำแหน่งปีกที่ทักษะความสามารถเฉพาะตัวไม่เป็นรองใครเลย โดยเฉพาะท่ายิงท่าจ่ายปั่นไซต์ของเจ้าตัวที่กลายเป็นซิกเนเจอร์เอกลักษณ์ไปแล้ว
ริคาร์โด้ กวาเรสมา ย้ายมาร่วมทีมกับเซลซีในฐานะนักเตะยืมตัว จากอินเตอร์ มิลาน ช่วงกลางซีซั่น 2008-2009 แต่ทว่าหลังจากที่ หลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ กุนซือที่ตัดสินใจดึงเจ้าตัวเข้ามาร่วมทีม โดนไล่ออกจากตำแหน่งไป
ปีกชาวโปรตุเกสรายนี้แทบจะหมดอนาคตและถูกลืมเลือนหายไปจากทีมไปเลย ในช่วงที่กุนซือคนใหม่ (ชั่วคราว) อย่าง กุส ฮิดดิงค์ เข้ามารับตำแหน่ง พร้อมฝากผลงานการลงสนามเพียง4นัดกับทีมสิงห์บูลส์ ก่อนที่จะย้ายกลับ อินเตอร์ มิลานในที่สุด
เฮนริค ลาร์สสัน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2007)
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เฮนริค ลาร์สสัน ช่วงหนึ่งนี่คือกองหน้าเครื่องจักรทำประตูอย่าแท้จริง การันตีจาก 242ประตู จากการลงสนาม313นัด ให้กับ กลาสโกว์ เซลติก
เฮนริค ลาร์สสัน ย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดงตอนนั้นในวัย36ปี ในฐานะแข้งยืมตัวจาก เฮลซิงบอร์ก ด้วยระยะเวลาแสนสั้น 1มกราคม 2007 - 12 มีนาคม 2007 แต่ทว่าสิ่งที่หัวหอกชาวสวีดิชมอบให้ปีศาจแดงนั้นอิมแพคเป็นอย่างมาก
ว่ากันว่านี่คือแรงกระตุ้นกำลังใจชั้นดีของทีมปีศาจแดง เมื่อมีดาวเตะผู้มากความสำเร็จอย่าง เฮนริค ลาร์สสัน อยู่ในทีม แฟนผีแดงไม่มีใครลืมกับอดีตดาวยิงบาร์เซโลน่า และ กลาสโกว์ เซลติก รายนี้
3ประตู จาการ13เกมที่ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่คือสิ่งที่ เฮนริค ลาร์สสัน มอบให้ทีมก่อนที่จะย้ายกลับ เฮลซิงบอร์ก ทีมลีกบ้านเกิดหลังหมดสัญญายืมตัว
ดาร์โก้ โควาเซวิซ (เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 1995-1996)
จะมีใครสังเกตกันไหมว่า อดีตดาวยิงผู้เคยพา เรอัล โซเซียดาด คว้าแชมป์ลาลีก้าสเปนแบบหักปากกาเซียนรายนี้ เคยมาค้าแข้งกับทีมเล็กๆโนเนมอย่าง เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์
หอกชาวยูโกสลาเวีย (ชื่อเก่า) เคยเป็นกองหน้าที่พีคมากๆ กับ เรอัล โซเซียดาด ยูเวนตุส รวมถึงลาซิโอ โดยเจ้าตัวเริ่ม โด่งดังจากทีมบ้านเกิดอย่าง เร้ด สตาร์เบลเกรด และย้ายมาทีมนกเค้าแมว เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เมื่อปี1995
ช่วงที่ค้าแข้งกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อร่วมทีมชาติในตำแหน่งกองหลังอย่าง เดยัน สเตฟาโนวิช ได้ลงเล่นให้ทีมไปถึง65นัด แต่ ดาร์โก้ โควาเซวิซ กลับมีโอกาสได้ลงสนามในลีกเมืองผู้ดีเพียงแค่16นัด และซัดไปเพียงแค่4ประตู
หลังจบซีซั่นดังกล่าว เจ้าตัวก็ย้ายไปยัง เรอัล โซเซียดาด และเริ่มระเบิดฟอร์มที่สุดยอดที่นั่น
วิเซนโซ่ มอนเตลล่า (ฟูแล่ม 2007)
หากพูดถึงชื่อของ วิเซนโซ่ มอนเตลล่า เราจะนึกถึงอะไร 1. ท่าดีใจ เฮลิคอปเตอร์ อันเป็นเอกลักษณ์ 2. ประตูที่ทำได้กับ โรม่า และ ทีมชาติอิตาลี 3. บทบาทผู้จัดการทีม 4. เคยเล่นกับฟูแล่ม
หลายคนน่าจะคุ้นกันอยู่บ้างว่าหอกชาวอิตาเลี่ยนรายนี้ เคยค้าแข้งยังเวทีพรีเมียร์ลีกกับทีมเล็กๆอย่าง ฟูแล่ม ซึ่งช่วงที่มอนเตลล่า ย้ายมาค้าแข้งกับทีมเจ้าสัวคาบเกี่ยวกับปีที่ คลินท์ เดมซี่ย์ ย้ายมาปีแรกพอดี
มอนเตล่า มาร่วมจอยถึ่น คราเวน ค็อตเทต ด้วยสัญญายืมตัว6เดือน จากโรม่า เมื่อเดือนมกราคม 2007
