“ดิ ลอเรนโซ่”เซ็ง“เลี่ยน”เกือบคัมแบ็คช็อกโลก

“ดิ ลอเรนโซ่”เซ็ง“เลี่ยน”เกือบคัมแบ็คช็อกโลก


โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ แบ็ควัย 31 ปีของอิตาลี ยอมรับว่าเสียดาย ที่พลาดไปโดน เยอรมนี ยิงครึ่งแรกถึง 3-0 และมาตามคืนครึ่งหลังเป็น 3-3 ไม่เพียงพอสำหรับผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก

 

"อัซซูรี่" แพ้มาในเลกแรก 2-1 และในเกมเลกสองพวกเขาถูกเยอรมนีนำห่างถึง 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกจากการเสียประตูง่าย ๆ แบบไม่น่าให้อภัย

 

แม้ว่าครึ่งหลัง มอยเซ่ คีน จะยิงสองประตูจุดประกายความหวัง และ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ ซัดจุดโทษในช่วงทดเจ็บช่วยให้ทีมไล่ตีเสมอ 3-3 แต่สุดท้ายก็ยังไม่พอให้พลิกสถานการณ์ อิตาลีต้องตกรอบด้วยสกอร์รวม 5-4

 

"เราเสียประตูแบบที่ระดับนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น" ดิ ลอเรนโซ่ กล่าวกับ RAI Sport

 

"เราต้องมานั่งวิเคราะห์กันว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะครึ่งแรกเหมือนเราไม่ได้อยู่ในสนามเลย"

 

"เราฮึดสู้กันช้าเกินไป คุณไม่สามารถรอให้ทุกอย่างพังหมดก่อนแล้วค่อยสู้ได้ เราต้องปรับแนวทางกันใหม่กับโค้ช ถ้าทีมมีทัศนคติที่ถูกต้อง เราก็สามารถทำได้ดีขึ้น"

 

ในช่วงที่เกมกำลังเข้มข้นสุด ๆ ขณะที่อิตาลีไล่มาเป็น 3-2 และเหลือเวลาอีก 17 นาที ผู้ตัดสิน ชิม่อน มาร์ซิเนียค เป่าจุดโทษให้อิตาลีจากจังหวะที่ นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค เข้าเสียบจากด้านหลังใส่ ดิ ลอเรนโซ่

 

อย่างไรก็ตามหลังจากไปดูจอมอนิเตอร์ด้วยตัวเอง มาร์ซิเนียค กลับเปลี่ยนคำตัดสิน และไม่ให้เป็นจุดโทษ เนื่องจากมองว่า ชล็อตเตอร์เบ็ค สัมผัสโดนบอลก่อนเล็กน้อย

 

การกลับคำตัดสินครั้งนี้เป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันอย่างหนัก เพราะจากภาพช้า บอลแทบไม่ได้เปลี่ยนทิศทางเลย ซึ่งทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า VAR สมควรเข้ามาแทรกแซงในจังหวะแบบนี้หรือไม่

 

"สำหรับผม มันเป็นจุดโทษชัดเจน เขาเข้ามาเสียบจากด้านหลัง ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเปลี่ยนคำตัดสิน" กัปตันทีมนาโปลีกล่าวเสริม

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง