เคน อาภัพ ! สเปน เชือด อังกฤษ 2-1 แชมป์ยูโร 2024 โอยาร์ซาบาล โจ๊กเกอร์ ซัดชัย

คู่ควรและเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงจริงๆสำหรับสเปนกับแชมป์ ยูโร 2024 เพราะพวกเขาโชว์ฟอร์มผลงานได้ดีตลอดทัวร์นาเม้นต์ แถมยังเป็นบอลเกมบุกสวยงาม เล่นสนุกและมีเสน่ห์ โดยนัดชิงชนะเลิศพวกเขาเอาชนะ ทีมชาติอังกฤษที่รอแชมป์เมเจอร์ มาตั้งแต่ปี 1966 ไป 2-1โดยทีมชาติสเปน แม้จะมีรูปเกมที่เหนือกว่าแต่ทว่ากว่าจะมาได้ประตูชัย ตัดสินแชมป์ ก็ต้องรอไปจนถึงท้ายเกม

 

เกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2024 ที่สนาม โอลิมเปีย สตาดิโอน ในกรุงเบอร์ลิน เป็นการดวลกันของ สเปน และ อังกฤษ โดยก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้นทัพ " ลา โรฆา " ได้2ผู้เล่นตัวหลักอย่าง ดานี่ การ์บาฆาล และ โรแบ็ง เลอ นอร์กม็อง ที่พ้นโทษแบนสะสมใบเหลือง2ใบกลับมาลงสนาม



กุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ มาในระบบ 4-3-3 ชุดฟูลทีม ตัวรุกซ้ายขวาจี๊ดจ๊าดทั้ง ลามีล ยามาล และ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ส่วนอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาในระบบเดิมที่ได้ผลสองนัดหลังสุด 3-4-2-1 เน้น3เซ็นเตอร์ และมีการปรับเปลี่ยนตัวจริงตำแหน่งเดียวคือ ลุค ชอว์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง วิงแบ็กซ้ายแทน คีแรน ทริปเปียร์
 

นอกนั้นชุดเดิมหมด แฮร์รี่ เคน เป็นหน้าเป้า เริ่มเกมมาต้องบอกว่าเป็นไปตามคาด เพราะฝั่งสเปนที่ต่อบอลกับเท้าได้แม่นยำ เหนือกว่าอย่างชัดเจน แดนกลางอย่าง โรดรี้ และ ฟาเบียน ลุยซ์ หรือกว่า ค็อบบี้ ไมนู กับ เดแคลน ไรซ์ ชัดเจน อังกฤษเวลาได้บอล ถูกบีบเร็วจากทุกทิศทุกทาง ดีที่แนวรับอังกฤษนังเหนียวแน่น 45นาทีแรกเจ๊ากันไปที่ 0-0
 

อย่างไรก็ตามเริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง2นาที สเปนที่ต่อบอลเร็วทำเอาแนวรับอังกฤษถอยล่นตามเชฟไม่ทัน บอลไหลไปถึงในเขตโทษฝั่งซ้าย นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ได้สังหารเข้าไปไปไม่เหลือขึ้นนำ1-0 น.47 หลังจากนั้นสเปนก็หวิดจะได้เม็ด2หลายครั้ง แต่ยิงออกไปเอง และติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด 

และแล้ว " ทรี ไลออนส์ " ที่ดูเหมือนเล่นแบบไม่มีอะไรก็ตามเจ๊าจนได้ จากจังหวะฉาบฉวย จู๊ด เบลลิงแฮม ไหลให้ ตัวสำรอง โคล พาลเมอร์ ได้ยิงไกลเรียดนอกกรอบเขตโทษเสียบมุมเข้าไปสุดสวย ตีเสมอ 1-1น.73
 

หลังจากนั้น โมเมนตัม ก็เหมือนเหวี่ยงมาทางทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ราวๆ 5-10 นาที แต่ทว่าก็ไม่มีจังหวะใกล้เคียงจะพิชิตสเปนได้ จนท้ายที่สุดแล้ว ด้วยการต่อบอลที่สวยงาม แต่น้อยจังหวะ สเปนก็มาได้ประตูชัยตัดสินแชมป์ยูโร 2024

