เด้งฟ้าผ่า!นาโปลีสั่งปลด“อันเช”แม้พาทีมเข้ารอบน็อคเอาท์CL
สโมสรนาโปลี ประกาศปลด คาร์โล อันเชล็อตติ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมแบบไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัว หลังจากพึ่งพาทีมเปิดบ้านถล่ม ราซิ่ง เกงค์ 4-0 นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มทะยานเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกโดนปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของนาโปลี ยอดทีมแห่งเวทีกัลโช่ เซเรีย อา ทั้งๆ ที่พาทีมไล่ถล่มเกงค์ 4-0 ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา
อันเชล็อตติ ตกเป็นข่าวว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกของอาร์เซนอลที่ไล่อูไน เอเมรี่ ออกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ส่วนทางด้านเอฟเวอร์ตันก็กำลังมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่อยู่เช่นกันหลังจากไล่มาร์โก ซิลวา ออกไป ส่วนมานูเอล เปเยกรินี่ ก็กำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักที่เวสต์แฮม
ในช่วงที่ยังคุมทีมอยู่ในอังกฤษ อันเชล็อตติสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก และ เอฟเอ คัพ 2 สมัยกับเชลซีเมื่อปี 2010 ก่อนที่จะโดนปลดฟ้าผ่าโดยโรมัน อบราโมวิชเมื่อปี 2011
"นาโปลี ตัดสินใจที่จะถอดถอนบทบาทของการเป็นผู้จัดการทีมฝ่ายเทคนิกของทีมชุดแรกจากมิสเตอร์คาร์โล อันเชล็อตติ" นาโปลีออกแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของสโมสร "มิตรภาพ, ความนับถือ และความเคารพซึ่งกันระหว่างบริษัท, ประธานสโมสร ออเรลิโอ เด ลอเรนติส กับคาร์โล อันเชล็อตติ ยังคงเหมือนเดิม"
นาโปลีจบที่อันดับ 2 ในเซเรีย อา เมื่อปี 2016 และ 2018 ภายใต้การคุมทีมของเมาริซิโอ ซาร์รี่ ส่วนปี 2017 นั้นจบที่อันดับ 3 อันเชล็อตติ สามารถพาพวกเขาขึ้นสู่อันดับ 2 อีกครั้งในปี 2019 ตามหลังยูเวนตุส ของแม็กซ์ อัลเลกรี นั่นเอง
หลังจากการแต่งตั้งอันโตนิโอ คอนเต้ เป็นกุนซืออินเตอร์ มิลาน เมื่อช่วงซัมเมอร์ ก็มีสโมสรที่แตกต่างเข้ามาท้าทายตำแหน่งแชมป์ในช่วงในที่การเริ่มต้นปี 2020 ใกล้เข้ามา โดยลาซิโอ, กายารี่, โรม่า และอตาลันต้า ล้วนต่างมีอันดับที่สูงกว่านาโปลีที่ตอนนี้เล่นไปแล้ว 15 เกม และในตอนที่ไล่โค้ชดังกล่าวนั้น อันเชล็อตติมีแต้มตามหลังอันดับ 6 ถึง 7 แต้ม ซึ่งถ้านาโปลีจบแคมเปญด้วยอันดับนี้ พวกเขาก็จะไม่ได้เล่นยูโรป้า ลีก
ไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนที่จะสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มากเท่าอันเชล็อตติ โดยเขาสามารถพามิลานคว้าแชมป์ถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรปได้ 2 ครั้งจากนั้นก็พาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 10 ของพวกเขาในปี 2014 โดยเอาชนะแอตเลติโก้ มาดริด ในรอบชิงฯ และอาจจะได้ถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก เพิ่มเติมหากไม่แพ้ลิเวอร์พูลในรอบชิงฯ แบบสุดช็อคเมื่อปี 2005 ในค่ำคืนแห่งปาฏิหาริย์ที่อิสตันบุลอันลือลั่นนั่นเอง