ทีมชาติอิตาลี (A1)) vs ทีมชาติสเปน (E2)
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" รอบรองชนะเลิศ
แข่งขันวันอังคารที่ 6 กรกฎาคม 2564
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม - อังกฤษ (สนามกลาง)
อัตราต่อรอง : เสมอ อิตาลี
ทีมชาติอิตาลี
โรแบร์โต้ มันชินี่ เจ้านายใหญ่ของทัพ "อัซซูรี่" หมดสิทธิ์ใช้งาน เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า แบ็กฟอร์มดีจาก โรม่า ที่ได้รับบาดเจ็บหนักมาจากเกมกับ เบลเยียม ในรอบที่แล้ว จนต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการเจ็บเอ็นร้อยหวายที่จะทำให้เจ้าตัวพักยาว 4-6 เดือนเป็นอย่างน้อย ดังนั้น เอเมอร์สัน พัลไมรี่ แข้งจาก เชลซี จะได้รับโอกาสลงทำหน้าที่แทน อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะได้ตัว อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ที่เจ็บมาจากเกมนัดเปิดสนาม พร้อมกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ขณะที่ มาร์โก แวร์รัตติ ที่มีปัญหาเรื่องสภาพความฟิต น่าจะพร้อมลงสนามเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางร่วมกับ จอร์จินโญ่ และ นิโคโล่ บาเรลล่า ส่วนในรายของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจใน 2 เกมล่าสุด น่าจะถูกเรียกใช้บริการในพื้นที่แนวรุกร่วมกับ ชิโร่ อิมโมบิเล่ และ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่
ทีมชาติสเปน
หลุยส์ เอ็นริเก้ เทรนเนอร์ของทัพ "กระทิงดุ" ไม่น่าจะมีชื่อของ ปาโบล ซาราเบีย ให้ใช้งาน เนื่องจากตัวรุก "เปแอสเช" ที่ยิง 2 แอสซิสต์ 2 ในทัวร์นาเมนท์นี้ ได้รับบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อในเกมที่พบกับ สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อรอบที่แล้ว ดังนั้น ผู้ที่ทำหน้าที่แทนตั้งแต่เกมดังกล่าวอย่าง ดานี่ โอลโม่ จะถูกเรียกตัวเข้ามาผนึกกำลังในพื้นที่แนวรุกร่วมกับ เฟร์ราน ตอร์เรส และ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ยังพร้อมยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าต่อไป ขณะที่ อายเมอริก ลาปอร์กต์ กองหลังคนสำคัญที่ถูกแยกซ้อมเดี่ยวในโรงยิมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุผลเพียงเพราะความล้าเท่านั้นน่าจะพร้อมลงจับคู่คุมเกมรับร่วมกับ ปอล ตอร์เรส ส่วนในรายของ อูไน ซิม่อน ที่เซฟ 2 จุดโทษในเกมรอบที่แล้วจนพาทีมทะลุเข้ามาถึงรอบตัดเชือก ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ลงเฝ้าเสาต่อเนื่อง
ผลงาน 6 นัดหลังของ อิตาลี (WWWWWW)
ชนะ เช็ก 4-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)
ชนะ ตุรกี 3-0 (ห) (ยูโร)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 (ห) (ยูโร)
ชนะ เวลส์ 1-0 (ห) (ยูโร)
ชนะ ออสเตรีย 2-1 (E) (ก) (ยูโร)
ชนะ เบลเยียม 2-1 (ก) (ยูโร)
ผลงาน 6 นัดหลังของ สเปน (WDDWWW)
ชนะ ลิธัวเนีย 4-0 (ห) (อุ่นเครื่อง)
เสมอ สวีเดน 0-0 (ห) (ยูโร)
เสมอ โปแลนด์ 1-1 (ห) (ยูโร)
ชนะ สโลวาเกีย 5-0 (ห) (ยูโร)
ชนะ โครเอเชีย 5-3 (E) (ก) (ยูโร)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-1 (P) (ก) (ยูโร)
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
03/09/17 (WQE) Spain 3 - 0 Italy
07/10/16 (WQE) Italy 1 - 1 Spain
27/06/16 (EUC) Italy 2 - 0 Spain
25/03/16 (FRI) Italy 1 - 1 Spain
06/03/14 (FRI) Spain 1 - 0 Italy
28/06/13 (COC) Spain (P) 0 - 0 Italy
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
ทีมชาติอิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เอเมอร์สัน พัลไมรี่ - นิโคโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ - เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซินเญ่
ทีมชาติสเปน (4-3-3) : อูไน ซิม่อน - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อายเมอริก ลาปอร์กต์, ปอล ตอร์เรส, จอร์ดี อัลบา - เปดรี, เซร์คิโอ บุสเก็สต์, โกเก้ - เฟร์ราน ตอร์เรส, อัลบาโร่ โมราต้า, ดานี่ โอลโม่
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บริช (เยอรมัน)
แนวโน้มของเกม
ทัพ "อัซซูรี่" แชมป์กลุ่มเอ เพิ่งพลาดท่าเสียประตูเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 11 เกม ให้กับ ออสเตรีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษรอบ 16 ทีมสุดท้าย และเสีย 1 ลูกให้กับ เบลเยียม ในรอบที่แล้ว ถือเป็นการเสียประตู 2 เกมติดของพวกเขา ขณะที่ "กระทิงดุ" ออกแรงเหนื่อยมาทั้ง 2 นัดของรอบตัดเชือกด้วยการชนะ โครเอเชีย 5-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และล่าสุดชนะจุดโทษ สวิตเซอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา ทำให้บรรดาแข้งตัวหลักหลายรายศูนย์เสียพลังงานไปค่อนข้างมาก และน่าจะเป็นจุดที่ทำให้ สเปน เสียเปรียบด้านพละกำลังให้กับตู่แข่ง อีกทั้งทางฝั่ง อิตาลี ค่อนข้างที่จะมีความเคี่ยวในแบบฉบับแท็คติกของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ดังนั้น ระบบทีมเวิร์คที่จัดเจนกว่า จะนำพา อิตาลี เบียดคว้าชัยได้ในเกมนี้
ฟันธงโดย : I HEAR TOO
อิตาลี 2-1 สเปน
- วิเคราะห์บอล
- 257
- 06 ก.ค. 2564 09:06