คริสตัล พาเลซ (PRL-12) vs แอสตัน วิลล่า (PRL-7)

แข่งขันวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568
คิกออฟ เวลา 23.15 น.
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม - สนามกลาง

อัตราต่อรอง : แอสตัน วิลล่า ต่อ 0/0.5

คริสตัล พาเลซ
หนึ่งสัปดาห์หลังจากใบแดงอันน่ากังขาของ คริส ริชาร์ดส์ ในเกมเสมอกับ บอร์นมัธ ทำให้เขากลับมาลงสนามอีกครั้งหลังจากถูกแบน เป็นผลให้เหลือเพียง ชาดี รีอัด (หัวเข่า) และ ชีค ดูกูเร่ (หัวเข่า) เท่านั้นที่ยังต้องพักรักษาตัว ส่วน เบน ชิลเวลล์ มีอาการป่วยและไม่น่าจะสนามไม่ได้ ดังนั้น ริชาร์ดส์ จะกลายเป็นกำลังหลักของแนวรับของ พาเลซ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะกลับเข้ามาอยู่ในทีมทันที โดยอาจเป็นการสลับตัวกับ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา โดยตรง หาก โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เลือก วิลล์ ฮิวจ์ส ลงเล่นร่วมกับ อดัม วอร์ตัน ในแดนกลาง ขณะที่การเลือก จัสติน เดเวนนี่ และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ลงตัวจริงที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แสดงให้เห็นว่า กลาสเนอร์ ให้ความสำคัญกับอะไร และบอสของ "ดิ อีเกิลส์" จะต้องส่ง ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า และ อิสไมล่า ซาร์ กลับมาร่วมทีมกับ เอเบเรชี เอเซ่ อย่างแน่นอน

แอสตัน วิลล่า
แอสตัน วิลล่า รายงานว่าทีมปลอดภัยดีสำหรับเกมรอบรองชนะเลิศ โดยที่ผู้เล่นคนเดียวที่ขาดไปคือ อักเซล ดิซาซี่ ซึ่งการที่ขาดเขาไปนั้นจะไม่มีผลกระทบสำคัญต่อแผนการของ อูไน เอเมรี ผู้จัดการทีม โดยเขาตัดสินใจดร็อป โอลลี วัตกินส์ ออกจากทีมชุดแรกในเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ทันทีหลังจากที่นักเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้กลับมาลงเล่นอีกครั้งด้วยการยิงประตูแรกในวินาทีที่ 33 ในเกมที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งทำให้เขาทำประตูได้เท่ากับ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (87 ประตู) ในลิสต์ดาวซัลโวของทีม อย่างไรก็ตาม วัตกินส์ จะถูกเลือกให้เป็นหัวหอกในเกมที่สนามเวมบลีย์ ครั้งนี้ ขณะที่ จอห์น แม็คกินน์ กัปตันผู้มีอิทธิพลของทีมก็จะถูกเรียกตัวกลับมาด้วยเช่นกัน โดยนักเตะทีมชาติสกอตแลนด์รายนี้เป็นหนึ่งใน 3 ผู้เล่นที่เหลือมาจากเกมที่ วิลล่า ลงเล่นที่สนามเวมบลีย์ ในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนชิพปี 2019 ร่วมกับ ไทโรน มิงส์ และ คอร์ตนีย์ เฮาส์ ที่ถูกมองข้าม

ผลงาน 6 นัดหลังของ คริสตัล พาเลซ (DWLLDD)
เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (ย)
ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (ห)
แพ้ แมนฯ ซิตี้ 2-5 (ย)
แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-5 (ย)
เสมอ บอร์นมัธ 0-0 (ห)
เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (ย)

ผลงาน 6 นัดหลังของ แอสตัน วิลล่า (WLWWWL)
ชนะ ฟอเรสต์ 2-1 (ห)
แพ้ เปแอสเช 1-3 (ย) (ยูซีแอล)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 (ย)
ชนะ เปแอสเช 3-2 (ห) (ยูซีแอล)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-1 (ห)
แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2 (ย)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
26/02/25    (PRL) Crystal Palace 4 - 1 Aston Villa
23/11/24    (PRL) Aston Villa 2 - 2 Crystal Palace
31/10/24    (LEC) Aston Villa 1 - 2 Crystal Palace
19/05/24    (PRL) Crystal Palace 5 - 0 Aston Villa
16/09/23    (PRL) Aston Villa 3 - 1 Crystal Palace
04/03/23    (PRL) Aston Villa 1 - 0 Crystal Palace
20/08/22    (PRL) Crystal Palace 3 - 1 Aston Villa

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน - คริส ริชาร์ดส์, มักซ์แซงซ์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกฮี - ดาเนียล มูนญอซ, วิลล์ ฮิวจ์ส, อดัม วอร์ตัน, ไทริค มิตเชลล์ - อิสไมล่า ซาร์, เอเบเรชี เอเซ่ - ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า

แอสตัน วิลล่า (4-2-3-1) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ - แมตตี้ แคช, เอซรี คอนซ่า, เปา ตอร์เรส, ลูกาส์ ดีญ - ยูริ ตีเลม็องส์, บูบาการ์ กามาร่า - มอร์แกน โรเจอร์ส, จอห์น แม็คกินน์, มาร์คัส แรชฟอร์ด - โอลลี วัตกินส์

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล ซาลิสบิวรี

แนวโน้มของเกม
ความจริงที่ว่า แอสตัน วิลล่า ไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลยใน 4 เกมหลังสุดที่พบกับ คริสตัลพาเลซ โดยเสียประตูไปถึง 13 ลูก ทำให้เกมรอบรองชนะเลิศวันเสาร์นี้ ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น เพราะลูกทีมของ อูไน เอเมรี จะเอาชนะในศึกนี้ได้ตามที่เขียนเอาไว้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด ยังเชื่อมั่นในทีม "สิงห์ผงาด" ว่าจะเอาชนะในศึกนี้ได้ ด้วยการได้พักมากกว่า 1 วัน ด้วยทีมที่ฟิตสมบูรณ์ และ โอลลี วัตกินส์ ที่ฟอร์มร้อนแรง ทำให้เชื่อว่าทีมของ เอเมรี น่าจะผ่านเข้าชิงชนะเลิศอีกครั้ง ขณะที่การรอคอยอันแสนเจ็บปวดของ พาเลซ เพื่อคว้าถ้วยรางวัล เอฟเอ คัพ ยังคงดำเนินต่อไป

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
คริสตัล พาเลซ 1-2 แอสตัน วิลล่า