ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (D-3) vs ทีมชาติอังกฤษ (C-1)

แข่งขันวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ - ดอร์ทมุนด์, เยอรมัน (สนามกลาง)

อัตราต่อรอง : เสมอ

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ต้องมีการคัดเลือกครั้งสำคัญในพื้นที่สุดท้ายของสนาม เนื่องจาก 45 นาทีหลังที่ยอดเยี่ยมของ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ในเกมพลิกกลับมาเอาชนะ ตุรกี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ โดย โรนัลด์ คูมัน ที่เพิ่งประกาศว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งไปจนถึงปี 2026 ไม่ปิดโอกาสกับกองหน้า เบิร์นลีย์ สำหรับการเป็นพันธมิตรกับ เมมฟิส เดอปาย ตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ตาม บทบาทที่มีผลกระทบจากม้านั่งสำรองยังมีความเป็นไปได้มากกว่า ซึ่ง เดอปาย และ โคดี้ กักโป หนึ่งหรือทั้ง 2 คนมีส่วนร่วมโดยตรงในการพยายามยิงประตูถึง 63.5% ของทัพ "ออรันเย่" ในช่วงซัมเมอร์นี้ และมีถึง 6 จาก 9 ประตูจากพวกเขา ดังนั้น คูมัน มีแนวโน้มที่จะคงอยู่กับ 11 ตัวจริงของเขาในค่ำคืนนี้ โดยมี บาร์ท แฟร์บรู๊คเกน เป็นผู้รักษาประตู ขณะที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ จะสวมปลอกแขนกัปตันทีมจากแนวรับตรงกลาง และ ชาบี ซิมอนส์ ยังคงมีบทบาทเชื่อมโยงระหว่างกองกลางและแนวรุก

ทีมชาติอังกฤษ
ในฐานะแบ็กซ้ายอาชีพเพียงคนเดียวในทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต การกลับมาของ ลุค ชอว์ ได้รับการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากที่กองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดการลงเล่น 4 นัดแรกของทีมชาติอังกฤษ ในขณะที่เขากลับมาจากอาการบาดเจ็บแฮมสตริง แต่หลังจากปรากฏตัวในช่วงสั้นๆ ในเกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ เขาก็ได้ประกาศแล้วว่าตัวเองพร้อมที่จะเล่นตั้งแต่นกหวีดแรก นอกจากนี้ หลังจากสร้างความประทับใจได้ในรอบแบ่งกลุ่ม ตอนนี้ มาร์ค เกฮี ต้องต่อสู้กับ เอซรี คอนซ่า เพื่อเป็นหนึ่งในตำแหน่งแนวรับ เมื่อเขากลับมาจากโทษแบน แม้ว่าจะยังต้องรอดูกันต่อไปว่ามันจะปรากฏแผนแนวรับ 3 คน หรือ 4 คนในเกมรอบตัดเชือก ในขณะที่อีกฝั่งของสนาม แฮร์รี่ เคน ที่ถูกถอดออกในช่วงต่อเวลาพิเศษเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ได้รับการยืนยันว่าเขาเป็นเพียงตะคริว และดาวซัลโวสูงสุดของทัพ "ทรี ไลออนส์" จะฟิตสมบูรณ์เพื่อสร้างสถิติที่ดีในรอบน็อกเอาต์ของศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยไม่มีผู้เล่นคนใดทำประตูได้มากไปกว่านี้ ในรอบน็อคเอาท์ (5 ประตูเท่ากับ อองตวน กรีซมันน์)

ผลงาน 6 นัดหลังของ เนเธอร์แลนด์ (WWDLWW)
ชนะ ไอซ์แลนด์ 4-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ โปแลนด์ 2-1 (ก) (ยูโร2024)
เสมอ ฝรั่งเศส 0-0 (ก) (ยูโร2024)
แพ้ ออสเตรีย 2-3 (ก) (ยูโร2024)
ชนะ โรมาเนีย 3-0 (ก) (ยูโร2024)
ชนะ ตุรกี 2-1 (ก) (ยูโร2024)

ผลงาน 6 นัดหลังของ อังกฤษ (LWDDWW)
แพ้ ไอซ์แลนด์ 0-1 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ เซอร์เบีย 1-0 (ก) (ยูโร2024)
เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (ก) (ยูโร2024)
เสมอ สโลวีเนีย 0-0 (ก) (ยูโร2024)
ชนะ สโลวาเกีย 2-1 (E) (ก) (ยูโร2024)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 5-3 (P) (ก) (ยูโร2024)

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
07/06/19    (UNL) Netherlands (E) 3 - 1 England
24/03/18    (FRI) Netherlands 0 - 1 England
30/03/16    (FRI) England 1 - 2 Netherlands
01/03/12    (FRI) England 2 - 3 Netherlands
13/08/09    (FRI) Netherlands 2 - 2 England
16/11/06    (FRI) Netherlands 1 - 1 England
09/02/05    (FRI) England 0 - 0 Netherlands

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (4-2-3-1) : บาร์ท แฟร์บรู๊คเกน - เดนเซล ดุมฟรีส์, สเตฟาน เดอ ฟราย, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม), นาธาน อาเก้ - ยอร์ดี ชูเท่น, ไทจ์ยานี่ ไรจ์เดอร์ส - ดอนเยลล์ มาเลน, ชาบี ซีมอนส์, โคดี้ กักโป - เมมฟิส เดอปาย

ทีมชาติอังกฤษ (3-4-2-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี - บูกาโย่ ซาก้า, ค็อบบี้ ไมนู, เดแคลน ไรซ์, ลุค ชอว์ - จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเดน - แฮร์รี เคน (กัปตันทีม)

ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เยอรมัน)

แนวโน้มของเกม
แม้ว่าแต่ละเกมจะมีหน้าใหม่เขียนไว้ แต่ประวัติศาสตร์ของ อังกฤษ กับทีมดัตช์ กลับเต็มไปด้วยความพ่ายแพ้ ในบรรดาชาติทั้งหมดที่พวกเขาเผชิญหน้ากันมากกว่า 20 ครั้งจนถึงปัจจุบัน มีเพียง บราซิล เท่านั้นที่มีอัตราการชนะต่ำกว่า (27%)

แนวโน้มดังกล่าวอาจดำเนินต่อไปในรอบรองชนะเลิศยูโร 2024 ครั้งนี้ เนื่องจากแนวรุกมากพรสวรรค์ของทีม "ออรันเย่" เริ่มคลิกและจะลงโทษผลงานที่กระท่อนกระแท่นของทัพ "ทรี ไลออนส์" ที่เชื่องอีกครั้งอย่างแน่นอน หากทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่สามารถพัฒนาได้ พวกเขาก็พร้อมจะพลาดรอบชิงชนะเลิศ

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
เนเธอร์แลนด์ 2-1 อังกฤษ (เนเธอร์แลนด์ ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ)