เลสเตอร์ ซิตี้ (19) vs ลิเวอร์พูล (1)

แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2568
คิกออฟ เวลา 22.30 น.
สนาม : คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 2

เลสเตอร์ ซิตี้
รุด ฟาน นิสเตลรอย นายใหญ่ของ เลสเตอร์ เตรียมรับผู้เล่นใหม่เพิ่มในสุดสัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่า เวาต์ ฟาส และ เจเรมี มองก้า ซึ่งเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีกตลอดกาล จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง หลังจากมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ทำให้พวกเขาต้องพักรักษาตัวในสุดสัปดาห์ที่แล้ว เช่นเดียวกับ วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น (ปัญหาส่วนตัว) และ ฟาคุนโด้ บัวนาน็อตเต้ ซึ่งไม่สามารถลงเผชิญหน้ากับ ไบรท์ตัน สโมสรต้นสังกัดได้ในเกมที่แล้ว จะกลับมาลงสนามได้เช่นเดียวกัน แต่ แฮร์รี วิงค์ส (วินัย) และ อับดุล ฟาตาวู (หัวเข่า) ยังคงไม่อยู่ในเกม โดยการกลับมาของ ฟาส เปิดโอกาสให้ เลสเตอร์ อาจเปลี่ยนมาใช้แนวรับ 5 คน แต่ ฟาน นิสเตลรอย น่าจะตอบแทนผู้เล่นตัวจริงที่ต่อสู้ด้วยความกล้าหาญจากเกมที่แล้วได้ โดยที่ เจมี่ วาร์ดี้ กัปตันทีมวัย 38 ปี ยังคงเป็นผู้นำในแดนหน้าต่อไป

ลิเวอร์พูล
แม้ว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะไม่ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่เหมือนกับ โม ซาลาห์ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แต่ ลิเวอร์พูล ก็ได้รับข่าวดีเกี่ยวกับแบ็คขวารายนี้ ซึ่งอาจกลับมานั่งสำรองในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากต้องพักรักษาตัวไป 1 เดือนจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เช่นเดียวกับ ดาร์วิน นูนเญซ ก็น่าจะหายจากอาการป่วยที่ทำให้พลาดลงสนามในเกมพบกับ เวสต์แฮม และการกลับมาลงสนามของพวกเขาจะทำให้ทีมเยือนขาดผู้เล่นไปเพียง 2 คน เนื่องจาก โจ โกเมซ (กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง) และ ไทเลอร์ มอร์ตัน (ไหล่) ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยในรายของ ซาลาห์ ซึ่งตอนนี้มีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดใน 38 เกมของฤดูกาลพรีเมียร์ลีก เหลืออีกเพียง 3 ประตู/แอสซิสต์เท่านั้น ก็จะทำลายสถิติการแข่งขันตลอดกาลใหม่ และอาจสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทีมในสุดสัปดาห์นี้ โดยเขาอาจกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตูใน 6 เกมที่พบกับทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา

ผลงาน 6 นัดหลังของ เลสเตอร์ ซิตี้ (LLLLLD)
แพ้ เวสต์แฮม 0-2 (ย)
แพ้ เชลซี 0-1 (ย)
แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-3 (ห)
แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2 (ย)
แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-3 (ห)
เสมอ ไบรท์ตัน 2-2 (ย)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (WLLWLW)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 (ห)
แพ้ เปแอสเช 1-4 (P) (ห) (ยูซีแอล)
แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-2 (ก) (ลีกคัพ)
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (ห)
แพ้ ฟูแล่ม 2-3 (ย)
ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (ห)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
27/12/24    (PRL) Liverpool 3 - 1 Leicester City
28/09/23    (LEC) Liverpool 3 - 1 Leicester City
30/07/23    (CLF) Liverpool 4 - 0 Leicester City
16/05/23    (PRL) Leicester City 0 - 3 Liverpool
31/12/22    (PRL) Liverpool 2 - 1 Leicester City
11/02/22    (PRL) Liverpool 2 - 0 Leicester City
29/12/21    (PRL) Leicester City 1 - 0 Liverpool

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : มัดส์ เฮอร์มานเซ่น - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, คาเล็บ โอโคลี, คอเนอร์ คัวดี, เจมส์ จัสติน - วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบาการี ซูมาเร่ - เคซีย์ แม็คเอธี, บิลัล เอล คานนูสส์, สเตฟี มาวิดิดี - เจมี่ วาร์ดี้

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิม่า โคนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ - โคดี กักโป

ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์

แนวโน้มของเกม
ลิเวอร์พูล เสียโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามหลายครั้งในช่วงหลัง และ เลสเตอร์ ก็ทำลายสถิติการทำประตูแบบหวุดหวิดในบ้านได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" น่าจะรับมือได้หนักขึ้น 3 หรือ 4 เท่าเพื่อลงโทษเจ้าบ้านให้ต้องตกชั้นไปอยู่ในลีกระดับแชมเปียนชิพ แม้ว่าการฉลองแชมป์ของพวกเขาจะต้องรออีกสักหน่อยก็ตาม

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
เลสเตอร์ ซิตี้ 1-4 ลิเวอร์พูล