เทน ฮาก ปลอดภัย ! ผี เร่งครึ่งหลัง แซง ผึ้งน้อย 2-1 การ์นาโช่ - ฮอยลุนด์ คนละเม็ด
ยังชะตาแข็งและไม่ใกล้เคียงกับการตะเพิดออกจากการเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เลย สำหรับ เอริก เทน ฮาก แม้ว่าจะทำปีศาจแดงออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่ฤดูกาลใหม่ 2024-2025 ซึ่งหลังช่วงโปรแกรมฟีฟ่า เดย์ กุนซือชาวดัตช์ก็รอดมาได้ โดยหลังเบรคทีมชาติ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้เล่นในบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เบรนท์ฟอร์ด ที่ยิงประตู1-2นาทีแรก มา4เกมติดในพรีเมียร์ลีก
การจัดตัวผู้เล่นปีศาจแดงมีการปรับทัพหลายราย เซ็นเตอร์ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ จอนนี่ อีแวนส์ ที่ยืนเซ็นเตอร์คู่กับ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ส่วน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ขัดตราทัพเป็นแบ็กซ้าย ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ได้เล่นเป็นแบ็กขวาตัวจริงหนแรกในซีซั่นนี้
ขยับมาตรงกลาง มานูเอล อูกาเต้ ยังต้องนั่งสำรองตามเดิม คู่มิดฟิลด์เป็น กาเซมิโร่ กับ คริสเตียน อิริคเซ่น เพลย์เมคเกอร์ บรูโน่ แฟร์นันเดซ 3ประสานในแดนหน้า มาร์คัส แรชฟอร์ด - อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ ราสมุส ฮอยลุนด์
ฟากผู้มาเยือน เบรนท์ฟอร์ด ของ โธมัส แฟร้งค์ ไม่ได้มาในระบบถนัดหลัง3 แต่มาระบบ 4-2-3-1 โดยมีสตาร์ชูโรงเป็น ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ที่กดไปแล้ว6ประตูในพรีเมียร์ลีก มากกว่า ปีศาจแดง (5ประตู) เสียอีก
เริ่มเกมเป่านกหวีดโดย ซามูเอล บาร์ร็อต กลับกลายเป็นว่า "เดอะ บีส์ " ที่เหนือกว่าเจ้าบ้านซะงั้น ครองบอล ขึงเกมเข้าใส่ทีมเจ้าบ้าน ปีศาจแดง ที่พยายามเล่นเกมสวนกลับบอลยาวไปตายข้างหน้าตลอดโชคดีที่ เบรนท์ฟอร์ด เอง หาจังหวะยิงจะแจ้งไม่ค่อยได้
20นาทีแรก ผู้มาเยือนครองบอลได้มากถึง 68 ปอร์เซ็นต์ หลังจากผ่าน20นาทีแรก กลายเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ การ์นาโช่ ได้ยิง3ครั้ง หรือที่น่าเสียกายสุดๆ คริสเตียน อิริคเซ่น ได้ยิงในเขตโทษโล่งๆข้ามคาน
45นาทีแรกทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์ 0-0 เสียแล้ว แต่ทว่าช่วงที่ เดอ ลิกต์ หัวแตกเลือดไหล ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก กรรมการเรียกกองหลังชาวดัตช์ไปห้ามเลือดข้างสนาม เบรนท์ฟอร์ดอาศัยความได้เปรียบช่วงที่เจ้าบ้านเหลือ10คน ขึ้นนำ 1-0 น.45+5 อีธาน พินน็อค โขกลูกเตะมุมเข้าไปเต็มกะบาล
เริ่มครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนตัวอะไร แต่ปลุกใจกันออกมาจากอุโมงค์ดีมากๆ และมาตีเสมอ 1-1 น.47 จากลูกครอสของ แรชฟอร์ด แล้วเป็น การ์นาโช่ ยิงย้อนศรแบบไม่ต้องจับบอลเข้าไปสุดสวย
หลังจากนั้นโมเมนตัมก็ไหลมาทางฝั่งเจ้าบ้านเต็มๆ แซงเป็น 2-1 เพียง น.62 บรูโน่ ดีดต่อให้ ฮอยลุนด์ หลุดไปดวลกับ มาร์ค เฟล็คเค่น ก่อนที่ดาวยิงวัยรุ่นชาวเดนมาร์ก จะกระดกบอลข้ามเข้าไปอย่างเหลือชั้น
