บอร์นมัธ (PRL-10) vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (PRL-5)

บอร์นมัธ (PRL-10) vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (PRL-5)

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบก่อนรองชนะเลิศ

แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568
คิกออฟ เวลา 22.30 น.
สนาม : ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : แมนฯ ซิตี้ ต่อ 0/0.5

บอร์นมัธ
บอร์นมัธ ของกุนซือ อันโดนี่ อิราโอล่า จะคร่ำครวญถึงการไม่มีนักเตะที่เก่งที่สุด 2 คนของเขา เนื่องจากดูโอแนวรับที่เป็นที่ต้องการอย่าง มิลอส เกอร์เกซ และ ดีน ฮุยเซ่น ทั้งคู่ติดโทษแบนเนื่องจากได้รับใบเหลือง 2 ใบในถ้วยเอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ ดังนั้นคาดว่า ฮูลิโอ โซเลร์ น่าจะเข้ามาแทนที่ เกอร์เกซ ในตำแหน่งแบ็กซ้ายแ เช่นเดียวกับ มาร์กอส เซเนซี อาจพร้อมเข้ามาเสียบแทนตำแหน่งของ ฮุยเซ่น แต่จะไม่ได้ลงเล่นเต็ม 90 นัด จากคำยืนยันของผู้จัดการทีม ดังนั้น เจมส์ ฮิลล์ ที่ฟิตเต็มถังมีแนวโน้มเข้ามาจับคู่กับ อิลย่า ซาบาร์นยี่ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ขณะที่ อดัม สมิธ (น่อง), ฮูเลียน อาเราโฮ่ (ต้นขา), หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า (แฮมสตริง) และ เอเนส อูนาล (เข่า) ยังไม่อยู่ในทีมในขณะนี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ซิตี้ กลับมาจากช่วงทีมชาติด้วยนักเตะที่แทบจะเหมือนกัน โดยทั้ง โรดรี (เอ็นไขว้หน้า), จอห์น สโตนส์ (ต้นขา), นาธาน อาเก้ (เท้า) และ มานูเอล อาคานจิ (สะโพก) ยังคงถูกกีดกัน ในขณะที่ ออสการ์ บ็อบบ์ กลับมาลงสนามให้กับทีมเยาวชนในที่สุด แต่อาจจะยังไม่เสี่ยงในการลงเล่นในทีมชุดใหญ่ อย่างน้อย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็สามารถแจ้งข่าวดีได้ในงานแถลงข่าวก่อนเกม เนื่องจาก เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูตัวเลือกอันดับหนึ่งพร้อมที่จะลงเฝ้าเสาภายหลังจากปัญหาเกี่ยวกับช่องท้อง และการที่ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล บาดเจ็บมาจากการรับใช้ทีมชาติโครเอเชียดูเหมือนจะไม่ร้ายแรง มีโอกาสลงเล่นแบ็คซ้าย ในขณะที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ซัดไปแล้ว 100 ประตูในพรีเมียร์ลีกระหว่างเกมเสมอกับ ไบรท์ตัน โดยสถิติดังกล่าวเกิดจากการลงสนามเพียง 94 นัด

ผลงาน 6 นัดหลังของ บอร์นมัธ (WLLWDL)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 (ย)
แพ้ วูล์ฟส์ 0-1 (ห)
แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 (ย)
ชนะ วูล์ฟส์ 5-4 (P) (ห) (เอฟเอคัพ)
เสมอ สเปอร์ส 2-2 (ย)
แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 (ห)

ผลงาน 6 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้ (LLWWLD)
แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 (ย) (ยูซีแอล)
แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (ห)
ชนะ สเปอร์ส 1-0 (ย)
ชนะ พลีมัธ 3-1 (ห) (เอฟเอคัพ)
แพ้ ฟอเรสต์ 0-1 (ย)
เสมอ ไบรท์ตัน 2-2 (ห)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
02/11/24    (PRL) Bournemouth 2 - 1 Manchester City
25/02/24    (PRL) Bournemouth 0 - 1 Manchester City
04/11/23    (PRL) Manchester City 6 - 1 Bournemouth
26/02/23    (PRL) Bournemouth 1 - 4 Manchester City
13/08/22    (PRL) Manchester City 4 - 0 Bournemouth
25/09/20    (LEC) Manchester City 2 - 1 Bournemouth
16/07/20    (PRL) Manchester City 2 - 1 Bournemouth

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
บอร์นมัธ (4-2-3-1)
: เกปา อาร์ริซาบาลาก้า - ลูอิส คุ้ก, เจมส์ ฮิลล์, ดีน ฮุยเซ่น, ฮูลิโอ โซเลร์ - ไทเลอร์ อดัมส์, ไรอัน คริสตี้ - อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ - เอวานิลซอน

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน - ริโก้ ลูอิส, อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล - อิลคาย กุนโดกัน, นิโก้ กอนซาเลซ - ซาวินโญ่, โอมาร์ มาร์มูช, เฌเรมี โดกู - เออร์ลิง ฮาแลนด์

ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์

แนวโน้มของเกม
เกมรุกอาจเป็นรูปแบบการป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ อันโดนี่ อิราโอล่า ในเกมวันอาทิตย์นี้ เนื่องจากผู้จัดการทั้ง 2 คนกำลังเผชิญกับกองหลังที่ถูกทำลายล้าง แต่ต่างมีแข้งมากพรสวรรค์ที่น่าอิจฉาในพื้นที่สุดท้ายที่พร้อมจะสร้างความเสียหาย

ในขณะที่ "เดอะ เชอร์รีส์" ที่มีความคิดก้าวหน้าควรถอยตัวเองเพื่อต้านทานเกมรุกของผู้มาเยือนมากกว่า 1 ครั้ง และการหายไปของ ดีน ฮุยเซ่น และ มิลอส เกอร์เกซ อาจพิสูจน์ได้ว่ายากเกินไปที่จะเอาชนะ และในที่สุด ซิตี้ ก็จะได้รับการโหวตให้เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ครั้งที่ 7 ในรอบหลายฤดูกาล

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
บอร์นมัธ 2-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง