สมบูรณ์แบบ!สดุดี"หงส์แดง"ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกประวัติศาสตร์
หากจะกล่าวถึงการคว้าแชมป์ของขุนพลลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้นิยามได้ว่าสมบูรณ์แบบถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรในรอบ30ปี
แม้สกู๊ป/คอลัมน์ นี้ผู้เขียนจะเป็นแฟน"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ได้ติดตามทีม"หงส์แดง"พอสมควรจนถึงเวลาที่พวกเขาการันตีแชมป์ยามรุ่งวันที่26มิถุนายน
ซึ่งจะขอสดุดีทีมลิเวอร์พูลทีมชุดนี้ถือเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบแม้จะมีบางอย่างที่ต้องปรับเปลี่ยนอยู่บ้าง แต่ก็โดนกลบจุดนี้ไปเสียหมดและน่าจะมีการพัฒนาทีมต่อไป
ที่ขอชื่นชมคงเป็นเอกฉันท์คือ "เยอร์เก้น คล็อปป์"เทรนเนอร์หรือเฮ้ดโค้ชชาวเยอรมัน ที่เข้ามาคุมทีม"หงส์แดง"เป็นเวลา4ปีครึ่ง เขาเป็นทั้งผู้ฝึกสอนผู้สร้างระบบอะไรใหม่ให้กับทีมจนเริ่มมีความสำเร็จในระยะหลังเริ่มตั้งแต่ เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยยุโรป"ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก"2สมัยคว้าแชมป์1สมัย
จนในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล2019/20 จะพาทีมเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งเกมรุกและเกมรับ หลังจากความผิดหวังคว้ารองแชมป์มาเมื่อปีที่แล้วแม้คว้าไปถึง97คะแนน จึงทำให้เป็นแรงผลักดันมหาศาลให้พวกเขามุุ่่งมั่นที่จะไปสู่บรรลังก์สูงสุดให้ได้และสุดท้ายก็สำเร็จ
ส่วนหนึ่งที่อดีตกุนซือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โชคดีคือเขามีเจ้าของทีมที่เข้าใจการบริหารสโมสรการสนับสนุนและซื้อตัวผู้เล่นเข้ามาเสริมได้ถูกใจ โดยเฉพาะปีล่าสุดนักเตะที่เข้ามาช่วยทีมได้เยอะอย่าง อลิสซอน,ฟาน ไดค์,ฟาบินโญ่ และเป็นลิสต์ที่กุนซือจอมแอคชั่นรายนี้ต้องการ
นอกจากนี้ นักเตะที่เป็นกำลังหลักของทีมแทบจะไม่มีอาการบาดเจ็บหรือติดโทษแบนและโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอ เช่น อลิสซอน เบคเกอร์ ผู้รักษาประตู แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่ก็มีอาเดรียนที่พร้อมทดแทน แผงหลัง เวอร์จิล ฟานไดค์ เป็นผู้นำที่ลงเล่นแทบทุกนัดสามารถแบกเกมรับของทีมและยังขึ้นไปทำประตูบ่อยครั้ง และทำงานร่วมกับโจ โกเมซ,โจเอล มาติป,เดยัน ลอฟเรน
แม้รายหลังจะฟอร์มตกและมีข่าวกำลังจะย้ายทีม ขณะที่แบ็คซ้ายแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มีซีซั่นที่ยอดเยี่ยมเจ้าตัวเล่นด้วยความมุ่งมั่นทั้งการเติมเกมรุกและช่วยเกมรับ แบ็คขวา เทรนท์ อเล็ก-ซานเดอร์ อาโนห์ ที่้เล่นได้โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆของทีมทั้งการขึ้นเกมบุกและเตะลูกตั้งเตะต่างๆที่เป็นทีเเด็ดแม้ยังต้องพัฒนาเรื่องเกมรับอยู่บ้าง
ในแผงหลังหากใครมีอาการบาดเจ็บหรือติดโทษแบนนักเตะที่ลงมาเล่นอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ ก็ทำผลงานได้ดีพอสมควร แต่ขุมกำลังแผงหลังมีไม่มากอาจมีการเสริมทัพต่อไป ขยับมาที่แดนกลาง ทีมมีนักเตะฝีเท้าดีผลัดกันลงเล่น นำโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม,จีนี่ ไวจ์นัลดุม,ฟาบินโญ่,นาบี เกอิต้า,เจมส์ มิลเนอร์ และทุกคนมีทีเด็ดแตกต่างกันไปทั้งการวางบอล,การยิงไกลการควบคุมเกมฯลฯ
ส่วนเกมรุก3ประสานแดนหน้าที่ครบเครื่องยิงเกือบ50ประตู อย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์,ซาดิโอ มาเน่,โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ตัวสำรอง ศักยภาพอาจจะห่างหน่อยอย่าง เซอร์ดาน ชาคิรี่ ที่มีอาการบาดเจ็บและไม่ค่อยมีโอกาสลงเล่น ทาคูมิ มินามิโนะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุุ่น ที่ย้ายมาร่วมทีมเดือนมกราคม ที่ยังต้องปรับตัวกับทีมพอสมควร ขณะที่2แข้งที่ลงมาทำประตูบ่อยครั้งอย่าง ดิว็อค โอริกี้,อเล็กซ์ อ็อกเหล็ก-แชมเบอร์เลน ก็พึ่งพาได้ยามที่ต้องปรับแผนการเล่น
ปิดท้ายที่นักเตะดาวรุ่งที่ลงมาเล่นบางนัดเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะลงเล่นในฟุตบอลถ้วยอย่างคาราบาวคัพหรือเอฟเอคัพ ไม่ว่าจะเป็น ฮาวี่ เอเลียต,เคอร์ติส โจนส์ฯลฯ ถือว่าขุมกำลังลิเวอร์พูลมีพอสมควรแม้อาจจะไม่ใหญ่แบบทีมอื่น
แต่กุนซืออย่างเยอร์เก้่น คล็อปป์ สามารถสร้างรูปแบบการเล่นอย่างเร้าใจทั้งเกมรุกอันดุดันและเกมรับอย่างมีวินัยรักษาความสม่ำเสมอมีทีมเวิร์คอันทรงพลัง จนสามารถเข้าป้ายคว้าแชมป์ได้อย่างไร้ข้อกังขาเนื่องจากนำอันดับ2แมนฯซิตี้ 23 คะแนน และยังเหลืออี่ก7เกมสุดท้าย แม้จะอกหักตกรอบศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกไปแล้ว แต่แฟน"เดอะค็อป"มองว่านี่คือแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และรอคอยมานาน
สุดท้ายที่ลืมไม่ได้เลยคือเสียงเชียร์จากแฟนบอล"เดอะค็อป"ทั่วโลกทั้งในสนามแอนฟิลด์ที่ทำให้พวกเขาต่อสู้เต็มที่ทุกสถานการณ์และนอกสนาม แม้ก่อนหน้านี้มีความกังวลของโควิด-19 ที่อาจทำให้ยกเลิกการแข่งขันหรือไม่ แต่สุดท้ายไม่สามารถต้านทานได้
แน่นอนว่าต่อจากนี้ต้องติดตามว่าทีมลิเวอร์พูลชุดนี้จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้อีกหรือไม่ หรือทีมอื่นจะเป็นผู้ท้าชิงทวงบัลลังก์บ้างต้องติดตาม ในนามแฟนบอลคู่อริต้องบอกว่า"สนุกแน่"