กาเซมิโร่ ครบ5เหลือง ! ผี แผ่วปลาย พาเลซ ตีเจ๊า 1-1 ทดเจ็บ
สิ้นสุดซีรี่ส์ชนะรวดไว้เพียงแค่9นัดเท่านั้น สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังมาแผ่วปลายช่วงท้ายเกมโดน คริสตัล พาเลซ ตีเจ๊า 1-1 ได้สำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้พลพรรคปีศาจแดง ยังขึ้นไปยังตำแหน่งรองจ่าฝูงไม่ได้ แต่ทว่าก็ยังดีพอที่จะขยับแซงนิวคาสเซิ่ล ขึ้นมาอยู่อันดับ3ของตาราง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังมั่นใจสุดๆหลังเปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 2-1 และเหมือนจะทำให้มีลุ้นแชมป์ลึกๆกับการเป็นม้ามืดตัวที่3 แต่ทว่าความหวังนั้นก็เหมือนทำให้พวกเขาต้องตื่นมา อยู่ในเส้นทางหลักของตัวเองก่อนนั่นก็คือการทำอันดับติดท็อปโฟร์ ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เกมที่สนาม เซล เฮิร์สท์ ปาร์ค ระหว่าง คริสตัล พาเลซ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนัดนี้กุนซือปีศาจแดง เอริก เทน ฮาก เลือกที่จะประเดิมใช้ดาวยิงร่างยักษ์คนใหม่อย่าง เวาท์ เว็กฮอร์สต์ เป็นตัวจริงเลย ส่วน ลิซานโดร มาร์ตินเนซ ก็หวนคืนสู่ตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟอีกครั้ง
เกม45นาทีแรก เป็นปีศาจแดงที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนทั้งการครองบอล และการหาจังหวะการเข้าทำและพวกเขาก็ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากการต่อบอลทำเกมขึ้นมาสุดสวย และเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดซ น.44 สังหารเข้าไป
ซึ่งก่อนหน้านั้น ยูไนเต็ด เกือบโดนนำไปก่อนด้วยซ้ำ แต่ทว่า ดาบิด เด เคอา บิดปัดลูกยิงของ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ชนคานออกไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ในครึ่งหลังไม่รู้ว่าเป็นเพราะความล้าหรือแท็กติกหรือเปล่า ทำให้นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แผ่วลงอย่างชัดเจน " ดิ อีเกิ้ลส์ " ครองเกม หาโอกาสเข้าทำได้ดีขึ้น จนท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+1 จากฟรีคิกร่วม30หลา ของ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ที่ปั่นเสียบคานเข้าไปอย่างหมดจด
นอกจากทำได้แค่ผลเสมอแล้ว สิ่งหนึ่งที่เสียหายเป็นอย่างมากสำหรับปีศาจแดงนั่นก็คือการโดนใบเหลืองของ กาเซมิโร่ ครบ5ใบ ทำให้มิดฟิลด์คนสำคัญรายนี้ จะพลาดลงสนามในเกมสุดสำคัญกับอาร์เซน่อลวันอาทิตย์นี้
แม้จะทำได้แค่เสมอ แต่ก็มีผู้เล่นหลายรายที่โชว์ฟอร์มไฉไลใช้ได้ แม้ว่าจะเป็น อารอน วาน - บิสซาก้า / บรูโน่ แฟร์นันเดซ / ดาบิด เด เคอา ส่วนรายที่ยังทำได้น่าผิดหวังก็ยังเป็นหน้าเดิมๆอย่าง แอนโทนี่ ที่มีช็อตไม่เข้าใจกันกับบรูโน่ แล้วโวยวายกันให้เห็น
