คูซานอฟ เดบิวต์แจก ! เรือ สยบ สิงห์ รัวแซง 3-1 ฮาลันด์ คืนฟอร์ม ยิง+จ่าย
แม้ว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์จะพลาดเยอะไปหน่อย กับการนำ เปแอชเช 2-0 แต่ที่สุดกลับมาแพ้ 2-4 แต่ทว่าในเกมพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังเรียกโมเมนตัมของตัวเอง กลับมาได้ และคว้าชัยเก็บ3แต้มได้ ซึ่งเป็นเกมใหญ่กับเซลซี โดยถึงแม้เรือใบจะเปิดหัวมาโดนนำเร็ว แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็มารวมใจกันแซงเอาชนะผู้มาเยือนจากลอนดอนไปได้ 3-1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สะดุดไปนาน กำลังไล่ล่าทำแต้ม เพื่อติดอันดับท็อปโฟร์ เมื่อไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยสัปดาห์นี้พวกเขาต้องมาเจอคู่แข่งโดยตรงอย่างเซลซี การจัดทัพ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะการให้โอกาส2แข้งหน้าใหม่ป้ายแดง
ระบบ 4-2-3-1 โกลกลับมาใช้ เอแดร์ซอน ได้สักพักแล้ว แบ็กขวา มาเตอุส นูเนส ขัดตราทัพ - แบ็กซ้าย ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เซ็นเตอร์ มานูเอล อคานยี่ ยืนกับผู้มาใหม่วัยละอ่อน อับดูโกดีร์ คูซานอฟ มิดฟิลด์ตรงกลาง มัตเตโอ โควาชิซ กับ อิลคาย กุนโดกัน 3ตัวรุก แบร์นาร์โด้ ซิลวา - ฟิล โฟเด้น และแข้งป้ายแดง โอมาร์ มาร์มูซ
ศูนย์หน้าตัวเป้า เออร์ลิง ฮาลันด์ ทางฝั่งของเซลซี ที่สะดุดมาพักใหญ่ๆ ก่อนจะมาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้ 3-1 พลพรรคสิงห์บูลส์ มาในระบบ 4-2-3-1 นายด่านยังไว้ใจ โรเบิร์ต ซานเชซ แผงแบ็กโฟร์ไล่จากขวาไปซ้าย รีซ เจมส์ - เทร์โวห์ ชาโลบาห์ - ลีวาย โควิลล์ และ มาร์ก กูกูเรน่า มิดฟิลด์ มอยเซส ไกเซโด้ ผนึกกำลังกับ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ตัวรุกฝั่งซ้าย เจดอน ซานโช่
ฝั่งขวา โนนี่ มาดูเอเก้ เพลย์เมคเกอร์ โคล พาลเมอร์ และหน้าเป้า นิโคลัส แจ็คสัน สิ้นเสียงเป่านกหวัดของผู้ตัดสิน จอห์น บรูคส์ ไม่ทันไร อับดูโกดีร์ คูซานอฟ กองหลังป้ายแดงของเจ้าบ้านก็มาแจกโชคในเกม เดบิวต์เลย เมื่อเจ้าตัวโหม่งบอลหมายคืนให้ เอแดร์ซอน แต่ไม่ดีมาเข้าทาง แจ็คสัน ที่ดีดให้ มาดูเอเก้ ยิงง่ายๆเข้าไป ทีมเยือนขึ้นนำ1-0 เพียง น.3
เรือใบที่กำลังรวน มาโดนเซลซีสวนขึ้นมาอีก พาลเมอร์ ได้หลุดเดี่ยวก่อนจ่ายให้ แจ็คสัน แต่ทว่าเจ้าตัวไม่ยอมยิง ย้อนกลับมาให้ ซานโช่ ดีที่ คูซานอฟ มาบล็อกไว้ทัน อย่างไรก็ดี แมนฯ ซิตี้ ก็มาตั้งเกมได้และได้ลุ้นยิงรัวๆจากทั้ง โฟเด้น ที่ชนเสา มาร์มูซ ที่ชาร์จ่อๆแต่ไม่โดน และแข้งชาวอียิปต์รายนี้ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้กับโอกาสอีกรอบ แต่ล้ำหน้าไปก่อน