มาร์ค กูกูเรย่า ที่ในยูโรนี้ เล่นเป็นคนละคนกับเวลาสวมเสื้อเซลซี เปิดบอลเรียดจากฝั่งซ้ายมาให้ กองหน้าตัวสำรอง มิเกล โอยาร์ซาบาล พุ่งชาร์จจ่อๆเข้าไป 2-1 น.86 หลังจากนั้นอังกฤษพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะตีเสมอ
 

และเกือบได้จริงๆจากจังหวะโขก ลูกชุลมุนต่อเนื่องของ มาร์ก เกฮี แต่ทว่าโดน ดานี่ โอลโม่ เคลียร์ได้บนเส้น ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอังกฤษพยายามอย่างมากที่จะตามเจ๊า แต่ทว่าบอลยาวไดเร็คของพวกเขาไม่มีความไม่ยำเลย จบเกม 90นาที จึงเป็นสเปนที่คว้าแชมป์ ยูโร 2024 ได้อย่างยิ่งใหญ่และคู่ควร ด้วยสไตล์การเล่นอันสวยงาม
 

แฮร์รี่ เคน อาภัพแล้วอาภัพอีก

เกือบแล้วเกือบอีกจริงๆ สำหรับ แฮร์รี่ เคน ที่ยังคงคาเร็กเตอร์ที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่ นั่นก็คือเป็นจอมอกหักในนัดชิงชนะเลิศ เพราะรวมเกมกับสเปนเมื่อคืน นี่คือแมตช์ชิงดำหนที่6แล้ว ที่ยอดดาวยิงรายนี้ต้องอกหักจาก โทรฟี่ แชมป์
 

ส่วนเมื่อคืน เคน ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามคาด มองย้อนไปทั้งทัวร์นาเม้นต์ ดาวยิงจาก บาเยิร์น มิวนิค ทำไปได้3ประตู เป็นดาวซัลโวร่วม แตทว่าเมื่อดูจากรายละเอียดหลายนัด ก็จะเห็นว่ากัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้ มีฟอร์มการเล่นที่ต่ำกวามาตรฐาน
 

อาจจะเพราะระบบไม่เอื้ออำนวยให้ แฮร์รี่ เคน ด้วย เพราะสิงโตคำรามภายใต้อุ้งมือของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ใช่ทีมเน้นเกมบุกแต่อย่างใด ทำให้เวลาบอลมาถึงตัว เคน จะเป็นบอลที่เล่นยาก หันหลังให้โกลตลอด รวมถึงความเร็วและความคล่อง ของเจ้าตัวก็หายไปด้วย
 

บวกกับเซาธ์เกต มาเผยหลังจบเกมว่า เคน ไม่พร้อมเท่าไหร่สำหรับเกมนี้ ตลอด61นาทีในสนาม ดาวยิงวัย30ปี มีโอกาสยิงแค่1ครั้งเท่านั้น ผ่านบอล10ครั้ง แต่ก็เข้าเป้าเพียง5หน ซึ่งการที่ โอลลี่ วัตกินส์ ลงมาแทน ตั้งแต่ น.61 เกมของสิงโตคำรามในพื้นที่สุดท้ายไหลลื่นขึ้น
 

หลังจบนัดชิงนี่คือ การคว้าบทพระรองในยูโร หนที่2ของเจ้าตัวแล้ว 643นัด 406 ประตูทั้งในนามทีมชาติและสโมสร ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 3สมัย / ดาวซัลโว บุนเดสลีก้า สมัย การไม่มีโทรฟี่แชมป์ติดมือเลย แม้แต่ถ้วยเดียว นั่นเป็นสิ่งที่โหดร้ายมากๆ สำหรับ แฮร์รี่ เคน และก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะลบอาถรรพ์นี้ลงได้ตอนไหน
 

บัลลง ดอร์ อาจอยู่ในแข้งทีมชาติสเปน


แม้ว่าจะเล่นได้ไม่ดีนักในรายการยูโร 2024 แต่ทว่าหากเกิดจับพลัดจับผลู อังกฤษได้แชมป์ขึ้นมา เชื่อว่ามีสิทธิมากๆเลยที รางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปีนี้ จะตกเป็น ของ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ยิงประตูได้เยอะ และ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ รายการใหญ่กับ เรอัล มาดริด ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ลาลีก้า
 

