เชลซี (11) vs ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบียน (8)

แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2566
คิกออฟ เวลา 21.00 น.
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

อัตราต่อรอง : เชลซี ต่อ 0.5/1

เชลซี
เพียงไม่กี่อึดใจหลัง รีซ เจมส์ ถูกไล่ออกที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค เพื่อนร่วมทีมฟูลแบ็คอย่างมาร์ค กูกูเรลย่า ก็หยิบใบเหลืองใบที่ 5 ในฤดูกาลนี้ และจะหมดสิทธิ์ดวลแข้งกับอดีตทีมเก่าในขณะที่ต้องชดใช้โทษแบน 1 นัด และเมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนแนวรับถึง 2 ตำแหน่ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ "สิงห์บลูส์" ยังหมดหวังที่จะให้ มาโล่ กุสโต้ กลับมาลงสนามหลังจากได้รับบาดเจ็บที่เอ็น ดังนั้นมีแนวโน้มที่ขยับถ่าง อักเซล ดิซาซี่ ออกมาเล่นแบ็คขวา ในขณะที่ ลีวาย โคลวิลล์ ควรประจำอยู่ฝั่งซ้ายแทน กูกูเรลย่า นอกจากนี้ เวสลีย์ โฟฟานา (เข่า), โรเมโอ ลาเวีย (ข้อเท้า), เทรโวห์ ชาโลบาห์ (ต้นขา), คาร์นีย์ ชุควูเมก้า (เข่า) และ เบน ชิลเวลล์ (ต้นขา) ต่างก็พร้อมจะพลาดอีกครั้ง แม้ว่า  ลาเวีย (ข้อเท้า) และคริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู (เข่า) จะฟื้นตัวได้ดีตามลำดับ ในขณะที่กองกลาง มอยเซส ไกเซโด้ กำลังรอคอยได้ดวลแข้งกับอดีตทีมเก่า หลังจากเป็นแค่ตัวสำรองในเกมเจอ นิวคาสเซิ่ล

ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบียน
โรแบร์โต้ เด แซร์บี กุนซือของทีม "นกนางแอ่น" ต้องเสียกัปตันทีม ลูอิส ดังก์ ให้กะบโทษแบน หลังจากได้รับใบเหลืองสองใบภายในเวลาไม่กี่วินาทีในเกมกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ฐานใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมกับ แอนโทนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว ส่งผลให้ถูกแบน 2 เกมนับจากนี้ เช่นเดียวกับ มาห์มูด ดาฮูด ที่อยู่ในระหว่างชดใช้โทษแบนเป็นนัดที่ 2 จาก 3 เกมจากกรณีโดนใบแดงไล่ออกในเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อีกทั้งต้องโชคร้ายเสียทั้ง ทาริค แลมพ์ตีย์ และ อันซู ฟาติ จากอาการบาดเจ็บต้นขาระยะยาวในเกมกับ ฟอเรสต์ เช่นกัน โดยทั้งคู่ได้ร่วมกับ เปร์วิส เอสตูปิยาน (ต้นขา), อดัม เว็บสเตอร์ (ความฟิต), ซอลลี่ มาร์ช (เข่า), แดนนี่ เวลเบ็ค และ ฮูลิโอ เอนซิโซ่ ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงวิกฤตอาการบาดเจ็บชื่อของ แจ็ค ฮินเชลวู้ด วัย 18 ปีอาจจะต้องก้าวลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ลงเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ค

ผลงาน 6 นัดหลังของ เชลซี (DLWWDL)
เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (ห)
แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2 (ห)
ชนะ แบล็คเบิร์น 2-0 (ห) (ลีกคัพ)
ชนะ สเปอร์ส 4-1 (ย)
เสมอ แมนฯ ซิตี้ 4-4 (ห)
แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-4 (ย)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ไบรท์ตัน (DDWDWW)
เสมอ ฟูแล่ม 1-1 (ห)
เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (ย)
ชนะ อาแจ็กซ์ 2-0 (ย) (ยูโรปา)
เสมอ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-1 (ห)
ชนะ ฟอเรสต์ 3-2 (ย)
ชนะ เออีเค เอธนส์ 1-0 (ย) (ยูโรปา)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
28/09/23    (LEC) Chelsea 1 - 0 Brighton
23/07/23    (PLS) Chelsea 4 - 3 Brighton
15/04/23    (PRL) Chelsea 1 - 2 Brighton
29/10/22    (PRL) Brighton 4 - 1 Chelsea
19/01/22    (PRL) Brighton 1 - 1 Chelsea
30/12/21    (PRL) Chelsea 1 - 1 Brighton
21/04/21    (PRL) Chelsea 0 - 0 Brighton

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
เชลซี (4-3-3) : โรเบิร์ต ซานเชซ - อักเซล ดิซาซี่, ติอาโก้ ซิลวา, เบอนัวต์ บาเดียชิล, ลีวาย โคลวิลล์ - คอเนอร์ กัลลาเกอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไคเซโด้ - โคล พาลเมอร์, นิโคลัส แจ็คสัน, ราฮีม สเตอร์ลิง

ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : บาร์ท แฟร์บรูกเก้น - โจเอล เฟลท์มัน, แจ็ค ฮินเชลวู้ด, อิกอร์ ชูลิโอ, เจมส์ มิลเนอร์ - บิลลี กิลมอร์, ปาสกาล โกรสส์ - ซิม่อน อาดินกร้า, ชูเอา เปโดร, คาโอรุ มิโตมะ - อีวาน เฟอร์กูสัน

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

แนวโน้มของเกม
เนื่องจากโทษแบนและอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นทั้งสองฝ่าย ผู้จัดการทีมทั้งคู่ไม่สามารถเห็นทีมของตนเล่นอย่างอิสระได้อย่างที่คาดหวัง ซึ่งแนวรุกของ ไบรท์ตัน ทั้งการทำประตูและเสียในเกมพรีเมียร์ลีกดูเหมือนจะดำเนินไปเทียบเคียงกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่า สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยของ เชลซี ตลอดปี 2023 แต่ด้วยตัวเลือกเกมรุกที่สดใสมากมายที่พร้อมจะใช้ประโยชน์จากเกมรับของ ไบรท์ตัน ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า "สิงห์บลูส์" จะแก้ไขข้อผิดพลาดในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อกลับมาคว้า 3 คะแนนได้อีกครั้ง

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
เชลซี 2-1 ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบียน