หรือฟุตบอล จะ Coming Home ! สิงโต แรงต่อเนื่อง ทุบ เซเนกัล 3-0
ถ้านับจากตัวเลข การคว้าชัยชนะ ประตูยิงได้ ประตูที่เสีย นี่คือทีมที่โชว์ฟอร์มได้ไฉไลสุดๆในบอลโลก2022นี้ไปเลย สำหรับทีมชาติอังกฤษ ที่มาลุยเวิลด์ คัพ หนนี้ในฐานะตัวเต็งอันดับ 3-4 เมื่อคืนพวกเขาก็ทำสำเร็จไว้ตามเป้าหมายด้วยการผ่าน รอบ8ทีมสุดท้ายแบบไม่ยากเย็นนัก หลังทุบเอาชนะ เซเนกัล ไปได้สบายๆ 3-0
เกมรอบ16ทีมสุดท้าย คู่ที่4 ที่สนาม อัล บายท์ สเตเดี้ยม ระหว่างอังกฤษ ที่เข้ารอบมาในฐานะ ทีมอันดับ1ของกลุ่มบี ดวลกับทีมอันดับ2จากกลุ่มเอ อย่าง เซเนกัล โดยก่อนเกมคาดการณ์กันไว้อยู่แล้วว่า ด้วยคุณภาพชื่อชั้นตัวผู้เล่น " ทัพ ทรี ไลออนส์ " ที่ดูเหนือกว่าอย่างชัดเจน จะเอาชนะและผ่านเข้ารอบไปได้
และผลลัพธ์ 90นาที ก็เป็นแบบที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้นั่นก็คือ อังกฤษ ถล่ม ไป 3-0โดย สิงโตคำรามได้ประตูแบบไม่ซ้ำหน้ากันจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.38 - แฮร์รี่ เคน ที่ปลดล็อคในบอลโลกได้สำเร็จ น.45+3 และปิดท้ายด้วย บูกาโย่ ซาก้า น.57
ถึงแม้สกอร์จะดูขาดลอย แต่ต้องบอกเลยว่าช่วง30นาทีแรก เป็นทางฝั่งลูกทีมของ ริโกแบร์ ซง ที่ทำได้ดีกว่า มีโอกาสลุ้นจะแจ้งใกล้เคียง แต่ทว่าแนวรุกของเซเนกัลเอง ไม่เฉียบคมมากพอ รวมไปจนถึง จอร์แดน พิคฟอร์ด เองก็มีจังหวะเซฟสวยๆ ให้เห็น
ส่วน แฮร์รี่ เคน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งนัดที่ ดาวยิงจากท็อตแน่ม ฮ็อต สเปอร์ส เล่นได้อย่างโดดเด่น เหมือนหลายเกมที่ผ่านมา แต่ทว่าเพิ่มเติมมาเมื่อคื่น นั่นก็คือการมีชื่อบนสกอร์บอร์ดสักที อีกคนที่ฟอร์มแจ่มไม่แพ้กันเลย นั่นก็คือ ฟิล โฟเด้น ที่แฟนๆเรียกๆร้อง ก็มีผลงาน2แอสซิสต์ มาฝาก
สิ่งที่ทีมชาติอังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต สร้างความแตกต่างกับเซเนกัลได้ นั่นก็คือความเฉียบขาดในพื้นที่สุดท้าย โดย2ประตู ที่พวกเขาได้มาในช่วง45นาทีแรก ก็เป็นจังหวะสวนกลับทั้งสองลูก เรียกได้ว่าทีมชุดนี้ มีจุดเด่นในเรื่อง Transition บอลจากรับเป็นรุก ได้น้อยจังหวะ และเห็นประสิทธิภาพสุดๆ
รวมไปจนถึงในแดนกลาง เมื่อ เมสัน เมาท์ ที่เล่นไม่ออกเท่าไหร่ ในทัวร์นาเม้นต์นี้ ทำให้ตัวของ เซาเกธต์ เปลี่ยนระบบจาก 4-2-3-1 มาเป็น4-3-3 ถอดผู้เล่นในตำแหน่งคล้ายๆเพลย์เมคเกอร์ออก แล้วเติมผู้เล่นในตำแห่งมิดฟิลด์เข้ามาแทน เราจึงได้เห็น ทรีโอ้ ที่ลงตัวอย่าง เดแคลน ไรซ์ - จู๊ด เบลลิงแฮม และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ทางฝั่งผู้แพ้และตกรอบอย่างเซเนกัล น่าเสียดายเช่นกันที่ช่วง30นาทีแรก พวกเขามีโอกาสที่จะชิงขึ้นนำอังกฤษไปก่อน แต่ทว่าขาดความละเอียดในจังหวะสุดท้ายกันไปเอง อิสไมร่า ซาร์ ที่เป็นตัวความหวัง ความเร็วและการดวลกับ ไค วอล์คเกอร์ ถือว่าทำได้ดี แต่ทว่าในพื้นที่สุดท้ายแข้งจากวัตฟอร์ด รายนี้ ตัดสินใจได้ไม่ค่อยเนี๊ยบ
สตาร์ดางดังจากเซลซีอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ และ คาลิดู คูลิบาลี่ ไม่ได้ช่วยเซเนกัลเท่าไหร่ ในเกมนี้ (เนื่องด้วยคู่แข่งคุณภาพสูง) ตัวของ เมนดี้ เองในทัวร์นาเม้นต์นี้ แม้จะมีช็อตจังหวะเซฟสวยๆ แต่ทว่าก็มีหลายๆครั้งเหมือนกันที่เจ้าตัว ออกลูกเหวอพลาดแปลกๆให้ได้เห็น
อังกฤษเปลี่ยนจากรับเป็นรุกเยี่ยม
ช่วง30นาทีแรกของเกม ถ้าดูจากโอกาสความเข้าทำ ความจะแจ้งต่างๆควรจะเป็น เซเนกัล ที่ขึ้นนำไปก่อนด้วยซ้ำ แต่ทว่าทีม " สิงโตแห่ง เตรังก้า " ไม่เฉียบขาดกันมากพอ รวมไปจนถึงโกลอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด ก็ไม่พลาดแถม ยังยืนตำแหน่งได้ดีกันอีกด้วย
ประตู1-0 ขึ้นนำก็มาจากจังหวะที่กำลังตั้งรับ เปลี่ยนบอลเร็ว แฮร์รี่ เคน ไหล ไปให้กับ จู๊ด เบลลิงแฮม แล้วตบเข้ากลางมาให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สอดเข้ามายิงตรงจุดนัดพบ แม้ลูกบอลจะไม่แรงและมุมมาก แต่ก็ดีพอจะทำให้ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ได้
ลูก 2-0 ก็เช่นกัน เซเนกัล ที่พึ่งเสียประตูแรกแบบงงๆ ด้วยรูปเกมที่ไม่ได้แย่กว่า เลยพยายามโหมเอาลูกตีเสมอให้ได้ก่อนจบ45นาทีแรก แต่ทว่าบอลโด่งเคลียร์ออกมาของอังกฤษ ตรงกลางสนาม " เจ้าหนูจู๊ด " ดูดบอลลงมาอย่างนิ่มนวล ป้ายต่อให้ ฟิล โฟเด้น ส่งต่อให้ แฮร์รี่ เคน สำเร็จโทษเข้าไป
เราจะเห็นได้ว่านักเตะเลือดผู้ดีชุดนี้หลายคน ด้วยความเร็วและทักษะต่างๆ รวมถึงสไตล์การเล่นของทีมส่วนใหญ่พรีเมียร์ลีกถนัดอยู่แล้ว ทำให้อังกฤษเล่นเกมสวนกลับแบบน้อยจังหวะได้มีประสิทธิภาพมากๆ
นักเตะอย่าง ฟิล โฟเด้น - บูกาโย่ ซาก้า ช่ำชองอยู่แล้วกับรูปแบบการเข้าทำที่รวดเร็วกับสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ยังไม่นับรวด จู๊ด เบลลิงแฮม ที่แม้ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นเพลย์เมคเกอร์ แต่ทว่าสกิลการจ่ายบอลจังหวะคีย์พาสนั้นนิ่งและวิสัยทัศน์ดีเกินเด็กอายุ19จริงๆ
ไรซ์ - เฮนโด้ -จู๊ด สูตรใหม่กลางทรีโอ้สิงโต