แต่ทว่าหลังหมดสัญญาดังกล่าวเจ้าตัวก็ไม่ได้ต่อสัญญาถาวรกับทีม กระท่อมน้อย แต่อย่างใด พร้อมฝากผลงาน 5ประตู จากการลงสนาม 14นัดรวมทุกรายการกับฟูแล่ม
มิเชล ชัลกาโด้ (แบล็คเบิร์น 2009-2012)
ใครจะอยากเชื่อว่าอดีตแบ็กขวา ผู้เคยคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2สมัย กับทีมชั้นนำอย่าง เรอัล มาดริด จะตัดสินใจย้ายมาทีมกลางตารางในพรีเมียร์ลีกอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
แต่สิ่งนั้นก็เคยเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เมื่อ มิเชล ชัลกาโด้ ผู้มีดีกรีแบ็กขวาทีมชาติสเปน ตัดสินใจย้ายจากถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว มายัง ถิ่น อีวู๊ด ปาร์ค เมื่อซัมเมอร์ 2019 ในวัย34ปี พร้อมสัญญา2ปี
ชัลกาโด้ ไม่ได้ย้ายมาเล่นๆเพราะลงสนามให้ทีมกุหลาบไฟมากถึง73นัดรวมทุกรายการ ทั้งภายใต้ของยุคกุนซืออย่าง แซม อัลลาไดซ์ และ สตีฟ คีน ก่อนที่จะย้ายออกไปเมื่อปี2012 ค้าแข้งกับสโมสรสุดท้ายในฐานะนักเตะกับทีมในลีก ปานามา
โรบินโญ่ ( แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2008-2010 )
ว่ากันว่านี่คือดีลที่ปลดล็อคในสถานะอำนาจในการซื้อขายนักเตะระดับท็อปของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลยก็ว่าได้ การซื้อขายอันสั่นสะเทือนพรีเมียร์ลีกดังกล่าว เกิดขึ้นวันเดดไลน์ของตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปี2018
โรบินโญ่ ได้ทำในสิ่งที่แฟนบอล ไม่คาดคิดเมื่อเจ้าตัวเก็บกระเป๋าออกจากถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ไปค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติของพรีเมียร์ลีกในตอนนั้น ( 32.5 ล้านปอนด์ )
พร้อมรับค่าเหนื่อยกว่า 160,000 ปอนด์/สัปดาห์
โรบินโญ่ ซัดประตแรกให้กับทีมเรือใบสีฟ้าได้ด้วยลูกฟรีคิก ในเกมที่แพ้ให้กับเซลซี 1-3 ฤดูกาลแรก ดาวเตะชาวบราซิล ถือว่าผลงานไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อซัดไปได้ 15ประตู จาการลงสนาม 41นัดทุกรายการ
ซีซั่นต่อมาเจ้าตัวจะมีปัญหาเรื่องระเบียบวินัย และการปรับตัวเข้ากับประเทศอังกฤษ ก่อนถูกปล่อยให้ซานโตส ยืมตัวช่วงตลาดหน้าหนาวปี 2010 และย้ายไป เอซี มิลาน แบบถาวรเมื่อจบฤดูกาล 2009-2010
มาร์โก้ มาเตรัซซี่ ( เอฟเวอร์ตัน 1998-1999 )
คิดภาพไม่ออก หรือจำไม่ได้เลยว่า ปราการหลังจอมโหดอย่าง มาร์โก้ มาร์เตรัซซี่ เคยมาเล่นยังเวทีพรีเมียร์ลีกตอนไหน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1998-1999 เมื่อกองหลังชาวอิตาเลี่ยนรายนี้ ย้ายมายังถิ่น กูดิสัน ปาร์ค จากสโมสร เปรูจา
มาร์เตรัซซี่ ย้ายมาเล่นกับเอฟเวอร์ตัน ในยุคของกุนซืออย่าง วอลเตอร์ สมิธ
" ผมรู้สึกพอใจเพราะเขาเป็นกองหลังที่ดี ดุดัน เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และสามารถจ่ายบอลได้ เขาเป็นผู้เล่นที่ต้องจับตามองและผมก็คิดว่าเขาจะรับมือกับพรีเมียร์ชิพได้โดยไม่มีปัญหา " นี่คือคำพูดของกุนซือ สมิธ
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม มาร์โก้ มาร์เตรัซซี่ ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับทีม ทอฟฟี่สีน้ำเงิน โดยได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปทั้งสิ้น 27นัดทำไปได้1ประตู และเอฟเวอร์ตันจบเพียงแค่อันดับ14ของตารางคะแนน
ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะย้ายกลับถิ่นเก่าเปรูจา เมื่อจบฤดูกาล 1998-1999
- คอลัมน์นิสต์
- 789
- 21 ม.ค. 2564 17:07