เซ่น เอลเลียตต์ ! หงส์ ดุ บุกถล่มยูงทอง 3-0 มาเน่ ซัดปิด
หลังจากที่ช่วงวันเสาร์ปล่อยให้บรรดาทีมลุ้นแย่งแชมป์ด้วยกันอย่าง เซลซี - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ลิเวอร์พูล ก็ไม่ยอมตกขบวนดังกล่าวเช่นกัน เมื่อล่าสุดพลพรรคเครื่องจักรสีแดงบุกไปเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้อย่างงดงามและขาดลอย 3-0
เกมที่เอลแลนด์ โร้ด เมื่อวันอาทิตย์ที่12กันยายนที่ผ่านมา ผลจบลงด้วยการบุกมาเก็บ3แต้มอย่างสวยสดงดงามของลิเวอร์พูล 3-0 โดยทีมหงส์แดงได้ประตูไม่ซ้ำหน้ากันจาก โม ซาลาห์ น.20 ฟาบินโญ่ น.50 ก่อนที่สุดหล่อ ซาดิโอ มาเน่ จะมาซัดประตูปิดท้ายตอกฝาโรง น.90+2
ในช่วง15นาทีแรกของเกมเป็นทางฝั่งทองทีมยูงทอง ที่สร้างความกดดันให้กับลิเวอร์พูลอยู่ไม่น้อย ลูกทีมของ มาร์เชโล่ บิเอลซ่า วิ่งไล่บอลเข้ากดดันผู้เล่นลิเวอร์พูล อย่างบ้าคลั่ง แต่ทว่าเมื่อโดนลูกแรกจาก บังโม ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็เหมือนกับรนและพลาดช๊อตไปเองเลยทีเดียว
ก่อนที่จะโดนนำ1-0 ทีมยูงทอง มีโอกาสขึ้นนำก่อนด้วยซ้ำ จากช็อตที่ ราฟินญ่า พาบอลลากเลื้อยบริเวณกราบขวา ก่อนตบเข้ากลางให้ โรดริโก้ ซัดเหน่งๆในเขตโทษ แต่ทว่าแข้งชาวสเปนรายนี้กลับหวดบอลแทบจะกลางประตู ทำให้อลิซซง ไม่ต้องออกแรงเซฟยากมากนัก
หรือแม้กระทั่งช่วงที่ โดนนำ2-0 ทีมเจ้าบ้านก็มีโอกาสทองอีกครั้งเช่นกันกับบอลครอสจากทางด้านซ้าย ที่หลุดไปถึง ลุค อายลิ่ง โล่งๆ แต่ทว่าแบ็กขวาผมยาวรายนี้ กับเลือกที่จะแทงเข่าหมายทำประตู ทำให้บอลกหลุดออกไปแบบไม่ได้ลุ้น ทั้งที่จังหวะดังกล่าว ใช้หัวโหม่ง หรือจับบอลด้วยเท้า1จังหวะแล้วยิงน่าจะได้ลุ้นมากกว่า
ส่วนทางฝั่งหงส์แดง ชัยชนะที่สวยสดงดงามนี้ก็ต้องแลกมากับอาการเดี้ยงหนักของ มิดฟิลด์ดาวรุ่งอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่โดนกองหลังลีดส์อย่าง ปาสกาล สเตราค์ เข้าบอลอย่างน่าเกลียด จนทำให้แข้งวัย18ปีรายนี้ เจ็บหนักจนต้องถูกหามเปลออกจากสนาม
โดยที่ทางสโมสรยังไม่คอนเฟิร์มว่าอาการบาดเจ็บของ เอลเลีตต์ ว่า ข้อเท้าหลุด หรือข้อเท้าหัก แต่ก็เตรียมที่จะเข้ารับการผ่าตัดในเร็วๆนี้
อีกหนึ่งคนที่โดดเด่นมากๆสำหรับทีมเครื่องจักรสีแดงเกมเมื่อคืน ก็คือ ฟาบินโญ่ ห้องเครื่องชาวบราซิล ที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีโคตรๆ ทั้งตัดเกมตรงกลางสนาม ลงมาช่วยเคลียร์บอลในเขตโทษ ชิงจังหวะเล่นสวยๆจากนักเตะลีดส์หลายครั้ง รวมไปจนถึงซัดประตูขลุกขลิกหน้ากรอบเขตโทษ ช่วยให้ทีมหนีห่าง 2-0 แล้วเล่นได้สบายขึ้น
หงส์ เร็ว แรง ทะลุนรก
หลังจากที่ช่วงประมาณ 10-15นาทีแรก เป็นทางฝั่งของทีมเจ้าบ้าน ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ดูเหมือนจะสู้ได้ดีในช่วงที่ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตั้งหลักยังไม่ได้ แต่ทว่าเลยช่วงเวลาโปรโมรชั่นดังกล่าว ก็เป็นทางฝั่งลิเวอร์พูล ที่กลับเข้าสู้สไตล์การเล่นของตัวเองและตั้งลำได้