โดยปรกติของ แกเร็ธ เซาธ์เกต มักจะเล่นในระบบ 4-2-3-1 อยู่แล้ว หรือเกมที่เจอกับทีมใหญ่ แมตช์สำคัญๆมีความหมาย ก็จะปรับมาเล่นระบบ3เซ็นเตอร์ ส่วนในบอลโลกหนนี้ เมสัน เมาท์ ที่ฟอร์มตกมากับเซลซี รวมถึง เจมส์ แม็ดดิสัน ที่ไม่ฟิตเต็ม100เท่าไหร่ ทำให้อดีตนายใหญ่โบโร่ เปลี่ยนมาเล่นระบบหลัง 4-3-3
โดยมิดฟิลด์ ที่ถูกหย่อนมาเพิ่ม ผนึกกำลังกับคู่ตัวจริงอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม และ เดแคลน ไรซ์ นั่นก็คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ถูกปรามาสเหมือนกันในการมาบอลโลกฉบับกาตาร์ ทั้งฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงไปกับลิเวอร์พูล และอายุที่ปาเข้าไปถึง32ปีแล้ว
ทว่าอย่างไรก็ดี " เฮนโด้ " ก็พิสูจน์ตัวเองมาให้เห็นนัดหนึ่งแล้วในเกมกับเวลส์ ว่าทำผลงานได้ตามมาตรฐาน เกมกับเซเนกัล เฮนเดอร์สัน ก็ไม่ทำให้กุนซือเซาธ์เกต ผิดหวังเลย กัปตันทีมลิเวอร์พูล ขยันทุ่มเทในทุกๆจังหวะ แถมยังแย่งบอลได้ดีอีกด้วย
มิหนำซ้ำยังสอดขึ้นมายิงประตู 1-0 ได้อย่างลงตัว ทางฝั่ง ไรซ์ ที่หลายนัดที่ผ่านมา โชว์ฟอร์มไม่ได้ผิดพลาดอะไรแต่ก็ธรรมดาไปหน่อย แต่เมื่อคืนห้องเครื่องจากเวสต์แฮม คุมจังหวะของเกมได้เป็นอย่างดีในช่วงหลัง30นาทีแรก แถมยังเลี้ยงบอลได้ติดเท้าเวลากระชากสุดๆอีกด้วย มิหนำซ้ำเสียบอลยากและเรียกฟาวล์ได้
ส่วนที่เตรียมเป็นดาวจรัสแสง และค่าตัวพุ่งกระฉูดแน่ๆ นั่นก็คือ จู๊ด เบลลิงแฮม วิสัยทัศน์ในการเล่น การอ่านเกม ความนิ่ง นี่จึงไม่น่าเชื่อว่าฟอร์มดังกล่าวจะอยู่ในร่างเด็กวัย19ปี แถมยังแข็งแกร่งเบียดแย่งบอลด้วยยาก
ดาวรุ่งจากดอร์ทมุนด์ มี1แอสซิสต์ แถมยังเป็นคนดูดบอลลงอย่างนิ่มนวลแล้วพลิกเล่นได้ทันที เลี้ยงตะลุยต่อ ป้ายไปให้ ฟิล โฟเด้น ก่อนไปจบที่ แฮร์รี่ เคน กับประตู 2-0
ชนะการดวล9ครั้ง / แย่งบอลกลับคืนมาได้ 5ครั้ง / แท็กเกิ้ล 4ครั้ง (มากที่สุด) / ตัดบอล2ครั้ง นี่คือสถิติด้านเด่นๆ ของเด็กอายุ19 กับการเล่นทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลกครั้งแรก โดยสื่ออังกฤษหลายสำนัก ได้ยกให้ จู๊ด เบลลิงแฮม เป็น แมน ออฟ เดอะแมตช์ เกมอัดเซเนกัล 3-0 เมื่้อคืนได้เลย
สิงโตคำรามขุมกำลังหมุนเวียนพร้อม (มาก)
2-3ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ขุมกำลังนักเตะทีมชาติอังกฤษพร้อมมากๆ เพราะมีบรรดาแข้งดาวรุ่ง ผู้เล่นหน้าใหม่ โผล่ขึ้นมาฟอร์มดีเป็นตัวเลือกให้หลายราย มาจนถึงเวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์หนนี้
เมสัน เมาท์ ที่ยังสลัดฟอร์มฝืดมากับเซลซีไม่ออก ราฮีม สเตอร์ลิง ก็ต้องบินกลับอังกฤษด่วนเมื่อคืน เพราะที่บ้านโดนโจรปล้น แต่ทว่านั่นก็ไม่ใช่ปัญหาในการจัดทัพของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เลย ฟิล โฟเด้น ที่ตอนแรกเหมือนจะมีสถานะเป็นตัวสำรอง ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงใน2นัดหลัง
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในวัย32ปี ก็เล่นได้เป็นอย่างดีไม่มีพลังหมดกับทีมชาติ โดยยังไม่นับผู้เล่นตัวสำรองอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แจ็ค กรีลิช ที่ลงมาแล้วคุณภาพไม่ได้แตกต่างมากจากคู่ตัวจริง บูกาโย่ ซาก้า -ฟิล โฟเด้น สักเท่าไหร่
โดยเฉพาะ " แรชชี่ " ที่กดไปแล้วถึง3ประตู ในบอลโลกหนนี้ น่าจะเป็นอาวุธเด็ดตัวโจ๊กเกอร์ของทีมได้ ถ้าลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงที่คู่แข่งพลังขาหมดในช่วงครึ่งหลัง ยังไม่นับตำแหน่งแบ็กขวา ที่มีดีกันคนละแบบทั้ง คีแรน ทริปเปียร์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ นี่ยังไม่รวม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ -อาร์โนลด์ ที่มีดีเด็ดเรื่องลูกเปิด แต่ยังไม่ได้รับโอกาสเล่นในทัวร์นาเม้นต์นี้
อีกคนที่ลืมไปไม่ได้เลยคือ เจมส์ แม็ดดิสัน ที่ดูจะยังไม่ฟิตเต็มร้อยและไม่ได้ลงเล่นเลยในบอลโลกหนนี้ อีกหนึ่งกองหน้าตัวสำรองอย่าง คัลลัม วิลสัน ก็พร้อมที่จะสร้างความแตกต่างได้เช่นกัน
แนวรับอังกฤษมีรวน สโตนส์ เด่น
30นาทีแรกของเกมเป็นช่วงที่ทีมชาติอังกฤษ โดน เซเนกัล ที่แม้จะครองบอลได้น้อยกว่า แต่ทว่าจังหวะเข้าทำของทีมจากแอฟริกา สร้างความลำบากใจให้มากสุดๆ ทั้งจาก บูลาย เดีย ที่ยิงไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด และ อิสไมล่า ซาร์ ที่ซ้ำข้ามคาน6หลา ไม่น่าเชื่อ
ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ว่าแข็งๆ เร็วๆ ก็มีปัญหาเหมือนกันสำหรับการประกบดาวเตะความเร็วสูงอย่าง อิสไมล่า ซาร์ จนต้องลงเอยด้วยการทำฟาวล์ดาวเตะวัตฟอร์ตรายนี้หลายครั้ง และต้องแรกกับการรับใบเหลืองไปแทน
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่โดดเด่นมาหลายนัด เมื่อคืนถือว่ากองกลังจากปีศาจแดง มาตรฐานตกลงไปในเรื่องของการจ่ายบอล เพราะออกบอลเสียจนทำให้เกือบโดน เซเนกัล เล่นงาน แต่ภาพรวมก็ยังถือว่าทำได้น่าพอใจ มีจังหวะ เคลียร์บอลก่อน บูลาย เดีย จะได้ยิงในระยะ6หลา
ส่วน จอห์น สโตนส์ แม้จะมีช็อตประหม่าเหม่อๆอยู่บ้าง แต่ก็ตามมาเคลียร์ทันในจังหวะสุดท้ายตลอด เวลาโดนบีบสามารถจ่ายบอลแก้เอาตัวรอดได้ บล็อคบอล และ บล็อคบอลจังหวะอันตรายได้อย่างละ1ครั้ง
