ลอนดอน สมานฉันท์ ! สิงห์ เปิดบ้าน เจ๊า ปืน 1- 1 เนโต้ ซัดงามหยดเซฟแต้ม
แม้จะมีประตูไม่เยอะ แต่ก็เป็น ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ที่มีอัตราความสนุกเมามันพอสมควรเลยระหว่าง เซลซี กับ อาร์เซน่อล ซึ่งถึงแม้ระยะหลัง 2-3ปีที่ผ่านมา จะเป็นทางทีมปืนใหญ่ที่ขี่กว่านิดๆ แต่ทว่าการดวลกับหนนี้ สิงห์บูลส์ มีผลงานและทรงบอลสไตล์การเล่นที่ดีขึ้น ส่วนปืนใหญ่พวกเขาแผ่วลงมากๆใน 3-4นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว 90นาทียัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็จบลงไปอย่าง สมานฉันท์ 1-1
เซลซี หลังจากที่ถล่มเอาชนะ โนอาห์ ทีมจากอาร์เมเนีย ในรายการ คอนฟลอเรนซ์ ลีก 8-0 เมื่อได้กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง พวกเขาก็หมายมั่นปั้นมือมากๆที่จะเก็บ3แต้มให้ได้ เพราะชนะแค่นัดเดียวใน 4เกมหลังสุดในลีก
การจัดทัพกุนซือ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เลือกตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม หลังจากที่โรเตชั่นมาเต็มๆเมื่อกลางสัปดาห์ โคล พาลเมอร์ ผ่านความฟิตลงสนาม แบ็กซ้ายให้เป็น มาร์ค กูกูเรย่า แบ็กขวา มาโล กุสโต เซ็นเตอร์ ลีวาย โควิลล์ กับ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และโกล โรเบิร์ต ซานเชส
แดนกลาง เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ต้องหลุดเป็นตัวสำรองอีกครั้ง เป็นคู่ มอยเซส ไกเซโด้ กับ โรเมโอ ลาเวีย 3ประสานแดนหน้า เปโดร เนโต้ -โนนี่ มาดูเอเก้ และหน้าเป้า นิโคลัส แจ็คสัน ฟากอาร์เซน่อลที่พวกเขาสะดุดมารัวๆ มีข่าวดีตรงที่ได้ มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมาคืนสนาม
นายด่านใช้ ดาบิด ราย่า แผงแบ็กโฟร์ เบน ไวท์ - กาเบรียล มาร์กัลเญส - วิลเลี่ยม ซาลิบา และ เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ ขยับมาที่คู่มิดฟิลด์ เคแดลน ไรซ์ ผนึกกำลังกับ โธมัส ปาร์เตย์ 3แนวรุกหน่วยเหนือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - บูกาโย่ ซาก้า และ ไค ฮาแวร์ตช์
ออกสตาร์ทมาถือว่ารูปเกมใกล้เคียงกันมาก พลัดกันครองบอลเป็นช่วงๆ แต่หาโอกาสจบสกอร์จะแจ้งกันไม่ได้ และโอกาสที่ใกล้เคียงของทั้งสองฝั่งก็มาในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันเลย เจ้าบ้านมีลุ้นก่อนจากลูกโขก กุสโต้ แต่ข้ามคานออกไป น.24 ฟากทีมเยือนก็มีลูกยิงของ มาร์ติเนลลี่ ที่ซัดไปติดแขน ซานเชส น.27
ก่อนที่ ฮาแวร์ตช์ จะมาใช้กฎยิงประตูทีมเก่าจากลูกฟรีคิกสูตรเล่นเร็ว ไรซ์ จ่ายให้ ฮาแวร์ตช์ ดีดเข้าประตูไป แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว VAR ยึดคืนเพราะเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน จบครึ่งแรกเกมยังสูสี 0-0
45 นาทีหลัง เหมือน มาเรสก้า จะแก้เกมมาดี ครองบอลได้ดีกว่า แต่ทว่าแนวรับของปืนใหญ่ยังคงเหนียวแน่นอดทน และก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก ลูกวางตัดสุดเฉียบของ โอเดการ์ด ให้กับ มาร์ติเนลลี่ ยิงมุมแคบผ่าน โรเบิร์ต ซานเชส ที่ปิดมุมไม่ได้เข้าไป น.60
แต่ทว่าหลังจากนั้นเพียง10นาที สิงห์บูลส์ ก็มาตีเสมอได้ จากลูกลากตัดยิงเรียดสุดคมนอกกรอบเขตโทษของ เนโต้ .70 เสมอ1-1 หลังจากนั้นรูปเกมก็ค่อนข้างเปิดเลย แต่ทว่าเป็นทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ที่ได้ลุ้นมากกว่า และมีโอกาสโดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม จากทั้ง
เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่ตามซ้ำลูกยิงของ มาร์ติเนลลี่ ไปติดหน้าของ ซานเชส และที่น่าเสียดายสุดๆ แม้ว่าถ้าเข้าอาจจะต้องใช้ VAR เช็กว่าล้ำหน้ารึเปล่า กับจังหวะสุดท้ายของเกม น.90+6 ซาลิบา หลุดทางซ้าย ปาดเรียดเข้ากลางให้ ทรอสซาร์ ชาร์จโล่งๆ แต่แป๊กออกข้างไป ทั้งที่ตัวหลังมี ฮาแวร์ตช์ รออยู่ด้วย จบเกม90นาที จึงเสมอกันไป 1-1
โอเดการ์ด คัมแบ็ก แนวรุกปืนมีมิติ
ช่วงที่อาร์เซน่อล ขาด มาร์ติน โอเดการ์ด ไป ต้องบอกว่าแนวรุกของพวกเขาไร้จินตนาการกันไปมากๆจริงๆ เกมบุกกลายเป็นว่าเน้นหนักตรงที่ลูกตั้งเตะ ลูกเตะมุม รวมถึงลูกครอสให้โหม่งทำประตูมากกว่า บอลทะลุช่องหรือวางยาวแทบไม่มีให้เห็น มิเคล เมรีโน่ ยังตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ได้
โอเดการ์ด พึ่งจะกลับมาลงสนามได้ครั้งแรก นั่นก็คือเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกไปแพ้ อินเตอร์ มิลาน นัดนั้นได้ลงมาเป็นตัวสำรองช่วงทดเจ็บ ซึ่งเกมสำคัญกับ เซลซี แน่นอนว่า มิเคล อาร์เตต้า ต้องเข็นเจ้าตัวลงสนาม แม้ว่าจริงๆอาจยังไม่พร้อมเต็มร้อยก็ตาม
โอเคผลงานของ เพลย์เมคเกอร์ชาวนอร์เวย์ อาจจะยังไม่เนี๊ยบมาก มีจ่ายบอลพลาดบางจังหวะ แต่ก็เห็นได้ชัดเจนมากๆว่า แนวรุกปืนโต มีความหลากหลายน่ากลัวขึ้น มีจังหวะจะโคนในการเล่นเกมบุก ช็อตไหนควรทำเร็ว ช็อตไหนควรดึงช้ารอเพื่อน
และการกลับมาเพียงแค่แมตช์แรก โอเดการ์ด ก็แผลงฤทธิเลย เมื่อใช้ความขยันแย่งบอลจากผู้เล่นเซลซีได้ แล้วโชว์วิชั่น กระดกบอลข้ามหัวแนวรับเจ้าบ้าน ไปตรงพื้นที่เสาไกล หลุดไปถึง มาร์ติเนลลี่ ยิงมุมแคบเข้าไป