พอขึ้นนำ 2-1 ปีศาจแดง ก็มีโอกาสจะบวกเริ่มเป็นระยะๆ แต่ทว่าก็ไม่คมกันเอง ก็จะมามีเสียวเล็กๆช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกยิงของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ในเขตโทษ แต่หลุดกรอบไปไกลพอสมควร จบ90นาที จึงเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงเฉือนเอาชนะไปได้2-1คว้าชัยนัดแรกในรอบ6เกม รวมทุกรายการ
ผีเสียทั้งค่าโง่ และเสียประตู
ความผิดพลาดระดับอนุบาลแบบไม่น่าให้อภัย นี่คือสิ่งที่ได้เห็นจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บ่อยครั้้งมากๆ ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเสียประตูในช่วงต้นเกมและท้ายเกมแต่ละครึ่ง ความผิดพลาดส่วนบุคคล หรือคู่แข่งแทบไม่ต้องสร้างเกมบุกกดดันเลย ทำนบของพวกเขาก็แตกพ่ายได้ง่ายๆ
มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ที่ศรีษะปะทะกับเข่าของ เควิน ชาเด้อ จนเลือดตกยางออก ต้องให้แพทย์ข้างสนามปฐมพยาบาลยกใหญ่ แต่ทว่าเหมือนทีมแพทย์จะงานชุ่ยยังไงไม่รู้ ไม่ใส่ผ้าพันหัวให้กองหลังชาวดัตช์ เป็นอย่างนี้ 2รอบ
จนท้ายที่สุดแล้ว ความไม่ละเลียดของทีมแพทย์ก็ทำให้ปีศาจแดงต้องเล่น10คนช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีสุดท้าย 45นาทีแรก เดอ ลิกต์ ที่เลือดศรีษะไหลไม่หยุด จนกรรมการต้องเรียกไปห้ามเลือดข้างสนาม เบรนท์ฟอร์ด อาศัยความได้เปรียบช่วงที่เจ้าบ้านเหลือ10คน โขกประตูจากลูกเตะมุมเข้าไป
เป็นความผิดพลาดที่หมูหกมากๆ ทั้งทีมแพทย์ สต๊าฟทีมงาน รวมไปจนถึงผู้จัดการทีมด้วยที่ไม่ประเมินสถานการณ์ตรงหน้า ซึ่งลูกเตะมุมเป็นเหมือนอีกจุดสลบของปีศาจแดงอยู่แล้ว เพราะแทบทุกเกมคู่แข่งจะได้มีโอกาสโขกจังๆเสมอ
ซึ่งประตูที่ อีธาน พินน็อค โขกได้ ตัวประกบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ที่เหม่ออีกแล้ว ปล่อยให้คู่แข่งสลัดตัวไปดื้อๆ แต่ก็ต้องชื่นชมทีมของ โธมัส แฟร้งค์ ด้วยที่ซ้อมลูกนี้มาเป็นอย่างดี ดึง ฮอยลุนด์ ที่วิ่งตามตัวประกบอิกราย มาขวางทาง ดาโล่ต์ โดยจุดเริ่มต้นก่อนจะมาเสียเตะมุมก็เป้น " ดารั่ว " ที่แหละที่ทุ่มเสียดื้อๆ
วันที่ การ์นาโช่ ปั่นป่วนได้
เริ่มฤดูกาลใหม่ 2024-2025 ด้วยการเป็นตัวสำรองของ อาหมัด ดิยาโล่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งการลงมาเป็นทีเด็ดตัวสำรอง อเลฮานโดร การ์นาโช่ เจ้าตัวก็ทำผลงานได้ตลอดเลย แต่ทว่าพอได้รับโอกาสสตาร์ทเป็น11ตัวจริง ดาวรุ่งชาวอาร์เจนติน่ารายนี้ กลับทำตัวน่าผิดหวังซะงั้น
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอ่อนชั้นของแบ็กขวาคนใหม่อย่าง เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก เปล่าเลยทำให้ การ์นาโช่ สะดวกโยธินเหลือเกิน ทั้งในเรื่องของการกระชากลากเลื้อย ใช้ความเร็วโจมตีในลูกสวนกลับ เป็นแข้งที่ได้ลุ้นตลอดเวลามีบอลสำหรับ การ์นาโช่
การ์นาโช่ ซัดประตูตีเสมอเร็วภายในเวลาไม่ถึง2นาทีของ 45นาทีหลังซึ่งลูกยิงดังกล่าวนั้นจัดว่ายากพอสมควร แต่ทว่าเจ้าตัวไม่ต้องจับบอล ซัดย้อนศรเข้าไปอย่างสวยงาม แต่ก็ต้องตำหนิ ดาวรุ่งเลือดฟ้า-ขาว รายนี้ด้วยที่จบสกอร์ไม่คมเลย กับโอกาสตั้ง8ครั้ง
ดาวรุ่งผู้มี โรนัลโด้เป็นไอดอล ตลอดทั้งเกมสัมผัสบอลในเขตโทษเบรนท์ฟอร์ด มากถึง10ครั้ง - เอาชนะการครองบอล 8ครั้ง และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 5หน พร้อมวางบอลยาว 3ครั้งด้วยกัน
แต่ทว่าอย่างไรก็ตามรูปแบบการเล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นน่ากังวลไม่น้อยในเกมรุก เพราะพวกเขาเน้นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นริมเส้น มากกว่าจะมีการประสานงานกันจนเป็นจังหวะจบเหน่งๆ เพราะถ้าหากวันไหน ปีกสองข้างเลี้ยงติด ยิงไม่ดี เกมบุกของพวกเขาก็จะเป็นอัมพาตทันที
ฮอยลุนด์ ชัดเจนว่าดีกว่า เซิร์กซี่ ( ณ ตอนนี้)
หลังหายจากอาการบาดเจ็บ และตัวจริงที่ได้ลงเล่นเป็นกองหน้าก่อนหน้านั้นอย่าง โจซัว เซิร์กเซ่ ฟอร์มไม่ดี นั่นทำให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ค่อยๆได้รับโอกาสกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง นั่นทำให้เกมเมื่อคืนกับ เบรนท์ฟอร์ด ฮอยลุนด์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพียงแค่นัดที่3เท่านั้น
โดย20นาทีแรกเมื่อคืน ด้วยรูปเกมที่ปีศาจแดงเป็นรอง ทำให้ ฮอยลุนด์ ไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย เพราะบอลที่โยนยาวมา หวังให้ ศูนย์หน้าชาวเดนมาร์กพักบอล พิงบอล โดนแนวรับทีมเยือนรุมกินโต๊ะหมด
ก่อนที่จะมาคลี่คลายได้ หลังผ่านนาทีที่ 20เป็นต้นมา ฮอยลุนด์ ทำได้ดีมากๆในเรื่องของการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม บังบอล พักบอล แล้วป้ายต่อให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ ดึงตัวประกบจากแนวรับเบรนท์ฟอร์ด
และก็มาถึงประตูชัย2-1ที่ตัวของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำได้นิ่งเยือกเย็นมากๆทั้งที่ตลอด74นาทีที่อยู่ในสนามมีโอกาสเพียง2ครั้ง เมื่อรับบอลดีดเหนือๆมาจาก บรูโน่ หลุดเข้าไปกระดกบอลผ่านมือ มาร์ค เฟล็คเค่น เข้าไปอย่างหมดจด
ซึ่งหลัง ฮอยลุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวออกไปพักเป็น โจชัว เซิร์กซี ที่ลงมา ทำให้เห็นความแตกต่างเลย ดาวยิงหัวฟูชาวดัตช์กำลังอยู่ในช่วงที่ขาดความมั่นใจอย่างมากๆ ขนาดจับบอลจังหวะที่จะหลุดเดี่ยวยังทำบอลลั่นดื้อๆ
ทั้งที่ปรกติอดีตกองหน้าโบโลญญ่ารายนี้ เป็นผู้เล่นประเภทจับบอลเฟิร์สทัชดีอยู่แล้ว กลับกลายเป็นว่าเสียความมั่นใจไปเลย และก็มีหลายเกมเหมือนกันที่พอส่ง เซิร์กซี ลงมาเป็นตัวสำรองแทบไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรเลย
ผีก็เล่นเกมบุกได้ แต่ทำไมไม่เล่น / เทน ฮาก ระยะปลอดภัย
จริงๆเป็นปัญหาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ในเรื่องของเกมบุกที่พวกเขา ทำช้านาบๆเนิบๆ ไอเดียการเข้าทำไม่หลากหลาย มิหนำซ้ำพวกเขายิงชอบถ่ายบอลกันไปมา หรือส่งคืนหลังอีกด้วย 20นาทีแรก นี่ต้องบอกเลยว่าคือปีศาจแดงที่เราๆคุ้นชินกันนั่นก็คือเกมรุกไม่ดุดัน
นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่3นัดเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พวกเขาจะพึ่งยิงได้แค่1ประตูเท่านั้น แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม หลังเสียประตู1-0 ในช่วงทดเจ็บ 45นาทีแรก กลับกลายเป็นว่าครึ่งหลังพวกเขากลับลงสนามมาด้วยความฮึกเหิมสุดๆ จนไม่ถึง2นาที ก็มาได้ประตูตีเสมอ และพลิกแซงในที่สุด
