เกือบแพ้4เกมติด ! ผี ไล่ตีเจ๊า สิงห์ 1-1 โด้ ยิง เซฟชีวิต (อีกแล้ว)
เรียกว่าเป็นเกมที่แฟนบอลปีศาจแดง แทบจะไม่คาดหวังแล้วก็ได้นะ สำหรับการเล่นในบ้านดวลกับ เซลซี ที่ค่อนข้างลอยลำกับการจับอันดับ3ในพรีเมียร์ลีก ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้โอกาสในการจบท็อปโฟร์ไป แชมเปี้ยนส์ลีก จะหมดไปแล้ว แต่ทว่าการได้เล่นในบ้าน น่าจะทำให้พวกเขามีแรงฮึด เพื่อกู้ศรัทธาของแฟนบอลกับคืนมา กับผลงานที่ห่วยแตกที่สร้างขึ้นใน1-2เดือนนี้
อย่างไรก็ตาม ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เซลซี ก็กินกันไม่ลง(อีกครั้ง) เจ๊า กันไป 1-1 ชนิดที่รูปเกมของทีมดังแห่งกรุงลอนดอนเหนือกว่าชัดเจน แต่ทว่าพวกเขาขาดความเฉียบคม ยิงทิ้งยิงขว้างมากไปหน่อย ทำให้เจ้าบ้านมีลูกฮึดไล่ตีเสมอได้สำเร็จ
45 นาทีแรก เป็นรูปเกมแบบวันเวย์ไปเลย ระบบหลัง 3โดยมีวิงแบ็ก เป็น มาร์กอส อลอนโซ่ และ รีซ เจมส์ สร้างความปวดหัวให้กับ เกมรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอย่างมาก เพราะทำให้มีพื้นที่ว่างถ่างให้โจมตีเยอะแยะ ครึ่งแรก หากไม่ได้ ดาบิด เด เคอา ทีมสิงห์น้ำเงินน่าจะมี 1-2ลูกให้เห็น
ทว่าอย่างไรก็ตามเกมในครึ่งหลัง ก็เป็นเซลซี ที่โหมอยู่ฝ่ายเดียวแล้วขึ้นนำ1-0 น.60 จาก มาร์กอส อลอนโซ่ ที่วอลเล่ย์ ด้วยซ้าย ลูกโหม่งชงมาให้ของ ไค ฮาแวร์ตช์ เสียบเสาเข้าไปชนิดที่ เด เคอา หมดสิทธิป้องกัน
กระนั้นก็ดีความผิดพลาดของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ก็ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตีเสมอได้ทันควัน น.62 เมื่อ เนมานย่า มาติช ยกบอลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จับบอลเยี่ยม หลุดไปซัดมุมแคบ เสยตาข่ายเข้าไป ประตูของ CR7 ทำให้ปีศาจแดงมีแรงฮึดขึ้นมาพักหนึ่ง ก่อนจะจบ90นาทีด้วยสกอร์ดังกล่าว
1แต้มที่โรงละครแห่งความฝันเมื่อคืน ถือว่าน่าเสียดายสำหรับ ลูกทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ไม่น้อย เพราะรูปเกมของพวกเขาเหนือกว่าทีมเจ้าบ้านชัดเจน แถมช่วง10นาทีสุดท้าย ลูกยิงเหน่งๆของ รีซ เจมส์ บริเวณกรอบเขตโทษยังไปชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
ไค ฮาแวร์ตช์ ที่นัดนี้แม้จะมีแอสซิสต์ แต่ก็เป็นเกมที่วันเดอร์คิดชาวเยอรมันรายนี้ ใช้โอกาสเปลืองยิงนกตกปลาไปไม่น้อย ส่วนตัวสำรองอย่าง " พี่ตู้ " ลงมาก็ไม่สามารถช่วยอะไรทีมได้เลย แถมยังทำให้กองหลัง แมนฯยู เจองานที่สบายมากขึ้นอีกด้วย มีบางช่วงต้องดวลกับกองหลังตัวโจ๊กอย่าง ฟิล โจนส์ อีกต่างหาก
ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่า โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่พวกเขาเก็บได้1แต้ม เนื่องจากรูปเกมเป็นรองอย่างสุดกู่ การเข้าทำสวนกลับแทบไม่มีพิษสงเลย มีนักเตะเพียงแค่3ราย ที่สอบผ่านในเกมนี้คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - เนมานย่า มาติช และ (เจ้าเก่า) ดาบิด เด เคอา
โรนัลโด้ ลบคำครหาตัวปัญหาผี (นานแล้ว)
