เกมห้าดาว ! สิงห์ ไล่ตีเจ๊าหงส์ สุดมัน 2-2 โควาซิช ซัดงามหยด
ใครไม่ดูถือว่าพลาดอย่างแรงเลยสำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้าย คู่บิ๊กแมตช์ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ เซลซี เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล ที่นัดนี้พวกเขาขาดผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนเพราะโดนไวรัสโควิด-19 เล่นงานทั้ง อลิสซง เบคเกอร์ - โจแอล มาติป -โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ รวมไปจนถึงกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์
ทำให้การเยือนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ พลพรรคหงส์แดงต้องใช้ผู้ช่วยผู้จัดการทีมอย่าง เป๊ป ลินเดอร์ส ทำหน้าที่คุมทีมข้างสนามแทน ส่วนเจ้าบ้านเซลซีก็ถือว่ามีปัญหาตัวผู้เล่นเหมือนกัน เมื่อ วิงแบ็กขวาอย่าง รีซ เจมส์ มีอาการบาดเจ็บ รวมไปจนถึงฝั่งซ้าย เบน ชิเวลล์ ที่ต้องผ่าตัดและพักยาว
ไปจนถึงปัญหาการเมืองภายในของ โรเมลู ลูกากู ที่อยู่ดีไม่ว่าดีมาวิจารณ์ทีมอย่างหนักหน่วง จนโดน โธมัส ทูเคิ่ล ลงโทษด้วยการตัดออกจากทีมไป แล้วให้โอกาส ไค ฮาแวร์ตช์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งหน้าเป้าแทน
โดยเปิดเกมมาทั้งเซลซีและลิเวอร์พูล ก็เหมือนจะมีความผิดพลาดกันทั้งคู่ แต่ทว่าเป็นทางฝั่งผู้มาเยือนฉวยโอกาสความผิดพลาดตรงนั้นได้ดีกว่า และก็เป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่เก็บตกลูกสองจิตสองใจของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ลากเข้าไปยิง1-0 น.9
ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะมาโชว์ความเป็นแข้งเบอร์1ของยุคนี้ ด้วยลูกยิงสุดสวยเหนือชั้นมุมแคบ น.26 ทิ้งห่าง 2-0 โดยหลังจากที่สตาร์ชาวอียิปต์ซัดประตูได้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสเหมือนกันที่จะตอกประตูฝาโรงเป็น 3-0 เป็นระยะเหมือนกัน
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามลูกตีเสมอ 1-1 คะแนน 10เต็ม10 ของ มัตเตโอ โควาซิช ไดร์ฟชู๊ตเป็นใบไม้ร่วง น.42 ก็ทำให้สถานการณ์ของเกมโมเมตัมเปลี่ยนจริงๆ ทีมสิงห์น้ำเงินมีความมั่นใจฮึกเหิมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็มาตามตีเสมอได้ 2-2 ตั้งแต่ยังไม่หมด 45นาทีแรก จากการซัดเข้าไปสุดงามเหมือนกันของ คริสเตียน พูลิซิช น.45+1
โดยครึ่งหลังทั้งสองทีมเหมือนจะผ่อนเกมลงไม่น้อย เล่นละเอียดรัดกุมกว่าเดิม แตกต่างจากเกมใน45นาทีแรก ที่แลกกันค่อนข้างมัน แต่ก็มีจังหวะซัดประตูกันเป็นระยะ แต่ทว่านายด่านทั้งสองฝั่งต่างงัดซุปเปอร์เซฟกันออกมาได้ยอดเยี่ยมทั้ง เอดูอาร์ เมนดี้ และ ควีวิน เคลเลเฮอร์
จบ90นาทีการแบ่งแต้มกันไปดูจะเป็นผลลัพธ์ที่ยุติธรรมทั้งสองฝ่าย แต่ทว่าคนที่ยิ้มเต็มๆสำหรับ 90นาทีที่ เดอะ บริดจ์ นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่โกยฉีกแต้มหนีพวกเขาไปไกล 10และ11แต้ม ตามลำดับ
สิงห์ และ หงส์ ไม่ฟูลทีมทั้งคู่
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ทำให้ความพร้อมอะไรหลายๆอย่างของทีมฟุตบอลทีมหนึ่งเกิดความไม่แน่นอนขึ้นได้เสมอจริงๆ อย่างเช่น ลิเวอร์พูล ในนัดนี้ก่อนแข่งไม่ถึง 24ชั่วโมง พวกเขาก็ต้องขาดทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีม
โจแอล มาติป - อลิสซง เบคเกอร์ -โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ นี่คือ3แข้งของลิเวอร์พูลที่โดนโควิด เล่นงานจนหายไปจากทีม รวมไปจนถึง กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้เกมนี้พวกเขาต้องใช้ผู้ช่วยกุนซืออย่าง เป๊ป ลินเดอร์ส มาสั่งการข้ามสนามแทน
โดยจุดที่น่าคิดไม่น้อยเหมือนกันเมื่อคืนนั่นก็คือ ช่วงที่ลิเวอร์พูล ทั้งห่าง 2-0 เหมือนพวกเขาจะไม่ได้ผ่อนเกมลงเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ ลินเดอร์ส ไม่ได้สั่งเตือนลูกทีมให้ผ่อนเกมเล่นรัดกุมมากกว่าเดิมหรือเปล่า
การขาด เจเค ข้างสนามก็เหมือนจะมีผลกระทบเช่นกัน เพราะนายใหญ่ชาวเยอรมันรายนี้ เหมือนเป็นผู้จุดพลังกระตุ้นให้ทีมเวลาอยู่ข้างสนาม หรือสั่งผ่อนหนักผ่อนเบาตามสถานการณ์ต่างๆได้
ส่วน เซลซี เกมริมเส้นจากวิงแบ็กเด่นๆทั้งซ้าย-ขวา ช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา เหมือนอาวุธของพวกเขาตรงนั้นจะหายไปเลย
รีซ เจมส์ ที่ฟอร์มตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด ได้รับบาดเจ็บและต้องชวดลงสนามในนัดนี้ ทำให้ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ลงทำหน้าที่แทน เดฟ ในเรื่องของเกมรับไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ในเกมรุกดาวเตะกัปตันทีมรายนี้ ทำได้ไม่เท่าตามที่คาดหวังนัก
ฝั่งซ้าย เบน ชิเวลล์ ที่บาดเจ็บต้องขึ้นเขียงผ่าตัดและส่อปิดเทอมยาว ทำให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้จองสัมปทานตำแหน่งตัวจริงแทน แต่ทว่าฟอร์มของแบ็กร่างโย่งรายนี้กลับไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนช่วงต้นฤดูกาลเลย แย่ทั้งรับและรุก
นี่ยังไม่รวม "พี่ตู้ " โรเมลู ลูกากู หน้าเป้า ที่ถูกทูเคิ่ล สั่งแบน หลังจากที่เจ้าตัวปากไม่อยู่สุขออกมาวิจารณ์ทีมรวมถึงแท็กติกการเล่นที่ไม่ถูกใจนัก
10เต็ม10 ไปกับลูกยิงของ โควาซิช
บอกตรงๆช่วงที่ทีมเครื่องจักรสีแดงฉีกหนีเป็น2-0 ไม่ว่ามองมุมไหนก็ไม่เห็นเซลซี จะกลับคืนสู่เกมได้เลย เผลอๆพวกเขามีโอกาสจะโดนลูก 3-0 ตอกฝาโรงมากกว่าด้วยซ้ำ
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามลูกยิงที่สามารถส่งเข้าประกวดของฤดูกาลนี้ได้เลยของ มัตเตโอ โควาซิช ทำให้สิงห์บูลส์มีกำลังใจกลับเข้าสู่เกมได้อย่างแท้จริง เคเลเฮอร์ ที่ทุบลูกตั้งเตะออกมานอกกรอบเขตโทษ
มิดฟิลด์ชาวโครเอเชียรายนี้ ถอยหลังยิงโดยที่บอลไม่ตกพื้น บอลโด่งฮุบเสียบมุมเข้าไปสุดสวย มี100ให้100คะแนน สำหรับประตูนี้ ไม่ใช่เพียงแค่มีลูกยิงที่โดดเด่นเท่านั้น ตลอดทั้งเกมนี้คือผู้เล่นที่โดดเด่นสุดๆของทีมสิงห์บูลส์
โควาซิช ผนึกกำลังในแดนกลางกับ เอ็นโกโล่ กองเต้ ได้อย่างยอดเยี่ยม อดีตกองกลางเรอัล มาดริด และ อินเตอร์ มิลาน รายนี้ ครองบอลได้เหนียวแน่นสุดๆ ไม่ค่อยทำบอลเสีย
เวลาโดนผู้เล่นลิเวอร์พูล เข้ากดกันเพรสซิ่ง เจ้าตัวก็ไม่มีจังหวะลนลานให้เห็น คุมเกมอยู่หมัด
มิดฟิดด์วัย 27ปี มีสถิติหลังเกมที่ยอดเยี่ยมทั้ง เอาชนะการดวลได้ 13ครั้ง - แย่งบอลได้มากถึง 11หน - แท็กเกิ้ล 6ครั้ง -เลี้ยงบอลผ่าน 4ครั้ง - ผ่านบอลไปในพื้นที่สุดท้าย 11ครั้ง
ในฤดูกาลนี้แม้จะมีอาการบาดเจ็บเป็นช่วงๆ ที่แต่เมื่อได้รับโอกาสลงสนาม โควาซิช ก็ไม่เคยฟอร์มดรอปหรือแผ่วลงไปเลย ในเรื่องของประสิทธิภาพ แข้งแดนตราหมากรุกรายนี้ ทำไปได้ถึง 2ประตู กับอีก 5แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก จากการออกสตาร์ทตัวจริง10นัด
อลอนโซ่ ไม่เหมือนช่วงต้นฤดูกาล
เบียดเป็น11ตัวจริงตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายได้สำเร็จ สำหรับช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล สำหรับ มาร์กอส อลอนโซ่ โดยในโปรแกรม6นัดแรก แข้งชาวสเปนรายนี้ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงมาโดยตลอด เล่นเอา เบน ชิเวลล์ ต้องเป็นตัวสำรองอดทนไปก่อน
แต่ทว่าพอ เบน ชิเวลล์ กลับมาแย่งตำแหน่งตัวจริงได้ อลอนโซ่ ก็เหมือนจะหมดความมั่นใจไปเลยทันที เพราะเมื่อได้โอกาสลงสนามบ้าง วิงแบ็กวัย31ปีรายนี้ ก็ดูติดๆขัดๆสนิมเกาะ รุกไม่เด่น รับก็แย่
ไม่สามารถทดแทน เบน ชิเวลล์ ที่เจ็บผ่าตัดเดี้ยงยาวไปได้เลย เกมเมื่อคืนก็เหมือนกัน ประเด็นแรกเอาที่เรื่องเกมรับ อลอนโซ่ มีส่วนผิดพลาดกับประตูที่สอง เมื่อโดนลูกจ่ายตัดเข้ามาของ เทรนต์ ให้กับ โม ซาลาห์
จังหวะแรก เจ้าตัวเหมือนจะตาม บังโม ทัน แต่ทว่าโดนหลอกหน้าเท้าไปทางซ้ายนิดเดียว เล่นเอาเสียเหลี่ยม ให้แข้งชาวอียิปต์หลุดไปซัดมุมแคบเข้าไป รวมไปจนถึงเกมบุก อดีตแข้งฟิออเรนติน่าและโบลตัน รายนี้ เปิดบอลไม่ค่อยเข้าเป้าเลย
ในเกม อลอนโซ่ มีจังหวะยิงมากถึง5ครั้ง แต่ไม่ใกล้เคียงให้ได้หวาดเสียว ที่น่าเสียดายสุดๆ คือจังหวะได้หักมายิงในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ทว่าซัดข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
ทั้งที่เป็นแบ็กจอมบุก แต่9นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก อลอนโซ่ ซัดประตูไม่ได้เลย และทำไปเพียง 1แอสซิสต์ เท่านั้น
ขาดพี่ตู้ ปัญหาหน้าเป้า ส่วน น้องไค ไม่เวิร์ค
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พูดไปอย่างนั้นจริงๆสำหรับ โรเมลู ลูกากู ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ไม่มีความสุขกับแผนการเล่นเซลซี รวมถึงแท็กติกของกุนซือ อย่าง โธมัส ทูเคิ่ล นั่นจึงทำให้ท้ายที่สุดแล้ว นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องรักษาการปกครอง ด้วยการดรอป " พี่ตู้ " ออกจากทีม
