ยูซีแอล 3นัด 9แต้ม ! หงส์ เฮต่อเนื่อง บุกเชือด ไลป์ซิก 1-0 นูนเญซ จิ้มง่ายๆ

แม้ว่าลิเวอร์พูลจะเล่นไม่ได้ดุดันสนุกเร้าใจมากเหมือนในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ทว่าเมื่อมองไปที่ผลลัพธ์แล้ว ต้องบอกว่า10เต็ม10จริงๆ กับยุคของผู้จัดการทีมคนใหม่ อาร์เน่อ สล็อต เพราะเมื่อคืนในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พลพรรคหงส์แดง ยังเดินหน้าเก็บ3แต้มได้ต่อเนื่อง หลังบุกไปเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมแกร่งจากเยอรมัน 1-0 จากประตูชัยของ ดาร์วิน นูนเญซ 
 

หลังจากที่เอาชนะใน เวที ยูซีแอล มา2เกมติด บวกกับวันอาทิตย์นี้มีศึกหนักที่ต้องออกไปเยือนอาร์เซน่อล นั่นทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องมีการโรเตชั่นผู้เล่นบางตำแหน่งในการ ดวลกับ ไลป์ซิก ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวนั่นก็คือ แบ็กซ้าย คอสตาส ซิมิกาส ได้ออกสตาร์ทแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

3ประสานในแดนกลางชุดเก่ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ - ไรอัน กราเฟนแบร์ค และ โดมินิค โซโบซไล แดนหน้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ - ดาร์วิน นูนเญซ และ โคดี้ กัคโป ส่วน หลุยส์ ดิอ๊าซ สำรองไปก่อน
 

ส่วนเจ้าบ้านไลป์ซิก ที่แม้ผลงานในบุนเดสลีก้าจะดี แต่ในเวที ยูซีแอล พวกเขาแพ้มา2นัดรวด นัดนี้ผู้จัดการทีม มาร์โก โรเซ่ ปรับแผนจากหลัง3มาเล่นระบบ 4-3-2-1 มีสตาร์ชูโรงเป็นเหล่าแนวรุกอย่าง เบนจามิน เชสโก้ - ซาฟี ซิมอนส์ และ หลุยส์ โอเปนด้า 
 

เริ่มเกมมาถือว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะเจ้าบ้านได้โหมใส่ก่อนเป็นระยะ เชสโก้ ได้ลุ้น2จังหวะ มีทั้งซัดหลุดออกไปเอง และ ติดเซฟ เคลเลเฮอร์ ส่วน โอเปนด้า อุตส่าห์ยิงสุดสวยส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายแล้ว แต่ทว่าก็ถูกจับล้ำหน้าไปก่อน

อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูล ชที่แม้โอกาสไม่มาก แต่ทว่าพวกเขาก็ยังเป็นทีมที่มีความแน่นอนสูง และขึ้นนำไปก่อน1-0 น.27 จากลูกโหม่งย้อนทางของ โม ซาลาห์ บอลกำลังจะลอยข้ามเส้นเข้าไป กลายเป็น ดาร์วิน นูนเญซ ที่เอาชัวร์จิ้มบอลเข้าไปง่ายๆ
 

หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็เป็นฝ่ายผลัดกันรับและรุก มีโอกาสเรื่อยๆพอกัน แต่ผู้รักษาประตูทั้งสองฝั่งยังเหนียวหนึบ เริ่มครึ่งหลัง เรียกได้ว่าเป็นวันที่ได้ฉายแสงของนายทวารของเจ้าบ้านอย่าง ปีเตอร์ กูลาซี่ และของทีมเยือนอย่าง ควีวิน เคลเลเฮอร์
 

ทั้งหงส์แดงและกระทิงแดง มีโอกาสที่จะส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ทีมละ 2ครั้งเป็นอย่างต่ำ แต่ทว่าทั้ง กูลาซี่ และ เคลเลเฮอร์ ก็เหาะเหินเดินอากาศบินไปปัดป้องได้หมด แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วเป็น ซิมิกาส แบ็กซ้ายลิเวอร์พูล ที่คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไป 

จบเกมเป็นชัยชนะ1-0 ของลิเวอร์พูล เดินหน้าคว้าชัย 11จาก12นัด ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล แถมยังเรียกความมั่นใจเต็มเปี่ยม ก่อนบุกไปเยือนอาร์เซน่อล วันอาทิตย์ นอกจากนี้หงส์แดงยัง โรเตชั่น เก็บแรงเปลี่ยน ซาลาห์ ออกตั้งแต่ น.63 ไว้บู๊กับปืนใหญ่โดยเฉพาะ
 