นอกจากนี้แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีสุดท้าย 90+6 โอเดการ์ด ยังจ่ายคีย์พาสสุดเฉียบให้ ซาลิบา ไปปาดเรียดเข้าเขตโทษ แต่ทว่า ทรอสซาร์ ดันทำหมูหกเข้าชาร์จแป๊กดื้อๆ ทั้งที่ข้างหลังยังมี ฮาแวร์ตช์ รออยู่อีกคน
เมื่อคืน สถิติเมื่อคืน ระบุว่า โอเดการ์ด สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมมากถึง4ครั้ง สถิติผ่านบอลแม่นยำ 92.1 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ " เดอะ กันเนอร์ส " ไม่ต้องลุ้นประตูจากเพียงลูกตั้งเตะ หรือครอสบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษอย่างเดียวเหมือนช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา
กูกูเรย่า เกมรับเยี่ยม โดยรวมเอา ซาก้า อยู่
หลังจากที่ 2-3 นัดที่ผ่านมา นายใหญ่กุนซือ เอ็นโซ่ มาเรสก้า พยายามขัดตราทัพให้ รีส เจมส์ มาเล่นเป็นแบ็กซ้ายตลอด เพราะรักพี่เสียดายน้องในตำแหน่งแบ็กขวา ที่ มาโลห์ กุสโต้ เล่นดี ซึ่งผลลัพธ์หลายๆนัด เจมส์ แม้จะไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไรมาก แต่ว่าเวลาเล่นมันดูขัดๆยังไงพิกล โดยเฉพาะเวลาจะเล่นเกมรุก เพราะต้องพยายามหักให้เข้าเท้าขวาข้างถนัด
แต่ทว่าการที่ต้องดวลกับอาร์เซน่อล ที่ปีกขวาของพวกเขาจี๊ดมากๆอย่าง บูกาโย่ ซาก้า เลือกที่จะใช้บริการแบ็กซ้ายธรรมชาติ อย่าง มาร์ค กูกูเรย่า โดยกุนซือชาวอิตาเลี่ยน ดูจะกำชับให้ " พี่ฟู " ดูแล ซาก้า อย่างดี ไปไหนไปด้วย ไม่ต้องเติมเกมรุกมาก เน้นแบ็กถ้าจะบุกเป็นฝั่งขวา กุสโต มากกว่า
ช่วงแรก กูกูเรย่า ก็มีหลุดให้ ซาก้า เผาเครื่องเหมือนกัน แต่ถ้าเอาภาพรวม อดีตแบ็กไบร์ทตันเอาอยู่เหมือนกันกับการรับมือปีกตัวเก่งอาร์เซน่อล กูกูเรย่า เป็นแบ็กประเภทที่ตัวเล็ก แต่เรื่องความแข็งแกร่ง การเบียดแย่งบอลนั้นดีมากๆ
แบ็กหัวฟู ผ่านบอลเข้าเป้า 36 จาก 39ครั้ง / ชนะการดวล 4จาก 6ครั้ง / ตัดบอล3ครั้ง / เอาชนะการครองบอล3ครั้ง /เคลียร์บอล2 ครั้ง / บล็อคลูกยิง1หน และไม่ปล่อยให้คู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านได้เลย (0ครั้ง)
การประกบติด ซาก้า ของแบ็กหัวฟู ทำให้นี่เป็นหนแรกที่ ปีกตัวเก่งอาร์เซน่อลรายนี้ ไม่มีประตูหรือแอสซิสต์ เวลามาเยือนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังก่อนหน้านั้น3นัดล่าสุด เวลามาเล่นบ้านเซลซี บูกาโย่ ซาก้า มีประตูหรือแอสซิสต์ มาฝากตลอด
กลางสิงห์ลงตัวมาก ลาเวีย & ไกเซโด้
แม้ว่าจะย้ายมาด้วยค่าตัวที่แสนแพง แตะหลัก 100ล้านปอนด์ แต่ทว่าในยุคของ นายใหญ่คนใหม่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ก็มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์เกิดขึ้น เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ต้องกระเด็นกลายไปเป็นตัวสำรอง ทำให้ โรเมโอ ลาเวีย ได้โอกาสเป็นตัวจริง
2-3นัดที่ผ่านมาสำหรับการได้ลงเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก ของ ลาเวีย โอเค แม้อดีตเด็กปั้นของเซาธ์แฮมป์ตันรายนี้ จะไม่ได้มีลูกวางบอลยาว หรือเชิงบอลที่ดีเท่า เอ็นโซ่ แต่สิ่งที่เจ้าตัวเพิ่มมาให้กับแผงกลางของทีมคือ ความแข็งแกร่ง และชั้นเชิงในการเล่นเกมรับ
ลาเวีย ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เพราะมีอาการบาดเจ็บ น.68 มีความแม่นยำในการผ่านบอลดีถึง 95.16 % บวกกับนี้เป็นเกมที่ เดแคลน ไรซ์ เล่นไม่ออกด้วย ทำให้45นาทีหลัง เกมเซลซี ค่อนข้างดีกว่า
ส่วน มอยเซส ไกเซโด้ ฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าเจ้าตัวเข้าฟอร์มและเข้าฝักจริงๆ เหมือนกับมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ปอล ป็อกบา ในร่างเดียว (ฉายาสมัยที่พุ่งขึ้นมาแรกๆ) การเข้าบอลของ มิดฟิลด์ชาวเอกวาดอร์ มีความดุดันมากๆ แถมยังเลี้ยงบอลพุ่งไปข้างหน้าได้ดี
ไกเซโด้ เข้าแท็กเกิ้ล3ครั้ง / บล็อคลูกยิง2ครั้ง และวางบอลยาวมากถึง 6หน เรื่องพละกำลังและความฟิต ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว เพราะรวมเมื่อคืน นี่คือการออกสตาร์ทตัวจริงในลีกนัดที่ 11 และตัวของ มอยเซส ไกเซโด้ ก็อยู่จนครบ90นาทีไปถึง 10นัด
เนโต้ ต้องได้เล่นฝั่งขวา หลังซัดเฉียบ
สมัยที่อยู่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ตำแหน่งที่เราได้เห็นจนชินตากับฟอร์มเฉียบๆของเจ้าตัวเรื่องการตัดยิง นั่นก็คือตำแหน่ง ปีกขวานี่แหละ แต่ทว่าพอมาอยู่กับเซลซี เปโดร เนโต้ เมื่อมีโอกาสได้ลงเล่นก็มักจะต้องเป็นฝั่งซ้ายมากกว่า นั่นทำให้ปีกแดนฝอยทองรายนี้ ขัดๆหน่อย เวลาลากไปริมเส้น ไม่ว่าจะยิงหรือเปิด
ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ กับอาร์เซน่อล ก็เช่นกัน เนโต้ ออกสตาร์ทด้วยการเล่นเป็นปีกซ้าย ซึ่งนั่นแหละแม้จะพอทำอะไรได้ แต่มันก็ไม่ทรงประสิทธิภาพเหมือนตอนที่เจ้าตัวเล่นปีกขวา จนท้ายที่สุด มาเรสก้า ก็ปรับเจ้าตัวไปเล่นปีกขวาที่ถนัด ปีกซ้ายเป็น มิไคโล มูดริค ตัวสำรอง
พอปรับมาเล่นปีกขวาเท่านั้นแหละ เนโต้ ก็เมือนพยัคฆ์คิดปีกเลย มาโล กุสโต มีปัญหามากๆกับการรับมือ จนทำให้ท้ายที่สุดแล้ว มาเรสก้า ต้องเปลี่ยนให้ รีซ เจมส์ ลงมารับมือแทนช่วงราวๆ 10นาทีสุดท้าย
ประตูตีเจ๊า 1-1 เป็นภาพที่เราเห็นบ่อยๆเวลาเจ้าตัวสวมเครื่องแบบวูล์ฟ เนโต้ สอดเข้ามาตรงกลางแบบแนวรับปืนไม่ทันตั้งตัว ปล่อยให้ เนโต้ ลากเข้ากลางมีพื้นที่หน้าเขตโทษ ก่อนยิงหักข้อด้วยซ้ายเรียดผ่านมือ ดาบิด ราย่า เข้าไปสุดคม
นี่คือประตูแรกในพรีเมียร์ลีกของเจ้าตัวในสีเสื้อสิงห์น้ำเงินอีกด้วย จริงๆใน ครึ่งแรก เนโต้ มีลูกครอสสวยๆให้ทั้ง มาดูเอเก้ และ กุสโต้ ได้โหม่งแต่ทว่าข้ามคานออกไปทั้งคู่ วันที่ พาลเมอร์ เล่นไม่ออกเพราะโดนประกบติด ก็ยังมี เนโต้ นี่แหละที่สร้างความลำบากใจให้อาร์เซน่อลได้
ความแตกต่างระหว่าง ซานเชส กับ ราย่า
สำหรับ โรเบิร์ต ซานเชส แล้ว นี่เป็นนายทวารที่แฟนสิงห์บูลส์ ย่อมมีเสียวตลอดเวลาได้รับหน้าที่เฝ้าเสา เพราะบทจะเหนียวนั้นก็ผีเข้าสุดๆ หรือแม้กระทั่งการเซฟจ่อๆหรือจุดโทษก็ทำมาได้หมดแล้ว แต่ทว่าพอเวลาบาทจะแจกหรือทำหมูหก ก็มาดื้อๆแบบไม่มีเหตุผล
ย้อนรอยไปฤดูกาลที่แล้ว ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ กับ อาร์เซน่อล ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผลจบลงด้วย 2-2 ก็เป็น โรเบิร์ต ซานเชส นี่แหละที่เปิดบอลพลาด ไปเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ดื้อๆ แล้ว ไรซ์ เองก็ยิงสวนจากนอกกรอบเขตโทษเข้าไป
จริงๆโกลชาวสเปนรายนี้ ก็มีเซฟสวยๆเหมือนกันในครึ่งแรกกับลูกยิงของ มาร์ติเนลลี่ แต่ทว่าพอมาครึ่งหลัง ประตูตีเสมอของ มาร์ติเนลลี่ ที่แทบไม่มีมุมยิงแต่เบียดเสาแรกเข้าไปได้ ต้องโทษอดีตโกลไบร์ทตันรายนี้ ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะปิดมุมเสาแรกได้แย่สุดๆ
นอกจากนี้แม้จะไม่ได้ผิดพลาดอะไร เวลาออกบอลบิ้วด์เกม แต่ทว่าลูกจ่ายของเจ้าตัวมันเล่นเอาแฟนๆหวาดเสียวยังไงไม่รู้ ตัดมาที่ ดาบิด ราย่า โกลอาร์เซน่อล นี่นัดนี้ไมได้มีซุปเปอร์เซฟเท่าไหร่ แต่ทว่าการเล่นดูแน่นอนกว่า ซานเชส มากๆ
ราย่า นิ่งเวลาจ่ายบอลจากแดนหลัง แถมยังออกมาคว้าลูกกลางอากาศได้ติดมือตลอด ไม่มีกระฉอก หรือมี1-2ช็อตที่ เซลซี อาศัยบอลยาววางข้ามแผงหลังเซลซีมาได้แล้ว แต่ ราย่า ก็ออกมาชิงเล่นบอลถึงก่อนเหมือนเป็น สวีปเปอร์ คีปเปอร์ เลย เรียกว่าโกลของปืนใหญ ดูน่าใว้ใจและอุ่นใจกว่าของสิงห์บูลส์จริงๆ
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก เซลซี อาร์เซน่อล เอ็นโซ่ มาเรสก้า มิเคล อาร์เตต้า เปโดร เนโต้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
- 63
- 11 พ.ย. 2567 15:32