แต่ทว่าพอแชมป์เป็นของสเปน ก็น่าคิดเหมือนกันว่า บอลทองคำจะเป็นของใคร ซึ่งคนที่โดดเด่นคู่ควรนั่นก็คือ โรดรี้ ที่มีแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว ห้องเครื่องวัย28ปี เล่นดีมากทุกนัดกับสเปน
 

เมื่อคืนกับอังกฤษ แม้จะอยู่ในสนามแค่ 46นาที ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกให้ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ มาแทน ซึ่งห้องเครื่องจาก เรอัล โซเซียดาด ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนกันในฐานะมวยแทน ผ่านบอลแม่นยำ 91% และเข้าแท็กเกิ้่ลได้3ครั้ง
 

ทุกรอบที่ผ่านมา โรดรี้ โดดเด่นมากๆในแผงกลางสเปน เพราะเป็นคนคอยเชื่อมกับ ดานี่ โอลโม่ และ ฟาเบียน รุยซ์ แถมยังเล่นเกมรับได้ แย่งบอลแม่น คุมจังหวะเกมดี ไม่แปลกใจเลยที่แข้งจาก ซิตี้ รายนี้ จะได้รางวัลผู้เล่นประจำทัวร์นาเม้นต์
 

ส่วน ดานี่ การ์บาฆาล ที่มี2แชมป์ใหญ่กับ เรอัล มาดริด แม้จะคว้าแชมป์ ยูโร แต่ก็มีสิทธิยากหน่อย ตรงที่เป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็ก แม้ว่าปีนี้แบ็กวัย 32ปี จะสุดมากๆทั้งเกมรับและรุก 7ประตู 4แอสซิสต์ ทั้งในนามทีมชาติและสโมสร และเราแทบไม่เห็น การ์บาฆาล แสดงอาการเหนื่อยหรือหมดแรงเลย ทั้งที่วิ่งสู้ฟัดเกือบตลอดทั้งเกม
 

สเปน ทดแทนกันได้หมด รู้จักฮีโร่ โอยาร์ซาบาล 

หนึ่งจุดที่น่าชื่นชมของทัพ " ลา โรฆา " ในทัวร์นาเม้นต์ ยูโร 2024นี้ นั่นก็คือ ผู้เล่นที่เรียกตัวมา26คน เป็นไปในทิศทางไทป์สไตล์เดียวกัน ต่อบอลแม่นยำ เซนส์ฟุตบอลเยี่ยม ทักษะเบสิกพื้นฐานฟุตบอลดี เราจึงได้เห็นหลายๆนัด เมื่อมีการเปลี่ยนตัวสำรองลงมา ไม่ค่อยมีใครเหลื่อมล้ำหรือทำให้ระบบเสียเท่าไหร่
 

เอาชัดเจนที่สุดคือรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายกับ อัลแบเนีย ที่เปลี่ยนผู้เล่นชุดตัวจริงไปมากถึง 10คน มีเพียง อายเมริค ลาป๊อกร์ต เท่านั้น ที่เป็นชุดตัวจริงปรกติ แต่ทว่ารูปเกมสไตล์การเล่นของพวกเขา ไม่ได้ดร็อปหรือเปลี่ยนไปเลย แม้ว่าจะเอาชนะได้แค่ 1-0 ก็ตาม
 

ตำแหน่งหลังกองหน้า (เบอร์10) ที่ตอนแรกเป็นตำแหน่งของ เปดรี้ แต่ทว่าพอแข้งจากบาร์ซ่าปิดเทอมยาว ดานี่ โอลโม่ ที่เข้ามาแทน กลับกลายเป็นว่าดีกว่าเดิมเสียอีก โดยเฉพาะในเรื่องเกมรุก เพราะแข้งจาก ไลป์ซิก กดไปได้ถึง3ประตู
 

นัดกับเยอรมัน สำรองที่ลงมาอย่าง มิเกล เมริโน่ ก็สามารถทำประตูชัยในช่วงต่อเวลา120นาทีได้ หรือรอบรองชนะเลิศกับทีมกับฝรั่งเศส กาบาร์ฆาล ติดโทษแบน ทำให้ตำแหน่งแบ็กขวา เซซุส นาบาส ในวัน38ปี แม้ไม่ได้ดีมากแต่ก็พอแก้ขัดไปจนถึง น.58 แบบไม่ช้ำเท่าไหร่
 

