ครองบอลเยอะแต่ไร้ประสิทธิภาพ! จุดอ่อนใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด
จริงอยู่ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ คือทีมที่ไม่สามารถประมาทได้จากการที่พวกเขาเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของตุรกีเมื่อฤดูกาลก่อน รวมถึงยังมีนักเตะที่เคยทำผลงานได้โดดเด่นกับใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลายราย อย่างเช่น เดมบ้า บา, มาร์ติน สเคอร์เทล และ ราฟาเอล ดา ซิลวา แต่หลายคนก็ยังคิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรจะเป็นฝ่ายชนะในการเจอกันเมื่อวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพราะพวกเขามีชื่อชั้นเหนือกว่า และ 2 เกมก่อนหน้านี้ บาซัคเซเฮียร์ ก็แพ้มาทั้งหมด ต่างกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เก็บมาได้ทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ แอร์เบ ไลป์ซิก
น่าเศร้าที่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดท่าแพ้ทีมจากตุรกี 1-2 ซึ่งจุดใหญ่ที่หลายคนให้ความสนใจจากเกมนัดนี้คือจังหวะเสียประตูแรกที่ผู้เล่น "ปีศาจแดง" เล่นดันขึ้นสูงกันหมดทีม (ยกเว้น ดีน เฮนเดอร์สัน ซึ่งเป็นผู้รักษาประตู) ในตอนที่ได้ลูกเตะมุม ทำให้พอโดนสวนกลับเร็วแล้วก็ไม่มีใครหยุด บา เอาไว้ได้ ก่อนที่ บา จะยิงเข้าไปในนาทีที่ 12
อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ขาดหายไปคือจิตนาการในการเล่น เพราะในบรรดา 4 เกมจากทุกรายการที่พวกเขาแพ้ในฤดูกาลนี้นั้น นี่ถือเป็นนัดที่ 3 ที่พวกเขามีเปอร์เซ็นต์ครองบอลเยอะกว่าคู่แข่ง แต่กลับไม่สามารถใช้สิ่งนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ โดยเกมเดียวที่พวกเขาแพ้ในสภาพที่มีเปอร์เซ็นต์ครองบอลน้อยกว่าคือนัดแพ้ สเปอร์ส 1-6
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่มองว่ามันเป็นความผิดของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ที่ไม่มีแผนสำรอง หรือไม่มีแนวทางการเล่นเกมรุกแบบอื่น ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องเปอร์เซ็นต์การครองบอลใน 3 นัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ทั้งที่ได้ครองบอลมากกว่าคู่แข่งกัน
- นัดเจอ คริสตัล พาเลซ : แพ้ 1-3
นัดแรกของฤดูกาล 2020-21 ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น เกิดขึ้นจากการที่พวกเขาได้ครองบอลสูงถึง 75.8 เปอร์เซ็นต์ ตรงกันข้ามกับ พาเลซ ที่พอจบเกมแล้วได้ครองบอลไปเพียง 24.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
- ข่าวฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นลีก
- ข่าวบอลต่างประเทศ ข่าวบอลนอก ข่าวบอลยูฟ่า ข่าวบอลล่าสุด ข่าวบอลสด ข่าวบอลอังกฤษ ข่าวบอลอื่น ข่าวแมนยู
- 805
- 05 พ.ย. 2563 15:08