ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (PRL-11) vs ลิเวอร์พูล (PRL-1)

วันพุธที่ 8 มกราคม 2568
คิกออฟ เวลา 03.00 น.
สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 1

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ไม่สามารถมองข้ามวิกฤติที่ อันเก้ ปอสเตโคกลู เฮดโค้ชของ สเปอร์ส ต้องเผชิญในแง่ของการบาดเจ็บและอาการป่วย และเขาอาจจะไม่มีผู้เล่นเกมรับเกือบทั้งหมดสำหรับเกมนี้ ไล่เรียงจาก เดสตินี่ อูโดกี ร่วมกับ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, คริสเตียน โรเมโร่ และ เบน เดวิส ที่อยู่ข้างสนามด้วยปัญหาแฮมสตริงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ ราดู ดรากูซิน และ อาร์ชี่ เกรย์ ต่างก็ดิ้นรนกับอาการป่วย เช่นเดียวกับ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ นายด่านตัวสำรองก็มีอาการป่วยเช่นกัน เป็นผลให้ แบรนดอน ออสติน ต้องลงแทน กูเยลโม่ วิคาริโอ ในช่วงสุดสัปดาห์ แต่คาดการณ์ว่านายทวารที่เซ็นสัญญาใหม่ถอดด้ามอย่าง อันโตนิน คินสกี ดีกรีทีมชาติสาธารณรัฐเช็กที่มีแนวโน้มเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาหลังบ้านในขณะนี้ นอกจากนี้ทั้ง ริชาร์ลิซอน, ไมกีย์ มัวร์ และ วิลซง โอโดแบร์ ต่างยังต้องพักเนื่องจากอาการบาดเจ็บและอาการป่วยรวมกัน แต่ในตำแหน่งกองกลาง โรดริโก้ เบนทานกูร์ จะกลับมาได้อีกครั้งหลังพ้นโทษแบน

ลิเวอร์พูล
ด้วยความพยายามที่จะขยายสถิติไร้พ่ายนอกบ้านมา 16 เกม อาร์เน่อ สล็อต อาจเชื่อว่าเขาสามารถเติมความแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยมากกว่ารอบที่แล้ว เนื่องจากไม่มีโปรแกรมพรีเมียร์ลีกจนกว่าจะถึงกลางสัปดาห์หน้า โดย โดมินิค โซบอสซ์ไล อาจกลับมาจากอาการป่วยได้ แต่ โจ โกเมซ ยังคงต้องพักรักษาตัว เนื่องจากเป็นเพียงแข้งรายเดียวของ ลิเวอร์พูล ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ในขณะที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทั้งคู่ได้พักตลอดในรายการคาราบาว คัพ และสามารถได้พักอีกครั้ง พร้อมเป็นการเปิดทางให้ จาเรลล์ ควอนซาห์ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ 2 นักเตะดาวรุ่งที่กำลังมองหานาทีอันมีค่าใน 2 ตำแหน่งนั้น เช่นเดียวกับ คอเนอร์ แบรดลีย์ ที่กลับมาจากการต่อสู้จากปัญหาอาการบาดเจ็บนานถึง 2 เดือน มีโอกาสได้เป็นตัวจริงแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ตกเป็นประเด็นพาดหัวข่าวมากมายเกี่ยวกับผลงานที่ย่ำแย่ของเขาในช่วงสุดสัปดาห์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด

ผลงาน 6 นัดหลังของ สเปอร์ส (WWLLDL)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 5-0 (ย)
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 (ห) (ลีกคัพ)
แพ้ ลิเวอร์พูล 3-6 (ห)
แพ้ ฟอเรสต์ 0-1 (ย)
เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-2 (ห)
แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-2 (ห)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (DWWWWD)
เสมอ ฟูแล่ม 2-2 (ห)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 (ย) (ลีกคัพ)
ชนะ สเปอร์ส 6-3 (ย)
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 (ห)
ชนะ เวสต์แฮม 5-0 (ย)
เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 (ห)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
22/12/24    (PRL) Tottenham 3 - 6 Liverpool
05/05/24    (PRL) Liverpool 4 - 2 Tottenham
30/09/23    (PRL) Tottenham 2 - 1 Liverpool
30/04/23    (PRL) Liverpool 4 - 3 Tottenham
06/11/22    (PRL) Tottenham 1 - 2 Liverpool
08/05/22    (PRL) Liverpool 1 - 1 Tottenham
19/12/21    (PRL) Tottenham 2 - 2 Liverpool

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
สเปอร์ส (4-3-3) : อันโตนิน คินสกี - เปโดร ปอร์โร่, ราดู ดรากูซิน, อาร์ชี่ เกรย์, ดีเจด สเปนซ์ - อีฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนทานกูร์, เดยัน คูลูเซฟสกี้ - เบรนแนน จอห์นสัน, โดมินิค โซลันกี้, ซอน เฮือง-มิน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควิวีน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบรดลีย์, จาเรลล์ ควานซาห์, อิบราฮิม่า โคนาเต้, คอสตาส ซิมิกาส - ไทเลอร์ มอร์ตัน, วาตารึ เอ็นโด, โดมินิค โซบอสซ์ไล - ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ดิโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ

ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์

แนวโน้มของเกม
เกมของ สเปอร์ส แทบจะรับประกันจะมีประตูเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และหลังจากเกมระทึกขวัญ 9 ประตูระหว่างทั้ง 2 ทีมเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน และอาจปรากฏขึ้นอีกครั้งสำหรับเกมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมเจ้าบ้านประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมากมายในแนวรับ

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยิงไปแล้ว 10 ประตูจาก 3 เกมในคาราบาว คัพ แม้จะหมุนเวียนผู้เล่นเกือบยกชุด ดังนั้นถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย พวกเขาก็มั่นใจว่าจะนำตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าก่อนที่เกมเลกที่ 2 จะแข่งอีกครั้งในเดือนหน้า

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-4 ลิเวอร์พูล