อีกก้าวเดียวถึงฝัน ! ฟ้าขาว ต้อน โครเอเชีย 3-0 เมสซี่ คว้า MOTM
อีกก้าวเดียวเท่านั้น ฝั่งฝันของ ลิโอเนล เมสซี่ จะสมบูรณ์แบบเต็มขั้นกับการเป็นตำนานตลอดกาลยอดนักเตะ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา อาร์เจนติน่า ระเบิดฟอร์มเยี่ยมในรอบรองชนะเลิศ เอาชนะทีมรองแชมป์เก่า โครเอเชีย ไปได้สบายๆ 3-0 และแน่นอน ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของทัพฟ้า-ขาว แมตช์ดังกล่าว นั่นก็คือคนที่คุณรู้ว่าใคร ลิโอเนล เมสซี
เกมรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 คู่แรกระหว่าง อาร์เจนติน่า กับ โครเอเชีย ทีมจอมอึด ซึ่งก่อนเกมจะเริ่มขึ้นคาดการณ์กันว่า นี่จะเป็นนัดที่งานยากของทัพฟ้า-ขาว อยู่เหมือนกัน และมีโอกาสที่จะต้องไปลุ้นกันต่อที่ช่วงต่อเวลาพิเศษ 120นาที หรือยิงจุดโทษ
ทว่าอย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการแข้งขาล้าของทีมตราหมากรุกรึเปล่า ที่กรำศึกหนักในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120นาที ลากยาวไปจนถึงการดวลจุดโทษ ทำให้อาร์เจนติน่า ถล่มเอาชนะไปได้แบบสบายๆเกินคาด 3-0
ลิโอเนล เมสซี่ สังหารประตูที่ 5 ใน เวิลด์ คัพ ฉบับบกาตาร์ หลังกดจุดโทษให้ทีมขึ้นนำ 1-0 น. 34 ก่อนที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ จะมากดเบิ้ลคนเดียวอีกสองตุง น.39 และ 69 เป็น 3-0 พร้อมชนะไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ก้าวเท้าสู่รอบชิงชนะเลิศ รอผู้ชนะระหว่าง โมร็อกโก กับ ฝรั่งเศส
แม้ว่าแมตช์ดังกล่าว ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ศูนย์หน้าจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเหมากดคนเดียว2ประตู แต่ทว่าสำหรับ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แล้ว ก็ต้องยกให้กับลูกพี่เขาจริงๆ ลิโอเนล เมสซี่ กับผลงาน ยิง 1จ่าย1 แถมยังปั่นป่วนแนวรับของ โครเอเชีย แบบสุดๆ โดยเฉพาะในรายของ ยอชโก้ กวาร์ดิโอล ที่โดน เมสซี่ หลอกจนเสียเชิง
ถึงสกอร์จะขาดลอยสุดๆ 3-0 แต่ทว่าในช่วง30นาทีแรก ลูกทีมของ ซลัตโก้ ดาลิช มีโอกาสเหมือนกันที่จะโจมตีอาร์เจนติน่า แต่ทว่าในพื้นที่เข้าทำสุดท้าย โครเอเชีย ดูตีบตื้อตันไปหน่อย โดยเฉพาะศูนย์หน้าอย่าง อันเดรย์ ครามาริช ที่สำแดงพิษสงอะไรไม่ได้เลย
3ประสานมิดฟิลด์อย่าง ลูก้า โมดริช - มัตเตโอ โควาซิซ และ มาร์เซโล่ โบรโซวิช มีความโดดเด่นในเรื่องการครองบอล จ่ายบอลมากกว่า ครั้นจะให้หวังไปพึ่งเกมรุกก็ดูจะไม่ได้ผลนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมดริช ก็อายุปาเข้าไป37ปีแล้ว เรี่ยวแรงยิ่งดร็อปไปเรื่อยๆในครึ่งหลัง