ยิ่งช่วงที่ขึ้นนำไปแล้ว1-0 พลพรรคหงส์แดงเล่นกันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่ถอยเกียร์หลัง ผู้เล่นทุกคนเวลาที่ได้บอลพยายามส่งบอล หรือควบตะบึงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่งื้องาราคาแพงเคาะบอลไปมา ส่งคืนหลังในจังหวะที่ไม่จำเป็น ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่หวงบอลไว้กับตัวนานกว่าเหตุ
ซาลาห์ - มาเน่ -โชต้า ช่วยกันสร้างความปั่นป่วนปวดหัวให้กับแนวรับทีมเจ้าบ้านเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้จะเลือกประกบใครดี เนื่องจาก เป็นนักเตะประเภทที่มีความเร็ว เลี้ยงกินตัว1ต่อ1ได้ดีทั้งสามราย
ลูกขึ้นนำ1-0 ที่ดูเหมือนจะง่าย แต่จริงๆนั้นไม่ง่ายเลย กับการครอสเรียดไปยังจุดนัดพบ เป๊ะทั้งเวลา และช่องให้ บังโม ซัดเข้าไปไม่เหลือซาก ครึ่งแรกหาก พี่หล่อ ซาดิโอ มาเน่ ไม่ยิงนกตกปลาไปเอง ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะทิ้งห่างเกิน 1-0 ด้วยซ้ำ
การที่ลิเวอร์พูลบุกได้ไม่ยั้งแบบนี้ ส่วนหนึ่งนั่นเป็นเพราะ การได้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กลับมายืมบัญชาการในแนวรับอีกครั้ง ซึ่งส่งผลโดยตรงทำให้ ฟาบินโญ่ ไม่ต้องมายืนแก้ขัดเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ เหมือนเมื่อช่วงฤดูกาลที่แล้ว
เมื่อฟาบินโญ่ ได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดนั่นก็คือมิดฟิลด์ตัวรับ ก็ทำให้ แดนกลางของหงส์แดงอัดแน่นขึ้นไปอีก หงส์แดงเล่นแบบกล้าได้กล้าเสีย เร็ว - แรง -ทะลุนรก เหมือนฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ เพราะว่ามีขุมกำลังที่กลับมาสมบูรณ์กว่าซีซั่นทีผ่านมานั่นเอง ทั้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ และมิดฟิลด์
มาเน่ ใช้โอกาสเปลืองมากไปหน่อย
เข้าใจว่า พี่ณเดชของแฟนบอลหงส์แดงนั้นตั้งใจมากๆที่จะสลัดฟอร์มฝืดจากซีซั่นที่แล้วที่เจ้าตัวกระทุ้งไปได้เพียงแค่ 11ประตูในพรีเมียร์ลีก และยังมีฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงอย่างชัดเจนเมื่อปลายฤดูกาลที่แล้ว
ฉะนั้นนี่จึงเป็นฤดูกาลที่ มาเน่ ตั้งใจมากๆที่จะกลับมาเป็นดาวเตะประเภทจอมถล่มตาข่ายอีกครั้ง ความตั้งใจและความมุ่งมั่นนั้นเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วสำหรับนักฟุตบอลอาชีพ แต่ทว่าถ้ามันมากเกินกว่าเหตุ นั่นก็อาจทำให้เกมในสนามของทีมขาดสมดุลได้เหมือนกัน
เกมกับลีดส์เมื่อคืน ซาดิโอ มาเน่ กดไปได้1ตุงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ทว่าตลอด90นาที แข้งชาวเซเนกัลรายนี้ พลาดโอกาสทำประตูที่น่าจะเปลี่ยนให้มีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้ 2-3 ครั้ง แต่ทว่าเจ้าตัวก็ยิงนกตกปลาไปเสียหมด
ไม่ว่าจะเป็นลูกที่ ซาลาห์ จ่ายให้เจ้าตัวหลุดเข้าไปยิงแต่ทว่าดาวเตะชาวเซเนกัลรายนี้ซัดถากเสาไกลออกไป รวมไปจนถึงจังหวะจ่ายของโชต้า ที่มาเน่ ทำได้เพียงแค่ซัดไปติดเซฟเมสลิเย่ร์
และที่น่าเป็นประตูสุดๆ คือช็อตในครึ่งแรก โชต้าเก็บบอลได้ทางเริมเส้นกราบขวาปาดมาให้ มาเน่ ที่ได้กวาดตัวชาร์จจ่อๆโล่งๆ6หลา แต่เจ้าตัวกับสังหารโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
และยังมีจังหวะที่แข้งเบอร์10รายนี้ หวงบอลเลือกที่จะยิงเองแล้วไปติดบล็อก แทนที่จะส่งให้ ซาลาห์ ที่อยู่ในพิกัดทำเลทองที่ดีกว่า
