ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (4) vs ลิเวอร์พูล (2)

แข่งขันวันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566
คิกออฟ เวลา 23.30 น.
สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 0/0.5

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
การต่อสู้ของ สเปอร์ส ในดาร์บี้ลอนดอนเหนือ กับ อาร์เซน่อล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างแพง เนื่องจาก เบรนแนน จอห์นสัน ได้รับบาดเจ็บเอ็นกล้ามเนื้อในช่วง 1 ชั่วโมงของเกม ในแมตช์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับเพลเม็คเกอร์ฟอร์มแรงอย่าง เจมส์ แมดดิสัน ที่ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องนอนตัวงออยู่กับพื้น แต่ก็สามารถสู้ต่อได้ในช่วงสั้นๆ ก่อนจะถูกถอดออกในเกมเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลการสแกนหัวเข่าของ แมดดิสัน จะให้ผลลัพธ์ที่น่ามั่นใจ และ สเปอร์ส ก็มองในแง่ดีว่าแข้งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือนสิงหาคมจะฟิตสมบูรณ์พร้อมในการเผชิญหน้ากับ "หงส์แดง" แต่บรรดาแข้งเดี้ยงก่อนหน้านี้ทั้ง อีวาน เปริซิช (เข่า), โจวานนี่ โล เซลโซ่ (ต้นขา), อัลฟี ไวท์แมน (ข้อเท้า), โรดริโก้ เบนทานกูร์ (เข่า), ไบรอัน กิล (ขาหนีบ) และ ไรอัน เซสเซยง (แฮมสตริง) แม้ว่าสองคนหลังจะกลับมาซ้อมได้บ้างแล้ว แต่ทั้งหมดจะไม่มีชื่ออยู่ในเกมนี้อย่างแน่นอน

ลิเวอร์พูล
ข่าวดีของทีม ลิเวอร์พูล คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รองกัปตันทีม กลับมาลงสนามฝึกซ้อมได้แล้ว หลังจากสลัดปัญหาบาดเจ็บเอ็นกล้ามเนื้อยทิ้งไปได้แล้ว แต่แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษยังคงเผชิญกับการแข่งขันกับเวลา เพื่อให้ตัวเองพร้อมสำหรับเกมนี้ เท่ากับว่ามีแค่ ติอาโก้ อัลคันทาร่า เพียงคนเดียวที่ยังต้องเป็นกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และไม่ควรกลับมาจากอาการเจ็บสะโพกอีก 2-3 สัปดาห์ แต่ผู้มาเยือนมีกองกำลังที่พร้อมใช้งาน และจะกลับไปใช้ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่แข็งแกร่งที่สุดหลังจากปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่งในเกม คาราบาว คัพ ในช่วงกลางสัปดาห์ ผู้เล่นอย่าง หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์คาดว่าจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในพื้นที่ 3 ประสานในแดนหน้า ในขณะที่ โจแอล มาติ๊ป ที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่พร้อมกลับมาลงเล่นพรีเมียร์ลีกเคียงข้างกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม

ผลงาน 6 นัดหลังของ สเปอร์ส (WWLWWD)
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 (ห)
ชนะ บอร์นมัธ 2-0 (ย)
แพ้ ฟูแล่ม 3-5 (P) (ย) (ลีกคัพ)
ชนะ เบิร์นลีย์ 5-2 (ย)
ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1 (ห)
เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (ย)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ลิเวอร์พูล (WWWWWW)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 (ย)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 (ห)
ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-1 (ย)
ชนะ แอลเอเอสเค ลินซ์ 3-1 (ย) (ยูโรปา)
ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (ห)
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 (ห) (ลีกคัพ)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
30/04/23    (PRL) Liverpool 4 - 3 Tottenham
06/11/22    (PRL) Tottenham 1 - 2 Liverpool
08/05/22    (PRL) Liverpool 1 - 1 Tottenham
19/12/21    (PRL) Tottenham 2 - 2 Liverpool
29/01/21    (PRL) Tottenham 1 - 3 Liverpool
17/12/20    (PRL) Liverpool 2 - 1 Tottenham
12/01/20    (PRL) Tottenham 0 - 1 Liverpool

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
สเปอร์ส (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ - เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน, เดสตินี่ อูโดกี - อีฟส์ บิสซูม่า, ป๊าป ซาร์ - เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน, ซน เฮือง-มิน - ริชาร์ลิซอน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ, โจแอล มาติ๊ป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

ผู้ตัดสิน : ไซม่อน ฮูเปอร์

แนวโน้มของเกม
ทั้ง สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล เพิ่งชดเชยข้อบกพร่องในเกมป้องกันด้วยการผลิตสกอร์มากมายเข้ามาทดแทน และแน่นอนว่าแฟนบอลจะได้เห็นประตูเกิดขึ้นมากมายในเกมนี้ที่มีความคาดหวังสูงไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามความฟิตของ เจมส์ แมดดิสัน จะจำเป็นต่อโอกาสของ สเปอร์ส ที่จะประสบความสำเร็จในรังของพวกเขา แต่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง ดังนั้นผู้ชมสามารถจินตนาการถึงโอกาสในการจบ 90 นาทีด้วยผลเสมอด้วยสกอร์สูง

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-2 ลิเวอร์พูล