ทีมชาติไทย vs ทีมชาติอินเดีย

แข่งขันวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568
คิกออฟ เวลา 19.30 น.
สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน

อัตราต่อรอง : ทีมชาติไทย ต่อ 1

ทีมชาติไทย
ทัพช้างศึกมีนักเตะหลายรายที่บาดเจ็บไป แต่ก็มีการเรียกตัวอื่นมาทดแทน ขุมกำลังถือว่าไม่ได้กระทบมากนัก ฟอร์มในช่วง 5 เกมหลังชนะ 3 แพ้ 2 โดยสองเกมที่แพ้ เป็นเกมนัดชิง อาเซียนคัพ ที่แพ้ให้กับ เวียดนามทั้งสองนัด แต่ใน 2 เกมล่าสุดที่เจอกับ อัฟกานิสถาน และ ศรีลังกา สามารถเอาชนะมาได้ ด้วยการที่ไม่เสียประตูเลย

ด้านความพร้อมของทีมจะไม่มีชื่อของตัวหลักทั้ง โจนาธาน เข็มดี , ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ พาตริค กุสตาฟสัน ที่บาดเจ็บไม่ถูกเรียกติดทีมมาในรอบนี้ รวมถึง ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่เจ็บเพิ่มจนต้องถอนตัวไป โดยมีการเรียก ชานนท์ ทำมา ติดทีมมาแทน

เกมนี้คาดว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะมาในแผน 4-2-3-1 เช่นเดิม โดยแดนกลางมี พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล จับคู่กับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ส่วนสามตัวรุกจะเป็น เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ คอยทำเกมพร้อมหน้าเป้าอย่าง ปรเมศย์ อาจวิไล

ทีมชาติอินเดีย
ขุนศึกแดนภารตะ อยู่ในอันดับ 127 ฟีฟ่าแรงค์กิ้ง ผลงานในช่วงหลังของพวกเขาไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดก็จริง แต่หนักไปทางเสมอถึง 3 นัดชนะ 1 แต่ก็นับว่าในช่วง 2 เกมล่าสุดที่พบกับ มัลดีฟ และ บังคลาเทศ ก็เก็บผลที่ต้องการมาได้โดยที่ไม่เสียประตู โดยในเกมอุ่นเครื่องหนนี้ มีการเรียกตัวหลักมาครบ เพื่อเตรียมทีมไปเจอกับ ฮ่องกงในเกม เอเชี่ยนคัพ นัดถัดไป

ส่วนสภาพความพร้อมของทีม ทีมไม่มีนักเตะบาดเจ็บแต่อย่างใด ผู้เล่นตัวหลักสามารถลงสนามกันได้เต็มที่ทุกตำแหน่ง

เกมนี้คาดว่ากุนซือชาวสเปนอย่าง มาโนโล มาเกวซ จะจัดแผน 4-4-2 แผงกลางมี ลิสตอน โคลาโค,อาปูยา รัลเต้,อายุช เชตรี และ ฟารุค เชาดรี้ ส่วนหน้าคู่จะเป็นหน้าที่ของ สุนิล เชตรี จับคู่กับ อูดันต้า สิงห์ ร่วมกันล่าตาข่าย

ผลงาน 6 นัดหลังของ ไทย (LWLLWW)
แพ้ ฟิลิปปินส์ 1-2 (ย) (อาเซียนคัพ)
ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-1 (E) (ห) (อาเซียนคัพ)
แพ้ เวียดนาม 1-2 (ย) (อาเซียนคัพ)
แพ้ เวียดนาม 2-3 (ห) (อาเซียนคัพ)
ชนะ อัฟกานิสถาน 2-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ ศรีลังกา 1-0 (ห) (คัดเอเชียนคัพ)

ผลงาน 6 นัดหลังของ อินเดีย (LDLDLW)
แพ้ อัฟกานิสถาน 1-2 (ห) (คัดบอลโลก)
เสมอ คูเวต 0-0 (ห) (คัดบอลโลก)
แพ้ กาตาร์ 1-2 (ย) (คัดบอลโลก)
เสมอ เมาริเธียส 0-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)
แพ้ ซีเรีย 0-3 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ มัลดิฟส์ 3-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
08/06/19 ไทย 0-1 อินเดีย (คิงส์คัพ)
06/01/19 ไทย 1-4 อินเดีย (เอเชียนคัพ)
08/09/10 อินเดีย 1-2 ไทย (อุ่นเครื่อง)
04/09/10 ไทย 1-0 อินเดีย (อุ่นเครื่อง)
16/10/03 ไทย 2-0 อินเดีย (อุ่นเครื่อง)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ทีมชาติไทย (4-2-3-1) : ปฏิวัติ คำไหม - ศุภนันท์ บุรีรัตน์, มาร์โค บัลลินี่, เอเลียส ดอเลาะ, อิรฟาน ดอเลาะ - พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี - เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ (กัปตันทีม), สุภโชค สารชาติ - ปรเมศย์ อาจวิไล

ทีมชาติอินเดีย (3-4-1-2) : วิชาล แคธ - ราหุล เบห์เก, สุบาชิช โบส, บอริส สิงห์ - สันเดช จินกาน, ลิสตอน โคลาโค, อาปูยา รัลเต้, อายุช เชตรี - ฟารุค เชาดรี้ - สุนิล เชตรี, อูดันต้า สิงห์

แนวโน้มของเกม
ทั้งสองทีมมาอุ่นเครื่องก่อนเกมที่จะต้องไปลุยในศึก เอเชี่ยน คัพ 2027 รอบคัดเลือก โดยที่ไทยมีคิวบุกเยือน เติร์กเมนิสถาน ส่วน อินเดีย เองก็ต้องบุกไปเยือน ฮ่องกง ในแง่ของฟอร์มการเล่น ไทยเรียกความมั่นใจคืนมาในช่วง 2 เกมหลัง ส่วน อินเดีย เองก็ฟอร์มเหนียวแน่น ซึ่งทั้งคู่ไม่เสียประตูเลยในช่วง 2 เกมล่าสุดเหมือนกัน

อย่างไรก็ตามในแง่ของศักยภาพ ไทย เองค่อนข้างดูดีกว่า แม้จะเสียตัวหลักไปหลายราย แต่ตัวทดแทนที่เรียกมาเสริมก็จัดว่าไม่ได้หนีกันมาก แม้จากสถิติการเจอกันล่าสุด อินเดียจะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ถึง 2 นัดติด แต่ปัจจุบันมองว่า ช้างศึกดีพอที่จะแก้มือในเกมนัดนี้

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
ไทย 1-0 อินเดีย
 

สนับสนุนเนื้อหา>>>https://sport.trueid.net/