เกมชวนง่วงนอน ! เทน ฮาก เล่นเอาตัวรอด ผี บุกเจ๊า วิลล่า 0-0 อีแวนส์ MVP
ชะตาใกล้ขาดจริงๆสำหรับ เอริก เทน ฮาก เพราะแม้ว่าจะได้ตัวผู้เล่นเข้ามาเสริมทัพเต็มสูบในฤดูกาลใหม่ 2024-2025 แถมผู้เล่นตัวหลักที่เคยได้รับบาดเจ็บจากซีซั่นที่แล้ว ก็สลัดเดี้ยงหายหมด แต่ทว่าผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สาละวันเตี้ยลงเหลือเกิน เป็นทีมครึ่งล่างของตารางพรีเมียร์ลีก และอาทิตย์นี้ มีเกมหนักต้องบุกไปเยือน แอสตัน วิลล่า ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้ว ทีมของ ETH จะเอาตัวรอดกลับมาได้ด้วยผลเสมอ 0-0
ก่อนเกมที่ วิลล่า ปาร์ค อนาคตของ เอริก เทน ฮาก ร้อนฉ่ามากๆ นัดนี้ว่ากันว่าเป็นเกมชี้ชะตากุนซือชาวดัตช์ ทำให้ เซอร์จิม แรตตลิฟฟ์ รวมไปจนถึงบอร์ดบริหารทีมงานหนังบ้านเข้ามาดูในสนามกันครบถ้วน
การจัดทัพ เทน ฮาก มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเซ็นเตอร์จากนัดกลางสัปดาห์ คู่ตัวจริงเป็น จอนนี่ อีแวนส์ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แทนที่คู่ของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ที่ชักจะออกอ่าวออกทะเลทั้งคู่ คู่มิดฟิลด์เป็น ค็อบบี้ เมนู กับ คริสเตียน อิริคเซ่น ส่วน มานูเอล อูกาเต้ เป็นสำรองอีกครั้ง
บรูโน่ แฟร์นันเดซ เพลย์เมคเกอร์ปั้นเกม ปีกซ้ายขวา มาร์คัส แรชฟอร์ด - อเลฮานโดร การ์นาโช่ หน้าเป้า ราสมุส ฮอยลุนด์ ส่วนเจ้าบ้าน แอสตัน วิลล่า ที่กำลังแรงสุดๆ ด้วยการล้ม บาเยิร์น มิวนิค มา1-0 กุนซือ อูไน เอเมรี่ มาในระบบ4-2-3-1 หรือในระหว่างเกมยืนเป็น 4-4-2 ก็มี
แนวรุกมากันครบทั้ง โอลลี่ วัตกิ้นส์ - มอร์แกน โรเจอร์ส - ลีออน ไบลี่ย์ และให้โอกาส เจเด้น ฟิโลจีน ดาวรุ่งที่ซื้อมาใหม่ เริ่มเกมมาต้องบอกว่าผิดคาดเหมือนกัน เพราะคิดว่าฝั่งเจ้าบ้านจะเหนือกว่าผู้มาเยือนมากๆ แต่ทว่าเล่นไปกลับกลายเป็นเกมสูสี แดนกลางปีศาจแดงไม่เป็นรองวิลล่า เลย
ได้ทักทายก่อนด้วยซ้ำ จาก แรชฟอร์ด สิงห์ผงาดก็ได้ตอบโต้เหมือนกันกับลูกยิงเฉียดสุดๆของ โรเจอร์ส โดยเพียง น.10 วิลล่า ก็ต้องมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเมื่อ เอซรี่ คอนซ่า เจ็บ ทำให้ ดิเอโก้ คาร์ลอส ลงมาเล่นแทน เกมครึ่งแรก ค่อนข้างหน้าเบื่อน่าอึดอัดไม่มีจังหวะเสียวอะไรมาก จบ45นาทีแรก ด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง เทน ฮาก มีการปรับทัพตั้งแต่ออกสตาร์ทเลย แม็คไกวร์ ที่เจ็บโดนเปลี่ยนออกให้ เดอ ลิกต์ ลงมาเล่นแทน นูสแซร์ มาซราวี ก็เช่นกันถูกถอดเป็น วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ได้มาเล่นตำแหน่งแบ็กขวาแทน รูปเกมครึ่งหลังของทั้งสองทีมก็ยังเหมือนเดิม ชวนง่วงเหงาหาวนอนสุดๆ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็แสดงเจตนาชัดเจนว่า มาเพื่อ1แต้ม ด้าน วิลล่า ของ อูไน ก็ไม่กล้าบุกหลังลอยสูงเพราะกลัวทีเด็ดลูกสวยกลับจากปีกริมเส้น แมนฯยู ทั้งคู่มีโอกาสยิงเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้โกลอย่าง โอนาน่า และ มาร์ติเนซ ลำบากใจมากนัก
ปีศาจแดงส่ง แอนโทนี่ ลงมาเพื่อสร้างความแตกต่าง แต่ " เดอะ หมุน " ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นเคย และโอกาสใกล้เคียงสุดของ แมนฯยู มาจาก ฟรีคิกของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ แต่ทว่าพุ่งไปชนคานอย่างจัง ทีจริงวิลล่า ก็เกือบจะฝังทีมของ เทน ฮาก สุดๆ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+2 เอียน มาตเซ่น แบ็กซ้ายตัวสำรอง เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ บอลเลยมาถึง ฟิโลจีน ได้ยิงในเขตโทษ แต่ทว่าเดชะบุญที่ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ เข้ามาบล็อกได้ทัน บอลแฉลบออกหลังไป และจบลงด้วยสกอร์ดังกล่าว 0-0 แบ่งกันไปทีมละ1แต้ม
อีแวนส์ คว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในวัย35ปี
ด้วยความที่คู่เซ็นเตอร์ตัวจริงที่ เอริก เทน ฮาก วางไว้อย่าง มาต์ไตน์ เดอ ลิกต์ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ฟอร์มหลุดทั้งคู่ เพราะเมื่อลงพร้อมกันได้เสียวตลอด นั่นทำให้อดีตกุนซืออาแจ็กซ์ ใช้งานคู่เซ็นเตอร์แบ็กเป็น จอนนี่ อีแวนส์ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
เมื่อแฟนผีเห็นรายชื่อก่อนเกมว่าคู่เซ็นเตอร์ตัวจริงคือ อีแวนส์ และ แม็คไกวร์ ก็เกิดอาการไม่ไว้ใจเท่าไหร่ แต่ทว่าพอไปเล่นจริงๆ กลับกลายเป็นว่าอดีตกองหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ ทั้ง2ราย ผลงานน่าประทับใจมากๆ
อีแวนส์ ในวัย35ปี ยังสงบนิ่งและเยือกเย็น รับมือกับเหล่าแนวรุกวัยรุ่น วิลล่า ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะซึ่งในโอกาสที่ เอริก เทน ฮาก ให้เปล่า จอนนี่ อีแวนส์ ทุ่มเทและเต็มที่ในทุกๆจังหวะ
เป็นคนที่ช่วยทีมจังหวะสุดท้ายได้ ไม่เผลอหลุดตำแหน่ง สกัดบอลแม่นยำ จัดระเบียบเกมรับได้เป็นอย่างดี เกมรับว่าดีแล้ว อดีตกองหลังทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ยังพยายามสร้างสรรค์เกมรุกด้วย นั่นก็คือการผ่านบอลไปข้างหน้า
มีบางจังหวะที่เจ้าตัวฝากบอลให้ บรูโน่ แล้วสปีดไปข้างหน้าหวังเติมเกมบุกด้วย แต่กัปตันหน้าหนวดทำเสียของไขว้เสียซะงั้น ทั้งที่ อีแวนส์ พยายามเติมขึ้นมาแล้ว
90นาทีในสนาม อีแวนส์ เอาชนะลูกกลางอากาศ 5ครั้ง / เข้าแท็กเกิ้ล 4ครั้ง / เคลียร์บอล 3ครั้ง และบล็อกลูกยิง1หน เล่นแบบลืมอายุไปเลย และไม่แปลกใจเลยที่เจ้าตัวได้รับ รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกมที่เสมอ 0-0
โรเจอร์ส เล่นทำเสียของ แนวรุก วิลล่า สะดุด
ก่อนเกมคาดการณ์กันว่า จะเป็นวันที่แนวรุก แอสตัน วิลล่า ได้เล่นเกมบุกกันสนุกสนานเข้าใส่แนวรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พร้อมจะเสียประตูทุกเมื่ออยู่แล้ว แต่ทว่าเมื่อลงไปฟาดเข้งในสนาม กลายเป็นสองแรงบวกเลยทั้ง แนวรับปีศาจแดงเล่นดี แนวรุกวิลล่า แย่
มอร์แกน โรเจอร์ส คือหนึ่งในนั้น เอาจริงๆแข้งดาวรุ่งรายนี้ ก็เล่นดีมาหลายนัด แต่จุดที่เสียนั่นก็คือ มีจำนวนประตูหรือแอสซิสต์น้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับโอกาสที่ได้รับ จังหวะแรกเจ้าตัวได้ได้ยิงในเขตโทษเสาแรกแต่เฉียดออกไปนิดเดียว
มีบางจังหวะที่ โรเจอร์ส ได้บอล แล้วเพื่อนอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า แต่เจ้าตัวเลือกไปเองจนทำเสียของซะงั้น โดยเฉพาะความเข้าใจกันกับ วัตกินส์ ที่ยังดูติดๆขัดๆ ตัวรุกวัย22ปีรายนี้ มีช็อตทำบอลเสียมากถึง5ครั้ง
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม ที่เหมือนจะหนักกว่า โรเจอร์ส เห็นทีจะเป็น ลีออน ไบลี่ย์ ปีกชาวจาไมก้า แทบไม่มีบทบาทเกมรุกกับทีมเลย นี้เป็นซีซั่นที่ยังห่างไกลจากฟอร์มที่ดีของเจ้าตัว ไบลี่ย์ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะได้อยู่ในสนามเพียง 62 นาที
ไบลี่ย์ ครอสบอลเข้าเป้า0ครั้ง - ได้ผ่านบอลเพียง19หน ตลอดว่าชั่วโมงกว่าที่อยู่ในสนาม ส่วนผู้ที่ลงมาแทนอย่าง ยอดซุปเปอร์ซับ จอห์น ดูราน ก็ทำอะไรได้ไม่ถนัดเช่นกัน ถูกลักพาตัวออกไปจากเกม แนวรุกมีเพียง โอลี่ย์ วัตกินส์ เท่านั้นที่เล่นตามมาตรฐาน ได้ยิงใกล้เคียง1ครั้ง แถมยังบังบอล พักบอล เชื่อมเกมให้เพื่อนร่วมทีมได้
แนวรุกผีไร้ไอเดียสุดๆ อาศัยแค่ความสามารถเฉพาะตัวปีก
ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ก็ชัดเจนมากๆว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาแนวรุกสากกะเบือจริงๆ ฤดูกาลที่แล้ว 38นัดในพรีเมียร์ลีก ปีศาจแดงถลุงประตูคู่แข่งไปได้เพียงแค่ 57ประตูเท่านั้น นั่นทำให้ซีซั่นใหม่ พวกเขาพยายามแก้ปัญหาโดยการคว้าตัว โจชัว เซิร์กซี หอกจากโบโลญญ่า เข้ามา
เมื่อคืนปีศาจแดง ก็ยังเป็นร่างเดิมแบบที่เราเคยเห็นในมิติเกมรุก นั่นก็คือไร้ไอเดียการเข้าทำสุดๆ ปีก2ฝั่งของพวกเขา เป็นประเภทสายยิงมากกว่าทำแอสซิสต์ อยู่แล้ว ทำให้กองหน้านัดนี้อย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ โดดเดี่ยวไปกันใหญ่