น่าจะลบไปได้นานแล้วแหละสำหรับคำครหา ว่าเป็นตัวปัญหาที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบบการเล่นพัง เพราะแม้ทีมจะอยู่ในช่วงที่ฟอร์มห่วยแตกขนาดไหน แต่ทว่ายอดแข้งชาวโปรตุเกสรายนี้ ก็ยังมีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดให้ทีมได้เสมอ
เกมกับเซลซี บอล แทบจะมาไม่ถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลยหรือหากเป็นบอลที่มาถึงก็เป็นบอลไม่มีคุณภาพ หรือไม่ก็เป็นบอลเปิดโด่งมาให้ขึ้นชิงโหม่งยากๆทั้งนั้น แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม CR7 ก็ไม่เคยย่อท้อกับรูปเกมดังกล่าวเลย
มิหนำซ้ำแข้งวัย 37ปีรายนี้ ยังสู้ บู๊ทุกจังหวะ ลงมาล้วงบอล ลงมาเล่นเกมรับช่วยเพื่อน อย่างไม่รูhจักเหน็ดเหนื่อย ที่สำคัญคือในช่วงที่โดนนำ1-0 โรนัลโด้ ก็ยังคงมุ่งมั่น และไม่ถอดใจ พร้อมที่จะทำประตูให้ทีมเสมอ
ลูกตีเจ๊า1-1 ต้องชมเจ้าตัวสุดๆเลยทีเดียว กับจังหวะดึงบอลลงอย่างนิ่มนวลกับลูกยกมาให้ ของ เนมานย่า มาติช จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วตะบันสุดแรงผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าไปอย่างสวยงาม จุดประกายความหวังให้ทีมได้เป็นอย่างดี
เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 5สมัย มีสถิติที่ยอดเยี่ยมเกมกับสิงห์บูลส์ เมื่อคืนทั้ง ชนะการดวล 6จาก8ครั้ง - สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่ง 5ครั้ง - หาโอกาสซัดประตูได้ถึง3หน ทั้งที่เพื่อนร่วมทีมหาโอกาสปั้นให้ไม่ได้
1ประตู ที่ทำได้เมื่อคืนยิ่งตอกย้ำความสำคัญของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ยูไนเต็ด ณ วินาทีนี้ เพราะ9ประตูหลังสุดของทัพปีศาจแดงที่ทำได้ มาจากดาวเตะหมายเลข7รายนี้ ถึง8ตุง และนี่คือประตูที่ 23รวมทุกรายการของ โรนัลโด้ มีนักเตะในพรีเมียร์ลีก มีเพียงแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (33ลูก) เท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่า โรนัลโด้ รวมทุกถ้วยฤดูกาล 2021-2022 นี้
แท็กติกลุงราล์ฟ ก็มีส่วน
บอกว่าเดชะ บุญเลยก็ได้นะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่โดนพลพรรคสิงห์บูลส์ เจาะตาข่ายได้ใน45นาทีแรก ทั้งด้วยการเซฟของ ดาบิด เด เคอา ที่ยืนตำแหน่งดี รวมไปจนถึงที่สำคัญคือ แนวรุกเซลซี ที่ยิงนกตกปลากันไปเอง
45นาทีแรก ลูกทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล สร้างหาโอกาสจบสกอร์ได้มากถึง 10ครั้ง แต่ทว่าน่าเสียดายที่ไม่มีวิญญาณเพชรฆาตความเฉียบคมมากพอ ระบบ 3-4-1-2 ของเซลซี ได้เปรียบมากๆ ในการโจมตีระบบหลัง4ของ แมนฯยู
เพราะเซลซี มีผู้เล่นประเภทวิงแบ็ก เข้ามาเป็นอีกหนึ่งอาวุธในการโจมตี ทำให้ แนวรับทีมปีศาจแดง ต้องล่นตามตำแหน่งการประกบตลอด จนเกิดช่องว่างตรงริมเส้นให้พวก รีซ เจมส์ และ มาร์กอส อลอนโซ่ เลือกครอสเปิดโจมตีหรือจบสกอร์ได้สบายๆ
" ลุงลาบ " ปล่อยให้ทีม โดนกดอยู่ขนาดนั้นใน45นาทีแรก โดยที่ไม่เปลี่ยนแท็กติก หรือ ฟอร์เมชั่นใดๆ เพื่อมาหยุดการจู่โจมเกมบุกจากผู้เล่นวิงแบ็กของเซลซี ปล่อยให้พวก ดิโอโก้ ดาโลต์ และ อเล็กซ์ เตลลิส เจอกับ สถานการณ์ที่น่าหวาดเสียและหวิดจะเอาไม่อยู่หลายครั้ง