แต่ทว่าท้ายครึ่งแรก ซิตี้ ก็มาตีเสมอได้จาก การเติมสูงของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล น.42 ตีเสมอ 1-1และจบ45นาทีแรก ด้วยสกอร์ดังกล่าว ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่ถึง10นาที เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ถอด คูซานอฟ ออกเลย ให้ จอห์น สโตนส์ มาบู๊แทน น.54
และแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ดีขึ้นเรื่อยๆในครึ่งหลัง ก็มาแซงนำจนได้ จากบอลวางยาวของ เอแดร์ซอน มาถึง ฮาลันด์ ที่บังบอลพักบอลได้ พลิกหนี ชาโลบาห์ แล้วตัดสินใจยิงเร็วข้ามหัว โรเบิร์ต ซานเชซ ที่ทะเล่อทะล่า ออกมาไกล เข้าประตูไปแบบง่ายๆ แซงนำ 2-1
หลังจากโดนแซงขึ้นนำ กุนซือเซลซี เอ็นโซ่ มาเรสก้า ก็ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นแต่อย่างใด ทำให้กลายเป็นเจ้าบ้านที่จะมีลุ้นได้ลูกที่3มากกว่าอีก และเรือใบสีฟ้าก็มาได้ประตูตอกฝาโรงจนได้ เพราะหลังเซลซีดันสูง
ฮาลันด์ ที่บังบอล เก็บบอลได้ตรงกลางสนาม แล้วป้ายให้ โฟเด้น ได้หลุดเดี่ยวโล่งๆ ไปเลือกมุมยิงแบบไม่ยากเย็นนัก ฉีกหนี 3-1 น.87 และจบ90นาทีไปด้วยสกอร์ดังกล่าว 3แต้ม ส่งผลให้ ซิตี้ กลับมาอยู่ที่อันดับ4ของตาราง ส่วนเซลซี ที่เคยเกือบได้ลุ้นแชมป์ห่างๆกับลิเวอร์พูล หล่นมาอยู่อันดับ6แล้ว เมื่อ6นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก พวกเขาเอาชนะได้แค่ 1นัด
น่าเห็นใจ คูซานอฟ เดบิวต์ ด้วยการแจก
พึ่งย้ายจากจาก ล็องส์ ทีมใน ลีก เอิง ด้วยค่าตัวราวๆ 40ล้านยูโร เมื่อวันที่ 20 มกราคม ทีผ่านมา แต่ทว่าภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับเลือกส่ง อับดูโกดีร์ คูซานอฟ ลงสนามเป็นตัวจริงเลย และเป็นเกมใหญ่กับเซลซี ด้วย
ซึ่งปรกติแข้งจากต่างลีก แถมยังป็นดาวรุ่ง น่าจะมีเวลาได้เทสตัวเองก่อน ในบทบาทตัวสำรอง หรือในฟุตบอลถ้วยในประเทศ แต่ทว่า สำหรับ คูซานอฟ มาถึงปุ๊ป ก็ต้องฉีกซองใส่น้ำรับประทานได้เลย หรืออาจจะเนื่องด้วย ผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ของ ซิตี้ เจ็บหมด
แนวรับวัย20ปี ที่เล่นเซ็นเตอร์จับคู่กับ อคานยี่ แถมแบ็กขวายังเป็น นูเนส ที่ไม่ค่อยหุบมาช่วยงานเซ็นเตอร์เท่าไหร่ และเริ่มมาเพียงแค่3นาที ฝันร้ายของในการเดบิวต์ คูซานอฟ ก็มาถึง เมื่อเจ้าตัวพยายามโหม่งบอลคืนหลังให้โกล เอแดร์ซอน แต่เบาหรือโหม่งผิดเหลี่ยมไม่ทราบ กลายเป็นเข้าทาง แจ็คสัน ดีดให้ มาดูเอเก้ สำเร็จโทษไป
