แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (5) vs ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบียน (7)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (5) vs ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบียน (7)

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568
คิกออฟ เวลา 22.00 น.
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : แมนฯ ซิตี้ ต่อ 0.5/1

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนฯ ซิตี้ ยังต้องรับมือโดยขาด โรดรี (เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า), นาธาน อเก้ (เท้า), มานูเอล อาคานจิ (กล้ามเนื้อต้นขา), จอห์น สโตนส์ (ต้นขา) ขณะที่ยังต้องรอดูว่า ออสการ์ บ็อบบ์ (ข้อเท้า/ความฟิต) จะกลับมาลงเล่นในทีมชุดใหญ่ได้เมื่อใด คาดว่า อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, รูเบน ดิอาส และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล จะยังคงรักษาตำแหน่งในแนวรับเอาไว้ได้ โดยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะพิจารณาว่าจะเรียก ริโก้ ลูอิส กลับมาเล่นแบ็คขวาหรือจะคยึด มาเธอุส นูเนส ต่อไป ขณะที่ในแดนรุก ฟิล โฟเด้น เป็นผู้เล่นที่ชื่นชอบในการยิง ไบรท์ตัน มากกว่าคนอื่น (8 ประตู) และมากกว่าทีมอื่นๆ ในอาชีพค้าแข้งของเขา แต่เพลย์เมคเกอร์ที่ฟอร์มตกรายนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ในรายชื่อตัวจริง โดยอาจเป็น โอมาร์ มาร์มุช หรือ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งรายหลัง มีส่วนร่วมกับ 5 ประตู (2 ประตู 3 แอสซิสต์) ใน 4 เกมเหย้ากับ "เดอะ ซีกัลส์"

ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบียน
ไบรท์ตัน จะไม่มี เฟอร์ดี คาดิโอกลู (นิ้วเท้า), อิกอร์ ฮูลิโอ (ต้นขา), เจมส์ มิลเนอร์ (กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง) และ เจสัน สตีล (ไหล่) ต่างยังคงต้องพักรักษาตัว ขณะที่กัปตันทีม ลูอิส ดังก์ (ซี่โครง), โจเอล เฟลท์มัน (หัวเข่า) และ แมตต์ โอไรลีย์ (หัวเข่า) ใกล้จะกลับมาลงสนามได้ และจะต้องเข้ารับการประเมินอาการก่อนเริ่มเกม อย่างไรก็ตาม ทาริก แลมพ์ตีย์ พร้อมลงสนามได้ หลังจากโดนแบน 1 นัดเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และมีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งจะทำให้ แจ็ค ฮินเชลวู้ด สามารถขยับขึ้นมาเล่นในตำแหน่งกองกลางเพื่อจับคู่กับ คาร์ลอส บาเลบา หรือ ยาซิน อายารี ส่วนในแดนรุกยังต้องรอดูกันว่า แดนนี่ เวลเบ็ค ซึ่งไม่เคยยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้เลยจากการเจอกับ แมนฯ ซิตี้ 20 ครั้ง จะเรียกตัวกลับเข้าเกมในแนวรุกหรือไม่ แต่ ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ อาจตัดสินใจให้ จอร์จินโญ่ รุตแทร์ ลงเล่นแทน ชูเอา เปโดร ซึ่งยิงประตูได้ในสามนัดหลังสุดในลีก

ผลงาน 6 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้ (WLLWWL)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-0 (ห)
แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 (ย) (ยูซีแอล)
แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (ห)
ชนะ สเปอร์ส 1-0 (ย)
ชนะ พลีมัธ 3-1 (ห) (เอฟเอคัพ)
แพ้ ฟอเรสต์ 0-1 (ย)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ไบรท์ตัน (WWWWWW)
ชนะ เชลซี 2-1 (ห) (เอฟเอคัพ)
ชนะ เชลซี 3-0 (ห)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-0 (ย)
ชนะ บอร์นมัธ 2-1 (ห)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 (E) (ย) (เอฟเอคัพ)
ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (ห)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
10/11/24    (PRL) Brighton 2 - 1 Man.City
26/04/24    (PRL) Brighton 0 - 4 Man.City
21/10/23    (PRL) Man.City 2 - 1 Brighton
25/05/23    (PRL) Brighton 1 - 1 Man.City
22/10/22    (PRL) Man.City 3 - 1 Brighton
21/04/22    (PRL) Man.City 3 - 0 Brighton
23/10/21    (PRL) Brighton 1 - 4 Man.City

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1)
: เอแดร์ซอน - ริโก้ ลูอิส, อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล - อิลคาย กุนโดกัน, นิโก้ กอนซาเลซ - ซาวินโญ่, โอมาร์ มาร์มูช, เฌเรมี โดกู - เออร์ลิง ฮาแลนด์

ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : บาร์ท แฟร์บรู๊กเกน - ทาริก แลมพ์ตีย์, ยาน ปอล ฟาน เฮคเก้, อดัม เว็บสเตอร์, แปร์วิส เอสตูปิยาน - คาร์ลอส บาเลบา, แจ็ค ฮินเชลวู้ด - ยานคูบา มินเทห์, จอร์จินโญ่ รุตแทร์, คาโอรุ มิโตมะ - ชูเอา เปโดร

ผู้ตัดสิน : ไซม่อน ฮูเปอร์

แนวโน้มของเกม
คาดว่าเกมนี้จะมีประตูเกิดขึ้น ขณะที่ ไบรท์ตัน ยิงประตูได้ 26 นัดจาก 29 นัดหลังสุดในทุกรายการ โดยยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูจาก 4 นัดหลังสุดในลีก ส่วน แมนฯ ซิตี้ ยิงประตูได้ 15 นัดในพรีเมียร์ลีกกับ "เดอะ ซีกัลส์" แต่เก็บคลีนชีตได้เพียง 6 นัดจาก 30 นัดหลังสุดในฤดูกาลนี้

เมื่อพิจารณาจากฟอร์มที่น่าประทับใจและฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอของ แมนฯ ซิตี้ แล้ว ไบรท์ตันน่าจะมองว่าเกมนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขาในการคว้าชัยชนะนอกบ้านเหนือ "เดอะ ซิตี้ เซนส์" เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าเจ้าบ้านอาจใช้ประโยชน์จากแนวรับที่ดันสูงของ ไบรท์ตัน และจะหาทางเอาชนะได้ในที่สุด

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบียน

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง