อิงลิช ไฟนอล ! สิงห์ ตะปบชุดขาวสบาย 2-0 ก็องเต้ ยอดคน
ตามรอย โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เลยก็ว่าได้สำหรับการเข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมเซลซีกลางคันของ โธมัส ทูเคิ่ล เมื่อกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ พาทีมสิงห์บูลส์เปิดบ้านโค่นเอาชนะ เรอัล มาดริด ไปแบบสบายๆ 2-0 โดยได้ ติโม แวร์เนอร์ และ เมสัน เมาท์ ช่วยซัดกันคนละประตู
สกอร์สองนัดผลรวม 3-1 นี่คือชัยชนะที่เด็ดขาดของ เซลซี ที่บรรจงมอบให้ ซีเนอเดีน ซีดาน และ เรอัล มาดริด การฟาดแข้งกันที่สเปนและ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ชัดเจนและเป็นเอกฉันท์ว่า พลพรรคสิงห์บูลส์ ที่ทำได้ดีกว่าอย่างแจ่มแจ้ง
ก่อนเกม เรอัล มาดริด ดูจะน่ากลัวและเพรียบพร้อมขึ้นมาอยู่พอสมควรเมื่อได้ เซร์คิโอ รามอส และ เอแด็น อาซาร์ หายเจ็บฟิตกลับมาลงสนามได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่าเมื่อลงไปเซิ้งแข้งเผด็จศึกแล้ว ราชันชุดขาวไม่ได้สร้างความหนักอกหนักใจให้กับเซลซีเลย
โดยเฉพาะในรายของ อาซาร์ ฟอร์มในการกลับมาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคืน สตาร์ชาวเบลเยี่ยมในชุดเสื้อสีขาว แทบจะเป็นคนละคนกับสมัยที่สวมเครื่องแบบสีน้ำเงินเลย อาซาร์ แทบจะไม่มีตัวตนในเกมรุกของ ทัพ โลส บลังโกส เมื่อคืน มิหนำซ้ำยังเหมือนถูกลักพาตัวหายไปจากเกม
ส่วนริมเส้นอีกรายที่ว่ากันว่า จี๊ดจ๊าด อย่าง วินิอุส จูเนียร์ ก็แผลงฤทธิความซ่าไม่ออก และเป็นผู้เล่นอีกคนที่ โดนอุ้มหายออกไปจากสนาม
แนวรุกที่พอจะสร้างผลงานได้ตามเป้าอยู่บ้างเห็นทีจะมีเพียงแค่ คาริม เบนเซม่า เท่านั้น แต่น่าเสียดายที่โอกาสซัดประตูของหอกชาวฝรั่งเศสรายนี้ ถูกปฎิเสธ ด้วยความยอดเยี่ยมของ เอดูอาร์ เมนดี้ ถึง2ครั้ง2ครา
ติโม แวร์เนอร์ แม้ความคมจะยังถูกตั้งคำถาม แต่ทว่าส่วนร่วมกับเกมความขยัน อดีตหอก แอร์เบ ไลป์ซิก ผู้นี้พยายามทำทุกอย่างเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเซลซี และนัดนี้แวร์เนอร์ ก็ยืนถูกที่ถูกเวลาตอบแทนความขยัน เมื่อเกร็งคอรอโหม่งลูกชิพของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ชนคานกระเด้งออกมาจ่อๆให้เผด็จศึก
ถ้าหากเมื่อคืนบรรดาผู้เล่นในแนวรุกของเซลซี มีความคมวิญาณเพรชฆาต กว่านี้ เราอาจได้เห็นสกอร์ที่ขาดลอยมากกว่า 2-0 แน่ๆ ส่วนผู้แพ้อย่าง เรอัล มาดริด ก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาไม่ดีพอจริงๆสำหรับการผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ
และซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ อาจถึงเวลาที่ "เอลเหม่ง" จะต้องยกครื่องตัวผู้เล่นในทีมใหม่ รวมไปจนถึงการซื้อสตาร์ชื่อดังมาร่วมทีม แม้ว่าอาจเป็นเรื่องยากที่จะทุ่มเงินมหาศาลในยุคที่ไวรัสโควิด-19 เล่นงานอยู่
ทั้งในแผงกองหลัง กองกลาง และกองหน้าโดยเฉพาะในตำแหน่งมิดฟิลด์และแนวรับที่ ราชันชุดขาวแทบจะยึดมั่นในชุดเดิมมาตลอด ( ถ้าไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ติดโทษแบน อะไร )
ประตูแวร์เนอร์ทำสิงห์ผ่อนคลาย
แม้จะทำประตูได้จากจังหวะโอเพ่นเพลย์สุดสวยจากการเปิดของ เบน ชิเวลล์ แต่ทว่าก็น่าเสียดายที่ ติโม แวร์เนอร์ ถลำล้ำหน้าไปก่อน จึงถูกริบประตูคืน แต่ทว่าเจ้าตัวก็มาแก้ตัวได้สำเร็จ ห้อยหลังจากนั้นเพียงแค่10นาที เมื่อตามเข้าไปโหม่งซ้ำลูกชิพที่ชนคานของ ฮาแวร์ตช์ จ่อๆ
อดีตหอกไลป์ซิกรายนี้ ในเรื่องของความเฉียบคมในการทำประตู รวมไปจนถึงความเฉียบขาดในการเข้าทำพื้นที่สุดท้าย นี่คือสิ่งที่แฟนบอลเห็นมาตลอดว่า เจ้าตัวยังทำได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ควรจะทำได้ แต่ทว่าในเรื่องของความมุ่งมั่นทุ่มเท สไตล์การเล่นที่ตอบโจทย์กับแท็กติก แวร์เนอร์ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
แม้จะเล่นในตำแหน่งแนวรุก แต่แวร์เนอร์ ก็ยังเข้าแท็กเกิ้ลได้ถึง2ครั้ง ตัดบอลได้1หน น่าเสียดายที่เจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเร็วไปหน่อยตั้งแต่นาทีที่67 แต่ทว่าก็เป็นไปตามแท็กติกและสถานการณ์ระหว่างเกม
ในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล แม้จำนวนประตูของ แวร์เนอร์ จะยังไม่ได้ถล่มทลายยิงระเบิดเป็นไฟพะเนียงเหมือนตอนที่อยู่ทีมกระทิงหนุ่มแต่อย่างใด แต่ทว่าความมีส่วนร่วมกับเกม การมีแอสซิสต์ รวมไปจนถึงการเรียกจุดโทษ นี่คือสิ่งที่ดาวยิงวัย25ปีรายนี้ ทำได้ดีกว่ายุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อย่างชัดเจน
สิ่งที่แวร์เนอร์ขาดไปอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่โยกมาค้าแข้งยังเวทีลีกฟุตบอลเมืองผู้ดีนั่นก็คือ ความมั่นใจที่ขาดหายไป อันเกิดจากความคาดหวังและความกดดันต่างๆที่เจ้าตัวต้องแบกเอาไว้บนบ่าสองข้าง
แต่ทว่าการมาของกุนซือคนบ้านเดียวกันอย่าง ทูเคิ่ล ก็น่าจะปลดล็อค ทำให้เราเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นเรื่อยๆของ ดาวยิงเจ้าของหมายเลข11รายนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว
สนามฟุตบอลปกคลุมไปด้วย ก็องเต้
นี่เป็นอีกหนึ่งแข้งที่เหมือนจะเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่จะค่อยๆพิสูจน์ตัวเอง กลับมาทวงตำแหน่งผู้เล่น11ตัวจริงคืน และระเบิดฟอร์มขั้นเทพ ทั้งในนัดแรกและนัดสองที่ทีมต้องรับมือกับ เรอัล มาดริด
เกมแรกที่สเปนก็เป็นมิดฟิลด์ปอดเหล็กรายนี้แหละ ที่วิ่งพล่านไปทั้วสนาม จนทำให้ เรอัล มาดริด ขึ้นเกมเซ็ตเกมจากแดนกลางได้ไม่ถนัดถนี่เลย โดยเฉพาะในรายของ โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช ที่สร้างสรรค์เกมจังหวะสวยๆได้น้อยครั้ง
เกมนี้่เซลซี ไม่มีผู้เล่นประเภทปั้นเกมในแดนกลางอย่าง มัตเตโอ โควาซิซ คู่มิดฟิลด์ใช้เป็น จอร์จินโญ่ กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แทน ซึ่งน่าจะทำให้แฟนบอลสิงห์กังวลอยู่ไม่น้อยสำหรับการเซ็ตบอล Build Up บอลจากตำแหน่งมิดฟิลด์
แต่ทว่าความกังวลดังกล่าวก็ถูกคลี่คลายลง เมื่อ ก็องเต้ ที่เล่นเกมรับได้ดีอยู่แล้ว เปิดอัลติเล่นเกมรุกเข้าใส่ผู้มาเยือน ในยามที่ทีมต้องการประตู เมื่อคืนเราจึงได้เห็นมิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้ในเวอร์ชั่นที่ครบเครื่องต้มยำมากๆ ทั้งรับและรุก
มิหนำซ้ำทั้ง2ประตูที่เซลซีกระซวก เรอัล มาดริด ได้ในนัดนี้ ก็มีจุดเริ่มต้นมาจาก ก็องเต้ คนนี้นี่เอง สิ่งที่แตกต่างระหว่าง ราชันชุดขาว กับ ทีมสิงห์บูลส์ ในเกมนี้ก็คือ ทีมหนึ่งมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ส่วนอีกทีมหนึ่งไม่มีนีแหละ