มาเน่ ดูจะดีใจมากๆ ที่สามารถกดประตูตอกฝาโรงให้กับทีม รวมถึงมันเป็นความพยายามที่สัมฤทธิผลของเจ้าตัว จากโอกาสหลายๆครั้ง หากอดีตแข้งเซาธ์แธมป์ตันรายนี้มีความเฉียบคมสักหน่อย ทีมอาจถล่มไปได้สัก 4-0 ถึง 5-0 ก็เป็นได้ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามลูกที่เจ้าตัวซัดได้ น่าจะเพิ่มความมั่นใจได้ไม่มากก็น้อย เพราะถ้าหากฝืดไปเรื่อยๆความกดดันยิ่งจะมากขึ้น
ฟาบินโญ่ ร่างทองคำ
หลังจากที่ซีซั่นที่แล้วใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ แม้ว่าเจ้าตัวจะถือว่าสอบผ่านใช้ได้ แต่ทว่ามันน่าเสียดายไม่น้อยที่แข้งหน้าเหมือน "หมอปลา" ไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัดและเฉิดฉายที่สุดอย่างมิดฟิลด์
จากที่อาจโดนโทษแบนจากฟีฟ่า ไม่ให้แข้งชาวบราซิลลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้ แต่ก็เพราะความร่วมใจกันของหลายๆทีมทำให้ เคสนี้อะลุ่มอล่วยได้ เกมฟัดกับลีดส์ ฟาบินโญ่ ได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งมิดฟิลด์ร่วมกับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า
นอกจากจะทำประตูให้ทีมฉีกหนีห่าง 2-0 ช่วยให้ทีมเล่นได้ง่ายมากขึ้นแล้ว รายละเอียดเนื้องานในเกมต้องบอกเลยว่า ฟาบินโญ่ งานเนี๊ยบเข้าขั้นเพอร์เฟกต์มากๆ แม้ว่าจะโดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม นี่คือผู้เล่นที่ดักบอลฉกบอล จากการขึ้นเกมรุกจากตรงกลางสนามได้หลายครั้ง อยู่ถูกที่ถูกเวลาตลอดเวลาที่ต้องเล่นเกมรับ
ฟาบินโญ่ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้ง เอาชนะการดวลลูกกลางอากาศได้ 100% สัมผัสบอลมากถึง55ครั้ง - ตัดบอลได้มากที่สุดในสนาม5ครั้ง มีโอกาสซัดประตูได้ถึง3หน และเคลียร์บอลในจังหวะอันตราย2ครั้ง
การเล่นของ ฟาบินโญ่ ทำให้มิดฟิลด์อีก2รายอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ปั้นเกมขึ้นเกมกันได้อย่างสนุกสนาน เพราะเจ้าตัวคอยทำงานสรกปกปัดกวาดเซ็ดถูให้อยู่ เมื่อคืนเราจะได้เห็นมิดฟิดล์วัย27ปีรายนี้อยู่แทบจะทุกทั่วพื้นที่ของสนาม
ลูกที่ซัดใส่ทีมยูงทอง นี่คือประตูแรกในรอบ15เดือนของ ฟาบินโญ่ เลยทีเดียว และรางวัล แมน ออฟ เดอะแมตช์ ก็คู่ควรแล้วสำหรับห้องเครื่องคนเก่งหมายเลข3ของทีมหงส์แดงคนนี้
หายเร็วๆนะ เจ้าหนู ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
หลังจากโชว์ฟอร์มเด่นเอาชนะใจ เจอร์เก้น คล็อปป์ ด้วยการได้ลงสนามเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก 3นัดติดต่อกัน เกมกับลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อคืน แม้จะดูติดเลี้ยงไปบ้างตามสไตล์ของ นักเตะประเภทตัวรุกริมเส้นที่ถูกปรับมาเล่นมิดฟิลด์
แม้ว่าจะอายุเพียงแค่18ปี แต่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ การสร้างสรรค์เกม ไหวพริบในการเล่นจังหวะที่โดนรุมหรือบอลจวนตัวได้เป็นอย่างดี การประสานงานกับ บังโม และ เทรนต์ นี่คือสิ่งที่อดีตดาวเตะทรงผมสับปะรดรายนี้ ทำได้ดีมาตลอด3นัด
