ทูเคิ่ลเอาอยู่ ! สิงห์10ตัว บุกแบ่งแต้มหงส์ที่แอนฟิลด์ 1-1
แม้จะเป็นเกมทีไม่ได้ยิงแหลกลาญระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่ก็เป็นแมตช์ระดับ5ดาว บ่งลอกถึงคุณภาพได้เป็นอย่างดีสำหรับคู่ระหว่าง ลิเวอร์พูลกับเซลซี ที่ผลจบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไปอย่างสุดมัน 1-1 โดยลูกทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่เหลือ10ตัวในท้ายครึ่งแรก สามารถควัก1แต้มสำคัญออกมาจากแอนฟิลด์ได้
ดาร์บี้แมตช์สุดสำคัญคู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล ที่เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมฟอร์มร้อนแรงอย่างเซลซี โดยก่อนลงสนามทั้งคู่ผลงานเหมือนกันเป๊ะ นั่นก็คือ ชนะ2 ยิงได้5ประตู และยังรักษาคลีนชีตไม่โดนคู่แข่งเจาะตาข่าย
โดยนัดนี้ลิเวอร์พูล เปลี่ยน2ตำแหน่งนั่นก็คือ แบ็กซ้ายที่ได้ แอนดรูว โรเบิร์ตสัน ที่หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมายึดตำแหน่งแทน คอสตาส ซิมิกาส และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ได้ออกสตาร์ทตัวจริงก่อน ดิโอโก้ โชต้า ทำให้แนวรุกทีมหงส์แดง ได้กลับมาเป็นการประสานงานกันของ SMF อีกครั้งหนึ่ง
ด้านเซลซี ก็มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นเพียงแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมที่บุกไปเอาชนะอาร์เซน่อล 2-0 นั่นคือ เอ็นโกโล่ กองเต้ ได้ออกสตาร์ท11ตัวจริง แทน มัตเตโอ โควาซิซ ส่วน3ประสานในแดนหน้าเป็น เมสัน เม้าท์ -โรเมลู ลูกากู และ ไค ฮาแวร์ตซ์
เกมในช่วง15-20 นาทีแรกต้องบอกได้เลยว่า เป็นทางฝั่งของลิเวอร์พูลมาในสไตล์ เฮฟวี่ เมทัล ที่ถนัด วิ่งบีบเพรสซิ่งใส่เซลซีจนทำอะไรไม่ถนัด แถมยังมีโอกาสยิงก่อนถึงสองครั้งจาก ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามด้วยรูปเกมที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เซลซีก็มาขึ้นนำจากลูกตั้งเตะจนได้ เมื่อ รีซ เจมส์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาตามสูตรให้เจ้าหนู ไค ฮาแวร์ตซ์ โฉบเข้ามาโหม่งเช็ดย้อยบริเวณเสาแรก บอลย้อยข้ามมือ อลิสซง เสียบเสาสองเข้าไป ก่อนที่หลังจากนั้นทีมสิงห์น้ำเงินมีโอกาสที่จะขึ้นนำห่างเป็น 2-0 ถึงสองครั้งสองคราแต่ก็พลาดไปเอง
ทว่าจุดเปลี่ยนของเกมก็มาถึง ในช่วงท้ายครึ่งแรก เมื่อVAR ไปเช็กย้อนหลังจังหวะซ้ำขลุกขลิกในเขตโทษของ ซาดิโอ มาเน่ ไปโดน รีซ เจมส์ ที่ไปเคลียร์บอลบนเส้น แต่ทว่าจังหวะที่เคลียร์เหมือนบอลมันจะไต่ลำตัวไปโดนแขน
ทำให้ แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์ ควักใบแดง ไล่ เจมส์ พร้อมมอบจุดโทษให้ทีมเจ้าบ้าน ก่อนที่จะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดเข้าไปไม่เหลือ น.45+5
