วนสู่ลูปนรก ! ผี สุดอนาถ บอร์นมัธ บุกถล่มคาบ้าน 3-0 เทน ฮาก ท่าจะอยู่ยาก
ผลงานเลิศหรูจากเกมที่ชนะ เซลซี 2-1 เหมือนจะกลายเป็นภาพลวงตา ความหลอกลวงความห่วยต่างๆที่ซ่อนไว้เลย สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเหมือนพวกเขาจะวนกลับเข้าสู่ลูปนรกอีกครั้ง ล่าสุดในเกมพรีเมียร์ลีก ทั้งที่ได้เล่นในบ้านแท้ๆ แต่ทว่ากลับโดนทีมครึ่งล่างของตารางอย่าง บอร์นมัธ บุกมาอัดอย่างอเนจอนาถ 3-0
ก่อนเกมแดงเดือด และนัดชี้ชะตาเข้ารอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนัดกับบอร์นมัธ มีแววที่จะทำให้พลพรรคปีศาจแดงเสียความมั่นใจไปมากเลยทีเดียว เพราะผู้มาเยือนจากแดนใต้ บุกมาถลุงชนะไป 3-0
ก่อนเกม กุนซือ เอริก เทน ฮาก จัดตัวถือว่าเป็นไปตามคาด แต่ทว่าก็มีหนึ่งตำแหน่ง ที่ดูขัดหูขัดตานั่นก็คือ กองหน้าตัวเป้า ที่กลับกลายเป็น อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่โดนตำหนิแทบทุกนัด ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง
ออกสตาร์ทมา แมนฯยูไนเต็ด ที่เหมือนพยายามเซ็ตเกมรุกใส่ผู้มาเยือน ก็ก่อความผิดพลาดในการจ่ายบอล จนบอร์นมัธ ลงโทษมาขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก โดมินิค โซลันกี้ น. 5 หลังจากนั้น " เดอะ เชอร์รี่ส์ " ก็มาส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้อีกครั้ง จาก มาร์คัส เทเวอร์เนียร์ แต่ทว่าจังหวะแรกตัวของ โซลันกี้ ล้ำหน้าไปก่อน
ทางฝั่งของเจ้าบ้านก็พยายาม สร้างสรรค์โอกาสทำประตูตีเสมอ แต่ทว่า แนวรุกของพวกเขา ไร้ความดุดันเสียเหลือเกิน เข้าขั้นสากกะเบือ ทำให้จบ45นาทีแรก ต้องตามหลัง 0-1 ครึ่งหลัง ETH ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นแต่อย่างใด
ยูไนเต็ด ที่พยายามเร่งเครื่องไล่เจ๊า แต่ทว่าก็ออกมาเป็นในรูปแบบเดิมนั่นก็คือ การจ่ายบอลเสียกลางทางจนโดน ลูกทีมของ อันโดนี่ อิราโอล่า มาได้ประตู 2-0 และ 3-0 ฝังไป จาก ฟิลลิป บิลลิ่ง น.68 และ มาร์กอส เซเนซี่ น.73 จบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
ความปราชัยย่อยยับ 0-3 คา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นี่คือการบอกมาตรฐานการเล่นที่ไม่แน่นอนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2023-2024 นี้ได้แบบจริงๆจังๆ ผ่านมาแล้ว16นัดในลีก พวกเขาปราชัยไปแล้วถึง 7
ส่วน บอร์นมัธช่วงแรกที่ออกสตาร์ทไม่ดีในลีก ทำให้กลายเป็นทีมท้ายตารางหนีตกชั้น แต่ทว่าฟอร์มในระยะหลัง พวกเขาได้ยกมาตรฐานและคุณภาพของตัวเองขึ้นมาได้ดีเป็นอย่างมาก 3คะแนนดังกล่าว ทำให้พวกผู้มาเยือนพุ่งพรวดขึ้นมาอยู่ที่13ของตาราง
มาร์กซิยาล ไม่สมควรได้รับโอกาสอีก - ฮอยลุนด์ ต้องปรับอีกเยอะ