โดยเกมเมื่อคืนหนึ่งปัญหาที่ชัดเจนของเซลซีเมื่อคืนก็คือ การไม่มีหน้าเป้าธรรมชาติ ลูกากู ที่พึ่งหายเจ็บและคืนฟอร์มกลับมาซัด2นัดติดในพรีเมียร์ลีก โดนตัดออกจากทีมไป
แนวรุกของเซลซีเหมือนไม่มีอาวุธหนัก ไว้คอยกระทุ้งกับคู่เซ็นเตอร์ที่ตัวใหญ่ของลิเวอร์พูลอย่าง อิบราฮิมา โคนาเต้ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เพราะ ลูกากู มีความ แข็งใหญ่ อึดทน อาวุธหนัก ทำให้ลูกครอสหรือลูกเปิดเรียดเข้าไปกดดันในเขตโทษ ดูไม่อันตรายมากนัก
ส่วนหน้าเป้า ในบทบาท ฟอลส์ไนน์ อย่าง ไค ฮาแวร์ตช์ บอกตรงๆว่านี่เป็นนัดที่น่าผิดหวังของ วันเดอร์คิดเมืองเบียร์รายนี้เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีบทบาทกับทีมเลย เหมือนโดนลักพาตัวออกไปจากสนาม
ฮาแวร์ตช์ ทำได้ดีแค่ในเรื่องของการเพรสบอลจากแดนหน้า แต่ทว่าการยืนหาตำแหน่งที่ดีในการทำประตูไม่มีให้เห็นเลย มีโอกาสซัดทั้งเกมแค่ 1ครั้ง ผ่านบอลแค่14หน รวมไปจนถึงทำบอลเสียไป3ครั้ง จนท้ายที่สุดถูกเปลี่ยนตัวออก น.79 ให้ คัลลัม ฮัดสัน -โอดอย ลงมาเล่นแทน
ทั้ง เมนดี้ และ เคเลเฮอร์ มีทั้งเซฟและเหวอ
เป็นเกมที่โกลทั้งสองฝั่ง ได้งัดช็อตเซฟออกมาโชว์รัวๆจริงๆทั้ง เอดูอาร์ เมนดี้ และ ควีวิน เคเลเฮอร์ แต่ทว่าทั้งคู่แม้จะงัดฟอร์มหนึบๆออกมาให้แฟนบอลเห็น แต่ทว่าก็มีความผิดพลาดเช่นกัน
เคเลเฮอร์ ได้ออกสตาร์ทเฝ้าเสาจากการที่ อลิสซง ติดโควิด โดยโกลชาวไอร์แลนด์รายนี้ ทำได้เข้าตาสุดๆกับจังหวะ ควักบอลออกจากเท้า คริสเตียน พูลิซิช ในครึ่งแรก หลังแข้งชาวอเมริการายนี้ รับส้มหล่นมาจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
รวมไปจนถึงการยืนตำแหน่งได้อย่างดีเยี่ยม จากจังหวะตวัดยิงในเขตโทษของ พูลิซิช เจ้าเก่า แต่โกลดาวรุ่งวัย23ปีรายนี่ ก็มีจุดที่น่าตำหนิอย่างหนึ่งนั่นก็คือ การออกบอลที่แย่มากๆ
ทำให้เพื่อนร่วมทีมโดนบีบโดนจี้ และเสียบอล แต่ทว่าภาพรวมแล้ว เคเลเฮอร์ ยังดูไว้ใจได้มากกว่าโกลตัวสำรองรุ่นพี่อย่าง อาเดรียน
ส่วน เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ลงเล่นนัดสุดท้ายก่อนไปเล่นฟุตบอล แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ กับทีมชาติเซเนกัล ประตู 2-0 โอเค แม้ว่าจะเป็นความยอดเยี่ยมของ โม ซาลาห์ ที่ยิงเข้าไปในมุมที่แทบไม่มี แต่ทว่าอดีตโกลแรนส์รายนี้ ก็มีส่วนในการปิดมุมที่แทบจะไม่มีเช่นกัน
ดีที่ครึ่งหลัง เมนดี้ มีช็อตเซฟสวยๆ 2ช็อตจาก มาเน่ และ ซาลาห์ โดยการกลับไปรับใช้ภารกิจทีมชาติเซเนกัลของเจ้าตัว น่าจะส่งผลกระทบไม่มากเท่าไหร่ เพราะโกลสำรองที่รอโอกาสมาตลอด และโชว์ผลงานได้ดีอย่าง เกปา อาร์ริซาบาลาก้า พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองมากๆ เช่นกัน
- คอลัมน์นิสต์
- 521
- 03 ม.ค. 2565 15:07