ทีมชาติไทย vs ทีมชาติศรีลังกา

วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2568
คิกออฟ เวลา 19.30 น.
สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน

อัตราต่อรอง : ไทย ต่อ 2.5/3

ทีมชาติไทย
ฟอร์มล่าสุด ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องเอาชนะ อัฟกานิสถาน 2-0 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมดังกล่าว กุนซือมาซาทาดะ อิชิอิ มีการทดลองตัวผู้เล่นหลายคน แต่สำหรับเกมนี้ ทีม “ช้างศึก” เตรียมจัดทัพเต็มสูบแน่นอน เพื่อประเดิมเก็บ 3 แต้มให้ได้

ทั้งนี้ แกนหลักหลายคนที่เป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว พร้อมกับมาออกสตาร์ทตัวจริง ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม พร้อมลงเฝ้าเสา ส่วนแนวรับคาดว่าจะใช้ นิโคลัส มิคเกลสัน, เอเลียส ดอเลาะ, โจนาธาร เข็มดี และ อิรฟาน ดอเลาะ

คู่มิดฟิลด์เป็น วีรเทพ ป้อมพันธุ์ คุมเกมแดนกลางร่วมกับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ส่วนแนวรุกจัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ พาตริก กุสตาฟส์สัน ซึ่งเพิ่งเหมาคนเดียว 2 ลูกในเกมชนะอัฟกานิสถาน

ทีมชาติศรีลังกา
ทีมชาติศรีลังกา ปัจจุบันฟีฟ่า แรงกิ้ง รั้งอันดับ 200 ของโลก โดยก่อนบุกมาเยือนไทยในเกมนี้ กุนซือ อับดุลลาห์ อัล มูไตรี่ พาลูกทีมลงสนามเกมอุ่นเครื่อง บุกไปเฉือนชนะ ทีมชาติลาว 2-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

สำหรับ ศรีลังกา ชุดนี้มีแข้งลูกครึ่งในทีมมากถึง 17 คน ซึ่งส่วนใหญ่ค้าแข้งในลีกต่างแดน และแข้งลูกครึ่งเหล่านี้จะเป็นแกนหลักของทีมในการบู๊กับทีมชาติไทย นำโดยคู่เซนเตอร์ที่เล่นอยู่ในลีกรองของเยอรมนีอย่าง เคลาดิโอ แคมเมอร์เนชต์ (ดินาโม เดรสเดน) กับ เจสัน ธายาพาราน (ไอน์ทรัค เทียร์) 

นอกจากนี้ยังมี แจ็ค ฮินเกิร์ต แบ็กขวาตัวเก๋าจากบริสเบน รอร์ สโมสรดังของออสเตรเลีย ส่วนแนวรุกมีตัวอันตรายอย่าง โอลิเวอร์ เคลาร์ต และ เวด เด็คเกอร์ ซึ่งเล่นอยู่กับทีมในลีกรองของออสเตรเลียเช่นกัน

ผลงาน 6 นัดหลังของ ไทย (WLWLLW)
ชนะ กัมพูชา 3-2 (ห) (อาเซียนคัพ)
แพ้ ฟิลิปปินส์ 1-2 (ย) (อาเซียนคัพ)
ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 (E) (ห) (อาเซียนคัพ)
แพ้ เวียดนาม 1-2 (ย) (อาเซียนคัพ)
แพ้ เวียดนาม 2-3 (ห) (อาเซียนคัพ)
ชนะ อาฟกานีสถาน 2-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ศรีลังกา (LDWLDW)
แพ้ บรูไน 0-1 (ย) (อุ่นเครื่อง)
เสมอ กัมพูชา 0-0 (ห) (คัดเอเชียนคัพ)
ชนะ กัมพูชา 4-2 (ย) (คัดเอเชียนคัพ)
แพ้ เมียนมาร์ 0-2 (ย) (อุ่นเครื่อง)
เสมอ เมียนมาร์ 0-0 (ย) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ ลาว 2-1 (ย) (อุ่นเครื่อง)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
11/06/22    (ACQ) Sri Lanka 0 - 2 Thailand
26/05/01    (AWC) Sri Lanka 0 - 3 Thailand
13/05/01    (AWC) Thailand 4 - 2 Sri Lanka

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ทีมชาติไทย (4-2-3-1) : ปฏิวัติ คำไหม – นิโคลัส มิคเกลสัน, โจนาธาร เข็มดี, เอเลียส ดอเลาะ, อิรฟาน ดอเลาะ - วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี - ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ชนาธิป สรงกระสินธ์ (กัปตันทีม), สุภโชค สารชาติ - พาทริค กุสตาฟส์สัน

ทีมชาติศรีลังกา (4-2-3-1) : ซูจาน เปเรร่า (กัปตันทีม) - แจ็ค ฮินเกิร์ต, เคลาดิโอ แคมเมิร์คเนชต์, เจสัน ธายาพาราน, อนูจาน ราเจนดราม - เลออน เปเรรา, บารัธ ซูเรช - โอลิเวอร์ เคลาร์ต, อัดฮาวาน ราจาโมฮัน, อาห์เหม็ด ราซีค - เวด เด็คเกอร์

แนวโน้มของเกม
เกมนี้ ทีมชาติไทย เหนือกว่าพอสมควร ทั้งในเรื่องมาตรฐานฟุตบอล ศักยภาพตัวผู้เล่น แถมยังได้เล่นในบ้านอีกต่างหาก โดยเป้าหมายคือต้อง 3 แต้มเท่านั้น และต้องพยายามยิงประตูให้ได้มากที่สุดด้วย เผื่อว่าต้องไปวัดผลต่างประตูได้-เสียในการชี้ชะตาเข้ารอบ ซึ่งจะเอาแชมป์กลุ่มเพียงทีมเดียวจาก 4 ทีม ที่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป 

ส่วน ศรีลังกา อาจจะมีแข้งลูกครึ่งหลายคนที่ค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปก็จริง แต่ก็เล่นอยู่ในลีกรองๆ เท่านั้น นอกจากนี้ นักเตะลูกครึ่งส่วนใหญ่ก็เพิ่งถูกเรียกเข้ามารวมตัวเล่นทีมชาติได้ไม่นาน ดังนั้นความเข้าขาระหว่างผู้เล่นย่อมเป็นรองแน่นอน เมื่อเทียบกับทีมชาติไทยชุดนี้ ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่เล่นด้วยกันมานานแล้ว

เกมนี้เชื่อว่า คงไม่มีปัญหาสำหรับทัพ “ช้างศึก” ที่น่าจะเปิดบ้านเก็บ 3 แต้มได้ ลุ้นแค่ว่าจะยิงมากยิงน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ไทย 3-0 ศรีลังกา

สนับสนุนเนื้อหา>>>https://sport.trueid.net/