นัดชิงกับอังกฤษ ผู้มาแทน โรดรี้ ช่วงพักครึ่งอย่าง มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ก็ไม่มีอะไรผิดพลาด ทำได้ตามมาตรฐานไม่ใช่จุดอ่อน ส่วนผู้ยิงชัย มิเกล โอยาร์ซาบาล ที่เป็นตัวจริงแค่นัดเดียวในรายการแทนนี้ ลงมาแทน อัลบาโร่ โมราต้า 
 

ชื่อเสียงของ โอยาร์ซาบาล อาจไม่คุ้นหูมาก แต่ต้องไม่ลืมว่านี่คือดาวยิงสูงสุดของสโมสร เรอัล โซเซียดาด เมื่อฤดูกาลทีแล้วเลย 14ประตู รวมทุกรายการ แถมยังเคยติดทีมชาติสเปนมาแล้วก่อนหน้าแล้วถึง 36 นัด ยิงไป12ประตู (ก่อนนัดชิง) ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอควรในนามทีมชาติ
 

กุนซือแก่ ถูกโฉลกทีมชาติสเปน เด ลา ฟวนเต้ ขอไปไกลกว่านี้

ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นต์ แม้ไม่ใช่ตัวเต็งจ๋าเหมือนกับ ทีมชาติฝรั่งเศสและอังกฤษ แต่ทว่าฟอร์มก่อนมายูโร 2024 ต้องบอกว่าสเปน ดีมากๆจริงๆ ปี 2023 6นัด ในรอบคัดเลือก พวกเขาชนะรวด ก่อนเริ่มรายการอุ่นเครื่องทั้ง2นัด ก็ถล่มทั้ง อันเดอร์ร่า และ ไอร์แลนด์เหนือ 5-0 และ 5-1
 

สเปน เล่นฟุตบอลสวยงาม สไตล์โดดเด่น เน้นเกมรุกเท้าสู่ท้าว ลดการจ่ายไปมาไม่คืบหน้าแบบติกิ - ตาก้า มาเป็นเน้นไปข้างหน้ามากขึ้น พวกเขาเอาชนะคู่แข่งได้7นัดรวด (มี แค่นัดกับ เยอรมัน ที่เอาชนะได้ช่วงต่อเวลา 120นาที) เอาอัดทีมใหญ่เพียบทั้ง โครเอเชีย - อิตาลี - เยอรมัน - ฝรั่งเศส และนัดชิงกับอังกฤษ
 

แมตช์ชิงดำพวกเขาเหนือกว่าทัพสิงโตคำรามชัดเจน ครองบอล 63 ต่อ 37 ยิงมากกว่า 10 ต่อ 5 แถมจังหวะยิงหลายครั้งก็โดย จอร์แดน พิคฟอร์ด ซุปเปอร์เซฟ เอาไว้ ส่วนกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ก็สร้างประวัติศาสตร์พาสเปน 3ชุด คว้าแชมป์ ยูโรได้ทั้ง ชุด ยู-19 ยู21

นักเตะชุดใหญ่บางรายก็มาจากชุดเล็กในอดีตทั้ง ฟาเบียน ลุยซ์ - ดานี่ โอลโม่ รวมไปจนถึง ผู้ยิงประตูชัย โอยาร์ซาบาล 
โอเคแม้ว่าชื่อเสียงจะโนเนมสำหรับ เด ลา ฟวนเต้ แต่ทว่านี่คือผู้ทีรู้จักฟุตบอลสเปนมาอย่างดี เพราะอยู่ทำงานกับสมาคมมาตั้งแต่ปี 2013 
 

โดยหลังได้โทรฟี่ อองรี เดอโลเนย์ กุนซือวัยเก๋ารายนี้ ยังได้พูดในทำนองว่า จะพาทัพกระทิงดุชุดปัจจุบัน คว้าแชมป์ให้ได้มากกว่านี้อีก ส่วนสเปนถือว่าพวกเขาถูกโฉลกกับผู้จัดการทีมจอมเก๋าเหมือนกัน เพราะแต่ละรายที่พาคว้าแชมป์ได้อายุเยอะทั้งนั้น
 