สถานการณ์ดังกล่าวที่ทีมเยือนต้องเหลือ10คน ทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล ต้องแก้เกมในการออกตาร์ทครึ่งหลังด้วยการ ถอดเอา ไค ฮาแวร์ตช์ ผู้โขกทำประตูออกแล้วส่ง ติอาโก้ ซิลวา มายืนใน1ใน3เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ พร้อมขยับ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ไปเล่นวิงแบ็กขวา รวมถึงถอด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วให้ มัตเตโอ โควาซิซ มาบู๊
เกมในช่วง45นาทีหลัง เรียกได้ว่าเป็นการปูพรมเข้าใส่ทีมเยือนเลยก็ว่าได้ เมื่อหงส์แดงครองบอลแทบจะฝ่ายเดียว แต่ทว่ากำแพงมนุษย์ของลูกทีมทูเคิ่ล ก็เล่นรับแบบรถบัส สามารถเอาแนวรุกของลิเวอร์พูลอยู่ แถมมีจังหวะโต้สวยๆ 1-2 ครั้ง และเก็บ1แต้มสำคัญออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ทั้งที่เหลือผู้เล่นเพียง10คนได้สำเร็จ
สุดยอดเกมรับของเซลซี ที่ทูเคิ่ลติดตั้งให้
การที่ต้องเล่นเพียงแค่10คน ยาวนานถึง45นาที และเจอกับลิเวอร์พูลที่มีสไตล์การเล่น เฮฟวี่ เมทัล หนักหน่วง วิ่งไล่เพรสซิ่งได้ดี แถมยังมีผู้ชมในสนามแอนฟิลด์คอยปลุกเร้ากระตุ้น ไม่ว่ามองมุมไหนคงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะไม่โดนทีมเครื่องจักรสีแดงรายนี้เผด็จศึก
แต่ทว่าเซลซีภายใต้มันสมองของ โธมัส ทูเคิ่ล พวกเขาทำมิสชั่นภารกิจนี้ได้ หลังจากที่เหลือ10คนกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ ไม่รอช้าออกสตาร์ทครึ่งหลังด้วยการถอด ไค ฮาแวร์ตซ์ ผู้ทำประตูออก และให้ ติอาโก้ ซิลวา ลงมาเล่นแทน รวมถึงถอด ก็องเต้ (ไม่รู้ว่าเจ็บไหม) ให้ โควาซิซ ที่แกะบอลเพรสดีลงมาแทน
ตลอด45นาทีหลังเป็นทางฝั่งลิเวอร์พูลที่ขึงใส่เพียงฝ่ายเดียว (นานๆทีเซลซี จะมีสวนกลับ) แต่ทว่าการปูพรมบุกใส่ของทีมเจ้าบ้านนั้นแทบจะไม่ได้โอกาสยิงแบบเหมาะเหม่งเลย ยกเว้นลูกยิงไกล รูดิเกอร์ -คริสเตียนเซ่น -ซิลวา ผนึกกำลังกันได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่ถูกโยกไปเล่นวิงแบ็กขวา ก็แทบไม่ได้เติมเกมบุกเลย บางครั้งขยับเข้ามาเป็นเหมือนเซ็นเตอร์ตัวที่4เลยด้วยซ้ำ เกมบุกทางด้านริมเส้นหลังเหลือ10คน เดฟน่าจะถูกกำชับว่าไม่ต้องเติม
มีเพียงแค่ทางฝั่งซ้าย มาร์กอส อลอนโซ่ รายเดียวที่ขึ้นเกมบุก(ตามแท็กติกทูเคิ่ล) นี่เป็นเกมที่แบ็กชาวบราซิลรายนี้ทำงานหนักมาก วิ่งขึ้นลงไม่มีหยุดหย่อน
ทุกๆครั้งที่โดนกดดันจากเกมบุกลิเวอร์พูล กองหลังเซลซี ไม่ได้เคลียร์บอลทิ้งแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะถ้าทำเช่นนั้น ก็เหมือนเตะบอลอัดกำแพงให้ทีมเครื่องจักรสีแดงตั้งเกมขึ้นมาถล่มตาข่ายอีกครั้ง