ส่วน แอร์เบ ไลป์ซิก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นรองจ่าฝูงบุนเดสลีก้า แต้มเท่ากับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ในสังเวียน ยูซีแอล พวกเขายังกินไข่ แพ้รวด3นัดเลย อยู่อันดับที่31ของตาราง จาก36ทีม เกมหน้าพอมีลุ้นหน่อย เพราะต้องบุกไปเยือน เซลติก ที่ไม่แข็งมากนัก
 

ดาร์วิน เรียกความมั่นใจ จิ้ม ประตูชัย1-0

ภายใต้คุยกุนซือ อาร์เน่อ สล็อต เริ่มแรกเป็นตัวสำรองตลอดเลยสำหรับ ดาร์วิน นูนเญซ แต่ทว่าเมื่อพอ ดิโอโก้ โชต้า มีอาการบาดเจ็บรบกวน และลิเวอร์พูลเองมีโปรแกรมการแข่งขันที่ถี่ขึ้นทำให้ นูนเญซ ค่อยๆได้รับโอกาสมากกว่าเดิม 
 

ก่อนหน้าเกมกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ดาวยิงชาวอุรุกวัย พึ่งจะได้ออกสตาร์ทเป็น11ตัวจริงเพียง3นัด สำรองอีก5นัด ทำไปได้เพียง1ประตู 1แอสซิสต์ แต่สิ่งที่ นูนเญซ เติมให้กับแนวรุกหงส์แดงตลอดแม้ว่าจะทำประตูไม่ค่อยได้นั่นก็คือ พลังงานและความขยัน
 

สุดท้ายแล้ว ดาร์วิน นูนเญซ ก็มาทำประตูที่2ของฤดูกาลได้ จะว่าตามเก็บส้มหล่นก็ได้ เพราะเอาชัวร์ตามไปจิ้มบอลที่เหมือนกำลังจะเข้าประตูของ โม ซาลาห์ เข้าไปง่ายๆ โอเค มันอาจเป็นประตูที่ง่ายสุดๆแต่มันก็น่าจะทำให้เรียกความมั่นใจกลับมาได้ไม่น้อย
 

อดีตกองหน้าเบนฟิก้า น่าจะเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ เมื่อโดน วิลลี่ ออร์บาน สกัดล้มลงในเขตโทษ แต่ทว่าเปาในสนามไม่ว่าอะไร แถม VAR ไม่เช็กอีกด้วย นอกจากนี้ นูนเญซ มีโอกาสทำเม็ดที่2เช่นกัน จากลูกโหม่งของเจ้าตัวที่โดน กูลาซี่ ปัดได้หวุดหวิด
 

74นาที ที่อยู่ในสนาม นูนเญซ มีประโยชน์เป็นอย่างมากในเรื่องของความขยันและความมุ่งมั่น แต่ก็ยังต้องปรับปรุงในเรื่องของจังหวะสุดท้ายเช่นกัน ไม่ว่าจะยิงหรือจ่าย เพราะเกมกับอาร์เซน่อล อาทิตย์นี้ โชต้า ที่ยังเจ็บอยู่ น่าจะเป็นเจ้าตัวนี่แหละที่ได้ออกสตาร์ท

ซิมิกาส รางวัลของคนรอโอกาส พิสูจน์ด้วย MOTM

จากแบ็กซ้ายตัวสำรองที่ไว้ใจได้มากๆ ช่วงที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไม่อยู่ แต่ทว่ามา 1-2ฤดูกาลที่ผ่านมา ต้องบอกว่า คอสตาส ซิมิกาส ดูจะแผ่วไปมากๆเหมือนกัน เพราะเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม มักจะทำผลงานได้น่าประทับใจน้อยกว่าที่คาดหวัง เมื่อคืนการที่ อาร์เน่อ สล็อต ต้องการโรเตชั่น ทำให้ ซิมิกาส ได้โอกาสอีกครั้ง
 

เริ่มเกมมาเหมือนแบ็กชาวกรีซรายนี้ จะยังลนๆหน่อย ปล่อยให้เจ้าบ้านโจมตีริมเส้นฝั่งซ้ายได้เป็นระยะๆ แต่ทว่าเมื่อลิเวอร์พูล ครองบอลตั้งเกมได้ ซิมิกาส ก็ค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับ โดดเด่นทั้งเกมรับและเกมรุก
 