สำหรับทีมชาติอังกฤษแน่นอนแล้วว่า แผงแบ็กโฟร์ที่ลงตัวของพวกเขานั่นก็คือ แบ็กซ้าย ลุค ชอว์ -คู่เซ็นเตอร์ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ จอห์น สโตนส์ ส่วนแบ็กขวา2เกมแรกเป็น คีแรน ทริปเปียร์ 2เกมล่าสุดเป็น ไคล์ วอล์คเกอร์ ซึ่งก็ต้องมาดูว่าในตำแหน่งแบ็กขวา เซาธ์เกต จะเลือกใช้ใครดวลกับ คิลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ รอบ8ทีม
เสียดาย เซเนกัล ช่วงต้นเกม
แม้ว่าจะครองบอลเป็นรองทีมชาติอังกฤษ แต่ทว่าในช่วงก่อนจะเสียประตู ลูกทีมของ ริโกแบร์ ซง ก็ปั่นป่วนเกมรับของ ทัพ ทรี ไลออนส์ ได้เช่นกัน ทั้งจังหวะตามซ้ำบอลแฉลบระยะ6หลา ออกข้ามคานไปดื้อๆของ อิสไมร่า ซาร์ หรือจังหวะที่ บูลาย เดีย ได้ซัดตามน้ำในกรอบเขตโทษ แต่ทว่าไปติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด
ทีม " สิงโตแห่งเตรังก้า " ดูจะเสียสมาธิมากๆ หลังจากที่โดนประตู1-0 เพราะกำลังบุกอยู่ดีๆ แถมยังหัวเสียขึ้นไปอีก หมายมั่นปั้นมืออย่างยิ่ง ดันสูงเพื่อจะเอาลูกตีเสมอ 1-1 แต่ทว่าก็เหมือนโดนกับดักหลุมพราง โดนลูก 2-0 เหมือนตอกฝาโรงไปเลย
นี่คือข้อเสียของทีมจากแอฟริกา ข้อใหญ่ๆ ที่เราไม่ได้เห็นทีมเหล่านี้ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศสักทีในฟุตบอลโลก นั่นก็คือเรื่องของสมาธิ จังหวะที่ไม่ควรไหลไปกับเกมมากเกินไป จนทำให้เข้าทางคู่แข่ง
ตัวความหวังของ เซเนกัล อย่าง อิสไมล่า ซาร์ น่าจะทำให้ทีมขึ้นนำไปก่อนได้ แข้งจากวัตฟอร์ด ใช้ความเร็วเล่นงาน ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้พอสมควร จนแบ็กจากเรือใบรายนี้โดนใบเหลือง แต่ทว่า ซาร์ ขาดตัวสนับสนุนที่ดีจากเพื่อนร่วมทีม ทำให้ช่องทางการจ่ายบอลจังหวะสุดท้ายมีไม่มากนัก จนต้องลงเอยด้วยการทำบอลเสียเอง หรือโดนสกัดได้
คาลิดู คูลิบาลี่ ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากในนัดนี้ เพราะเกมรุกของอังกฤษมาจากทุกทิศทุกทาง แต่ทว่าก็ยังมีสถิติที่ดี ทั้ง ชนะลูกกลางอากาศ3ครั้ง - ชนะ แท็กเกิ้ล 3ครั้ง แต่ทว่าก็ไปเสียฟาวล์เสียใบเหลืองแบบไม่มีเชิงไปเลย กับ จังหวะเข้าข้างหลัง แฮร์รี่ เคน
ส่วนผู้รักษาประตูอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ ที่คาดว่าน่าจะมาเรียกฟอร์มเรียกความมั่นใจกับทีมชาติ แต่ทว่าไม่เลย เมนดี้ มีจังหวะเซฟสวยๆก็จริงในทัวร์นาเม้นต์ แต่ทว่าโกลจากเซลซีรายนี้ ก็มีจังหวะแปลกๆให้เห็น ทั้งการออกมาตัดบอล ออกบอล การตัดสินใจ ที่ดูประหม่าไปหมด เมื่อคืน ก็เกือบรับลูกยิงของ แฮร์รี่ เคน ซองแตกดื้อๆ ทีที่ไม่มีผู้เล่นอังกฤษจมูกไวตามซ้ำซ็อตดังกล่าว
- คอลัมน์นิสต์
- 306
- 05 ธ.ค. 2565 15:39