เซลซี พยายามเคลียร์บอลโดยการจ่ายอย่างแม่นยำ เพื่อค่อยๆเซ็ตเกมโต้กลับในแบบที่พอเป็นไปได้ ส่วน เอดูอาร์ เมนดี้ ก็ออกมาตัดบอลลูกกลางอากาศได้เยี่ยม รวมถึงมีเซฟสำคัญๆให้เห็นถึง6ครั้งด้วยกัน
แนวรับของเซลซี เล่นได้ตามแท็กติกทุกคน โดยเฉพาะอัซปิลิกวยต้า หรือ กัปตันเดฟ ที่เหมือนจะเป็นผู้นำในเกมรับ สถิติส่วนตัวของกองหลังชาวสเปนรายนี้ก็ยอดเยี่ยมมากๆเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น สัมผัสบอล 79 ครั้ง (มากสุด) ผ่านบอล53ครั้ง (มากสุด) เคลียร์บอล 9ครั้ง (มากสุด) และ แท็กเกิ้ล 6ครั้ง
จุดเปลี่ยนใบแดง ของ รีซ เจมส์
เชื่อว่าหากกลับเข้าไปในอุโมงค์ห้องแต่งตัว ด้วยสถานการณ์ที่ทีมนำ1-0 และเหลือผู้เล่น11คนเท่ากัน จะเป็นรูปเกมที่เปิดมา45นาทีหลังแล้วเซลซีจะเล่นได้ง่ายขึ้นมากๆ แต่ทว่าเหตุการณ์ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทำให้รูปเกมต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เหตุการณ์ชุลมุนหน้ากรอบเขตโทษของเซลซีในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ถูกปล่อยผ่านไปได้สักพัก ก่อนที่บอลจะตาย และผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ จะไปเช็กวีเออาร์ย้อนหลัง แล้วเปลี่ยนคำตัดสินที่รุนแรงมากๆ
เมื่อเปาหัวเหม่งรายนี้แจกจุดโทษให้กับลิเวอร์พูล ซึ่งเมื่อเราพิจารณาจากภาพช้าจะเห็นว่า บอลไต่ขาแล้วไปโดนแขน รีซ เจมส์ ชัดเจน ซึ่งจุดโทษถือว่าเคลียร์และชัดเจน100% แต่ทว่าใบแดงดูเหมือนจะโหดร้ายไปมากๆ เพราะดูจากเจตนาจังหวะที่บอลไต่ไปโดนแขน เจมส์ เป็นจังหวะ Reflex มากว่า
ผู้สันสัดกรณีฟุตบอลอังกฤษอย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ ก็ยังออกมาทวิตด้วยซ้ำว่า จุดโทษนั้นเป็นจังหวะที่เคลียร์ชัดเจน แต่ทว่าใบแดงนั่นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรแต่อย่างใด เพราะบอลมันโดนต้นขาก่อน
แม้ว่าตามกฎของเอฟเอ จะระบุไว้ชัดเจน ว่า หากผู้เล่นทำแฮนด์บอลเพื่อขัดขวางการทำประตูของคู่แข่งโดยตรง ผู้เล่นคนนั้นก็จะถูกไล่ออก โดยไม่คำนึงว่าเขาคนนั้นจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ที่สำคัญคือจังหวะสำคัญของเกมขนาดนั้น แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์ ใช้เวลาไปเช็กวีเออาร์ข้างสนามไม่ถึง5วิด้วยซ้ำ ไม่ได้บอกว่าผู้ตัดสินเป่าผิด แต่ผลลัพธ์มันดูจะใจร้ายรุนแรงไปหน่อยสำหรับเซลซี
ฮาแวร์ตซ์ เด่น และเซลซีควรนำ2-0 หากแนวรุกเนี๊ยบพอ
หลังจากที่ขึ้นนำ 1-0 เซลซี มีจังหวะสวนที่จะยิงหนีห่างลิเวอร์พูลเป็น 2-0 แต่ทว่าพวกเขาดูจะเน้นน้อยไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นจังหวะของ เมสัน เม้าท์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่มีจังหวะหลุดไปซัดทั้งคู่ ทั้งที่ช็อตดังกล่าว หากดาวรุ่งของเซลซีทั้งสองเลือกจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมโอกาสเป็นประตูน่าจะสูงกว่า
จังหวะโขกขึ้นนำ1-0 ของวันเดอร์คิดชาวเยอรมันรายนี้ ต้องให้เครดิตการซ้อมกับการเล่นลูกตั้งเตะของเซลซีเต็มๆ ส่วน ฮาแวร์ตช์ จังหวะขวิดดังกล่าว ไม่รู้ว่าเจตนาจริงๆจะหมายทำประตู หรือโหม่งไปยังเสาไกลให้เพื่อนเข้ามาซ้ำกันแน่ แต่ทว่าก็ต้องชื่นชมจังหวะสอดเข้ามาเสาแรก แบบที่แนวรับหงส์ไม่ทันตั้งตัว
แม้จะอยู่ในสนามแค่ช่วง45นาทีแรก เพราะถูกเปลี่ยนตัวออกตามแท็กติกที่เหลือผู้เล่น10คน แต่ผลงานของอดีตแข้งเลเวอร์คูเซ่น รายนี้ก็โดดเด่นไม่เบา โดยเฉพาะการประสานงานกับ เมสัน เม้าท์ ที่ดูคล่องแคล่วรวดเร็วกันทั้งคู่ แต่ก็น่าเสียดายที่ ฮาแวร์ตซ์ เอง ยังดูเหมือนจะจูนกับลูกากูได้ไม่เต็มที่
ส่วน " พี่ตู้ " โรเมลู ลูกากู นัดนี้ต้องเจอกับการประกบติดจาก2เซ็นเตอร์ฮาร์ฟร่างโย่งอย่าง โจเอล มาติป และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แม้จะโดนดักรุมกินโต๊ะได้หลายครั้งแต่ทว่า ภาพรวมของ หอกชาวเบลเยี่ยมไม่ได้แย่เลย ลูกากู พักบอลได้ เก็บบอลได้ แถมยังมีจังหวะตั๊นกับ มาติป จนกองหลังชาวแคเมอรูนรายนี้ล้มไม่เป็นท่า
แต่สิ่งที่ ลูกากู ยังขาดไปเพราะย้ายมาร่วมทีมเซลซีฝึกซ้อมร่วมกันได้ไม่นานนั่นก็คือ การจ่ายบอลการรับบอลจังหวะได้เสียทะลุช่อง ที่ไอ้ตู้เย็น ยังเข้าใจไปคนละทางกับบรรดาแนวรุกเพื่อนร่วมทืมในเกมรุกไม่ว่าจะเป็น เมาท์ ฮาแวร์ตช์ และอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวสักระยะ
เทรนท์ / เอลเลีตต์ นักเตะที่โดดเด่นหงส์เมื่อคืน
หลังจากที่ฟอร์มฟุ๊บไปช่วงใหญ่ๆเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ -อาร์โนลด์ ก็กลับมาเป็นนักเตะที่แฟนหงส์คุ้นเคยอีกครั้งในฤดูกาลนี้ แม้จะเป็นเกมที่ไม่มีประตู หรือแอสซิสต์ รวมถึงคลีนชีตมาฝาก แต่ฟอร์มตลอดทั้งเกมของ TAA นั้นโดดเด่นมาก
นี่คือนักเตะที่สร้างสรรค์โอกาสให้ลิเวอร์พูลได้ถึง5ครั้ง มากที่สุดในสนาม โดยเฉพาะจังหวะที่เท้าชั่งทองตักจากด้านขวาทะลุแผงหลังเซลซี ไปในเขตโทษให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ น่าเสียดายที่ "กัปตันเฮนโด้ " ซัดออกไปไม่ได้ลุ้น
ส่วนในครึ่งหลังนี่คือหนึ่งในนักเตะที่ขึ้นเกมจากทางฝั่งขวา จนแทบทำให้วิงแบ็กซ้ายอย่าง มาร์กอส อลอนโซ่ ไม่มีเวลาได้พักหายใจ การโจมตีจากแบ็กอาวุธเด็ดของลิเวอร์พูล กลับมามีความอันตรายอีกครั้งและจะอันตรายต่อๆไป เพราะเทรนด์ กลับมาเข้าฟอร์มแล้ว