ประตูชัยของ นูนเญซ ก็มาจาก ซิมิกาส นี่แหละที่เปิดไปเข้าหัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ การเล่นลูกเตะมุมความอันตรายจากลูกเปิดของ คอสตาส ซิมิกาส ทำให้ลิเวอร์พูลได้ลุ้นเสียวตลอด โดยเฉพาะจังหวะโขกของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
 

การรับมือกับผู้เล่นริมเส้นแบ็กขวาเจ้าบ้านอย่าง ลุตชาเรล เคียร์เทราดา ไม่ใช่ปัญหาของ ซิมิกาส แต่อย่างใด แบ็กชาวกรีซผ่านบอลแม่นยำถึง 94.7% วางบอลยาวมากถึง5ครั้ง ครอสบอล2หน - ตัดบอลได้3ครั้ง ไม่แปลกใจเลยกับรางวัล MOTM หลังจบเกม แม้ว่าจะอยู่ในสนามแค่ 75นาทีก็ตาม
 

แต่ทว่าอย่างไรก็ตามในเกมที่จะบุกไปเยือนอาร์เซน่อล วันอาทิตย์นี้ แบ็กซ้ายน่าจะตกเป็นของ " ร็อบโบ้ " แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตามเดิม โอกาสของ ซิมิกาส น่าจะเป็นช่วงโปรแกรมชุกหรือในฟุตบอลถ้วยในประเทศมากกว่า
 

เคลเลเฮอร์ มือ2ที่น่าอุ่นใจที่สุด

ช่วง1-2ปีหลังมาที่ อลิสซง เบ็คเกอร์ มีอาการบาดเจ็บบ่อย ทำให้นายด่านมือ2อย่าง ควีวิน เคลเลเฮอร์ ได้รับโอกาสบ่อยครั้ง และก็ต้องบอกว่า " โกลลูกหมี " แทบไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย ฟอร์มของเจ้าตัวสามารถยึดมือ1ของทีมอื่นได้แบบสบายๆ
 

แน่นอนว่า อลิสซง ที่เจ็บไป ทำให้โกลมือ1ของลิเวอร์พูล ต้องตกเป็นหน้าที่ของ เคลเลเฮอร์ อย่างไม่ต้องสงสัย ยังไม่ใช่เวลาวัดใจกับโกลมือ3อย่าง วิเทซสลาฟ จารอส ซึ่งเกมกับ ไลป์ซิก ก็เป็นอีกหนึ่งนัดที่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ โชว์ฟอร์มเทพ
 

แม้ว่า ซิมิกาส จะได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แต่ทว่า ควีวิน เคลเลเฮอร์ ก็คู่ควรกับรางวัลนี้เช่นกัน เพราะการเซฟในครึ่งหลังกับจังหวะที่น่าเข้าสุดๆ ก็ช่วยให้ลิเวอร์พูลดเก็บคลีนชีตออกมาจากเมืองเบียร์ พร้อม3แต้ม
 

นายด่านชาวไอร์แลนด์ รับลูกยิงตรงกรอบไป6หน และมี2ครั้งที่น่าเข้าสุดๆในช่วงครึ่งหลัง จากทั้งไม่ว่าจะเป็นการใช้เท้าเซฟลูกยิงของ เบนจามิน เชสโก้ และเหาะเหินเดินอากาศ ปัดลูกยิงแฉลบเกือบมุดใต้คานของ ชาฟี ซิมอนส์ ได้อย่างเหลือเชื่อ
 

แต่ถึงกระนั้นก็ดี ภาพรวมก็ต้องชื่นชมความแกร่งเป็นภูผาแนวรับลิเวอร์พูลด้วยกับคู่ของ เฟอรจิล ฟานไดค์ กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ เพราะ 12นัดรวมทุกรายการ พวกเขาเสียบเพียงแค่5ประตูเท่านั้น เก็บได้ถึง 7คลีนชีต 
 

กูลาซี่ ก็หนึบเหมือนกัน / ไลป์ซิก ผลงานในลีก กับ ยูซีแอล คนละเรื่อง


สำหรับเจ้าบ้าน ไลป์ซิก แม้จะแพ้ไป แต่ทว่านายด่านของพวกเขาอย่าง ปีเตอร์ กูลาซี่ ก็ฟอร์มหนึบตุ๊กแกใช้ได้เลย เพราะนอกจากลูกยิงแบบจ่อๆหมดสิทธิป้องกันของ ดาร์วิน นูนเญซ โกลอย่าง กูลาซี่ ก็เก็บกวาดได้หมด เมื่อคืนหงส์แดงยิงเข้ากรอบมากถึง 7ครั้ง
 

