ทีมชาติสเปน (1-A4) vs ทีมชาติฝรั่งเศส (1-A2)

แข่งขันวันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน 2568
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า - เยอรมัน (สนามกลาง)

อัตราต่อรอง : สเปน ต่อ 0/0.5

ทีมชาติสเปน
สเปน ยังต้องรับมือกับการไม่มี โรดรี ผู้ชนะรางวัลบัลลงดอร์ เนื่องจากเขายังคงเร่งทำความฟิตกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ขณะที่ เฟร์ราน ตอร์เรส ขอ งบาร์เซโลน่า ก็พลาดการลงสนามเช่นกัน หลังจากเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

อิสโก้ เพลย์เมคเกอร์ของ เรอัล เบติส ที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี กำลังลุ้นที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 ขณะที่ กาบี กลับมาอยู่ในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2023 เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้ และนักเตะอัจฉริยะของ บาร์ซ่า จะต้องแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงในแดนกลางกับ เปดรี เพื่อนร่วมทีม,มาร์ติน ซูบิเมนดี และผู้ชนะถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เปแอสเช อย่าง ฟาเบียน รุยซ์

นอกจากนี้ เปา คูบาร์ซี่ กลับมาอยู่กับทีมอีกครั้ง หลังจากที่พลาดการลงเล่นให้กับทีมชาติในช่วงก่อนหน้านี้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ และเซ็นเตอร์แบ็กวัย 18 ปีรายนี้จะต้องเรียกตัวกลับ โดยแลกกับการที่ ดีน ฮุยเซ่น นักเตะใหม่ของ เรอัล มาดริด ขณะที่ ลามิน ยามาล, ดานี่ โอลโม่ และ นิโก้ วิลเลียมส์ ต่างก็พร้อมจะสนับสนุน มิเกล โอยาร์ซาบาล ในแนวรุก

ทีมชาติฝรั่งเศส
สำหรับ ฝรั่งเศส มีผู้เล่นมากถึง 7 คนที่ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึง เดอซีร์ ดูเอ ผู้เล่นยอดเยี่ยมจากเกมดังกล่าว และ อุสมาน เดมเบเล่ ผู้ท้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ และยังคงต้องดูกันต่อไปว่าสิ่งนี้จะส่งผลต่อการเลือกผู้เล่นตัวจริงของ ดีดิเยร์ เดอส์ช็องส์ อย่างไรหรือไม่

ในกรณีที่ไม่มี 3 ผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บอย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, วิลเลียม ซาลิบา และ ชูลส์ กุนเด้ เป็นผลให้ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ และ มาโล่ กุสโต้ จะแข่งขันกันเพื่อลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา ขณะที่ เดอส์ช็องส์ จะพิจารณาว่าจะเลือก ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ, เคลม็องต์ ล็องเลต์ หรือ โลอิก บาเด้ ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายร่วมกับ อิบราฮิม่า โคนาเต้ หรือไม่

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซึ่งเหลืออีกเพียง 2 ประตูก็จะยิงถึง 50 ประตูในระดับทีมชาติ คาดว่าจะได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงเล่นในพื้นที่สุดท้าย ขณะที่ รายาน แชร์กี ที่มีข่าวโยงกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวังว่าจะได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ลียง ในฤดูกาล 2024-25

ผลงาน 6 นัดหลังของ สเปน (WWWWDW)
ชนะ เดนมาร์ก 1-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เซอร์เบีย 3-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เดนมาร์ก 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-2 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
เสมอ เนเธอร์แลนด์ 2-2 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เนเธอร์แลนด์ 5-4 (P) (ห) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงาน 6 นัดหลังของ ฝรั่งเศส (WWDWLW)
ชนะ อิสราเอล 4-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เบลเยียม 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
เสมอ อิสราเอล 0-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ อิตาลี 3-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ โครเอเชีย 0-2 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ โครเอเชีย 5-4 (P) (ห) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
10/07/24 Spain 2 - 1 France
11/10/21 Spain 1 - 2 France
29/03/17 France 0 - 2 Spain
05/09/14 France 1 - 0 Spain
27/03/13 France 0 - 1 Spain
17/10/12 Spain 1 - 1 France
24/06/12 Spain 2 - 0 France

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติสเปน (4-2-3-1) : อูไน ซิม่อน - เปโดร ปอร์โร่, เปา คูบาซี, โรบิน เลอ นอร์ม็องด์, มาร์ค กูกูเรลย่า - มาร์ติน ซูบิเมนดี้, เปดรี - ลามีน ยามาล  ดานี่ โอลโม่, นิโก้ วิลเลียมส์ - มิเกล โอยาร์ซาบาล (กัปตันทีม)

ทีมชาติฝรั่งเศส (4-3-3) : ไมค์ เมญ็อง - เบนฌาแม็ง ปาวาร์, อิบราฮิม่า โคนาเต้, ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ, ลูกาส์ ดีญ - ออเรเลียง ชูอาเมนี่, มานู โคเน่, อาเดรียง ราบิโอต์ - มิชาแอล โอลิเซ่, ร็องดาล โคโล่ มูอานี่, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (กัปตันทีม)

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)

แนวโน้มของเกม
ทั้ง 2 ชาติต่างก็มีพรสวรรค์ในการเล่นเกมรุกที่แข็งแกร่ง แต่การที่ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ นำสตาร์ฝรั่งเศสบางคนที่ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับมาลงสนามได้นั้น อาจส่งผลกระทบต่อผลการแข่งขันที่น่าสนใจในเกมนี้

คงเป็นเรื่องไร้สาระที่จะมองข้ามโอกาสที่ทั้ง 2 ยอดทีมจากยุโรปจะเอาชนะในเกมนัดเดียวที่อาจกินเวลาเกิน 90 นาทีนี้ อย่างไรก็ตาม สเปน ถือว่าเป็นทีมที่เหนือกว่าเล็กน้อย และพวกเขาอาจจะทำได้ดีพอที่จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
สเปน 2-1 (AET) ฝรั่งเศส