รอก่อนโปแลนด์ ! คืนผีดุ ถลกหนังหมาป่า 6-2 คาวานี่ &บรูโน่ พระเอก
เรียกได้ว่าลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แทบจะก้าวขาทั้งสองข้างไปยังนัดชิงนะเลิศที่โปแลนด์แล้วก็ว่าได้ หลังเกมรอบรองชนะเลิศนัดแรกพวกเขาเปิดบ้าน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถลกหนังหัวผู้มาเยือนจากอิตาลีอย่าง โรม่า แบบหาทางกลับบ้านไม่ถูก 6-2
เกมใน45นาทีแรก จะเป็นทางฝั่งโรม่า ที่พลิกแซงขึ้นนำ2-1 โดยอาศัยความผิดพลาดและความประมาทในแนวรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรูโน่ แฟร์นันเดซ ซัดประตูให้ปีศาจแดงนำไปก่อน 1-0 น.9 ก่อนที่จะเป็น ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ ซัดจุดโทษตีเสมอ น.15 และ เอดิน เซโก้ ยิงแซง น.34
แม้ว่าโรม่า จะพลิกแซงนำได้ในครึ่งแรก แต่ทว่ารูปเกมของ จัลโล่รอสซี่ แทบไม่ได้มีอะไรหรือมีพิษสงคุกคามแนวรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย เป็นทางฝั่งทีมเจ้าบ้านที่ประมาทเลินเล่อเสียประตูจากงานไม่ละเอียดไม่เนี๊ยบกันเอง
แต่ทว่า45นาทีหลังไม่รู้ น้าโอเล่ ไปปลุกกระตุ้นลูกทีมอีท่าไหน ปีศาจแดง ลงสนามด้วยความรอบครอบเยือกเย็นกว่าเดิม พร้อมเดินหน้าฆ่าไม่ยั้ง ยิงรัวแซง5ประตู บรูโน่ แฟร์นันเดซ กดจุดโทษ เอดินสัน คาวานี่ ซัดเบิ้ล ปอล ป็อกบา โขกตุงตาข่าย เมสัน กรีนวู๊ด ลงสำรองซัดประตูตอกฝาโรง
6-2 นี่คือสกอร์นี่้เหนื่อยพอสมควรสำหรับลูกทีมของ เปาโล ฟอนเซก้า จะพลิกนรกผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ ครึ่งหลังทีมหมาป่าจากกรุงโรม แผ่วลงไปเองอย่างเห็นได้ชัด ทั้งผู้เล่นในแนวรับที่ยืนตำแหน่งกันหละหลวมเป็นกระดาษทิชชู่
รวมไปจนถึงโกลตัวสำรองอย่าง อันโตนิโอ มิรันเต้ ที่ดูจะตื่นสนามไปหน่อย แถมปัดบอลก็ล่กๆรน ไม่พ้นเขตอันตรายหลายครั้ง จนทำให้ทีมโดนส่องตาข่าย
ส่วนผู้เล่นที่เป็นพระเอกของเกมเมื่อคืนคงหนีไม่พ้นคู่ดูโอ้อย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดซ และ เอดิสัน คาวานี่ ที่ช่วยกันทำ2ประตู 2แอสซิสต์ในเกมดังกล่าว ดาวเตะชาวโปรตุเกสและอุรุกวัย เข้าขารู้อกรู้ใจเซ้นบอลทันกันเป็นอย่างดี คิดงานสร้างสรรค์มีอิมเพคต่อเกมได้ดีมากๆทั้งคู่
ส่วน คริส สมอลลิ่ง ที่รีเทิร์นสู่รัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พร้อมทรงผมใหม่ขัดใจแม่ ก็ต้องเจอกับฝันร้ายและช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำนักสำหรับการเล่นเป็นกองหลัง แล้วทีมโดนคู่แข่งกระซวกตาข่ายไปถึง6ลูก
บรูโน่ กับฟอร์มที่ปีศาจแดงขาดไม่ได้
แม้ว่าในระยะ1-2เดือนที่ผ่านมา บรูโน่ แฟร์นันเดซ จะดูเงียบๆไปบ้าง สังเกตได้จากสถิติส่วนตัวในพรีเมียร์ลีกของเจ้าตัวที่ดูจะเงียบลงไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อ8นัดหลังสุดในลีก อดีตแข้งสปอร์ติ้ง ลิสบอน รายนี้จะทำไปได้เพียงแค่1ประตู กับอีก1แอสซิสต์เท่านั้น
แม้ว่าสถิติตัวเลขประตูรวมถึง แอสซิสต์ จะน้อยลง แต่ทว่าส่วนร่วมกับเกม ความสำคัญต่อทีม สตาร์ชาวโปรตุเกสรายนี้ ไม่ได้ด้อยลงไปเลย บรูโน่ ยังคงสำคัญกับการคลีเอทงาน สร้างสรรค์โอกาสส่องประตูในพื้นที่สุดท้ายเสมอ