โดยหลังจากเสียประตูวัย กองหลังชาวอุซเบกิสถาน ก็ออกอาการรวนเลย ไปออกบอลพลาด จนต้องแก้งานด้วยการไปตัดฟาวล์ พาลเมอร์ จนตัวเองต้องโดนใบเหลือง ห้อยหลังจากที่เสียประตูเพียง1นาที
คูซานอฟ ดูตื่นมากๆกับเวทีพรีเมียร์ลีก เป็นกองหลังที่เหมือนเล่นไม่เข้าพวกเมื่อคืน โดยเฉพาะจังหวะการยืนไลน์เช็กล้ำหน้าต่างๆ มั่วสุดแถมสีหน้ายังไม่ค่อยไม่ใจตลอด เวลาได้บอลหรือโดนบททดสอบ
จริงๆหลังผ่านช่วงวิกฤติ กองหลังวัย20ปี ก็ค่อยๆมีดีขึ้นเรื่อยๆนะ ครึ่งหลังมีจังหวะแย่งบอลจาก แจ็คสัน สวยๆ แต่ทว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ไม่เลือกเสี่ยงปล่อยให้เจ้าตัวอยู่สนามนานๆ และก็ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเพียงแค่ น.54 เท่านั้นให้ สโตนส์ ลงมาแทน เป็นการเดบิวต์ที่ไม่โสภาสำหรับ คูซานอฟ จริงๆ
กวาร์ดิโอล เกมบุกยังไว้ใจได้
ก่อนหน้านี้ในเรี่องของเกมรับ เรียกได้ว่าเป็นบ่อของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลย ในพื้นที่แบ็กซ้ายของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เพราะลูกพรวด โฉ่งฉ่าง แข้งชาวโครเอเชียรายี้ มีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ แต่อาจจะยกเว้นเกมเมื่อคืนกับเซลซีนี้ไป เพราะทั้งรุกและรับ กวาร์ดิโอล ทำได้ดีเยี่ยม
กวาร์ดิโอล เอาอยู่มากๆในการเล่นเกมรับ สำหรับการรับมือกับ มานูเอเก้ สิ่งที่เจ้าตัวทำได้ดีนั่นก็คือ การเข้าบอลเร็ว และพุ่งเข้าไปหาบอล ทำให้ริมเส้นฝั่งขวาของเซลซี เล่นงานไม่ได้เท่าไหร่ กลายเป็นทางฝั่งของ นูเนส ที่เข้าพรวดพราดแทน
แบ็กซายตราหมากรุก เติมเกมได้เมามันมาก มีจังหวะกระชากเลี้ยงผ่านถึง5ครั้ง และเติมสูงขึ้นมาได้ยิงถึง 3หน น่าเสียดายที่ครึ่งแรก จังหวะล็อก มาดูเอเก้ อย่างสวย แต่ยิงปลิ้นออกไปเองแบบน่าผิดหวังสุดๆ
รวมถึงลูกที่เจ้าตัวสอดไปรับบอลจาก โควาซิช หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ทว่าดีดด้วยซ้ายถากเสาไป แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว กวาร์ดิโอล ก็มามีสกอร์ของตัวเองจนได้ เมื่อตามซ้ำจ่อๆลูกสกัดของ มาร์ก กูกูเรย่า เข้าไป
ไม่แปลกใจเลยในสนามจากการประกาศจะให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ประตูที่ทำได้เมื่อคืนที่เม็ดที่5ในพรีเมียร์ลีก ของเจ้าตัวฤดูกาลนี้ กลายเป็นกองหลังที่ยิงได้มากที่สุดในลีก ณ ปัจจุบัน
ซานเชซ เอาอีกแล้ว ถึงเวลาสิงห์เปลี่ยนมือ1สักที
นับครั้งไม่ได้จริงๆว่า นี่คือความผิดพลาดครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ของ โรเบิร์ต ซานเชซ ในเวทีพรีเมียร์ลีก ถึงกระนั้นก็ดีโกลแดนกระทิงดุรายนี้ ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก นายใหญ่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ให้ยืนเฝ้าเสาตัวจริงต่อไป