45นาทีแรก ผู้รักษาประตูชาวฮังการี มีจังหวะเซฟลูกโขก2ครั้ง จาก ฟาน ไดค์ และ นูนเญซ  ครึ่งหลัง โคดี้ กัคโป ได้ยิงเหน่งๆ แต่ทว่า กูลาซี่ ก็ยังขายาวเป็นปลาหมึก ยืดขาออกมาเซฟๆด้อย่างสุดยอด และลูกลากยิงของ กัคโป อีกรอบ ก็ยังไม่ผ่านมือ กูลาซี่ เช่นเดิม
 

ที่หมดสิทธิจะเซฟจริงๆ แต่โชคดีที่ไม่เข้ากับจังหวะได้ปั่นด้วยขวาของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ไปชนคานอย่างจัง เอาจริงๆ ไลป์ซิก ก็ถือว่าเป็นทีมที่แนวรับดีอยู่แล้วนะ ถ้าเอาจากผลงานในบุนเดสลีก้า เพราะพวกเขาเสียไปเพียง2ประตู จาก7นัด
 

โดยความพ่ายแพ้ดังกล่าวที่แม้ว่า กูลาซี่ จะช่วยเซฟหลายลูก ทำให้ทีม " กระทิงแดง " แพ้ 3นัดรวด ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่อันดับที่ 31จาก36ทีม ส่อแววเหลือเกินที่จะหยุดเส้นทางของตัวเองไว้เพียงรอบนี้ 
 

ผิดกับในบุนเดสลีก้า ที่พวกเขาเป็นรองจ่าฝูง มี17แต้ม จาก7นัด เท่ากับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ลูกได้เสียเป็นรอง โดยนัดต่อไปลูกทีมของ มาร์โก โรเซ่ จะต้องยกพลไปเยือน กลาสโกว์ เซลติก ถึงสก็อตแลนด์ ที่3นัดแรก ใช้ได้เลย มี4แต้ม 

 

ไม่ใช่วันของ โอเปนด้า แนวรุก(คนอื่น)ใช้โอกาสเปลือง

การแพ้ 0-1 เมื่อคืนของ แอร์เบ ไลป์ซิก ต่อลิเวอร์พูล ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีโอกาสเผด็จศึกผู้มาเยือนเลยนะ แต่ทว่าบรรดาแนวรุกของไลป์ซิก กลับยิงนกตกปลากันไปเอง บวกกับโดนความเหนียวหนึบของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ป้องกันไว้ 
 

คนที่ดูโชคร้ายไม่มีดวงสุดๆเห็นทีจะเป็น หลุยส์ โอเปนด้า เพราะดาวยิงชาวเบลเยี่ยม ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ถึง2ครั้ง2ครา แต่ทว่าต้องการเป็นจังหวะล้ำหน้า ลูกแรกได้หักยิงด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษสุดสวย แต่จังหวะรับบอลจาก อันโตนิโอ นูซา นั้นล้ำหน้าไปเยอะพอสมควร
 

หรือในครึ่งหลัง โอเปนด้า ก็ตามซ้ำลูกยิงของ เบนยามิน เฮนริชส์ เข้าไปง่ายๆ แต่ภาพช้าก็ชัดเจนว่าเจ้าตัว ยืนเหลื่อมไปจริงๆ เมื่อคืนดาวยิงวัย24ปี มีส่วนร่วมกับเกมค่อนข้างน้อย (นอกจากจังหวะยิง) เพราะตลอด90นาทีได้ผ่านบอลเพียง12ครั้ง ซึ่งก็เข้าเป้าเพียง7หน
 

นอกจากนี้ โอเปนด้า ยังยืนตำแหน่งแย่ไปหน่อย เพราะล้ำหน้าถึง 4ครั้งด้วยกัน แต่อีกคนที่ต้องโทษเหมือนกันนั่นก็คือ เบนจามิน เซสโก้ ที่มีโอกาสถึง3ครั้ง แต่แปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ 
 

แต่ถึงกระนั้นในเวที ยูซีแอล 3นัดผ่านไป ทัพกระทิงแดง แพ้รวดยิงได้เพียง3ประตู ซึ่งก็มาจาก เซสโก้ ทั้งหมดเลย เหล่าตัวความหวังในแนวรุกอื่นๆอย่าง โอเปนด้า -ซิมอนส์ ยังไม่มีใครเบิกสกอร์ในเกมยุโรปได้แม้แต่รายเดียว