แต่ทว่ายังดีที่ใน 45นาทีหลัง รังนิก กำชับที่จะให้ตัวรุกริมเส้นอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แอนโธนีย์ อีแลงก้า ลงมาช่วยงานแบ็กซ้ายขวาของทีมมากขึ้น ทำให้พอทุเลาไม่โดนโจมตีใส่เป็นพายุอุกาบาตเหมือนครึ่งแรก
สิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจ ราล์ฟ รังนิก เช่นกันสำหรับการเปลี่ยนตัว ทั้งที่เป็นเกมที่ จะแพ้ ก็ไม่เสียหาย และเป็นการเล่นในบ้าน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วย นั่นก็คือการเปลี่ยนตัวเหมือนกลัวที่จะแพ้เกินไป นั่นก็คือการเอา ฟิล โจนส์ มาแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด เพื่อเล่นระบบหลัง3 อุดเอาผลเสมอ
รีซ เจมส์ บุก โคตรมัน
เป็นอาวุธหลักของเซลซีฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้นะสำหรับ การเติมเกมรุกสุดโหดของผู้เล่นในตำแหน่ง วิงแบ็ก ซ้ายและขวา เพราะซีซั่นนี้ หลายประตูที่ทีมสิงห์น้ำเงินได้ ก็มาจากผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังหลายครั้ง
ประตูขึ้นนำของ เซลซี ก็เป็นวิงแบ็กซ้ายอย่าง มาร์กอส อลอนโซ่ ที่หวดเข้าไปอย่างสุดสวย ซึ่งจุดเริ่มต้นก็เป็น รีซ เจมส์ นี่แหละ ที่ครอสบอลเข้ามาให้ ไค ฮาแวร์ตช์ โหม่งเสยย้อนหลังไปให้
ความแข็งแกร่งของ รีซ เจมส์ ทำให้ แนวรุกของทีมเจ้าบ้านอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำอะไรได้ไม่ถนัดเลย มิหนำซ้าในเรื่องของเกมรุก วิงแบ็กวัย22ปีรายนี้ ก็ทำได้ดุดันอันตรายเหลือเกิน เผาเครื่อง อเล็กซ์ เตลลิส ก้นไหม้ ไปไม่รู้กี่รอบ
เจมส์ เปิดบอล ครอสบอลเข้ามาในเขตโทษ ยูไนเต็ด คราใด เล่นเอาเซ็นเตอร์อย่าง ราฟาเอล วาราน และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ หวาดเสียวไม่น้อย เพราะการเปิดบอลของ รีซ เจมส์ ทั้งน้ำหนักและทิศทางนั้นอันตรายและได้ลุ้นมากๆ หากสกัดไม่ดี บอลสามารถเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองได้เลย
มิหนำซ้ำ รีซ เจมส์ เกือบจะเป็นฮีโร่ของทีมด้วยซ้ำหากจังหวะได้ซัดด้วยซ้ายบนเส้นเขตโทษ บอลไม่ชนเสาออกหลังไป ดาวเตะเบอร์24รายนี้ มีสถิติตัวเลขที่ดีมากๆเมื่อคืน ไม่ว่าจะเป็น
สัมผัสบอลมากถึง112ครั้ง - ชนะการดวล13 ครั้ง - ครอสบอลเข้าเขตโทษ 10ครั้ง - เลี้ยงบอลผ่าน 4ครั้ง -เข้าแท็กเกิ้ล4ครั้ง - หาโอกาสยิงประตู4 ครั้ง และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม 3หน
แรชฟอร์ด กู่กลับมาไม่ได้แล้ว
อะไรจะฟอร์มตกได้ขนาดนั้นจริงๆสำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ผลงานในสนามไม่ได้มีอะไรที่ดูไปในทิศทางที่ดีขึ้นเลย ทั้งโดน แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า เด็กดาวรุ่งแย่งตำแหน่งตัวจริงไป แต่ทว่าก็ยังโชคดีที่ เจดอน ซานโช่ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ "แรชชี่ " ยังได้โอกาสลงสนามเป็น11ตัวจริง
แม้ว่าแฟนบอลในถิ่นโรงละครแห่งความฝันจะให้กำลังใจ แรชฟอร์ด ขนาดไหน ปรบมือให้แทบจะทุกจังหวะการเล่น แต่ทว่า ดาวเตะผู้นิยมทำบุญรายนี้ ก็ไม่ได้มีฟอร์มที่ดีขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว
นอกจากภาษากายที่คอตกแย่ไม่หายแล้ว แรชฟอร์ด เวลาได้บอลก็ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ไม่ดีเลยนั่นก็คือ การตะบี้ตะบันมุดๆไปข้างหน้าแล้วก็ทำบอลเสีย มิหนำซ้ำใน 45นาทีแรก ที่ รีซ เจมส์ โจมตี อเล็กซ์ เตลลิส อย่างหนัก เจ้าตัวก็ไม่ลงมาช่วยเกมรับ โคฟเวอร์ ปิดพื้นที่เลย
ไม่มีจังหวะยิงประตู ไม่มีลูกจ่ายคีย์พาสให้เพื่อน เลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นเซลซีเท่ากับ 0 ครั้ง ทำบอลลั่นเสีย 2หน เป็น79นาทีที่น่าผิดหวังอีกครั้งและอีกครั้งของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เราเห็นอยู่เป็นประจำในฤดูกาลนี้
ฆวน มาต้า ที่มีเวลาอยู่ในสนามเกือบ 15นาที (รวมทดเวลาบาดเจ็บ) ดูมีบทบาท ในเกมรุกและทำใด้ดีกว่า แรชฟอร์ด เสียอีก ช่วยดึงตัวประกบในจังหวะ Off The Ball เล่นได้ไหลลื่นเข้าระบบกับทีม เห็นที เอริก เทน ฮาก จะมีอีกหนึ่งการบ้านก้อนโต ในซัมเมอร์นี้เสียแล้ว กลับการปลุก แรชฟอร์ด ให้กลับมาเป็นคนเดิมให้ได้
ผี Vs สิงห์ชอบเจ๊า แนวรุกทีมเยือนจบไม่คม
ผลเสมอแบ่งแต้มกันไป แม้ว่าแทบจะไม่มีผลในตารางคะแนน ไม่ได้เสียหายอะไรทั้งคู่ แต่ทว่าสำหรับผู้มาเยือนอย่างเซลซีแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อยที่ไม่สามารถเก็บ3แต้ม ออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ เพราะรูปเกมของพวกเขาเหนือกว่าทีมเจ้าบ้านบานเบอะ
ครองบอลเซลซี เหนือกว่าที่ 65% ต่อ35 % - รวมถึงโอกาสทำประตูที่มากกว่า 15 ครั้ง ต่อ3ครั้ง โอกาสที่จะๆน่าจะเป็นประตูมากที่สุดนอกจาก ลูกชนเสาของ ริซ เจมส์ แล้ว นั่นก็คือ โอกาสที่มาจาก ไค ฮาแวร์ตช์
วันเดอร์คิดเมืองเบียร์ ภาพรวมถือว่าเล่นได้ดีไหลลื่นกับเพื่อนร่วมทีม พอสมควร จังหวะขึ้นนำ1-0 ก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่โหม่งเช็ดไปเสาสองให้ มาร์กอส อลอนโซ่ แต่ทว่าน่าเสียดายเหมือนกันที่ตัวของ ฮาแวร์ตช์ เอง ไม่สามารถมีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้
ทั้งจังหวะหลุดไปดวลกับ ดาบิด เด เคอา และช็อตได้โขกโล่งๆ แต่ยังบังคับทิศทางบอลไม่ดี กลางมุมของประตู นั่นทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล จึงเลือกแก้เกมด้วยการ ส่ง โรเมลู ลูกากู ลงมาเปลี่ยนเกม หวังใช้ความใหญ่ -ถึก -ทน นวด แนวรับของเจ้าบ้าน
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม " พี่ตู้ " ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย การลงสนามของ ลูกากู ทำให้เกมรับของ ยูไนเต็ด เจองานที่ง่ายขึ้น บวกกับแท็กติก การส่ง ฟิล โจนส์ มาเป็น3 เซ็นเตอร์ ทำให้ปิดช่องไฟการโจมตีของเซลซี ได้พอสมควร เท่านั้นยังไม่พอ ดาวยิงชาวเบลเยี่ยม ยังได้รับเสียงโห่ สรรเสริญในการกลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกด้วย
ส่วน ระหว่างเซลซี กับ แมนฯ ยูไนเต็ด 4นัดหลังสุดที่ดวลกันในพรีเมียร์ลีก ผลลงเอยด้วยการเสมอทั้งหมด 0-0 ทั้ง2นัดในฤดูกาล 2020-2021 และ 1-1 ทั้ง2นัดในฤดูกาลนี้
.
- คอลัมน์นิสต์
- 387
- 29 เม.ย. 2565 15:07