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามชัยชนะขาดลอย3-0ของ ลิเวอร์พูล ก็ต้องสังเวยแลกมาด้วยอาการเดี้ยงหนักของเจ้าตัว ที่โดนกองหลังลีดส์อย่าง ปาสกาล สเตราค์ เข้าทำฟาวล์อย่างน่าเกลียด เพียงแค่ได้เห็น รีแอคชั่น ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เรียกแพทย์สนามวิ่งเข้ามาดู ก็รู้ได้ทันทีว่าหนักหนาร้ายแรงขนาดไหน
ผู้เล่นลีดส์ขึ้นชื่ออยู่แล้วในการเล่นที่ดุเดือดเลือดพล่าน หลายคนอาจงงว่ามันเป็นฟาวล์ถึงขั้นใบแดง แต่ทำไมหงส์แดงไม่ได้เล่นลูกฟรีคิกจังหวะดังกล่าว ซึ่งตามกติการก็ระบุไว้ชัดเจนว่า จะเป็นการฟาวล์หรือไม่ฟาวล์ แต่ก็เป็นใบแดงได้เสมอ หากทำให้ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามเจ็บหนัก
อาการของเจ้าหนู เอลเลีตต์ น่ากังวลไม่น้อยเพราะยังไม่มีการรายงานจากทางสโมสรว่า ข้อเท้าหลุด หรือร้ายแรงถึงขนาดข้อเท้าหักกันแน่ แต่ทว่าที่แน่นอนก็คือแข้งวัย18ปีรายนี้ น่าจะได้หายหน้าหายตาไปจากทีมชุดใหญ่ลิเวอร์พูลระยะหนึ่ง
การที่เป็นแข้งผู้เล่นดาวรุ่งและกำลังโชว์ฟอร์มได้ดีวันดีคืน แล้วมาเจออาการบาดเจ็บหนักแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อย แต่ช่วงที่ถูกหามเปลออกจากสนาม เอลเลีตต์ ก็ยังปรบมือให้แฟนบอลในสนาม รวมถึงอัพเดตอาการต่างๆผ่าน อินสตราแกรม
ด้วยจิตใจของความเป็นนักสู้น่าจะทำให้เจ้าตัวหายกลับมาลงสนามด้วยความมั่นใจได้อีกครั้ง...หายเร็วๆนะ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
ลีดส์ไม่คม และการประเดิมของ แดเนี่ยล เจมส์
เหมือนลีดส์จะเจอกับความยากลำบากของซีซั่นที่2ในพรีเมียร์ลีกบ้างแล้ว ฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขา สร้างความหนักอกหนักใจเป็นอย่างมากให้กับทีมใหญ่ แต่ทว่ามาในฤดูกาลนี้ การดวลกับทีมระดับบิ๊กซิก 2ทีมแรกลูกทีมของ มาเชโล่ บิเอลซ่า แพ้เละเทะมา 1-5 และ 0-3
เกมที่แพ้ให้กับทีมหงส์แดงเมื่อคืนไม่ใช่ว่าทีมดังย่านยอร์คเชียร์รายนี้ จะไม่มีโอกาสในการส่องประตูเลย พวกเขาพลาดโอกาสจ่อๆหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการได้ยิงเหน่งๆในกรอบ เขตโทษของ โรดริโก้ ที่ซัดไม่หนีตัวอลิสซง
ตัวสำรองอย่าง ไทเลอร์ โรเบิร์ตส ที่ได้ยิงแต่ปั่นหลุดกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้น ส่วนแบ็กขวาอย่าง ลุค อายลิ่ง ได้จังหวะส้มหล่นจากลูกเปิดจากทางกราบขวา แต่ทว่าเจ้าตัวกลับตื่นเต้นไปหน่อยหรืออะไรไม่ทราบกลับเลือกที่จะทำประตูโดยการแทงเข่าซะอย่างงั้น
จังหวะพยายามลักไก่ของ พาทริค แบมฟอร์ม เกือบ50หลา ก็ใกล้เคียงเช่นกัน ในแนวรุกของทีมยูงทองมีเพียงแค่ ราฟินญ่า กับ แบมฟอร์ด เท่านั้นที่ดูพอจะฝากผีฝากไข้ได้ ส่วน แดนี่ยล เจมส์ ลงมาเป็นตัวสำรอง แทน แจ็ค แฮร์ริสัน
ปีกชาวเวลส์รายนี้ ลงมาสร้างความวูบวาบได้พอสมควร เพราะจัดเป็นแข้งจรวดทางเรียบอยู่แล้ว แต่ทว่าก็ได้แค่นั้น เจมส์ ยังเลี้ยงไม่ผ่าน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ รวมถึงยังครอสบอลเข้าไปในเขตโทษไม่ได้ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเจ้าตัวไม่ได้รับการสนับสนุนเติมขึ้นมาช่วยของแบ็กซ้ายอย่าง จูเนียร์ ฟีร์โป้ ด้วย
- คอลัมน์นิสต์
- 390
- 13 ก.ย. 2564 14:10