2ประตู 2แอสซิสต์ นี่คือผลงานเป็นรูปธรรมของบรูโน่ ในเกมถลกหนังหัวโรม่า ที่มากกว่าประตูและแอสซิสต์นั่นก็คือ อิทธิพล ที่มีต่อเกมรุกของดาวเตะหมายเลข18รายนี้ จังหวะจะโคนการจ่ายบอลจังหวะสำคัญๆ บรูโน่ ทำได้ดีจนต้องยกนิ้วให้ตลอด
ความเป็นผู้นำรวมไปจนถึง ความใจกว้างเป็นมหาสมุทร ผลงานเพื่อทีมต้องมาก่อนผลงานส่วนตัว นี่คือสิ่งที่เราได้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่ากับ บรูโน่ แฟร์นันเดซ แข้งแดนฝอยทองรายนี้ สามารถยกระดับการเล่นของเพื่อนร่วมทีมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด บอลที่อยู่กับเท้าของเจ้าตัวหวังผลได้เสมอ
โดยเฉพาะการประสานงานกับคู่พาร์ทเนอร์อย่าง เอดิสัน คาวานี่ เมื่อคืน ต้องบอกได้คำเดียวเลยว่า เต็มไปด้วยคลาสฟุตบอลของแข้งนักเตะชั้นยอดเลยทีเดียว การคืนฟอร์มของเจ้าตัวถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของทีมปีศาจแดงก่อนศึกแดงเดือด
เพราะ บรูโน่ เองก็ถูกค่อนขอดไม่น้อยว่า ชอบยิงชอบแอสซิสต์เฉพาะทีมหมูๆ ซึ่งมันก็ดูจะไม่แฟร์สำหรับเจ้าตัวมากนัก เกมกับลิเวอร์พูล คู่แค้นตลอดชาติในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ อาจจะถึงเวลาที่ บรูโน่ ลบคำเสียงวิจารณ์เสียงนกเสียงกานั้นได้
บรูโน่ แฟร์นันเดซ Vs โรม่า
69 สัมผัสบอล
7 แย่งบอลกลับคืนมา
6 สร้างสรรค์โอกาส
5 สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษ
5 ครอสบอล
5 โอกาสยิง
2 ยิงเข้ากรอบ
2 ประตู
2 แอสซิสต์
น้าโอเล่ ต้องโน้มน้าวให้ คาวานี่ เปลี่ยนใจ
น่าจะเจอกันมาตั้งนาน กว่าที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันเป็นปาฎิหารย์ ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป นี่อาจเป็นท่อนฮู้ค จากเพลงปาฎิหารย์ของพี่ กบ ทรงสิทธิ ที่แฟนบอลปีศาจแดงอยากจะมอบให้กับ เอดิสัน คาวานี่
หอกชาวอุรุกวัย ย้ายมาร่วมถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวัย33ปี ซึ่งปัจจุบัน "เอ็ดดี้" ก็ปาเข้าไป34ขวบแล้ว แต่ทว่าคุณภาพมาตรฐานการเล่น คาวานี่ ไม่ได้ตกหล่นลงไปแต่อย่างใด มิหนำซ้ำอดีตดาวยิงเปแอชเช รายนี้ ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกระหายอยู่ตลอดเวลา
นายพรานผู้ชื่นชอบการล่าประตู ทำไป2เม็ด กับอีก2แอสซิสต์ ในเกมระเบิดโถส้วม อาคันตุกะ จากอิตาลีเมื่อคืน นอกจากนี้ยังเรียก1จุดโทษให้ทีมได้อีกด้วย ยอดรวม12ประตูกับปีศาจแดงนั้นไม่เลวเลย
หน้าเป้าแบบดั้งเดิมนี่คือตำแหน่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดหายมาได้สักพักใหญ่ๆ นับตั้งแต่ หมดยุคของ ชลาตัน อิบราฮิโมวิช รวมไปจนถึง " พี่ตู้ " โรเมลู ลูกากู ที่ไปไม่สุดกับทีมจนต้องระเหินระหก ไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน
เมื่อคืนคือฟอร์มที่พีคมากๆของ ดาวยิงวัย34ปีรายนี้ การเคลื่อนที่ การหาพื้นที่ว่าง การพักบอล ออกบอลให้เพื่อนเล่นในจังหวะที่สบายๆได้เปรียบ คาวานี่ ทำได้อย่างกลมกล่อมลงตัว
เล่นง่ายๆไม่มากจังหวะ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ยังไม่รวมถึงสัญชาตญาณ ฉลามคาวเลือดในกรอบเขตโทษ ที่เจ้าตัวมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
แม้เจ้าตัวจะออกมาประกาศค่อนข้างชัดแล้วว่า น่าจะไม่ต่อสัญญากับปีศาจแดง พร้อมกลับไปเล่นกับทีมในทวีป อเมริกาใต้ อย่าง โบคา จูเนียร์ส แต่หาก น้าโอเล่ ไม่คิดเซ็นสัญญากองหน้าคนใหม่เข้ามาร่วมถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างระดับ แฮร์รี่ เคน - เออร์ลิง ฮาแลนด์
ทีมก็ควรที่จะกล่อม เอดิสัน คาวานี่ ให้อยู่ต่ออีกสักปี เพราะกองหน้าอีกคนที่ทีมมีอยู่ในตอนนี้อย่าง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ไม่ได้ดีไปกว่า " เอล มาทาเดอร์ " เลยแม้แต่นิดเดียว
เอดิสัน คาวานี่ Vs โรม่า
89 ผ่านบอลแม่นยำ
38 สัมผัสบอล
10 สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่ง
7 โอกาสยิง
4 ยิงเข้ากรอบ
3 สร้างสรรค์โอกาส
2 ประตู
2 แอสซิสต์
1 เรียกจุดโทษ
แนวรับผีสมาธิหลุด(อีกแล้ว)
เกือบทำงานง่ายๆให้เป็นงานเข็นครกขึ้นภูเขาเสียแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก บรูโน่ แฟร์นันเดซ ตั้งแต่ น.9 เกมก็ครองได้แบบวันเวย์ ทีมเยือนจากอิตาลี แทบไม่ได้สร้างความระแคะระคายให้กับปีศาจแดงเลย
แต่ว่าบทจะเสียก็เสียแบบไม่มีเหตุผลไม่มีความเข้าใจใดๆทั้งสิ้น ลูกแรกเป็นทาง ปอล ป็อกบา ที่ตามไปสไลด์บล็อกลูกเปิดของ ริค คาร์สดอร์ป แต่ทว่ากองกลางชาวฝรั่งเศสรายนี้เก็บงานไม่ละเอียดพอ เก็บแขนไม่แนบลำตัว จนโดนจับแฮนด์บอลและเสียจุดโทษในที่สุด
ส่วนประตูที่สองก็เป็นความผิดเริ่มแรกของ ลุค ชอว์ ที่ไม่เช็กไลน์ล้ำหน้า และตัวของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกันเมื่อแหย่เท้าสกัดกับลูกตบเข้ากลางของ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ ไม่ทันก่อนบอลทะลุไปถึง เอดิน เซโก้
นี่คือความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ของปีศาจแดง เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็โดนลงโทษอย่างสาสม ยังดีที่บรรดาตัวผู้เล่นในแนวรุกของผีแดงทำงานมาตามนัด มิเช่นนั้นแล้ว การเสียอเวย์โกล2ประตู อาจเป็นผลลัพธ์ที่ย่ำแย่ และทำให้เกมนัดที่สองกับการบุกไปเยือนกรุงโรมต้องลำบากกว่านี้
สมาธิ และ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆระหว่างเกม รวมไปจนถึงความไม่ประมาท ห้ามสติแตก นี่คือสิ่งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องกลับไปกำชับลูกทีมในนัดต่อๆไป อย่าลืมว่าเมื่อคืน โรม่า มีโอกาสซัดตรงกรอบเพียงแค่ 3ครั้งเท่านั้น แต่แปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ถึง2ลูกเลยทีเดียว
เฟร็ด คุ้มดีคุ้มร้าย
หลังจากที่ช่วงก่อนหน้าระเบิดฟอร์มการเล่นเป็นซุปเปอร์ไซย่า " เอ็นโกโล่ เฟร็ดเต้ " แต่ทว่าหากใครสังเกตดีๆจะเห็นว่า เฟร็ด เริ่มที่จะกลับมาเป็น " เฟ่เฟร็ด " ที่แฟนบอลเคยเห็นและยี้ช่วงที่ย้ายมาอยู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใหม่ๆอีกครั้ง
สิ่งที่อดีตแข้ง ชัคตาร์ โดเน็ตส์ ยังทำได้ดีอย่างสม่ำเสมอนั่นก็คือการวิ่งบดบี้ ขยี้ไล่บอล จากเกมในแดนกลางของโรม่า จนผู้มาเยือนออกลำเลียงบอลไปสู่แดนหน้าไม่สำเร็จ เรียกได้ว่าเป็นผู้ปิดทองหลังพระกับสกอร์สวยๆ 6-2 เลยก็ว่าได้
แต่ทว่าในเรื่องของความนิ่ง ความเนียนในการผ่านบอลรวมไปจนถึง การไม่ทำบอลเสียง่ายๆ นี่คือสิ่งที่แข้งแดนแซมบ้ารายนี้ต้องปรับปรุงตัวเองอย่างเร่งด่วน
มิหนำซ้ำยังเป็นคนที่ทำเสียบอลจนเป็นเหตุทำให้ทีมโดนลูกจุดโทษ และประตูที่สองเจ้าตัวก็ไม่ได้วิ่งตามประกบ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ ที่หลุดเข้าไปแอสซิสต์ให้ เอดิน เซโก้
เฟร็ดมีจังหวะจับบอลแย่ๆหรือ Bad Control 2 ครั้ง ยังไม่รวมถึงจังหวะสเต็ปการเล่นที่ดูขัดหูขัดตาล้นๆเกินๆตลอด แต่ทว่าด้านดี กองกลางหมายเลข17รายนี้ เข้าแท็กเกิ้ลได้2ครั้ง รวมไปจนถึงตัดบอลได้ถึง 3หน เคลียร์บอล1 มิหนำซ้ำยังมีจังหวะเลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นโรม่าได้ 1ครั้งอีกด้วย
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ในเกมแดงเดือดที่จะถึง เฟร็ด ควรที่จะใจเย็นและนิ่งเยือกเย็นในจังหวะการเล่นมากกว่านี้ เพราะคู่แข่งตรงหน้าคือทีมระดับลิเวอร์พูล ที่เพรสซิ่งหนัก นั่นอาจทำให้เฟร็ด โดนความกดดันจนเล่นผิดพลาดอีกได้
เมื่อ มิกกี้ พี่ไมค์ ได้กลับบ้าน
เฮนริค มคิทาร์ยาน เคยกลับมาเยือนถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฐานะคู่แข่งมาแล้วในช่วงที่ย้ายไปอาร์เซน่อล แต่ทว่าในตัวของ คริส สมอลลิ่ง เอง นี่คือการกลับมาเยือนถิ่นเก่าครั้งแรกในฐานะคู่แข่ง ตั้งแต่ย้าย(แบบยืมตัว) ไปโรม่า เมือฤดูกาลที่แล้ว
ดาวเตะชาวอาร์เมเนีย ในวัย31ปี กลับมาเยือนโรงละครแห่งความฝันอีกครั้งหนึ่งในฐานะคู่แข่ง มคิทาร์ยาน ผลงานไฉไลไม่เบาเลยกับ โรม่า ซีซั่นนี้ เมื่อซัดไปได้ 11ประตู กับอีก 11แอสซิสต์ รวมทุกรายการ
แต่ทว่าเกมเมื่อคืน อดีตนักเตะเสือเหลืองรายนี้ โชว์มนต์แข้งแผลงฤทธิ์ไม่ออกเลย ตลอดทั้งเกม มีโอกาสยิงแค่1ครั้ง ( แต่ก็หลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น) จ่ายคีย์พาสได้ครั้งเดียว รวมไปจนถึงเลี้ยงกระชากลากบอลไม่ผ่านผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยแม้แต่หนเดียว
ส่วน คริส สมอลลิ่ง หรือที่ หลุยส์ ฟานกัล เรียกว่า " ไมค์ สมอลลิ่ง " แม้จะถูกแซวต่างๆนานา แต่ทว่าอย่างน้อย เจ้าตัวก็ยังอยู่กับทีมมานานร่วมเกือบ10ปีเลยทีเดียว ลงเล่นในนามเครื่องแบบสีแดงไปมากกว่า 300นัด
ก่อนสุดท้ายย้ายแบบถาวรไปโรม่าเมื่อปี 2020 ชีวิตที่แดนมะกะโรนีของ กองหลังวัย31ปีผู้นี้ เหมือนได้กลับมาชุบชีวิตเกิดใหม่ ฟอร์มของเจ้าตัวแข็งแกร่งขนาดโดนตั้งฉายาให้ว่า สมอลดินี่ เลยทีเดียว ( เปาโล มัลดินี่ )
แต่ทว่าเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด การที่โรม่าโดนถลุงยับ6เม็ด คงไม่มีกองหลังคนไหนอยากจดจำช่วงเวลาดังกล่าวนัก สมอลลิ่ง เองก็เช่นกัน แนวรับที่อ่อนยุ่นของทีมดังแห่งกรุงโรมที่มีรูรั่วทุกจุด รวมถึงเกมรุกที่มาจากทุกทิศทุกทางของ ปีศาจแดงก็เล่นเอา สมอลลิง ไปไม่เป็นเหมือนกัน
มิหนำซ้ำ พี่ไมค์ ยังทำทีมเสียจุดโทษแบบโชคร้ายอีกด้วย และนี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ โรม่า โดนคู่แข่งทะลวงตาข่ายได้ถึง6ลูก นับตั้งแต่ คริส สมอลลิ่ง ย้ายมาร่วมทีม
- คอลัมน์นิสต์
- 454
- 30 เม.ย. 2564 15:08