เมื่อคืนคือการได้เฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีก นัดที่21ของ ซานเชซ ในซีซั่นนี้ มีเพียง2นัดเท่านั้นที่เป็นโอกาสของ ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น แม้ว่าจะมีจังหวะเซฟทุกนัดก็จริงสำหรับโกลอย่าง โรเบิร์ต ซานเชซ แต่สิ่งที่เจ้าตัวทำให้ไม่ได้นั่นก็คือ ความอุ่นใจในแนวรับ
จุดบอดแรกที่ อดีตโกลไบร์ทตัน มีให้เห็นทุกนัดนั่นก็คือ การออกบอลที่น่าหวาดเสียวโคตรๆ ไม่ว่าจะเป็นบอลสั้นบอลยาว มีจังหวะให้ได้เสียวสันหลังนั่งไม่ติดตลอด เมื่อคืน ซานเชซ ผ่านบอลแม่นยำเพียงแค่ 56.4 % เท่านั้น ช็อตวางบอลยาวไม่ต้องพูดถึงเลย ขว้างบอลด้วยมือยังพลาด
และแล้วคอนเท้นต์ ของ ซานเชซ ก็มาสำแดงผล จังหวะบอลที่ไม่เป็นอันตรายเท่าไหร่ของ ฮาลันด์ เพราะอยู่ไกลนอกเขตโทษ ทว่าเจ้าตัวเหมือนจะอ่านเกมพยายามออกมาเล่นบอล ประจบกับเป็นจังหวะที่ ฮาลันด์ พลิก ชาโลบาห์ ได้พอดี จึงตัดสินใจยิงโด่งข้ามมือ ซานเชซ เข้าไปแบบหมูๆ
เข้าใจว่าโกลสำรองอย่าง ยอร์เกนเซ่น จะยังไว้ใจไม่ได้มากเช่นกัน เพราะเกมไทม์น้อย แต่ทว่าเมื่อ ซานเชซ ที่พร้อมออกทะเลได้ทุกเมื่อ สิงห์น้ำเงิน ก็ควรให้โอกาสและเวลากับนายด่านชาวเดนมาร์กได้แล้ว จะได้รู้ไปเลยว่าเวิร์คไม่เวิร์ค เพราะ ซานเชซ ทำให้เห็นมาตลอดอยู่แล้วว่าไม่เวิร์ค ผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตูในลีกถึง5ครั้ง มากกว่าใครเพื่อนเลย
เกมแพลน มาเรสก้า ทำเข้าทาง เป๊ป
จริงๆการขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ต้นเกม น่าจะทำให้เกมแพลนนั้นเข้าทางเซลซีไม่น้อย เพราะพวกเขาสามารถเล่นเกมที่ถนัด รับสวนกลับได้ เพราะทีมของ เอ็นโซ่ มาสเรสก้า เล่นเกมทรานซิสชั่นสวนกลับได้ดีมากๆทีมหนึ่ง แต่ทว่าเมื่อนำแล้ว เซลซี กลับไม่เปลี่ยนวิธีการเล่นเลย
สิงห์น้ำเงิน ยังเล่นเหมือนเดิม แม้ว่าจะขึ้นนำไปก่อน แต่ทว่าก็ยังมาเล่นในแดนหลังดันสูง และไปวัดกับจังหวะล้ำหน้าซึ่งก็มีหลายครั้งที่ทำได้ดี แต่นั่นก็ไม่าเสมอไป การไปเล่นในรูปแบบนี้สุ่มเสี่ยงที่จะโดนลงโทษจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุดๆ ไม่ถอยต่ำเน้นเกมรับ
เซลซี ที่หลังดันสูง ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นทีมที่เล่นต่อบอล ไม่ลังเลเลยที่จะโยนยาวให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ไปวัดดวลแนวรับเซลซี ซึ่งใช้เซ็นเตอร์เพียงแค่คนเดียวในการประกบ หอกตัวเก่งซิตี้รายนี้