ไม่ว่าจะได้ลงสนามในบทบาทไหน สถานะอะไร ก็แทบจะเป็นผู้เล่นที่ไม่ได้สร้างอิมแพคต่อเกมให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย สำหรับคนเก่าเจ้าเดิมอย่าง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่เกมกับบอร์นมัธ เมื่อคืน " พี่เฉย " กลับได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงซะงั้น
และมาร์กซิยาล ก็ยังเป็น มาร์กซิยาล อยู่วันยังค่ำ เอาแค่ภาษากาย การวิ่งเหยาะๆ ก็เล่นเอาแฟนบอลส่ายหัวกันทั้งสนามแล้ว ยังไม่นับรวมแพสชั่น ความขยัน ประโยชน์ต่อทีมที่แทบไม่มีเลย สำหรับแข้งที่รับค่าเหนื่อยแพงถึงสัปดาห์ละ 250,000 ปอนด์
ช่วงเกือบ60นาที ที่ได้อยู่ในสนาม เราแทบจะไม่ได้เห็นตัวตนของพี่หมาก บางจังหวะเพื่อนวิ่ง ก็จะเห็นเจ้าตัวซอยเท้าช้าๆเอื่อยๆตลอด โอกาสยิง1ครั้ง - ผ่านบอล25หน - ทำบอลเสีย11ครั้ง ที่คือผลงานของมาร์กซิยาล เมื่อคืน กอ่นถูกเปลี่ยนตัวออกให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงมาแทน น.56
เรียกว่าการลงสนามตัวจริงของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ก็การันตี โควตา1ที่ ที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกได้เลย เพราะนี่ก็จะ3ปีแล้ว ที่ดาวยิงชาวฝรั่งเศสไม่ได้อยู่ในสนามครบ90นาที แต่ทว่าอย่างไรก็ตามผู้มาแทน อย่าง ฮอยลุนด์ ก็ยังตอบแทนอะไรไม่ได้มากนัก
รวมนัดกับบอร์นมัธเมื่อคืน นี่คือเกมที่12ในลีกเข้าให้แล้ว (ตัวจริง 9 - สำรอง 3) ที่เจ้าหนูอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ทว่ายังเป้าสะอาดอยู่เลย โอเคส่วนหนึ่งเป็นเพราะดาวยิงแดนโคนม ได้รับการสนับสนุนที่น้อยจากเพื่อนร่วมทีมด้วย
แต่ทว่าเมื่อดูจากรายละเอียดหลายๆนัดจะเห็นว่า ฮอยลุนด์ ยืนไม่ค่อยถูกที่ถูกเวลาบ่อยๆด้วย เรียกได้ว่าการจับจังหวะสัญชาตญาณในกรอบเขตโทษน้อยไปหน่อย หรือยังจูนกับเพื่อนร่วมทีมไม่ติดไม่รู้
เกมรับดีแตก ผลัดกันแจกโชค
มี5นัดในฤดูกาลนี้ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีตได้ แต่ทว่าส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เกิดจากความเหนียวแน่น แกร่งเป็นหินผาของพวกเขาแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะแนวรุกฝั่งคู่แข่ง ยิงตกตกปลา จบสกอร์ไม่คมเองเสียมากกว่า
เกมที่ชนะเอฟเวอร์ตันสวยๆ 3-0 และเฉือนเซลซี 2-1 เราจะเห็นได้ว่าเกมรับของปีศาจแดง เปิดช่องว่างสร้างบ่อน้ำมันให้คู่แข่งรุมกันเจาะอย่างสนุกสนามตลอด เดชะบุญที่ทั้ง ทอฟฟี่สีน้ำเงินและสิงห์บูลส์ จบสกอร์กันไม่เฉียบขาด
เกมกับบอร์นมัธ 2ประตูแรกที่เสีย ก็มีจุดเริ่มต้นจากปีศาจแดงในจังหวะขึ้นเกมในแดนตัวเอง เม็ดแรกเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดซ จ่ายพลาด ลูกสองเป็นทีของ ลุค ชอว์ ที่ตักบอลน้ำหนักพลาด
ส่วนประตูที่3 ก็เป็นจุดอ่อนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ยุคไหนๆแล้ว ในเรื่องของลูกตั้งเตะ ลูกเตะมุม เพราะลูกทีมของ เทน ฮาก แทบจะไม่ได้ประตูจากลูกเซ็ตพีช แต่ทว่ากลับเป็นทีมที่สุ่มเสี่ยงและโดนลูกเซ็ตพีชเล่นงานมาโดยตลอด และก็มาโดน มาร์กอส เซเนซี่ โขกตุงตาข่าย 3-0