ส่วนเจ้าบ้าน คริสตัล พาเลซ พวกเขาก็ยังเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เหมือนเดิม บทจะเอาอยู่กับทีมใหญ่ก็ทำได้ดีมากๆ บทจะหลุดก็แพ้ขาดลอยดื้อๆ สิ่งหนึ่งที่หายไปในระยะหลังของลูกทีมของ ปาทริค วิเอร่า นั่นก็คือความอันตรายในเกมรุก
โดยเฉพาะ วิลเฟร็ด ซาฮา ที่ในระยะหลังเป็น เดอะ แบก ให้ทีมไม่ได้เลย กองหน้ารายอื่นๆก็กลายเป็นจอมเป้าสะอาด ไม่ผลิตสกอร์ซะงั้น
เจ้ายักษ์ เว็กฮอร์สต์ ประเดิม
การที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ยังไม่พร้อมในเกมนี้ รวมไปจนถึงฟอร์มของดาวยิงหน้านิ่ง ที่นิ่งมานานแล้วหลายนัด ทำให้เป็นโอกาสที่ดีทันทีสำหรับการที่ เอริก เทน ฮาก จะส่งหัวหอกคนใหม่อย่าง เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ลงสนามเป็น11ตัวจริงเลย
การยืนค้ำหน้าของเจ้าของส่วนสูง 197เซ็นติเมตร และมีปีกอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แอนโทนี่ เปิดป้อนให้ ทว่าในเรื่องของการประสานงานกับ 2ดาวเตะความเร็วสูง ดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์ยังทำได้ไม่ดีนัก อาจจะด้วยเวลาซ้อมและจูนกับเพื่อนร่วมทีมมีน้อย
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามรายละเอียดงานอื่นๆถือว่า เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ทำได้ดีมากๆเลยทั้ง การพักบอล ในแดนหน้า เวลาที่หันหลังให้กับประตู แม้ว่าจะได้รับการซัพพอร์ทด้านลูกกลางอากาศที่เจ้าตัวถนัดน้อยไปหน่อย ก่อนที่บทบาทในเกมรุกจะน้อยลงเรื่อยๆ มีส่วนแค่ลงมาต่อบอล ยืนค้ำมากกว่า
ความขยันคืออะไรที่เป็นแง่บวกของ เว็กฮอร์สต์ ในเกมนี้ ประตูขึ้นนำ1-0 เจ้าตัวก็มีส่วนเหมือนกัน เพราะดึงตัวปะกบของ พาเลซ ไปถึง2คนอย่าง มาร์ค เกฮี และ คริส ริชาร์ดส์ จนทำให้ บรูโน่ แฟร์นานเดซ มีพื้นที่และเวลาเหลือเฟือได้ตะบันเหน่งๆ
" เจ้ายักษ์ " มีโอกาสลุ้นทำประตูเพียงแค่ 1ครั้งเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใกล้เคียงเท่าไหร่ ได้ผ่านบอลเพียง20ครั้ง และถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ในนาทีที่ 69 การเดบิวต์นัดแรกกับทีมปีศาจแดง ของ เว็กฮอร์สต์ ถือว่าไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีพิเศษอะไร เล่นได้ตามแท็กติกที่ เอริก เทน ฮาก ต้องการ
บรูโน่ ดาวเตะพลังม้า แต่
ในฤดูกาลนี้ ถือว่าบทบาทเปลี่ยนไปจากช่วงที่ย้ายมาใหม่ๆเหมือนกันนะสำหรับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ เพราะช่วงที่ จอมโวยวายชาวโปรตุเกสย้ายมาร่วมทีมแรกๆ มีประตูหรือแอสซิสต์ มาฝากแทบทุกนัด
โดยในยุคของ เอริก เทน ฮาก บรูโน่ แฟร์นันเดซ ไม่ได้ยืนสูงเป็นเพลย์เมคเกอร์เบอร์10แต่อย่างใด แต่เป็นในเชิงบทบาทของกองกลางหมายเลข8มากกว่า มีความขยันวิ่งไล่บอล เล่นเกมรับด้วย ทำให้ต้องอยู่ห่างจากรอบเขตโทษมากขึ้น
บรูโน่ อยู่ถูกที่ถูกเวลาสุดๆกับการรับลูกจ่ายของ คริสเตียน อิริคเซ่น ก่อนตะบันเต็มแรงเข้าไปง่ายๆ แบบไม่มีตัวประกบและมีเวลาเหลือเฟือในการเลือกมุม อย่างไรก็ตามแข้งเบอร์8รายนี้ มีจุดที่ควรปรับปรุงเหมือนกันนั่นก็คือ ความนิ่งละเอียดในการจ่ายบอล
บางจังหวะ บรูโน่ ก็ดูจะเร่งเพื่อนร่วมทีมเกินไป และมีออกแอ็คชั่นทุกครั้งกับคำตัดสินจากผู้ตัดสินที่ไม่ตรงใจ นอกจากนี้ยังมีช็อตไม่พอใจการวิ่งทำทางกันกับ แอนโทนี่ โวยวายกันอยู่สักพักอีกด้วย
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ด้วยความขยัน แพสชั่น วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล นี่คือนักเตะที่แมนฯยูจะขาดไม่ได้เลย เมื่อคืนอดีตแข้งสปอร์ติ้ง ลิสบอน จ่ายบอลคีย์พาส ไปได้มากถึง 4ครั้ง / วางบอลยาวได้6หน / มีโอกาสยิง3ครั้ง และเข้าแท็กเกิ้ลอีก 5ครั้ง
ปืนลูบปาก กาเซมิโร่ ครบ5เหลือง
นอกจากจะโดนตีเสมออย่างน่าเจ็บใจช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จาก3แต้มกลายเป็นเหลือ1แต้ม ปีศาจแดงยังต้องพลาดใช้งาน กาเซมิโร่ ในเกมสุดสำคัญที่จะบุกไปเยือนอาร์เซน่อลวันอาทิตย์นี้ด้วย หลังจาก " พี่เกษม" ได้รับใบเหลืองครบ5ใบ จากการไปเข้าเสียบ วิลเฟร็ด ซาฮา
จะว่าไปเมื่อคืนก็เป็นอีกนัดและอีกนัด ที่กองกลางจาก เรอัล มาดริด ทำผลงานได้ดีมากๆ ครึ่งแรก กาเซมิโร่ เอาอยู่หมดเลยในการเก็บกวาดเกมในแดนกลางของเจ้าบ้าน วิลล์ ฮิวจ์ส ไมเคิ่ล โอลิเซ่ และ ฌ็อง-ฟิลิปป์ มาเตต้า แทบจะไร้ตัวตนทำอะไรไม่ได้เลยใน 45นาทีแรก
กาเซมิโร่ ยังมีช็อตที่เข้าตาอีกด้วย กับ จังหวะที่ ราฟาเอล วาราน เติมสูงแล้วลงมาไม่ทัน สุดท้ายก็เป็นเจ้าตัวนี่แหละที่ลงมาซ้อนทันในช็อตสุดท้าย ห้องเครื่องชาวบราซิลมีสถิติที่ดีทั้ง ชนะการดวลภาคพื้นดิน 9ครั้ง/ แท็กเกิ้ล8ครั้ง / ตัดบอล3ครั้ง และ เคลียร์บอล5ครั้ง
การโดนใบเหลือง น.80 เพราะจังหวะจำเป็นจริงๆกับการหยุด ซาฮา ซึ่งก็เกิดข้อสงสัยในหมู่แฟนผีไม่น้อยว่า ทำไมกุนซือ เอริก เทน ฮาก ไม่เลือกเปลี่ยน กาเซมิโร่ ที่มีความเสี่ยงโดนใบเหลืองและจะโดนแบนนัดสุดสำคัญกับอาร์เซน่อลออกให้เฟร็ด ลงมาบู๊แทน ซึ่งหลังจาก " กาเซ " โดนใบเหลือง สีหน้าของ เทน ฮาก ก็บ่งบอกได้ถึงความผิดหวังสุดๆเลยทีเดียว
วันอาทิตย์ที่ต้องไปเยือนอาร์เซน่อล ที่นักเตะความสามารถสูง ต่อบอลกันแม่นยำทุกราย การขาด กาเซมิโร่ มีผลหนักหนาแน่นอนแน่ๆในศึกนี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกุนซือชาวดัตช์แล้วแหละว่าจะจัดตัวในแผงกลางยังไงไปฟัดกับ กรานิต ชาก้า และ โธมัส ปาเตย์
มีโอกาสเช่นกัน ที่เราจะได้เห็น เฟร็ด หรือ สก็อต แม็คโทมิเน่ย์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับ บรูโน่ และ อิริคเซ่น งานหินแน่ๆสำหรับการปราศจากกาเซมิโร่ แต่ทว่านัดแรกที่เอาชนะมาได้ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 3-1พวกเขาก็ไม่มี " พี่เกษม " เช่นกัน
ไอ้แมงมุมคนเดิม ?
ช่วงต้นฤดูกาลใครเห็นก็ว่าหมดอนาคตกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่ๆสำหรับ อารอน วาน -บิสซาก้า เพราะก่อนที่จะพักเบรคบอลโลก 2022 " ไอ้แมงมุม " ได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น และเป็นการลงมาเป็นตัวสำรองเพียง4นาทีอีกด้วย
ทว่าหลังจากบอลโลก 2022 ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ที่ยังไม่พร้อม ทำให้ วาน บิสซาก้า ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมลีกมา5นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว โอเค เกมบุกอาจจะยังไม่เท่าไหร่ ไม่มีจ่ายเฉียบคมระดับคิลเลอร์พาส แต่ทว่าเกมรับนั้นแน่นปึ๊กเลย
การดวลกับทีมเก่าพาเลซ วาน -บิสซาก้า ก็ได้ลงตัวจริงอีกครั้ง และเอาอยู่มากๆกับการรับมือ วิลเฟร็ด ซาฮา และ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ที่สลับกันเล่นซ้าย-ขวา ตามจังหวะตามสถานการณ์
จังหวะที่เข้าตาที่สุดของแบ็กเจ้าของค่าตัว50ล้านปอนด์ก็คือ ช่วงท้ายเกมทดเวลาบาดเจ็บที่เจ้าตัววิ่งไล่กวด ซาฮา ที่กำลังหลุดเดี่ยวไปดวลกับ เด เคอา แล้วสไลด์ที่บอลทันก่อนที่ตัวของ วิลเฟร็ด ซาฮา ได้ง้างยิงแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
แท็กเกิ้ล4ครั้ง / ตัดบอล2 ครั้ง นี่คือสถิติเกมรับด้านที่เด่นๆของ วาน -บิสซาก้า เมื่อคืน สำหรับเรื่องในเกมบุกต้องบอกว่าเจ้าตัวยังต้องปรับต้องจูนกันอยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะครอสบอล ที่ยังทำได้ไม่น่าลุ้นเท่าไหร่
พาเลซ รุกทื่อ ซาฮา ไม่ได้แบกเหมือนเดิม ?
ก่อนเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สถานการณ์ของ คริสตัล พาเลซ ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่ กับการอยู่อันดับ12ของตาราง มีอยู่ 22แต้ม จาก18นัด แต่ทว่าฟอร์มของ " ดิ อีเกิ้ลส์ " ในระยะหลังนั้นแย่พอสมควร 5นัดหลังสุด ชนะแค่ 1 พ่ายไป4
แถมยังยิงได้เพียงแค่ 17ประตู จาก18นัดอีกด้วย โดยเฉพาะในรายของ วิลเฟร็ด ซาฮา ที่ยิงไม่ได้มา5นัดติดต่อกัน หรือจะเอาให้ละเอียดกว่านั้น ปีกทีมชาติไอเวอรี่ โคสต์ ทำไปได้เพียงแค่ 1ประตู 1แอสซิสต์ เท่านั้นจาก9นัด หลังสุดในลีก
กองหน้าอยาง อ็อดซอน เอดูอาร์ ก็ทำไปได้เพียงแค่ 3ประตู ส่วน จอร์แดน อายิว นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย ซัดไปได้เพียงแค่ 1เม็ดเท่านั้น ย้อนกลับมาที่ ซาฮา ต้องบอกว่าเจ้าตัว เล่นงานแบ็กซ้าย-ขวา ผู้มาเยือนแทบไม่ได้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จังหวะสปีดของเจ้าตัวโดน " ไอ้แมงมุม " วาน -บิสซาก้า กวดไล่ทันแบบน่าเสียดาย ซาฮา ที่ทำได้6ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ต้องไม่ลืมว่าเจ้าตัวนับได้4ลูก ตั้งแต่นัดที่4ของซีซั่นแล้ว
ที่โดดเด่นที่สุดของทีมปราสาทเรือนแก้วคงหนีไม่พ้น ผู้ซัดฟรีคิกสุดเฉียบร่วม30หลาอย่าง มิเชล โอริเซ่ ทีแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวฤดูกาลนี้ ดาวเตะวัย21ปี ทำไปได้2ประตู 4แอสซิสต์ในลีก
โอริเซ่ ปั่นป่วนเกมรับของผู้มาเยือนได้พอสมควร ถ้าดูจากสถิติทั้ง ผ่านบอลในเขตโทษคู่แข่ง9ครั้ง / ครอสบอล8ครั้ง / เอาชนะการครอบครองบอล 6ครั้ง / สร้างสรรค์โอกาส4ครั้ง / สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่ง4ครั้ง
- คอลัมน์นิสต์
- 315
- 19 ม.ค. 2566 14:18