น่าเสียดายที่อดีตกองกลาง เลสเตอร์ ซิตี้ รายนี้่ไม่มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ด เพราะลูกยิงของเจ้าตัวไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับความยอดเยี่ยมของก็องเต้
วลีประโยคที่ว่า " 71%ของโลกถูกปกคลุมด้วยน้ำ และที่เหลือถูกปกคลุมด้วยก็องเต้ " ถ้าดูจากผลงานก็คงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใด
ก็องเต้ Vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้
100% ชนะลูกดวลกลางอากาศ
45 สัมผัสบอล
4 พาบอลเข้าไปในเขตโทษ
4 ชนะการดวล
3 สร้างสรรค์โอกาส (มากที่สุดในทีม)
2 แย่งบอล
1 โอกาสยิง
1 เลี้ยงบอลผ่าน
1 บล็อค
ใกล้แล้ว ฮาแวร์ตช์ ร่างที่อยู่เยอรมัน
แม้จะไม่มีรายชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่ทว่าภาพรวมของ วันเดอร์คิดชาวเยอรมัน รายนี้ เปล่งปลั่งอยู่ไม่น้อย เลยทีเดียวสำหรับเกมเมื่อคืน แต่น่าเสียดายที่ลูกชิพแบบเหนือชั้นของเจ้าตัวไปชนคานเข้าอย่างจัง
ฮาแวร์ตช์ ยังคงฟอร์มการเล่นเดิม จากนัดที่ระเบิดฟอร์มเบิ้ลคนเดียว2เม็ดในเกมกับฟูแล่มไว้ได้ แต่ก็อาจแตกต่างตรงที่แข้งดาวโรจน์ชาวเยอรมันรายนี้ไม่มีรายชื่อบนสกอร์บอร์ดมาฝากแฟนๆ
การเชื่อมเกม การประสานงานกับแนวรุกเพื่อนร่วมทีมอย่าง ติโม แวร์เนอร์ - เมสัน เมาท์ นี่คือสิ่งที่ ดาวเตะวัย21ปีรายนี้ ทำได้อย่างลงตัวไหลลื่น งานละเอียด งานเนี๊ยบมากๆ แต่ก็โชคร้ายตรงที่มีจังหวะ 1เสา 1คาน เลยทำให้ ฮาแวร์ตช์ ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกในเวที แชมเปี้ยนส์ลีกได้
แต่ทว่าสิ่งที่อดีตดาวเตะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น รายนี้ต้องปรับจูนเล็กน้อยนั่นก็คือ การที่ควรเลือกที่จะส่งให้เพื่อนในตำแหน่งที่ดีกว่า มากกว่าเลือกที่จะสำเร็จโทษสังหารด้วยตัวเอง เพราะเมื่อคืน ฮาแวร์ตช์ มีโอกาสสับไกลมากถึง4ครั้งด้วยกัน
การวิ่งหาพื้นที่ รวมไปจนถึงไลน์การวิ่งที่ฉีกหนีตัวประกบให้กับ เมาท์ และ แวร์เนอร์ นี่คือสิ่งที่ ดาวเตะเมืองเบียร์รายนี้ทำได้อย่างมี อิมแพค ต่อเกมรุกของทีม
แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่เท่าฟอร์ม ฉายาวันเดอร์คิดจากเมืองเบียร์ แต่ทว่าเมื่อดูสัญญาณแง่ดีแง่บวกแล้ว แฟนสิงห์บูลส์ น่าจะได้เห็น ฮาแวร์ตช์ เวอร์ชันที่ดีที่สุดในเร็วๆวันนี้
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เมนดี้ มาสเตอร์คลาส
เป็นอีกครั้งและอีกครั้ง ที่เราได้เห็นร่างโคลนความเหนียวหนึบของ ปีเตอร์ เช็ก ในตัวของโกลเซลซีคนปัจจุบันอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ไม่ใช่แค่มาโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบนัดแรก แต่เป็นแมตช์แล้วแมตช์เล่าที่อดีตโกลแรนส์รายนี้ งัดฟอร์มเทพออกมาปัดป้องช็อตอันตรายๆ
โกลชาวเซเนกัล ปฎิเสธลูกยิงที่น่าผ่านไปซุกก้นตาข่ายได้ถึง2ครั้ง2คราแบบไม่น่าเชื่อ ทั้งจากลูกโขกเหน่งๆ และลูกยิงที่เกือบเสียบมุมของ คาริม เบนเซม่า เจ้าเดียวกัน
การมีสมาธิการอ่านเกม หรือแม้กระทั่งช็อตเซฟมหัศจรรย์ นี่คืออะไรที่ เมนดี้ กินขาด เกปา มาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาเฝ้าเสายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
ปีแรกกับทีมดังแห่งกรุงลอนดอน เมนดี้ มีสถิติที่น่าเหลือเชื่อจนต้องปรบมือให้เป็นเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าตัวไม่ต้องปรับตัวเข้ากับบอลลีกเมืองผู้ดีเลย นอกจากมีสถิติที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีกแล้ว สถิติใน ยูซีแอลถ้วยยุโรปของ เมนดี้ ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
11 นัด
8 คลีนชีท
3 เสียประตู
8 คว้าชัยชนะ
1 แพ้
ไม่ใช่แค่นายด่ายวัย29ปีเท่านั้น ที่ทำให้แนวรับเซลซี มีความเหนียวแน่นแข็งแกร่ง เป็นหินผามากขึ้น ติอาโก้ ซิลวา ก็เป็นอีกหนึ่งคีย์หัวใจสำคัญในเกมรับของสิงห์บูลส์ด้วยกัน อายุนี่คือสิ่งที่ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรค์เลยสำหรับกองหลังชาวบราซิลเลี่ยนรายนี้
นี่คือกองหลังที่เป็นลูกพี่ และผู้นำของทีมในการเล่นระบบการติดตั้งหลัง3ของ โธมัส ทูเคิ่ล อย่างแท้จริง การยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาในยามที่คู่แข่งเปิดเกมรุกเข้าใส่ ไม่ใช่เรื่องโชคดีหรือเรื่องบังเอิญแน่นอน แต่มันคือประสบการณ์ของ ซิลวา ที่ช่วยให้เจ้าตัวมักจะได้เปรียบในสถานการณ์นั้นๆ
กองหลังวัย36ปีรายนี้ บล็อคบอลจังหวะสำคัญในเกมกับ ราชันชุดขาวได้1ครั้ง รวมไปถึงเคลียร์บอลจังหวะอันตรายๆไปถึง5ครั้งด้วยกัน รวมถึงเอาชนะแข้ง เรอัล มาดริด ได้แบบ100%เมื่อดวลลูกกลางอากาศ
ต้าวอ้วน... เอแด็น อาซาร์
การที่ เอแด็น อาซาร์ ฟิตพร้อมกลับมาลงสนามให้ เรอัล มาดริด ในการเจอกับอดีตสังกัดเก่าอย่างเซลซี ถูกคาดการณ์กันว่าน่าจะดุเดือดเผ็ดมันอยู่ไม่น้อย บวกกับการได้ปราการหลังจอมโหดอย่าง เซร์คิโอ รามอส คืนสนามกับมา
เห็นรายชื่อ11ตัวจริงของ เรอัล มาดริด บอกได้คำเดียวว่า เกมน่าจะดุเดือด เลือดพล่าน แต่ทว่าเล่นไปได้สักพัก แม้ว่าจะเป็นราชันชุดขาวที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ทว่ารูปเกมโดยรวม การต่อบอล การครองบอล การสร้างสรรค์โอกาส เซลซีกินขาดเหลือรับประทานหมด
ส่วนแนวรุกของ เรอัล มาดริด นอกจาก คาริม เบนเซม่า แล้ว บรรดาหน่วยผู้สนับสนุนอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ และ เอแด็น อาซาร์ ก็แผลงฤทธิเดชไม่ออกสร้างความหนักอกหนักใจให้แนวรับทีมเจ้าบ้านไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
โดยเฉพาะ อาซาร์ ในเวอร์ชั่นที่เป็น " ต้าวอ้วน " แทบจะถูกลักพาตัวออกไปจากสนาม ที่ทั้งทื่อและไร้พิษสง ไม่มีจังหวะกระชากสวยๆ ผ่านผู้เล่นเซลซีเลย ไม่มีการสร้างสรรค์เกม ไร้ซึ่งการจ่ายจังหวะคีย์พาส แถมยังทำบอลเสียไปถึง3ครั้ง จับบอลแย่ 2หน
อาซาร์ ที่อยู่กับราชันชุดขาว แทบไม่ใช่ อาซาร์ ที่ฟอร์มสะเด่าเหมือนกับตอนที่อยู่เซลซี มีแต่อาซาร์ร่างอ้วนที่มีแต่สาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าสตาร์ชาวเบลเยี่ยมรายนี้จะกลับมาเป็นคนเดิมได้
ภาพหลังจบเกมที่ อาซาร์ เข้าไปหยอกล้อกับอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง เคิร์ท ซูม่า อย่างอารมณ์ดี ทั้งที่ทีมพึ่งจะกระเด็นตกรอบรองชนะเลิศ น่าจะเป็นสิ่งที่แฟนบอล ราชันชุดขาว ไม่ปลื้มและรับไม่ได้อยู่เหมือนกัน สำหรับพฤติกรรมของ " ต้าวอ้วน " คนนี้
- คอลัมน์นิสต์
- 629
- 06 พ.ค. 2564 16:14