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ช่วยไว้หลายครั้ง แต่ก็มารวนท้ายเกมเหมือนกัน ดีที่เม็ด4 โดนVAR ยึดเป็นแฮนบอลด์ ลุค ชอว์ ดูจะมึนไม่น้อยกับการเล่นเป็นเซ็นเตอร์ครางนี้ อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ อองเดร โอนาน่า ที่แม้ไม่ได้พลาดหมูหกอะไร
แต่ท่วงท่าทีการเซฟของเจ้าตัว ดูจะเชื่องช้าแปลกประหลาด และบินไปไม่สุดอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะลูกที่2ที่ ลูกโขกของ ฟิลลิป บิลลิ่ง ไม่ได้มุมหรือหนีมือมากเกินกว่าจะพุ่งไปไม่ทัน
กลางผีปล่อยผ่าน อัมราบัต -แม็คทอม ชะลออะไรไม่ได้เลย
พึ่งจะฟอร์มแจ่มในเกมเฉือนเซลซีมา2-1แท้ๆ สำหรับ โซฟียาน อัมราบัต กับการครองเกม แย่งบอล และไม่เสียบอลง่ายๆ แต่ทว่ากับบอร์นมัธเมื่อคืน " บังบัต " ก็กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง นั่นก็คือเชื่องช้า และเอาเกมรับชะลอเกมหรือตัดบอลจากแดนกลางไม่ได้เท่าไหร่
กองกลางชาวโมร็อกโก ช้าเป็นเรือเกลือจริงๆกับจังหวะที่ บรูโน่ จ่ายบอลเสีย ลูอิส คุ๊ก ตัดบอลได้ โฉบหนี อัมราบัต ไปดื้อๆ จนทำให้แอสซิสต์ ถวายพานให้ โดมินิค โซลันกี้ ชาร์จเข้าไปง่ายๆ
การเล่นเกมรับการอ่านเกมนี่เป็นอีกสิ่งที่ กองกลางยืมตัวจากฟิออเรนติน่า ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่คาดหวังแรงอวยมาตลอด เพราะด้วยความอืดของเจ้าตัวนี่แหละที่ทำให้ ต้องพลาดพลั้งอยู่หลายหน
แต่ถึงกระนั้นก็ดี ก็ต้องตำหนิมิดฟิลด์คู่กลางอีกคนอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ด้วย ที่ถ้าจะให้พูดตรงๆ " แม็คทอม " ณ ปัจจุบัน ไม่มีเซนต์ในการเล่นเกมรับแล้ว เพราะกุนซือ เอริก เทน ฮาก ซื้อแข้งชาวสก็อตต์รายนี้ ในเพียงแค่เรื่องการสอดเข้าไปทำประตูเท่านั้น
จังหวะโดนสวนกลับ เรามักจะได้เห็น แม็คโทมิเน่ย์ วิ่งต้อยๆ ลงมาช่วยเกมรับไม่ทันตลอด กลายเป็นหลายช็อตที่ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ต้องลงมาวิ่งไล่แทน การพลิกบอล ชั้นเชิง การเป็นมิดฟิลด์ ดาวเตะเบอร์39 ทำหายไปหมดแล้ว
ช่วงเวลาสุ่มเสี่ยงของ เทน ฮาก อีกครั้ง
เวลาหมุนไป2ปีกว่า ทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็กลับมาวนอยู่ในลูกนรก เหมือนสมัยที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับปีศาจแดงอีกรอบ ในยุคของ เอริก เทน ฮาก ที่หนักหนาจริงในปีที่2
23นัดรวมทุกรายการ แมนเชสตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ไปแล้วถึง 11นัด นี่คือสถิติที่เลวร้ายมากๆ ที่เกิดขึ้น แถมยังนับจำนวนนัดได้เลยว่า ปีศาจแดง โชว์ฟอร์มไฉไลจริงๆจังๆกี่แมตช์ มีสิทธิโดนคู่แข่งล่อเป้าตลอด ขึ้นอยู่กับว่าคู่ต่อสู่จะยิงนกตกปลาเองไหม
การจัดตัวก็ยังมีสิ่งที่ขัดใจแฟนๆ 2จุดนั่นก็คือ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่เมื่อส่งลงสนามคราวใด ภาพและผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม เอื่อยเฉื่อยไร้พลัง แทบไม่มีตัวตนหรือมีบทบาทในเขตโทษ เวลาโดนชนก็กลิ้งเป็นลูกขนุนตลอด
รวมไปจนถึง ลุค ชอว์ ที่โอเคว่า ซีซั่นที่แล้วจะเล่นในตำแหน่งเซ็นตอร์ได้ดี แต่มาฤดูกาลใหม่นี้ ชอว์ ที่พึ่งหายบาดเจ็บควรได้เล่นแบ็กซ้ายมากกว่า เพราะบนม้านั่งสำรองยังมีเซ็นเตอร์อาชีพแท้ๆอย่าง ราฟาแอล วาราน และ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ อยู่
อีกจุดที่เป็นปัญหาของปีศาจแดง ที่เห็นมาตลอดและไม่เคยแก้ไขได้เลยก็คือ การรับมือกับลูกตั้งเตะ ที่ทุกเกม จะต้องมีจังหวะเสีย จังหวะเสี่ยงโดนจังๆตลอด เมื่อคืนก็มาโดนเม็ด3จากลูกเตะมุม
รวมไปจนถึงการหวังประตูจากลูกเตะมุม ยูไนเต็ด ไม่มีประสิทธิภาพแล้ว เห็นที เอริค แรมซี่ย์ คงต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนมากๆ เพราะนี่คืออีกจุดสลบของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นเลือดแล้วไม่เคยหยุดไหลเสียที
บอร์นมัธ แรงขึ้นมา เล่นได้เจ๋งตามแท็กติกตัวเอง
9นัดแรกของฤดูกาล " เดอะ เชอร์รี่ส์ " ส่อแววว่าจะต้องร่วงหล่นลงไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ มากๆ เพราะไม่ชนะใครเลย เสมอ3 แพ้ 6 เก็บได้เพียง3แต้ม แต่ทว่าอย่างไรก็ตามก่อนเกมบุกมาฟัดกับปีศาจแดง 6นัดหลังสุด บอร์นมัธ ชนะถึง4 เสมอ1 และแพ้เพียง1นัดต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
การบุกมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืน บอร์นมัธ ครองบอลน้อยกว่า 31เปอร์เซ็นต์ โอกาสยิงน้อยกว่า 8ต่อ 20ครั้ง แต่นั่นก็เป็นเพราะ ทีมจากแดนใต้ เลือกวิธีการเล่นที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะเป็นทีมเล็กกว่า
จึงเลือกวิธีแบบรับแล้วสวนกลับ จ่ายบอลทะลุเข้ากลาง สวนกลับได้งามๆหลายครั้ง ซึ่งถ้าหากบอร์นมัธ จบสกอร์กันได้คมกว่านี้ สกอร์น่าจะไม่ได้ขาดแค่ 3-0 แน่ๆ อีกสิ่งที่ต้องชื่นชมลูกทีมของ อันโดนี่ อิราโอล่า คือการจ่ายบอลที่ทำกันได้อย่างแม่นยำสุดๆ
มิดฟิลด์ของพวกเขาอย่าง ไรอั้น คริสตี้ และ ลูอิส คุ้ก ทำงานกันได้ดีมากๆ เปรียบเทียบกับ คู่ อัมราบัต& แม็คโทมิเน่ย์ ได้เลย ว่าเล่นได้ได้อย่างมีทีมเวิร์ค และเข้ากับแท็กติกได้มากกว่า
ยังไม่นับ โดมินิค โซลันกี้ ที่ฤดูกาลนี้ยิงประตูได้สม่ำเสมอมากๆ กดไปแล้ว 8ประตู และคนสุดท้ายที่ต้องชมจริงๆนั่นก็คือ กุนซือ อิราโอล่า ที่วางแท็กติกการเล่นออกมาได้อย่างเข้าทางเหมาะสมจริๆในการไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสามารถโจมตีจุดอ่อนของ ลูกทีม เอริก เทน ฮาก ได้อย่างเห็นผล
- คอลัมน์นิสต์
- 226
- 10 ธ.ค. 2566 12:48