สำหรับอาร์เจนติน่า นี่คือการเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก สมัยที่6ของพวกเขาแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านั้น 5ครั้ง ทัพอาร์เจนไตน์ ต้องอกหักไปถึง3 สมหวังเพียงแค่ ปี 1978 และ 1986 เท่านั้น โดยในบอลโลก2022 ฟ้า-ขาว เริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าไหร่ ด้วยการแพ้ ซาอุดิอาระเบีย 1-2 ก่อนจะค่อยๆเร่งฟอร์มมาเรื่อยๆ และเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
อีกก้าวเดียวที่ถึงฝันของ เมสซี่
สำหรับฟุตบอลโลกแล้ว นี่คือถ้วยรางวัลเดียวที่ยอดแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ยังไม่สามารถเอามานอนกอดไปครอบครองได้ ทั้งที่ความสำเร็จ ความสามารถฝีเท้าดุจเหนือเทวดา จำนวนประตูต่างๆที่ทำได้ ไม่มีใครโต้เถียงโต้แย้งอยู่แล้ว
ฟุตบอลโลก 2022 นี่เป็นตั๋วขบวนเที่ยวสุดท้ายแล้วแหละสำหรับ เจ้าของบัลลงดอร์ 7สมัย รายนี้ กับโทรฟี่แชมป์ ฟุตบอลโลก โดย ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงเป็นคนสำคัญสุดๆที่อาร์เจนติน่าจะขาดไม่ได้เสมอ และเจ้าตัวเองก็มีอิทธิพลเป็นอย่างมากสำหรับเกมบุกของทีม
เมสซี่ สังหารประตูที่5 ในบอลโลกฉบับกาตาร์ได้สำเร็จ (เทียบเท่ากับ คิลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ ) และเป็นลูกที่11ในยอดรวมบอลโลกของเจ้าตัว โดยจุดโทษที่ ลิโอเนล เมสซี่ ซัดได้เมื่อคืน เรียกได้ว่ายิงเอาตายมากๆทั้งมุม และบอลพุ่งเสย
โดย โดมินิค ลีวาโควิช นายด่านของโครเอเชีย เซฟจุดโทษมาแล้ว4ครั้งในรายการนี้ แต่ทว่าการเซฟทั้งหมดเป็นลูกยิงเรียดไม่โด่ง นั่นจึงทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ปรกติยิงเน้นมุม ลูกเรียดหรือหลอกทาง ตัดสินใจแก้ลำด้วยการซัดเข้าไปเต็มเหลี่ยมมุมบนขวา ทั้งแรงและเร็วหมดสิทธิเซฟด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้แล้ว เรายังได้เห็นจังหวะเมสซี่โชว์เลี้ยงคลึงลอลหนีผู้เล่นโครเอเชีย และที่สำคัญเป็นไฮไลท์คงหนีไม่พ้น จังหวะพลิกหนี หลอกล่อ หนึ่งในเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นต์อย่าง ยอชโก้ กวาร์ดิโอล เข้าไปแอสซิสต์ให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
" คิงเลโอ " มีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้ง ชนะการดวล6ครั้ง / เลี้ยงบอลผ่าน6ครั้ง (มากที่สุด) / นอกจากนี้แล้ว เมสซี่ ยังทำประตูในทัวร์มาเม้นต์ได้มากที่สุด 5ลูก (เที่ยบเท่า เอ็มปั๊ปเป) แอสซิสต์ได้มากที่สุด 3ครั้ง เท่ากับ แฮร์รี่ เคน - บรูโน่ แฟร์นันเดซ - อองตวน กรีซมันน์
โอกาสยิงมากที่สุดก็เป็น ลิโอเนล เมสซี่ 27ครั้ง สร้างสรรค์โอกาสทำประตู มากที่สุด18ครั้ง โดย6นัด ในบอลโลกฉบับกาตาร์ เมสซี่ ยังคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้มากกว่าใครเพื่อนถึง 4ครั้ง ด้วยกัน
อัลวาเรซ เฉิดฉายในบอลโลก
พึ่งเป็นที่รู้จักแบบจริงๆจังๆ ก็ตอนย้ายมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่แหละ สำหรับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ โดยการมาบอลโลก2022นี้ เจ้าตัวก็ไม่ได้มีสถานะเป็นตัวจริงแต่อย่างใด แต่ทว่าอาการสากกะเบือเข้าสิงของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ก็ทำให้เจ้าหนูวัย22ปี ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง
การเป็นตัวจริงเกมกับโครเเอตเมื่อคืน ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ก็ไม่ทำให้กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่ ผิดหวัง ด้วยผลงาน2ประตู แถมยังเป็นคนเรียกจุดโทษให้ ลิโอเนล เมสซี่ สังหารเข้าไปไม่เหลืออีกด้วย
ประตูที่สอง เจ้าหนูจากเรือใบ กระชากจากครึ่งสนาม บอลเหมือนเป็นใจมีโชคเล็กน้อยที่จังหวะสุดท้ายในเขตโทษ บอลไปแฉลบแนวรับโครเอเชีย แต่ บอร์น่า โซซ่า สกัดไม่ขาดบอลจึงกลับมาเข้าทาง อัลวาเรซ อีกรอบ จัดการเข้าไปไม่เหลือ
ส่วนประตูตอกฝาโรง3-0 ก็มาจากการเข้าชาร์จลูกโชว์เหนือทำทางมาให้ของ เมสซี่ นั่นเท่ากับว่าทำเป็นเล่นไปตอนนี้ในบอลโลก 2022 อัลวาเรซ ทำไปได้แล้วถึง4ประตูด้วยกัน จากโอกาสยิงเพียง10ครั้ง
จุดเด่นของอดีตศูนย์หน้า ริเวอร์เพลทรายนี้ ก็คือความเร็ว การวิ่งหาช่องซึ่งทำได้ดีมากๆ มีความคล่องและอันตรายเวลาอยู่ในเขตโทษ เพราะสามารถเรียกฟาวล์หรือจุดโทษให้กับทีมได้
สโคลานี่ ยืดหยุ่นต่อแผนการเล่น
จัดได้ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่มีความยืดหยุ่นพอสมควรสำหรับ ลิโอเนล สคาโลนี่ ของอาร์เจนติน่า เพราตั้งแต่นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม มาจนถึงรอบรองชนะเลิศที่เอาชนะ โครเอเชีย เมื่อคืน กุนซือวัย44ปี เปลี่ยนแผนการเล่นตามความเหมาะสมและสถานการณ์ตลอด
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่ใช้โอกาสค่อนข้างเปลืองใน2เกมแรกกับ ซาอุดิอาระเบีย และ เม็กซิโก สุดท้ายถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง ให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ได้เฉิดฉายแทน และเจ้าหนูวัย22ปี ก็ตอบแทนด้วยผลงาน4ประตู
หรือแม้กระทั่ง อังเคล ดิ มาเรีย ที่เป็นตัวจริงในรอบแบ่งกลุ่ม 3นัดแรก ด้วยสภาพความฟิตและฟอร์มทำให้ปีกร่างเล็กรายนี้ ต้องกลายเป็นตัวสำรอง และในรอบน็อกเอ้าท์เป็นต้นมา อาร์เจนติน่า ไม่ได้เล่นในระบบที่มีปีกแนวรุก2คนเลย อาศัยการเติมเกมจากแบ็กมากกว่า
4-2-3-1 / 4-4-2 (ข้ามหลามตัด) / 4-3-3 / 4-3-1-2 / หรือในเกมกับ เนเธอร์แลนด์ สคาโลนี่ ก็เน้นความรัดกุม มาเป็นระบบ 3-5-2 ยัด ลิซานโดร มาร์ติเนซ เข้ามาเป็นเซ็นเตอร์ตัวที่3 แต่พอ อัศวินสีส้ม เน้นการโจมตีจากลูกกลางอากาศหนักๆ ก็ถอดเอา "ลิซ่า " ที่ตัวเล็กออกช่วงต่อเวลาพิเศษ 120นาที
รวมถึงเลือกวิธีการเล่นที่ถนอมพลังของ ลิโอเนล เมสซี่ มากที่สุด นั่นก็คือไม่ต้องมาช่วยเกมรับเหมือนกับผู้เล่นรายอื่นๆ รวมถึงปรับวิธีการเล่นให้ "คิงเลโอ " เป็นทั้งเพลย์เมคเกอร์ บางนัดเป็นคล้ายๆ ฟอลส์ไนท์ กองหน้าตัวหลอก
เสียดาย30นาทีแรกของ ตราหมากรุก / แข้งขาเหมือนหมดแรง
