สู้กันด้วยแท็กติก ! อตาลันต้า เจ๊า ปืน เกมจืด 0-0 ราย่า เซฟโทษ
ด้วยการจัดการแข่งขันแบบใหม่ของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้มีคู่ที่ต้องลากมาเตะวันพฤหัสบดีเลย และหนึ่งในนั้นก็คือ อาร์เซน่อล ที่ต้องยกพลไปเยือนเมืองแบร์กาโม่ ของ อตาลันต้า เจ้าของแชมป์ ยูโรป้า ลีก ปีล่าสุด ซึ่งปืนใหญ่เอง คาดว่าอาจจะใส่ไม่ได้เต็ม100นัก เพราะมีเกมพรีเมียร์ลีกสุดสำคัญรออยู่อาทิตย์นี้กับอาร์เซน่อล ส่วน อตาลันต้า ทีมที่เต็มไปด้วยแท็กติก พร้อมใส่เต็มแน่นอน
อาร์เซน่อล ประเดิมหัว ยูซีแอล ด้วยการต้องบุกไปเยือน เจวิสส์ สเตเดียม ของ อตาลันต้า ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่แท็กติกเข้มข้นเคี้ยวยากสุดๆ มิเคล อาร์เตต้า มาในระบบเก่ง 4-3-3 หรือแผนการยืนในสนามเป็น 4-2-3-1
แดนกลางได้ เดแคลร ไรซ์ ที่ไม่ได้ติดโทษแบนรายการนี้ ลงสนามจับคู่ตรงกลางกับ โธมัส ปาร์เตย์ มิดฟิลด์ตัวรุกเป็น ไค ฮาแวร์ตช์ หน้าเป้าเป็น กาเบรียล เซซุส ที่คอยสลับกันเล่น ริมเส้นตัวรุกก็เช่นเคยนั่นก็คือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ บูกาโย่ ซาก้า
ส่วนเจ้าบ้าน อตาลันต้า มาในแผน 4-3-3 ใช้11ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด แนวรุก3ประสาน ชาร์เลส์ เดอ เคเตอลาเรอ - อเดโมลา ลุคแมน และ มัตเตโอ เรเตกี แถมยังมีเด็กเก่าอาร์เซน่อล อย่าง เซอัด โคลาซินัช เล่นเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายด้วย
เริ่มเกมมาค่อนข้างสูสี แถมมีความอึดอัดด้วยซ้ำ ผิดคาดจากที่คิดไว้ตรงที่ น่าจะเป็นเกมที่เปิดแลกกันสนุก สร้างโอกาสลุ้นสกอร์มากๆ กลับกันเป็นนัดที่ห้ำหั่นกันด้วยแท็กติกและวิธีการเล่นของ1กุนซือจริง และทางฝั่งเจ้าบ้านเองก็ไม่ได้เป็นหมูให้เคี้ยวง่ายๆ
โอกาสหวาดเสียวสุดในครึ่งแรก เห็นทีจะเป็นลูกฟรีคิกเรียดของ ซาก้า ที่เกือบจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่ทว่า มาร์โก คาร์เนเซคคี่ พุ่งเซฟเอาไว้ได้ ส่วนเจ้าบ้านก็มีลุ้นที่ใกล้เคียงที่สุดจากลูกยิงในเขตโทษของ เดอ เคเตอลาเรอ แต่ทว่าข้ามคานออกไปไกล จบ45นาทีแรกด้วยสกอร์ 0-0
เกมที่สูสีเล่นไปเล่นมา กลับกลายเป็นว่าอตาลันต้าเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ซะงั้น อาร์เซน่อล ที่แดนกลางสู้ไม่ได้ เป็นฝั่งที่เล่นแบบรับแล้วรอสวนกลับมากกว่า แต่ทว่าการขาด มาร์ติน โอเดการ์ด ก็ทำให้ไอเดียความสร้างสรรค์ในเกมรุกตีบตันเหลือเกินทั้ง ฮาแวร์ตช์ - เชซุส และ มาร์ติเนลลี่