และผลก็ออกมาให้เห็นหลายๆครั้งว่า การ1-1 กับ ฮาลันด์ กองหลังพวกเขาเสียเปรียบสุดๆ เพราะดาวยิงจอมมารบู มีทั้งความเร็วและแข็งแกร่ง บังบอล พลิกบอล หนีแนวรับเซลซี ได้ เห็นได้ชัดจากทั้งประตู 2-1 และ 3-1
กุนซือ เอ็นโซ่ มาเรสเก้า ที่เห็นมาตั้งแต่ครึ่งแรก กลับไม่ยอมแก้อะไรเลย ในการเลือกแท็กติกประกบ ฮาลันด์ จนโดนลงโทษถึง2ครั้งในที่สุด รวมไปจนถึง กล้าบ้าบิ่นไปหน่อยกับการเลือกวิธีเล่นกับดักล้ำหน้ากับ ซิตี้ แถมตัวที่ลงมาเล่นเกมรับเช็กไลน์อย่าง มาดูเอเก้ ก็ไม่ใช่ตัวรับธรรมชาติด้วย เซ้นส์เกมรับไม่ได้ทีเท่ากองหลัง
คู่หู ฮาลันด์ & โฟเด้น กลับมาฮ็อตรัวๆ
14นัดแรก ที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลี ซีซั่นนี้ ฟิล โฟเด้น เหมือนทำร่างนักเตะยอดเยี่ยม PFA ฤดูกาลที่แล้วหายไปเลย เพราะยิงไปได้เพียง1ประตูเท่านั้น แต่ทว่าตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา โฟเด้น กลับมาฮ็อต เท้าระเบิดอีกครั้ง มาซัดประตูตอกฝาโรง 3-1
ประตูเมื่อคืน ทำให้ โฟเด้น ยิงไปถึง6ประตู จาก4นัดหลังสุด เพราะสอดไปรับบอลจาก ฮาลันด์ หลุดเข้าไปสังหารผ่าน ซานเชซ นิ่มๆ กลับมาเป็นนักเตะที่คาดหวังประตูได้อีกครั้ง จังหวะสอดหรือโผล่ขึ้นไปทำประตู กลับมาทำได้เยี่ยมเหมือนเดิม
ส่วนอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ เออร์ลิง ฮาลันด์ หอกชาวนอร์เวย์ ปรกติแล้วไม่ถนัดเท่าไหร่ถ้าเจอทีมที่ตั้งรับต่ำไปออกันในเขตโทษ หรือโดนประกบ2คน แต่ทว่ากับเซลซี ที่มาเล่นแบบดันไลน์สูง บอลตักยาวมา ทำให้ ฮาลันด์ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดนั่นก็คือ การได้มีพื้นที่ดวลกับกองหลังแบบ 1ต่อ1
ใหญ่ -แข็งแกร่ง - มีความเร็ว นี่จึงไม่ใช่ปัญหาเลยเมื่อได้ดวลกับ แนวรับเซลซี แบบ1ต่อ1 บอลมาถึง ฮาลันด์ แล้วเจ้าตัวพักบอลได้ตลอด รวมถึงประตู2-1 ก็เบียดตั๊นเอาชนะ ชาโลบาห์ แล้วคิดไวทำไว ยิงข้ามหัว ซานเชซ ที่พลาดออกมาไกล
หรือประตูตอกฝาโรง 3-1 ก็บังบอล แล้วปาดให้ โฟเด้น ได้หลุดไปยิง แม้ว่าซีซั่นนี้จะถูกมองว่าฟอร์มตก แต่ในลีก ณ ตอนนี้ ฮาลันด์ ยังในพรีเมียร์ลีกไปได้แล้วถึง 18ประตู จาก23นัด เป็นรองเพียงแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แค่คนเดียวเท่านั้น
- คอลัมน์นิสต์
- คอลัมน์บอล วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก เซลซี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เออร์ลิง ฮาลันด์ เอ็นโซ่ มาเรสก้า โรเบิร์ต ซานเชซ อับดูโกดีร์ คูซานอฟ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
- 84
- 26 ม.ค. 2568 15:18