เห็นสกอร์ออกมาแพ้ขาดลอย0-3แบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าโครเอเชีย ต่อกรกับอาร์เจนติน่าไม่ได้เลย ในช่วง30นาทีแรก เป็นทางฝั่งลูกทีมของ ซลัตโก้ ดาลิช ครองเกม ขึงบอลกันได้ดีกว่า โดยเฉพาะ3มิดฟิลด์เทพของพวกเขาอย่าง ลูก้า โมดริช - มัตเตโอ โควาซิซ และ มาร์เซโล่ โบรโซวิช
แต่ทว่าการครองบอลของทีมตราหมากรุกก็แทบจะไม่มีผลอะไรเลย เพราะบอลไม่ได้เข้าไปในเขตพื้นที่อันตรายของอาร์เจนติน่า กองหน้าของพวกเขาในเกมเมื่อคืนอย่าง อันเดรย์ ครามาริช พึ่งพาอะไรไม่ได้
หรือรวมไปจนถึง บรูโน่ เพทโควิช ที่ลงมาเป็นตัวสำรองก็สร้างความแตกต่างไม่ได้เช่นกัน ยิ่งพอโดนลูก 1-0 และ 2-0 เรียกได้ว่าทำให้ทำนบเกมรับ สติ ความนิ่งต่างๆของโครเอเชียแตกซ่านทันที ก่อนที่พวกเขาจะแผ่วลงไปเรื่อยๆใน45นาทีหลัง
ขุนพลตราหมากรุก ดูจะหมดแรงและแข้งขาอ่อนไปเรื่อยๆ เนื่องจากว่าทั้งรอบ 16ทีม และ8ทีมที่ผ่านมา โครเอเชีย ต้องกรำศึกลากยาว120นาที ไปจนถึงการดวลจุดโทษ แนวรับที่อยู่ห่างจากกรอบเขตโทษตัวเองกว่าหลายๆนัดที่ผ่านมา ทำให้จึงเข้าทางนักแลกับเกมสวนกลับที่เปิดพื้นที่เยอะของอาร์เจนติน่า
แม้ว่าทีมจะแพ้ไปเมื่อคืน แต่สำหรับ ลูก้า โมดริช ในวัย37ปี ถือว่าเล่นไม่แย่เลย พยายามมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทีมตราหมากรุกแล้ว กองกลางจากเรอัล มาดริด จ่ายคีย์พาสได้ถึง2ครั้ง สัมผัสบอลมากถึง 93หน แต่ทว่าก็ทำบอลเสียบอลล้นมากถึง12ครั้งเดียวกัน
ตราหมากรุกหน้าทื่อ
จะว่าไป โครเอเชีย ก็ถือว่าเกือบจะตกรอบแบ่งกลุ่มตั้งแต่แรกเหมือนกันนะ เพราะในนัดสุดท้ายพวกเขาเจ๊ากับเบลเยี่ยม มา0-0 แบบน่าแพ้ หากว่า " พี่ตู้ " โรเมลู ลูกากู ไม่โดนวิญญาณสากกะเบือเข้าสิง พลาดโอกาสเหน่ง3-4ครั้ง
เกมแรกพวกเขาทำได้เพียงแค่เสมอ โมร็อกโก 0-0 และ เจ๊าเบลเยี่ยม 0-0 ก่อนมายิงไส้แตกทีมแจกแต้มของกลุ่มอย่าง แคนาดา 4-1 ส่วนในรอบน็อกเอ้าท์ โครแอต ก็ซัดได้เพียงแค่นัดละประตู เท่านั้น
หรือจะให้เห็นภาพชัดเจน 5นัด หากนับเฉพาะในเวลา90นาที โครเอเชีย ทำประตูคู่แข่งไม่ได้ถึง3นัด ซึ่งในทัวร์นาเม้นต์นี้ ดาวยิงของพวกเขาอย่าง อันเดร ครามาริช ก็เปรี้ยงปร้าง แค่นัดเดียวกับการกดเบิ้ลใส่ แคนาดา
ซึ่ง6นัดในบอลโลก ครามาริช ดาวยิงจากฮอฟเฟ่นไฮม์ มีโอกาสยิงประตูเพียงแค่9ครั้งเท่านั้น หรือเฉลี่ยนัดละไม่ถึง2หน แต่ถึงกระนั้นก็ดีก็ต้องตำหนิปีกแนวรุกคนอื่นๆด้วย อิวาน เปริซิซ ไม่ได้แย่ แต่ก็อายุปาเข้าไป 33ปี แล้ว ประสิทธิภาพไม่เท่าเดิม ส่วน มาริโอ ปาซาลิซ ก็ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ออกสตาร์ทครึ่งหลัง
บรูโน่ เพทโควิช ฮีโร่ ตัวสำรองผู้ลงมาซัดประตูตีเสมอกับบราซิล ก็แผลงฤทธิอะไรไม่ออก หรือเมื่อบอลมาถึง ดาวยิงจาก ดินาโม ซาเกร็บ ก็โดนเข้าเร็วจากนักเตะอาร์เจนติน่า 41นาทีที่อยู่ในสนาม เพทโควิช มีโอกาสจบสกอร์แค่หนเดียว
- คอลัมน์นิสต์
- 279
- 14 ธ.ค. 2565 15:39