ช่วงออกสตาร์ทครึ่งหลังได้เพียงราวๆ2นาที โธมัส ปาเตย์ ก็มาทำให้ปืนใหญ่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เมื่อเสียท่าไปทำฟาวล์ เอแดร์ซอน ผู้จัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที มาเตโอ เรเตกี ดาวยิงป้ายแดง อาสารับหน้าที่สังหาร
ก่อนการยิงจุดโทษ เรเตกี ดูสีหน้าไม่มั่นใจเท่าไหร่ แถมยังมีซอยเท้าชะลอก่อนยิงด้วย จนท้ายที่สุดแล้วยิงเรียดไปทางซ้ายมือของตัวเอง แต่ ดาบิด ราย่า อ่านออกเซฟไว้ได้ บอลกระเด้งมาเข้าทางให้ เรเตกี ได้ซ้ำโหม่งแก้ตัวอีกหน ซึ่ง เรเตกี ก็ถือว่าโหม่งซ้ำไม่ดีอีก ราย่า ลุกขึ้นมาโชว์ซุปเปอร์เซฟได้อีกหน
ตัวสำรองของ อตาลันต้า อย่าง ฮวน กวาดราโด้ ลงมาสร้างความแตกต่าง ลงมาหาโอกาสปั่นโค้งๆยิงไกล2ครั้ง ส่วนอาร์เซน่อล เหมือนจะเน้นเกมรับเต็มตัวและรอสวนกลับไปแล้ว แต่ทว่าเมื่อคืนเป็นวันที่แนวรุกฝืดเคือง จบเกมจึงเสมอกันไป 0-0
ราย่า ฮีโร่เซฟโทษ ซาลิบา กำแพงเหล็ก
ไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อสังสัยมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 สำหรับ ดาบิด ราย่า ในการยึดมือ1อาร์เซน่อล แถมยังส่งให้ อารอน แรมส์เดล เป็นมือ2ถาวร และต้องย้ายทีมไปเซาธ์แฮมป์ตันในที่สุด โดยซีซั่นใหม่ 2024-2025นี้ นายด่านชาวสเปนก็ยังคงสานต่อความหนึบเหมือนเดิม
เมื่อคืนอดีตโกลเบรนท์ฟอร์ด ไม่มีปัญหาเลยกับการออกบอลด้วยเท้าเวลาที่โดนแนวรุกอตาลันต้า วิ่งบีบเข้าใส่ แถมยังออกมาตัดบอลไม่พลาดอีกด้วย กับช็อตที่ต้องออกมาคว้าบอลลูกเปิดจากด้านข้าง
และแล้วนาทีฮีโร่ ของ ดาบิด ราย่า ก็มาถึงเพียงช่วงต้นครึ่งหลังเท่านั้น เพราะปืนใหญ่เสียจุดโทษ ทำให้ ราย่า ต้องดวลตัวต่อตัวกับ มาเตโอ เรเตกี ซึ่ง ราย่า ก็อ่านทางลูกยิงเรียดของ เรเตกี ได้อย่างยอดเยี่ยมพุ่งเซฟได้ แถมยังไวพอมาควักลูกโขกซ้ำต่อเนื่องของหอกชาวอิตาลี บนเส้นได้อย่างสุดยอด
จุดโทษที่เซฟได้ทำให้ ราย่า กลายเป็นนายทวารปืนใหญ่เพียงรายที่ 4 ต่อจาก ริชาร์ด ไรท์ - เยนส์ เลห์มันน์ และ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ที่เซฟจุดโทษบนเวที ยูซีแอล ได้ นอกจากนี้หลังผ่าน5นัดในรวมทุกรายการ ราย่า เก็บไปได้ถึง4คลีนชีต และเสียไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น
ส่วนอีกคนที่ไม่ชมคงไม่ได้นั่นก็คือ วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่ยกระดับการเล่นตัวเองขึ้นมาเป็นเซ็นเตอร์ระดับโลก เมื่อคืนกองหลังชาวฝรั่งเศส ไม่พลาดท่าให้แนวรุกเจ้าบ้านเลย จังหวะดักบอล สกัดบอล อ่านเกม หรือเวลาที่ต้องวิ่งไล่กวด แนวรุกคู่แข่ง ซาลิบา เก็บกินได้หมด
มาร์ติเนลลี่ ทำเสียของ / ขาด โอเดการ์ด ไอเดียหาย
ไม่รู้ว่าเอาฟอร์มร่างทองฤดูกาล 2022-2023 กับผลงาน15ประตู 5แอสซิสต์ จาก 36นัดในลีกไปทิ้งไว้ไหนเหมือนกันสำหรับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เพราะฤดูกาลที่แล้วจำนวนหดหายลดลงเหลือ 6ประตู 4แอสซิสต์ เท่านั้น ซึ่งช่วงท้ายๆปีกชาวบราซิลมีหลุดเป็นสำรองเหมือนกัน
เมื่อคืนเกมบุกไปเยือน อตาลันต้า กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้รับความไว้วางใจให้ออกสตาร์ทตัวจริงริมเส้นฝั่งซ้ายก่อน เลอันโดร ทรอสซาร์ แม้ว่านัดกับสเปอร์ส ปีกแดนแซมบ้าจะพึ่งแผลงฤทธิ กับจังหวะโล่งๆไม่เลือกส่งให้ ซาก้า จนกลายเป็นเสียของ
ด้วยรูปเกมที่กลายเป็นเจ้าบ้านบุกเข้าใส่ ทำให้ มาร์ติเนลลี่ มีส่วนร่วมน้อย ในเรื่องของเกมรับถือว่าเจ้าตัวทำได้ดีมากๆกับการช่วยงาน เยอร์เรียน ทิมเบอร์ แต่ทว่าเมื่อต้องดวลกับ ซัปปาคอสต้า ที่ปิดพื้นที่ไม่ให้ใช้ความเร็วมากนัก เจ้าตัวก็หายไปเลย
ที่จริง มาร์ติเนลลี่ มีโอกาสทองสุดๆกับจังหวะแทงหลุดของ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่ทว่ายิงหลุดออกไปแบบเสียน่าเขกกะโหลก หลังเกมยังมีสถิติย่ำแย่ของเจ้าตัวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ยิงเข้ากรอบ - สร้างสรรค์โอกาส -เลี้ยงบอลผ่าน และ ชนะการดวล กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่มีสถิติทุกอย่างเป็น 0ครั้ง
ซึ่งเกมรุกที่ฝืดเคืองของ " เดอะ กันเนอร์ส " มีมาให้เห็นตั้งแต่เกมกับสเปอร์สแล้ว แต่ทว่ามีทีเด็ดตรงลูกเซ็ตพีซ การหายไปของ โอเดการ์ด ส่งผลต่อไอเดียเกมรุก เพราะเพลย์เมคเกอร์แดนโคนม เป็นผู้กำหนดทิศทางแนวรุกของทีม มีลูกจ่ายทะลุ ส่วนทั้ง ฮาแวร์ตช์ และ เชซุส ที่ลงต่ำมาเล่น ยังเซนส์บอลไอเดียห่างจาก โอเดการ์ด เยอะมาก
เรเตกี ท่ายิงก็บอกแล้วว่ามีแววพลาด
ได้ทีก็ยึดตำแหน่งตัวจริงของอตาลันต้า ได้เลย สำหรับดาวยิงคนใหม่ที่ไปสอยมาจาก เจนัว อย่าง มาเตโอ เรเตกี นั่นเป็นเพราะด้วยหัวหอกตัวจริงคนเก่าอย่าง จานลูก้า สคามัคค่า เจ็บต้องพักยาวด้วย โดยชีวิตใหม่ ของ เรเตกี กับทัพแบร์กาโม่ ก็เริ่มได้สุดสวยนะ
เรเตกี กดไปได้4ประตู จาก4นัดแรกใน เซเรีย อา แต่ทว่าพอมาเวทียุโรปถ้วยใหญ่ ที่มีความเข้มข้นและคู่แข่งที่ระดับพระกาฬนั่นทำให้ไม่ใช่งานง่ายแน่ และด่านที่ เรเตกี ต้องดวลด้วยนัดนี้นั่นก็คือ วิลเลี่ยม ซาลิบา และ กาเบรียล มาร์กัลเญส
เรเตกี แม้ว่าจะได้จ่ายบอลน้อย12 ครั้ง แต่ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับการเป็นตัวค้ำในแดนหน้า บังบอลพักบอล และดาวยิงทีมชาติอิตาลี ก็มีโอกาสได้เป็นฮีโร่ของทีม เมื่ออตาลันต้าได้จุดโทษ และเจ้าตัวก็ขออาสายิงเองเลย
ซึ่งก่อนดวลเป้า ก็มีสัญญาณลบๆหลายอย่างมากๆว่า เรเตกี จะยิงไม่เข้า ทั้งใช้เวลาในการทำสมาธิมากเกินไป ถอนหายใจ ซอยเท้าถี่ๆระหว่างยิง มีหยุดชะงัก และก็เป็นไปตามคาด ลูกซัดเรียดของเจ้าตัวถูก ดาบิด ราย่า เซฟได้
แต่โชคก็ยังอยากให้หอกวัย25ปี ได้แก้ตัว บอลยังมาเข้าทางให้ได้โขกซ้ำ แต่ทว่าก็โหม่งไม่หนีมือไปตรงกลางประตูอีก ราย่า เลยได้โชว์ซุปเปอร์เซฟต่อเนื่องอีกครั้งจนอตาลันต้าอดได้ประตูไป ซึ่งถ้าหากให้คนที่ชัวร์กว่าอย่าง ชาร์เลส์ เดอ เคเตอลาเรอ หรือ อเดโมลา ลุคแมน สังหาร น่าจะมีสิทธิเข้าสูงกว่า
เอแดร์ซอน กวาดกินเรียบแดนกลาง
เปอร์เซ็นต์การครองบอลของทั้ง2ทีม แม้ว่าจะ50/50 แต่ทว่ารูปเกมนั้นต้องบอกว่าเป็นอตาลันต้า ที่เป็นฝ่ายคอนโทรลได้มากกว่า โดยเฉพาะใน45นาทีหลัง มิดฟิลด์ของอาร์เซน่อลเมื่อคืนอย่าง ไรซ์ และ ปาร์เตย์ คุมเกมไม่อยู่เท่าไหร่
กลับกลายเป็นแดนกลางของเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าชัดเจนทั้งในรายของ มาร์เทน เดอ โรน และ เอแดร์ซอน ที่ช่วยกันไล่บีบ หรือแก้เพรสเวลาโดนอาร์เซน่อล พุ่งหาเข้าใส่ โดยเฉพาะในรายของห้องเครื่องชาวบราซิลที่แจ่มสุดๆ
เอแดร์ซอน ใช้สเต็ปเท้าที่คล่องแคล่ว หลอก ปาเตย์ จนเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ ตลอดทั้งเกมเจ้าตัวเรียกฟาวล์ให้กับทีมได้มากถึง4ครั้ง ผ่านบอลไป 51หน แม้จะไม่ใช่ตัวรุกแต่ก็เลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นปืนโตถึง 2ครั้ง
จริงๆ เอแดร์ซอน เริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าไหร่ ด้วยการโดนใบเหลืองเพียงแค่ 11นาที แต่ทว่าหลังจากนั้น ทุกหน้าที่ในบทบาทการเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์ แข้งแดนแซมบ้าทำได้ครบเครื่องหมดเลย นั่นจึงไม่แปลกใจเลยกับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังเกม
ส่วน เดอ โรน ที่เคยค้าแข้งยังลีกอังกฤษกับมิดเดิ้ลสโบชร์ ก็ทำหน้าที่ผึ้งงานของตัวเองได้ดีไม่แพ้กัน สกัดกั้นเหล่ามิดฟิลด์ของอาร์เซน่อล อย่าง ไรซ์ - ปาเตย์ รวมไปจนถึง ฮาแวร์ตช์ ให้ทำอะไรได้ไม่ถนัด ห้องเครื่องชางดัตช์ ผ่านบอลมากถึง 61ครั้ง เล่นกันได้อย่างกลมกลืนลงตัวกับ เอแดร์ซอน
แท็กติก กัสเปรินี่ เอาอาร์เตต้าอยู่
เล่นเอาทีมจากพรีเมียร์ลีก ต้องลิ้นห้อย2ทีมเลย สำหรับ อตาลันต้า ปีที่แล้วพวกเขาก็แผลงฤทธิด้วยการเขี่ยลิเวอร์พูล ตกรอบ8ทีม ยูโรป้า ลีก มาซีซั่นนี้่ พวกเขาได้เปิดหัว ยูซีแอล ด้วยการเล่นในบ้านพบกับอาร์เซน่อล ที่ขาดตัวหลักอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด
เริ่มเกมมาราวๆ 10-15 นาทีแรก เป็นทางฝั่งทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ที่ทำได้ดีกว่า แต่ทว่าพอเวลาผ่านไปเรื่อย กราฟของทั้ง2ทีม นั้นสวนทางกันเลย กลายเป็นปืนใหญ่ที่ค่อยๆแผ่ว และอตาลันต้าค่อยๆดีขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง ทัพ " แบร์กาโม่ " ครองเกม และตัดความอันตรายของอาร์เซน่อลได้หมดเลย
กัสเปรินี่ ที่มาด้วยแท็กติกการประกบติดแบบ แมนมาร์ค บวกระบบเกมรับที่เหนียวแน่น บอลเวลาถึงตัวผู้เล่นอาร์เซน่อล หลายครั้งเป็นการหันหลังเล่น ทำให้เล่นช็อตเพลย์ต่อไปได้ยากตลอด โดยเฉพาะในรายของ กาเบรียล เชซุส
ทีมของ มิเคล อาร์เตต้า เห็นได้ชัดเจนว่าแพ้แท็กติกของ จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ ยังดีที่คู่เซ็นเตอร์ของพวกเขาเหนียวแน่น และโกลอย่าง ดาบิด ราย่า โชว์อภินิหารเซฟจุดโทษ และเห็นได้ชัดว่าการขาด โอเดการ์ด ส่งผลต่อแนวรุกทีมมากเพียงใด
เพราะ " เดอะ กันเนอร์ส " มีโอกาสจบสกอร์เพียง6ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดเป็นอันดับ2ในการเล่นเกมเยือน ยูซีแอลของพวกเขาในรอบ 10ปี ซึ่งน้อยที่สุดเป็น 5ครั้ง นัดกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อกันยายน 2014
ตัวริมเส้นอย่าง ซาก้า - มาร์ติเนลลี่ ไม่มีคนจ่ายดึงจังหวะให้มีพื้นที่ได้วิ่งดวลความเร็วให้ ผลเสมอ0-0 เมื่อคืนเท่ากับว่า 4นัดหลังสุดที่อาร์เซน่อลมาเล่นที่อิตาลี พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้เลย แถมยังยิงประตูไม่ได้อีกด้วย 0-1 โรม่า / 0-4 อินเตอร์ มิลาน / 0-2 นาโปลี และล่าสุด 0-0 อตาลันต้า
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อาร์เซน่อล อตาลันต้า ดาบิด ราย่า มิเคล อาร์เตต้า จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ มัตเตโอ เรเตกี
- 257
- 20 ก.ย. 2567 14:52