ไม่รู้ว่าด้วยความอ่อนชั้นของเบรนท์ฟอร์ด และการที่ไม่ยอมแก้เกมของ โธมัส แฟร้งค์ ด้วยรึเปล่า จึงทำให้เกมรุกของปีศาจแดงมีความน่ากลัวกว่า45นาทีแรกขึ้นมาก แต่ ยูไนเต็ด ก็ยังมีปัญหาเดิมๆนั่นก็คือการจบไม่คม มิเช่นนั้นสกอร์ 3-1 หรือ 4-1 อาจมาให้เห็น
โอเคว่า45นาทีหลัง เกมรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดุดันขึ้นจริงๆ แต่ก็ต้องมาคอยดูว่าในนัดต่อๆไปพวกเขา จะทำแบบนี้รักษามาตรฐานได้หรือไม่ และต้องไม่ลืมว่า ซีซั่นนี้ ทีมของ เอริก เทน ฮาก ยังไม่เคยเอาชนะ2นัดติดเลยในลีก
โปรแกรมนัดต่อไปของพวกเขานั่นก็คือบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เปลี่ยนกุนซือมาเป็น จูเลน โลเปเตกี แล้วเละมากๆ เพราะเปลี่ยนแนวทางการเล่นด้วย ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ปีศาจแดงควรจะไปควัก3แต้มออกมาช่วงที่ ขุนค้อน กำลังเป๋ให้ได้
เอ็มเบอโม่ หายตัว / แฟร้งค์ ไม่แก้เกมอะไร
ก่อนหน้าที่จะมาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลพรรคผึ้งน้อยผีสถิติที่น่าสนใจนั่นก็คือ พวกเขายิงประตูคู่แข่งใน น.1 มาแล้ว3นัดติด และล่าสุดที่เอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส 5-3 สถิติของพวกเขาเลทมาหน่อย เป็น น.2
เบรนท์ฟอร์ด ที่เริ่มเปลี่ยนมาในระบบ หลัง4 ( 4-2-3-1) จากที่แต่ก่อน เล่นระบบหลัง3 เริ่มเกมมาช่วง20นาทีแรก เป็นผู้มาเยือนที่เหนือกว่ามากๆ ครองเกม ขึงบอลเข้าใส่ทีมเจ้าบ้าน น่าเสียดายที่โอกาสช่วงแรกของพวกเขาไม่มีเข้ากรอบเลย
แม้ว่ารูปเกมหลังจากช่วง20นาทีแรกจะเป็นรอง แต่ทว่าเบรนท์ฟอร์ด ก็มาอาศัยลูกเก่ง (เตะมุม) เป็น อีธาน พินน็อค โขกเข้าไป และเป็นการทำประตู2นัดติดในพรีเมียร์ลีก ของแนวรับเจ้าของส่วนสูง 194 ซม. รายนี้
ครึ่งหลัง " เดอะ บีส์ " เป็นฝ่ายโดนกดอยู่ฝั่งเดียว พยายามจะสวน แต่บอลข้ามแดนมาได้เพียงนิดเดียว โดนแนวรับปีศาจแดงที่ดันสูง มาชิงแย่งเล่นบอลได้ตลอด ซึ่งกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ ไม่ได้แก้เกมเปลี่ยนวิธีการเล่นอะไรเลย ทำเพียงแค่เปลี่ยนตัวตามตำแหน่งเท่านั้น
ส่วนแนวรุกตัวความหวังอย่าง ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ที่ซัดไปแล้วถึง6เม็ด เป็นเกมที่เจ้าตัวไร้บทบาทอย่างสิ้นเชิง เพราะโดนแนวรับปีศาจแดงอย่าง เดอ ลิกต์ และ อีแวนส์ เก็บกินหมด แถม เอ็มเบอโม่ ยังถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวเกินไปด้วย
ตลอด90นาที ที่ได้อยู่ในสนามแข้งชาวแคเมอรูน มีโอกาสยิงเพียง1ครั้ง ผ่านบอลเพียง28หน แต่ทว่าก็ยังเลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นทีมเจ้าบ้านมากถึง48ครั้ง อีกคนที่น่าผิดหวังสุดๆในแนวรุกนั่นก็คือ คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์ ที่สุดท้ายถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ น.66 ให้ โยอัน วิสซ่า ลงมาบู๊แทน
- คอลัมน์นิสต์
- พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบรนท์ฟอร์ด คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล เอริก เทน ฮาก อเลฮานโดร การ์นาโช่ ราสมุส ฮอยลุนด์
- 129
- 20 ต.ค. 2567 13:41