ทีมชาติเยอรมัน (1-A3) vs ทีมชาติอิตาลี (2-A2)

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2568
คิกออฟ เวลา 02.45 น.
สนาม : ซิกนัล อีดูน่า พาร์ค

อัตราต่อรอง : เยอรมัน ต่อ 0.5/1

ทีมชาติเยอรมัน
หลังจากที่ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เลือก โจนาธาน เบอร์การ์ดท์ กองหน้าของ ไมนซ์ แทนที่ ทิม ไคลน์เดียนส์ท ในเลกแรก ซึ่งทั้งคู่ยิงประตูในบุนเดสลิกาไปแล้ว 15 ประตูในฤดูกาลนี้ แต่บทบาทดังกล่าวอาจเปลี่ยนไปเมื่อ ไคลน์เดียนส์ท ลงเล่นในครึ่งหลังได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขายิงประตูที่ 3 ในการรับใช้ทีมชาตินัดที่ 5 ของเกมที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ยิงได้ 2 ประตูกับ บอสเนีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ เลออน โกเร็ทซ์ก้า คว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมที่ซานซีโร่ และจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในแดนกลางอย่างแน่นอน แต่ทั้ง โรเบิร์ต อันดริช และ อังเจโล่ สติลเลอร์ ต่างก็พร้อมแข่งขันกับ ปาสกาล โกรสส์ เพื่อชิงอีกหนึ่งพื้นที่ตรงกลาง นอกจากนี้ การหมุนเวียนผู้เล่นน่าจะจำกัด เนื่องจากเยอรมันมีผู้เล่นหลายคนที่ขาดหายไป ได้แก่ ไค ฮาแวร์ตซ์, เบนจามิน เฮนริชส์, เฟลิกซ์ เอ็นเมช่า, อเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช, มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น และ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ ต่างก็ได้รับบาดเจ็บ

ทีมชาติอิตาลี
ทีมเยือน อิตาลี ต้องขาด มาเตโอ เรเตกี ดาวซัลโวของเซเรีย อา และ เฟเดอริโก ดิมาร์โก แบ็กซ้ายตัวเก่ง เช่นเดียวกับ ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี ก็มีอาการบาดเจ็บเช่นกัน แม้ว่ากองหลังของ อาร์เซน่อล สามารถลงเล่นได้ครบ 90 นาทีในเกมเลกแรก แต่เขากลับเดินกะเผลกหลังจบเกมเนื่องจากลื่นล้มอย่างโชคร้าย ดังนั้น อเลสซานโดร บวนจอร์โน่ จึงอยู่ในสถานะสแตนด์บายเพื่อลงเล่นในแนวรับฝั่งซ้ายในระบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็ก อย่างไรก็ตาม ข่าวดีสำหรับ ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ ก็คือ อันเดรีย คัมเบียโซ่ ดาวเตะอเนกประสงค์น่าจะลงสนามได้แล้ว แต่ มัตเตีย ซัคคานยี กัปตันทีม ลาซิโอ จะได้พักฟื้นอีก 3 วัน ขณะที่ ซานโดร โตนาลี มั่นใจว่าจะได้ลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง โดยมิดฟิลด์ไดนาโมจาก นิวคาสเซิ่ล ยิงไป 2 ประตูและทำแอสซิสต์ได้อีก 2 ครั้งจากการลงเล่น 7 นัดในเนชั่นส์ ลีก ฤดูกาลนี้

ผลงาน 6 นัดหลังของ เยอรมัน (DWWWDW)
เสมอ เนเธอร์แลนด์ 2-2 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ บอสเนีย 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เนเธอร์แลนด์ 1-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ บอสเนีย 7-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
เสมอ ฮังการี 1-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ อิตาลี 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงาน 6 นัดหลังของ อิตาลี (WDWWLL)
ชนะ อิสราเอล 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
เสมอ เบลเยียม 2-2 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ อิสราเอล 4-1 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เบลเยียม 1-0 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ ฝรั่งเศส 1-3 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ เยอรมัน 1-2 (ห) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
21/03/25    (UNL) Italy 1 - 2 Germany
15/06/22    (UNL) Germany 5 - 2 Italy
05/06/22    (UNL) Italy 1 - 1 Germany
16/11/16    (FRI) Italy 0 - 0 Germany
03/07/16    (UEC) Germany (P) 1 - 1 Italy
30/03/16    (FRI) Germany 4 - 1 Italy
16/11/13    (FRI) Italy 1 - 1 Germany

เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ทีมชาติเยอรมัน (4-2-3-1) : อเล็กซานเดอร์ นือเบิล - โยชัว คิมมิช (กัปตันทีม), อันโตนิโอ รือดิเกอร์, นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค, มักซิมิเลียน มิตเทลสตัดท์ - เลออน โกเร็ทซ์ก้า, ปาสกาล โกรสส์ - เลรอย ซาเน่, จามาล มูเซียล่า, คริม อเดเยมี - ทิม ไคลน์เดียนส์ท

ทีมชาติอิตาลี (3-5-2) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (กัปตันทีม) - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, อเลสซานโดร บวนจอร์โน่, อเลสซานโดร บาสโตนี่ - เราอู เบลลาโนว่า, นิโคโล่ โรเวลล่า, ซามูเอเล่ ริชชี, ซานโดร โตนาลี, เดสตินี่ อูโดกี - จาโคโม่ ราสปาโดรี, มอยส์ คีน

ผู้ตัดสิน : ซีโมน มาร์ซีเนี๊ยค (โปแลนด์)

แนวโน้มของเกม
คงจะยุติธรรมหากจะคาดหวังให้การแข่งขันใน เยอรมัน สูสีอีกครั้ง เนื่องจาก อิตาลี จะทุ่มสุดตัวเพื่อพลิกสถานการณ์ที่แพ้ในเลกแรก โดย "อัซซูรี่" ยิงประตูได้เกือบทุกนัดใน 20 นัดหลังสุดของเนชั่นส์ ลีก โดยยิงประตูได้ก่อนหมดครึ่งแรกใน 10 นัดหลัง ดังนั้นการยิงประตูอีกครั้งในครึ่งแรกอาจทำให้เกิดเกมปิดท้ายที่ดุเดือดได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เยอรมัน จะเป็นฝ่ายเข้าไปสู่รอบต่อไป

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
เยอรมัน 1-1 อิตาลี