การเข้าทำของ แมนยู เมื่อคืน มีมิติเดียวนั่นก็คือ การให้ปีกอย่าง การ์นาโช่ และ แรชฟอร์ด ใช้ความสามารถเฉพาะตัวลาก มุดๆ ตัดเข้าไปยิง ซึ่งมันเป็นมุมเหลี่ยมที่ยากมากที่จะผ่านมือ เอมี่ มาร์ติเนซ โดยเฉพาะในรายของ การ์นาโช่ ที่เลี้ยงติดหรือทำบอลเสียไปไม่รู้กี่รอบ
แนวรุกปีศาจแดงปีกและกองหน้าไม่มีการประสานงานกันให้เห็น ปีกที่ลงมาแทนอย่าง แอนโทนี่ ยิ่งแล้วใหญ่ มีจังหวะหนึ่งที่ เซิร์กเซ่ ได้บอล แล้วแปะต่อออกข้าง แล้ว " เดอะ หมุน " ไม่เติมขึ้นมา ทำเอาบอลออกข้างไปแบบดื้อๆ
นั่นจึงไม่แปลกใจเลย กับ7นัดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ พวกเขาจะยิงไปได้เพียง 5ประตูเท่านั้น (3นัดหลังสุดในลีก ยิงไม่ได้เลย) และเหลือจะเชื่อว่า มีเพียง เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมเดียวที่ยิงประตูได้น้อยกว่าพวกเขา (4ลูก)
เกมสุดน่าเบื่อ วิลล่า เหมือนเกร็งผี
หลังจากอุดจนเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค มาได้ 1-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก น่าจะได้บัฟกำลังใจมากเยอะมากโขสำหรับ แอสตัน วิลล่า นั่นทำให้ถูกคาดการณ์ว่า เกมพรีเมียร์ลีก กับ แมนฯยู ที่เป๋มาต่อเนื่อง จะเป็นนัดที่สิงห์ผงาด บุกเข้าใส่ผู้มาเยือนอย่างเมามัน แต่ทว่าออกสตาร์ทมากลับไม่ใช่อย่างที่คิดเลย
ปีศาจแดงของ เอริก เทน ฮาก เล่นเกมรับกันได้ดีเกินคาด มิดฟิลด์ของพวกเขา ไม่ได้เป็นรองเหล่าห้องเครื่องของ แอสตัน วิลล่า เท่าไหร่ กลับกลายเป็นสิงห์ผงาดซะเอง ที่เกร็งจนเล่นผิดฟอร์ม ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะบดมาหนักกับ บาเยิร์น มิวนิค รึเปล่า
ทีมของ อูไน เอเมรี่ เหมือนจะไม่กล้าบุกเต็มที่เพราะพวกเขาระแวงกับแนวรับที่อาจดันสูง ซึ่งอาจเปิดพื้นที่ให้ ปีกทีมเยือนอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ มาร์คัส แรชฟอรด ได้ใช้ความเร็วความสามารถเฉพาะตัวเล่นงาน
ผู้เล่นของ วิลล่า ก็ผิดฟอร์มกันหลายรายทั้ง มอร์แกน โรเจอร์ส - ลีออน ไบลี่ย์ รวมไปจนถึง รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่โดดเด่นเห็นทีจะเป็น ยูริ ตีเลอมันส์ ที่เป็นพลังงานในแดนกลางขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี วิ่งไม่ผีแผ่วตลอด90นาที
บวกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอง ก็เจตนาชัดเจนว่า การบุกมาเยือนรัง วิลล่า ปาร์ค พวกเขาหวังผลเสมอกลับบ้าน ทำให้เกมอึดอัดน่าเบื่อพอสมควร สกอร์เจ๊ากันไป 0-0 แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นจึงน่าจะยุติธรรมที่สุดแล้ว
เทน ฮาก ต้องคุมทีมเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ
Timing เหมาะมากๆว่าจะเป็นวัน D-DAY ปลด เอริก เทน ฮาก ออกจากตำแหน่ง เพราะว่า ต้องมาเยือนทีมที่กำลังฟอร์มร้อนแรงอย่าง แอสตัน วิลล่า และหลังจบแมตช์ดังกล่าว จะเป็นช่วงพักเบรกทีมชาติ ซึ่งเป็นช่วงที่หลายสโมสรหากจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีม ก็มักเลือกช่วงเวลานี้กัน
ก่อนเกมที่ วิลล่า ปาร์ค ก็ปรากฎภาพของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ และเหล่าบอร์ดบริหารภายใต้ยุค INEOS มากันครบองค์ประชุม รวมไปจนถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วย ประดุจว่ามารอพิพากษา เอริก เทน ฮาก เต็มที่
ซึ่งรูปเกมที่ได้เห็น ก็เข้าใจเจตนาชัดเจนว่า ETH ต้องการ ผลเสมอกลับออกไป เพื่อเป็นการเซฟเก้าอี้ตัวเองไปอีกนัด แนวรับของปีศาจแดงเล่นกันได้ดี บวกกองกลางของพวกเขาก็ไม่ได้เป็นรองทีมเจ้าบ้านมากนัก ไม่ปล่อยให้โดนขย่มอยู่ฝ่ายเดียว
แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม แนวรุกยังเป็นจุดที่ เอริก เทน ฮาก ยังแก้ปัญหาไม่ตกสักที ไม่เห็นการประสานงานกันกับจังหวะเข้าทำโอเพ่นเพลย์ มีเพียงแค่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของปีกที่พยายายามลากเลื้อย แต่ก็ไม่มีความอันตรายอะไร สากกะเบือทั้งแผง
แถมเวลาเปลี่ยนตัวอดีตกุนซืออาแจ็กซ์ ก็เลือกเปลี่ยนตัวตามตำแหน่งเท่านั้น ไม่ยอมเล่นระบบกองหน้าคู่ หรือถอดเอามิดฟิลด์ตัวรับออก แล้วเพิ่มตัวรุกมาแทน จังหวะใกล้เคียงที่สุดมาจากลูกฟรีคิกของ บรูโน่ แฟร์นันเดซ ที่ซัดไปชนคานสนั่น
นั่นเท่ากับว่า 7นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ปีศาจแดงเก็บได้เพียง8 แต้ม น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคพรีเมียร์ลีก ยิ่งดูมาหลายนัด มองไปถึงอนาคต ไม่เห็นวี่แววเลยที่ เอริก เทน ฮาก จะเรียกโมเมนตัม พาทีมกลับมาชนะรัวๆ เพื่อลุ้นไปเล่นรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้
ณ ปัจจุบัน เป็นเพียงแค่การเล่นเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆเท่านั้น ณ ตอนนี้ต้องบอกว่า 50/50 จริงๆ ที่ เทน ฮาก จะถูกปลดเลยช่วงพักเบรกทีมชาติ พูดง่ายๆเลยก็คือ แค่รอเวลาว่า กุนซือหัวโล้น จะถูกตะเพิดตอนไหนในฤดูกาลนี้
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แอสตัน วิลล่า เอริก เทน ฮาก อูไน เอเมรี่ จอนนี่ อีแวนส์ อเลฮานโดร การ์นาโช่ มาร์คัส แรชฟอร์ด
- 174
- 07 ต.ค. 2567 15:06