ลิเวอร์พูล (1) vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (3)

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2567
คิกออฟ เวลา 23.00 น.
สนาม : แอนฟิลด์

อัตราต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.5

ลิเวอร์พูล
หลังจากกลับมาลงสนามในเกมกับ เรอัล มาดริด ในฐานะตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ฟิตพอที่จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นการเสริมทีมในเวลาที่เหมาะสมเนื่องจาก คอเนอร์ แบรดลีย์ ประสบปัญหาเอ็นกล้ามเนื้อจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก โดย แบรดลีย์ เป็นหนึ่งใน 2 ข้อกังวลใหม่ของ ลิเวอร์พูล ร่วมกับ อิบราฮิม่า โคนาเต้ ที่ยังประสบปัญหาที่ขาอย่างเห็นได้ชัดในเกมเดียวกัน และยืนยันว่าเขาต้องได้รับการประเมินิย่างละเอียด ซึ่งอาจหมายความว่า โจ โกเมซ อาจสามารถออกสตาร์ทในพรีเมียร์ลีกนัดแรกร่วมกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ นอกจากนี้บรรดาแข้งเดี้ยงก่อนหน้านี้ทั้ง เฟเดริโก้ เคียซ่า (ฟิตเนส), ดิโอโก้ โชต้า (หน้าท้อง), อลิสซง เบ็คเกอร์ (แฮมสตริง) และ คอสตาส ซิมิกาส (ข้อเท้า) ยังไม่คาดว่าจะกลับมา โดยที่ อาร์เนอ สล็อต อาจถูกจำกัดให้เหลือแค่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเดียว คือนำ โดมินิค โซบอสซ์ไล กลับมาแทนที่ เคอร์ติส โจนส์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สำหรับ แมนฯ ซิตี้ หนึ่งในข้อดีไม่กี่ประการที่พวกเขาจะได้รับจากเกมกับ เฟเยนูร์ด เมื่อกลางสัปดาห์ คือ รูเบน ดิอาส กองหลังคนสำคัญกลับมานั่งสำรองได้แล้วหลังจากได้รับบาดเจ็บที่น่อง อีกทั้ง เฌเรมี โดกู (ต้นขา) กลับมาลงซ้อมก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก และอาจพร้อมลงสนามในวันอาทิตย์นี้ แต่ จอห์น สโตนส์ (เท้า), โรดรี (เอ็นไขว้เข่า), ออสการ์ บ็อบบ์ (ขา) และ มาเตโอ โควาซิช (ไม่ระบุรายละเอียด) ยังคงไม่พร้อมใช้งาน โดยกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีเกือบที่จะโยน เควิน เดอ บรอยน์ เข้ามาสู่ทีมตั้งแต่เสียงนกหวีดยาวแรกในช่วงกลางสัปดาห์ แต่ทั้งนักเตะเบลเยียม และ ซาวินโญ่ อาจได้รับพิจารณาลงตัวจริงทั้งคู่ และเฮดโค้ชชาวสเปนก็มีการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่กับ มาเธอุส นูเนส หลังจากเขาทำผลงานได้อย่างเฉิดฉายในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก

ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (WWWWWW)
ชนะ ไบรท์ตัน 3-2 (ย) (ลีกคัพ)
ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (ห)
ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 4-0 (ห) (ยูซีแอล)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 (ห)
ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 (ย)
ชนะ เรอัล มาดริด 2-0 (ห) (ยูซีแอล)

ผลงาน 6 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้ (LLLLLD)
แพ้ สเปอร์ส 1-2 (ย) (ลีกคัพ)
แพ้ บอร์นมัธ 1-2 (ย)
แพ้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 1-4 (ย) (ยูซีแอล)
แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 (ย)
แพ้ สเปอร์ส 0-4 (ห)
เสมอ เฟเยนูร์ด 3-3 (ห) (ยูซีแอล)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
10/03/24    (PRL) Liverpool 1 - 1 Man.City
25/11/23    (PRL) Man.City 1 - 1 Liverpool
01/04/23    (PRL) Man.City 4 - 1 Liverpool
23/12/22    (LEC) Man.City 3 - 2 Liverpool
16/10/22    (PRL) Liverpool 1 - 0 Man.City
30/07/22    (COS) Liverpool 3 - 1 Man.City
16/04/22    (FAC) Man.City 2 - 3 Liverpool

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควิวีน เคลเลเฮอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ไรอัน กราเฟนเบิร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ - ดาร์วิน นูนเญซ

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอร์ลเกอร์, มานูเอล อาคานจิ, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ - อิลคาย กุนโดกัน, มาเธอุส นูเนส, เควิน เดอ บรอยน์ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เออร์ลิง ฮาแลนด์, ซาวินโญ่

ผู้ตัดสิน : คริส คาวานาห์

แนวโน้มของเกม
ไม่ว่าสถานการณ์ของ ซิตี้ จะย่ำแย่แค่ไหน ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แทบจะได้รับการสนับสนุนให้กลับมาปรุงแต่งแนวรุกให้กลับมาดีกว่าเดิม เมื่อมีชื่อของ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาบัญชาเกมอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แนวรับของทีม "เรือใบสีฟ้า" ยังอยู่ห่างจากความเหนียวแน่นที่พวกเขาเคยทำได้ และเนื่องจากขาดตัวกำหนดเกมอย่าง โรดรี ที่0อิทธิพลสูงในแดนกลาง ทีมแชมป์เก่าควรจะถูกพิชิตโดยผู้ท้าชิงแชมป์ฤดูกาลนี้ ด้วยการโจมตีที่พร้อมทำลายแนวรับผู้มาเยือนให้ราบคาบ

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ลิเวอร์พูล 3-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้