ทีมชาติอังกฤษ (1) vs ทีมชาติลัตเวีย (2)

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568
คิกออฟ เวลา 02.45 น.
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : อังกฤษ ต่อ 3.5

ทีมชาติอังกฤษ
ขณะที่ ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี และ แฮร์รี่ เคน ต่างได้ฉลองกับประตูของพวกเขา แอนโทนี่ กอร์ดอน ผู้เคราะห์ร้ายที่เข้ามาแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด ในครึ่งหลังในเกมกับ แอลเบเนีย กลับต้องเผชิญกับปัญหาบาดเจ็บ โดย โธมัส ทูเคิ่ล ยอมรับในงานแถลงข่าวหลังเกมว่าปัญหาของปีก นิวคาสเซิ่ล น่ากังวลนิดหน่อย และ กอร์ดอน ได้รับการยืนยันว่าจะถอนตัวออกจากทีมอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทูเคิ่ล ควรทำงานร่วมกับทีมชุดเดียวกันจากชัยชนะในเกมที่แล้ว และมั่นใจว่าจะสับเปลี่ยนทีมในขณะที่เขาประเมินทางเลือกทั้งหมดของเขา ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้เล่นอย่าง รีซ เจมส์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลีวาย โคลวิลล์ และ จาร์ร็อด โบเว่น ขณะที่ผู้เล้นที่ไม่มีชื่อในเกมที่แล้วอย่าง อารอน แรมส์เดล, จาเรลล์ ควานซาห์ และ มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์ น่าจะได้ตำแหน่งบนม้านั่งสำรอง

ทีมชาติลัตเวีย
ในทางตรงกันข้าม ลัตเวีย ดูเหมือนจะออกมาจากชัยชนะเหนือ อันดอร์ร่า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความฟิตอีกต่อไป โดย เดนิส เมลนิคส์ กองกลางถูกถอดออกในช่วงพักครึ่งในเกมที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงการปรับแท็กติกจากกุนซือ เปลโล นิโคลาโต้ เท่านั้น ในขณะที่เขาใช้แนวทางการเล่นเกมรุกมากขึ้นในช่วง 45 นาทีหลัง ดังนั้น ผู้จัดการทีมเยือนไม่ควรเปลี่ยนใจในเกมรุกที่สนมเวมบลีย์ ครั้งนี้ แต่ ดาริโอ ซิตส์ ซึ่งเล่นฟุตบอลระดับสโมสรกับ เฮลมอนด์ สปอร์ต ในดิวิชั่น 2 ของเนเธอร์แลนด์ อาจต้องหลีกทางให้ ดมิทริส เซเลนคอฟส์ หรือ วลาดิสลาฟ กุตคอฟสคิส ศูนย์หน้าจาก เดจอน ซิติเซนส์ จากลีกเกาหลีใต้

ผลงาน 6 นัดหลังของ อังกฤษ (WLWWWW)
ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ กรีซ 1-2 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ ฟินแลนด์ 3-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ กรีซ 3-0 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ ไอร์แลนด์ 5-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ แอลเบเนีย 2-0 (ห) (คัดบอลโลก)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ลัตเวีย (WLDLLW)
ชนะ หมู่เกาะแฟโร 1-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ มาซิโดเนียเหนือ 0-3 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
เสมอ หมู่เกาะแฟโร 1-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ มาซิโดเนียเหนือ 0-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ อาร์เมเนีย 1-2 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ อันดอร์ร่า 1-0 (ย) (คัดบอลโลก)

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
- ไม่เคยพบกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติอังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด -รีซ เจมส์, มาร์ค เกฮี, ลีวาย โคลวิลล์, ติโน่ ลิฟลาเมนโต้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เดแคลน ไรซ์ - จาร์ร็อด โบเว่น, จู๊ด เบลลิงแฮม, มอร์แกน โรเจอร์ส - แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม)

ทีมชาติลัตเวีย (3-4-2-1) : คริสยานิส ซวีดริส - ไรวิส ยูร์คอฟสกิส, ดาเนียลส์ บาโลดิส, อันโตนิส เชอร์โนมอร์ดิส (กัปตันทีม) - โรเบิร์ตส์ ซาวัลเนี๊ยคส์, เดนิสส์ เมลนิคส์, อเล็คเซส ซาวัลเยฟส์, อันเดรส ชิกานิคส์ - ดมิทริส เซเลนคอฟส์, ยานิส อีคูเนี๊ยคส์ - วลาดิสลาฟ กุตคอฟสคิส

ผู้ตัดสิน : โอเรล กรินฟีลด์ (อิสราเอล)

แนวโน้มของเกม
มันคงไม่รุนแรงเกินไปที่จะแนะนำว่าผลงานของอังกฤษในเกมที่แล้ว ยังไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่แฟนบอลคาดหวัง แต่ทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ไม่ควรมีปัญหาใดๆ ในการตบ ลัตเวีย

แม้จะมีรูปแบบการป้องกันที่หนักหน่วง แต่ผู้มาเยือนก็ไม่ควรมีพลังที่จะต่อต้านการโจมตีของ "ทรี ไลออนส์" ที่มีความสด ในขณะที่ ทูเคิ่ล ยังคงเริ่มต้นชีวิตการคุมทีมที่สมบูรณ์แบบของเขาต่อไป

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
อังกฤษ 4-0 ลัตเวีย