สำหรับเจ้าหนูวัย18ปีอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แม้ว่าจะเป็นการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเพียงแค่หนที่สองแต่ทว่า ฟอร์มของอดีตเจ้าของทรงผมหัวสัปปะรดราวนี้กลับนิ่งเกินอายุ
น่าเสียดายที่ช่วงต้นเกมเจ้าตัวได้วอลเล่ย์ในกรอบเขตโทษ แต่ทว่าบังคับทิศทางไม่ดีบอลข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น
จังหวะที่หวาดเสียวที่สุดของเจ้าตัวเป็นการซัดระยะ 20-25 หลา ถากเสาออกไปเพียงแค่นิดเดียว เอลเลียตต์ ประสานงานได้ทีกับ เทรนท์ และ บังโม แม้จะอายุยังน้อยแต่ความมั่นใจ และความห้าวหาญนี่คือสิ่งที่เจ้าตัวพิสูจน์ให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เห็นมาตลอด
ฟอร์มของเจ้าตัวเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ เจเค ตัดสินใจไม่ซื้อกองกลางเข้ามาเพิ่ม เลือกที่จะซื้ออนาคตของเอลเลียตต์มากกว่า แม้ว่าทีมจะเสีย จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ออกไปก็ตาม
เหมาะสมที่อลอนโซ่เบียด ชิเวลล์ เป็นสำรอง
ตอนแรกนึกว่าจะเป็นการโรเตชั่น แต่ไปๆมา ในตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายของเซลซี มาร์กอส อลอนโซ่ ก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกมา3นัดติดต่อกันแล้ว ทิ้งให้คู่แข่งในตำแหน่งเดียวกันอย่าง เบน ชิเวลล์ ต้องนั่งสนับก้นด้านเป็นตัวสำรองตลอด
เกมที่บุกไปเสมอลิเวอร์พูล นี่คือนักเตะคนหนึ่งที่ทำงานหนักมากๆของทีมสิงห์น้ำเงิน ในบทบาทตำแหน่งแบ็กวิงแบ็กซ้าย ไหนจะต้องรับมือกับ TAA รวมถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังไม่รวมถึงการเติมเกมบุกที่ด้วยตำแหน่งจำเป็นต้องขึ้นสุดลงสุดตลอด
จังหวะเกมรับสวยๆก็เช่น การวิ่งตัดเข้ามาเคลียร์บอล จากลูกครอสทางด้านซ้ายของ โรเบิร์ตสัน ที่ซาลาห์ รอที่จะเผด็จศึก ตลอดทั้งเกมอลอนโซ่ แท็กเกิ้ลได้ถึง6ครั้ง
ในภาพรวมถือว่าแบ็กชาวบราซิลรายนี้ เล่นเกมรับและรุกได้ดีมากๆ จะมีรอยด่างพร้อยเดียวนั่นก็คือจังหวะที่เจ้าตัวเหมือนจะลนไปหน่อยไปแย่งโหม่งบอลก่อนเมนดี้จะคว้าบอลไว้ จนเป็นช็อตต่อมาที่ทำให้ ลิเวอร์พูลได้ลูกจุดโทษ ตีเสมอ1-1 และทีมเสียใบแดงในที่สุด
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ว่ามี18ปอด แต่ฟอร์มของอลอนโซ่ เมื่อคืนเรียกว่ามี10ปอดได้เหมือนกัน นี่คือนักเตะเซลซี ที่วิ่งขึ้นลงแทบทั้งเกม (ทั้งที่ไม่ใช่นักเตะที่มีความเร็วอะไร) แถมเกมบุกในช่วงที่เหลือ10คน ทูเคิ่ล ยังวางแท็กติกของทีมให้ขึ้นแค่ทางฝั่งซ้ายเท่านั้น
ความคุ้นเคยในการเล่นระบบวิงแบ็ก ความฟิตที่มากกว่า จึงทำให้เจ้าตัวยึดตำแหน่งตัวจริงแทนที่ เบน ชิเวลล์ ที่เล่นระบบหลัง4เป็นหลักตั้งแต่อยู่เลสเตอร์ได้
- คอลัมน์นิสต์
- 429
- 29 ส.ค. 2564 15:24