หลุยส์ อาราโกเนส ยูโร 2008 อายุ 69 ปี /  บีเซนเต้ เด บอสเก้ บอลโลก 2010 อายุ59ปี / และ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ยูโร 2024 อายุ 63ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นในช่วงปี2000เป็นต้นมา เหล่ากุนซืออายุไม่แก้มากเข้ามารับตำแหน่งแต่ก็ไม่เคยพาประสบความสำเร็จเลยทั้ง เฟร์นานโดร เอเยร์โร่ หรือแม้กระทั้ง จูเลียน โลเปเตกี
 

เซาธ์เกต ยังยุติฝันร้ายให้คนอังกฤษไม่ได้ 



ไม่รู้ว่าเป็นคำสาปหรืออาถรรพ์อะไรกันแน่สำหรับทีมชาติอังกฤษ หลังจากคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 มาจนถึงปัจจุบัน เวลาล่วงเลยมากว่า58ปี อังกฤษก็ไม่เคยได้ชูโทรฟี่แชมป์อีกเลย ยูโร 2020 หนที่ได้เป็นเจ้าภาพ แต่ก็จบที่รองแชมป์ พ่ายดวลจุดโทษต่ออิตาลี
 

การชิงดำกับสเปนเมื่อคืน ต้องยอมรับตรงๆว่าตั้งแต่ก่อนเกมอังกฤษดูเป็นรองมากๆ ในเรื่องของระบบทีมและแผนการเล่น หรืออาจรวมถึงทักษะเชิงบอลความแพรวพราวต่างๆของผู้เล่นด้วย เซาธ์เก็ต มาในระบบ 3-4-2-1
 

เน้นความรัดกุม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าจะถูกต้องกับการเจอทีมยักษ์ใหญ่ กับการเน้นปลอดภัยไว้ก่อน อย่างไรก็ดี " ทรี ไลออนส์ " ก็ดูจะมีจุดบอดตรงที่ วิงแบ็กขวา ที่เป็น บูกาโย่ ซาก้า เกมรุกแข้งจากอาร์เซน่อล ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ทว่าเกมรับ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ ซาก้า ถนัดแต่อย่างใด
 

ประตูของสเปนทั้ง2เม็ด มาจากการเจาะและไปจบทางฝั่งขวาหมด การไม่ใช้วิงแบ็กธรรมชาติเล่นเวลาเจอกับสเปน นั่นเป็นเหมือนประมาทไปหน่อย เรื่องรูปเกมเป็นรองไม่ใช่อะไรที่แปลกแต่อย่างใด แต่ทว่าก็น่าเสียดายที่อังกฤษ ปล่อยให้คู่แข่งเล่นง่ายไปหน่อย ไม่มีลูกหนัก เข้าอัด (เหมือนกับเยอรมัน ที่ทำแล้วได้ผล)
 

การเข้าถึงบอล บีบเร็ว ไม่มีให้เห็น เราจึงเห็นบางจังหวะ กองหลังอย่าง อายเมอริค ลาป๊อร์กต์  พาบอลจากแดนหลังตัวเองลากมากลางสนามดื้อๆเลย ซึ่งเมื่อแท็กติกไม่ได้กดดันหรือตัดกำลังคู่แข่ง ทำให้กลับกันเมื่อสิงโตคำรามได้บอล แดนกลางของพวกเขาอย่าง  ค็อบบี้ ไมนู และ เดแคลน ไรซ์ โดนบีบทุกทิศทุกทางจนทำอะไรไม่ได้
 

แม้ว่าจะโดนตำหนิเยอะ และกรุยทางไปได้ไกลถึง นัดชิง ยูโร 2020 และ 2024 อันดับ 4ฟุตบอลโลก 2018 และรอบ8ทีม บอลโลก 2022 เรียกว่าสถิติดีที่สุดในกุนซือทีมชาติอังกฤษหลังบอลโลก 1966 แต่ท้ายที่สุดก็เหมือนไปไม่สุดจริงๆสำหรับ แกเร็ธ เซาธ์เกต และก็เป็นอีกครั้งที่ฟุตบอล isn't coming home ผิดหวังอกหักจนชินสำหรับแฟนบอลเมืองผู้ดี